All Blog
เตรียมจัดกิจกรรมวันดื่มนมโลกกระตุ้นคนไทยบริโภคมากขึ้น
กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมปศุสัตว์ เตรียมจัดกิจกรรมวันดื่มนมโลก ประจำปี 2563 หวังกระตุ้นให้คนไทยบริโภคนมมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ มีกิจกรรม Learn,Challenge,Share และ Shopตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมของรัฐบาล

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธนิทรรศการ "วันดื่มนมโลก (World Milk Day) ประจำปี 2563" นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก” หรือ “World Milk Day” เพื่อให้ประเทศและองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญและร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคนม



 



 
โดยในปี 2020 ได้กำหนดแคมเปญไว้ว่า #EnjoyDairy ดังนั้นกิจกรรมวันดื่มนมโลก ประจำปี 2563 จึงกำหนดคำขวัญไว้ว่า “สร้างความสุข เสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มนมทุกวัน ดื่มได้ทุกวัย บริโภคนมได้หลากหลายเมนู” และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ทำให้ต้องคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์วันดื่มนมโลก ประจำปี 2563 ผ่านระบบออนไลน์ขึ้น

นายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันดื่มนมโลกปีนี้ กรมปศุสัตว์มีการกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด 4 กิจกรรม ได้แก่

- Learn เป็นเรียนรู้การทำเมนูต่างๆ จากผลิตภัณฑ์นม เป็นหลักสูตรที่สอนผ่านระบบออนไลน์ โดยได้รับเกียรติจากผู้มีประสบการณ์การทำผลิตภัณฑ์ประเภทนมจากหลายสาขา ร่วมเป็นผู้สาธิตการทำเมนูต่างๆ จากนมโคของเกษตรกรไทย ระหว่างวันที่ 4 – 29 พฤษภาคม 2563 หากท่านที่สนใจสามารถเข้าไปรับชมได้ที่เว็บไซต์ product.dld.go.th หรือ แฮชแท๊ก #LearnWorldMilkDayThailand



 



 
- Challenge เป็นการโพสต์คลิปวิดีโอลง Facebook ของตนเองโดยเปิดเป็นสาธารณะ พร้อมท้าเพื่อนๆ ให้ทำตาม 5 คน ตามคอนเซปต์ “การบริโภคนมโคแท้ 100% ที่สร้างสรรค์แปลกใหม่ในแบบของคุณ” วิดีโอที่บันทึกจะต้องมีความยาวไม่เกิน 1 นาที โดยต้องติดแฮชแท๊ก #ChallengeWorldMilkdayThailand โดยผู้ที่ต้องการร่วมกิจกรรมสามารถโพสต์ภาพถ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 คลิปวิดีโอที่ถูกใจกรรมการ 10 คลิป จะได้รับนมบริโภคฟรี 1 เดือน

- Share กิจกรรมแชร์ภาพถ่ายของตนเองขณะดื่มนมโคแท้ 100% หรือถ่ายรูปคู่ผลิตภัณฑ์นมต่างๆ พร้อมทั้งคิดแคปชั่นโดนใจ โพสต์ผ่าน Facebook ของตนเองและติดแฮชแท๊ก #ShareWorldMilkDayThailand โดยผู้ที่ต้องการร่วมกิจกรรมสามารถโพสต์ภาพถ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ภาพถ่ายที่มียอดกดแชร์ กดถูกใจและกดแสดงความรู้สึกรวมกันมากที่สุด จำนวน 10 รางวัล จะได้รับนมบริโภคฟรี 1 เดือน



 



 
- Shop กิจกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นมในราคาพิเศษ แบ่งการจำหน่ายเป็นสองประเภท ผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ และจำหน่ายผ่านระบบออฟไลน์ จากร้านค้าสวัสดิการกรมปศุสัตว์ และห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กิจกรรม Challenge และ Share จะมีการประกาศผลผู้ชนะ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมและสอบถามรายเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กองผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ พญาไท โทร.02-6534444 ต่อ 3377 และขอเชิญชวนทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ทุกครอบครัว ร่วมกันบริโภคผลิตภัณฑ์นม พร้อมแชร์ภาพผ่านสื่อออนไลน์ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นวันดื่มนมโลก World Milk Day พร้อมติด #WorldMilkDay  #EnjoyDairy  #WorldMilkDayThailand





 


 





 


 



Create Date : 26 พฤษภาคม 2563
Last Update : 26 พฤษภาคม 2563 15:50:05 น.
Counter : 687 Pageviews.

0 comment
กยท.อัพเดทตรวจสอบสิทธิ์เงินไม่เข้าให้อุทธรณ์
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ เผยความคืบหน้าโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนยาง 15,000 บาท ว่า ปัจจุบันทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางของ กยท. มีจำนวนกว่า 1.8 ล้านราย

กยท. ได้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เพื่อรวบรวมส่ง กระทรวงการคลัง พิจารณาตรวจสอบสิทธิ์ โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางได้รับเงินเยียวยาไปแล้วบางส่วน ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับทั้ง กยท. และกรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) ในส่วนของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. หน่วยเดียว



 



 
ข้อมูลล่าสุดได้รับแจ้งว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเปิดระบบให้ตรวจสอบสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม เป็นต้นไป และ ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม นี้ จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนยางอย่าตื่นตระหนก หากในช่วงนี้ตรวจสอบทางระบบไม่พบชื่อตนเอง


 



 
อย่างไรก็ตาม หากสิ้นเดือนพฤษภาคมแล้วเกษตรกรชาวสวนยางยังไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยา สามารถแจ้งอุทธรณ์กับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนในส่วนกลางหรือภูมิภาคใกล้บ้านทั้ง 6 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กยท. จังหวัด/สาขา  2. เกษตรจังหวัด/อำเภอ  3. ประมงจังหวัด/อำเภอ  4. ปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอ  5. ศูนย์หม่อนไหมภูมิภาค

6. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในเวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) หรือที่ ศูนย์บริการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด โรค Covid – 19 ของ กยท. โทร. 0-2435-3469, 0-2433-5772 ในเวลา 08.30 - 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ได้ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2563





 




 



Create Date : 26 พฤษภาคม 2563
Last Update : 26 พฤษภาคม 2563 15:09:35 น.
Counter : 1017 Pageviews.

1 comment
กยท.ปล่อยกู้ปลอดดอกหนุนกลุ่มหมอนยางสู้ COVID-19
นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019  (COVID-19) ส่งผลให้ภาคการผลิต การตลาด และการส่งออกหยุดชะงักไป



 




 
รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตหมอนยางพารา ซึ่งได้รับผลกระทบเนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญชะลอการท่องเที่ยวในประเทศไทยและการสั่งซื้อหมอนยางพารา จึงจัดทำโครงการพัฒนาความร่วมมือการผลิตและการตลาดอุตสาหกรรมยางพารา (สินเชื่อฝากหมอนยางพารา) ให้กับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตหมอนยางพาราที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.

เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ขยายกำลังการผลิต และส่งเสริมสนับสนุนให้มีการใช้ยางภายในประเทศ โดยการแปรรูปยางเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมถึงเพิ่มช่องทางจำหน่ายยางให้มากขึ้น ซึ่ง กยท. จะปล่อยสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย ให้กับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางหรือวิสาหกิจชุมชน ที่ได้รับการอนุมัติวงเงินตามปริมาณสต๊อกหมอนยางที่มี





 



 
โดยใช้เกณฑ์คุณภาพหมอนยางพารามาทำการประเมินราคากำหนดวงเงินสินเชื่อแบ่งเป็นเกรด A วงเงินสูงสุด 80%เกรด B วงเงินสูงสุด 70% และ เกรด C วงเงินสูงสุด 50% ของมูลค่าหมอนยางตามที่ กยท.กำหนด ซึ่งจะมีคณะกรรมการเข้าตรวจสอบสินค้าตามเกณฑ์การประเมินของโครงการ

ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีสต๊อกหมอนยางพาราเป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการประเมินสินเชื่อ และค้ำประกัน อีกทั้งต้องมีสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ และเมื่อผู้เข้าร่วมโครงการจำหน่ายหมอนยางพาราได้





 




 
หรือมีความพร้อมในการคืนเงิน สามารถชำระเงินคืนให้กับ กยท. ได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2563 ภายใต้งบประมาณตลอดโครงการ 11,312,000 บาท

สำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางหรือวิสาหกิจชุมชนใดที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ณ สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยสาขาใกล้บ้านท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-433-2222 ต่อ 206,245





 

 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2563
Last Update : 22 พฤษภาคม 2563 17:55:42 น.
Counter : 725 Pageviews.

0 comment
เกษตรฯยืนยันทุกขั้นตอนเยียวยาเกษตรกรโปร่งใส
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีกรอบเยียวยาไม่เกิน 10 ล้านราย รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน

ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม 2563 จ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบเกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือตามโครงการฯ ให้มีความถูกต้องครบถ้วน

รวมถึงต้องไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการ และผู้ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญของกรมบัญชีกลาง


ระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้ความช่วยเหลือภายใต้มาตราการต่าง ๆ ของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของการลงทะเบียนรับการช่วยเหลือเยียวยานั้น มีเกษตรกรกลุ่มแรกที่ขึ้นทะเบียนจำนวน 8.33 ล้านราย

ภายหลังจากการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับทะเบียนฐานประกันสังคม โครงการเราไม่ทิ้งกัน และทะเบียนข้าราชการบำนาญ ทำให้คงเหลือเกษตรกรที่มีคุณสมบัติได้รับเงินเยียวยา จำนวน 7.77 ล้านราย

การจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งที่ 1 ธ.ก.ส. ได้โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกร ระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 3.22 ล้านราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,114.76 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนเงินจนครบจำนวนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย


นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการรับขึ้นทะเบียนตามที่หน่วยงานกำหนด และนำมาคัดกรองความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยให้แก่ประชาชน



 




 
ตรวจสอบกับผู้ที่ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญ และระบบประกันสังคม และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 กระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลเกษตรกรครั้งที่ 2 ให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน 3.43 ล้านราย เพื่อดำเนินการจ่ายเงิน โดยคาดว่า ธ.ก.ส. จะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในระหว่างวันที่ 22 – 29 พฤษภาคม นี้

สำหรับในครั้งที่ 3 กระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลเกษตรกร จำนวน 0.70 ล้านราย ให้กระทรวงการคลังเพื่อให้ คัดกรองและตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยให้แก่ประชาชน


ตรวจสอบกับผู้ที่ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญ และระบบประกันสังคม และยังมีเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมจำนวนประมาณ 1.6 ล้านราย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้รวบรวมและส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลัง ต่อไป

ในส่วนของเกษตรกรที่อยู่ระหว่างปรับปรุงและตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง จึงยังไม่สามารถเริ่มต้นการเพาะปลูกในฤดูการผลิต 2563/2564 ได้ ซึ่งได้กำหนดสิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวม ตรวจสอบ และจะส่งให้กระทรวงการคลังตรวจสอบและคัดกรอง เพื่อจะได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน

ดยจะขออนุมัติเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเพียงงวดเดียว รายละ 15,000 บาท ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2563 คาดว่าจะมีเกษตรกรรายใหม่ จำนวนประมาณ 120,000 ราย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะตรวจแปลงดำเนินการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2563


สำหรับในส่วนของข้าราชการที่อยู่ในทะเบียนเกษตรกรด้วย กระทรวงเกษตรฯ ได้หารือกับคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนว่า ข้าราชการไม่ควรได้รับการเยียวยาในส่วนนี้ โดยจะต้องมีการซักซ้อมทำความเข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติ และความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทุกท่านเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทันตามกำหนดเวลา ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่ซ้ำซ้อนเพราะเป็นโครงการที่ใช้เงินกู้ จึงต้องดำเนินการอย่างถูกต้อง ครบถ้วนที่สุด และเป็นไปตามมติ ครม.อย่างเคร่งครัดต่อไป





 



 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2563
Last Update : 22 พฤษภาคม 2563 17:43:41 น.
Counter : 585 Pageviews.

0 comment
ชู 2 ปุ๋ยชีวภาพสลายฟอสฟอรัสเพิ่มปริมาณ-คุณภาพผลผลิต-ต้านโรค
นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ปุ๋ยชีวภาพเป็นปุ๋ยที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์มีชีวิตที่สามารถสร้างและให้ธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์กับพืช   ปุ๋ยชีวภาพจึงเป็นปุ๋ยทางเลือกหนึ่งในการนำมาใช้ช่วยทดแทนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมี กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร  กรมวิชาการเกษตร  

ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทางการเกษตรได้ค้นพบไมโคไรซาซึ่งเป็นเชื้อราในดินกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณรากพืชและเจริญเข้าไปในรากอยู่ร่วมกับรากพืชในรูปแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน  

พืชจะให้อาหารประเภทน้ำตาลที่ได้จากการสังเคราะห์แสงแก่ไมโคไรซ่า  ซึ่งเซลล์ของรากพืชและเชื้อราไมโคไรซ่าจะสามารถถ่ายทอดอาหารซึ่งกันและกันได้ เส้นใยของราไมโคไรซ่าที่เจริญห่อหุ้มรากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวรากพืชให้สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตในดินส่งต่อให้พืชโดยเฉพาะธาตุอาหารที่สลายตัวยากหรืออยู่ในรูปที่ถูกตรึงไว้ในดินส่งต่อให้กับพืชโดยเฉพาะธาตุฟอสฟอรัสที่มักถูกตรึงไว้ในดิน   



 



 
จากคุณสมบัติของเชื้อราไมโคไรซ่าดังกล่าวกรมวิชาการเกษตรจึงได้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพเพื่อส่งต่อให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพและผลผลิตพืชเจริญเติบโตและทนแล้งได้ดี

รวมทั้งยังทนทานต่อโรครากเน่าหรือโคนเน่าที่มีสาเหตุมาจากเชื้อรา เนื่องจากราไมโคไรซ่าที่เข้าไปอาศัยอยู่ในรากพืชจะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อราที่เป็นสาเหตุโรครากเน่าเข้าสู่รากพืชได้และยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ครึ่งหนึ่งของอัตราการใช้ปุ๋ยปกติ

แม้ปุ๋ยชีวภาพไมโคไรซ่าจะมีคุณสมบัติที่ช่วยดูดธาตุอาหารที่สลายตัวได้ยากหรือถูกตรึงอยู่ในดินส่งต่อให้พืชได้นำไปใช้ประโยชน์แล้วก็ตาม   แต่ถ้าหากใช้ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต  ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยละลายธาตุฟอสฟอรัสที่ถูกตรึงอยู่ในดินร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพืชมากขึ้น  



 



 
เนื่องจากจุลินทรีย์กลุ่มนี้มีประโยชน์ในการละลายฟอสเฟตออกมาใช้งานเช่นกัน  ใส่ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตให้บางชุดดินที่วิเคราะห์แล้วพบว่ามีปริมาณฟอสฟอรัสในดินสูง  ซึ่งจุลินทรีย์ที่ใส่เติมลงไปจะไปละลายฟอสฟอรัสที่ถูกยึดตรึงอยู่ในดินออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชอีกครั้งและยังมีคุณสมบัติพิเศษสามารถสังเคราะห์สารช่วยในการเจริญเติบโตของพืช  ช่วยให้พืชได้ธาตุอาหารฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้นส่งเสริมต่อการเจริญเติบโตของพืช

ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารหลักของพืช ในดินที่ใช้ทำการเกษตรส่วนใหญ่จะมีฟอสฟอรัสสำรองอยู่ในดินปริมาณมากอยู่แล้ว เกิดจากการที่เกษตรกรใส่ปุ๋ยเคมีให้กับพืชระหว่างการเพาะปลูกแต่พืชสามารถดูดไปใช้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น  

ส่วนใหญ่จะเหลือตกค้างอยู่ในดินโดยถูกดินยึดตรึงเอาไว้ จึงทำให้เกิดการสะสมของฟอสฟอรัสในดิน  แต่ฟอสฟอรัสในดินส่วนใหญ่ประมาณ 95-99 เปอร์เซ็นต์อยู่ในรูปที่ไม่ละลายพืชจึงนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ การขาดฟอสฟอรัสในดินจึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

ปุ๋ยชีวภาพไมโคไรซาเป็นเชื้อราในดินที่จะเข้าไปอยู่ในรากของต้นไม้ เป็นกลุ่มที่ให้ธาตุอาหารฟอสฟอรัส  มีความสำคัญต่อการแตกราก  ช่วยเพิ่มปริมาณรากให้กับต้นไม้ได้ดี  ถ้าขาดฟอสฟอรัสต้นไม้จะแคระแกร็น  



 



 
ส่งผลต่อการติดดอกออกผล ส่วนปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตมีจุลินทรีย์ที่สามารถละลายฟอสเฟตที่มีอยู่ในดินบางรูปที่พืชใช้ไม่ได้ให้ละลายออกมาเป็นประโยชน์แก่พืช  ช่วยให้พืชได้ธาตุอาหารฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้น  ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตจะทำงานอยู่นอกรากพืช  

ในขณะที่ปุ๋ยชีวภาพไมโคไรซ่าจะทำงานอยู่ในรากพืช  ดังนั้นหากใช้ร่วมกันจะช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารฟอสฟอรัสซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนการผลิตเพราะสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง

การใส่ปุ๋ยชีวภาพเพียงครั้งเดียวสามารถทำงานอยู่ได้จนตลอดชีวิตของพืช  เกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  กลุ่มงานวิจัยจุลินทรีย์ดิน  กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร  0-2579-7522-3





 




 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2563
Last Update : 22 พฤษภาคม 2563 17:32:13 น.
Counter : 755 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments