happy memories
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๖๘





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










คารวะ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี
TRIBUTE TO THAWAN DUCHANEE


ขัวศิลปะ เชียงราย ขอเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดนิทรรศการขัวศิลปะครั้งที่ ๓ “คารวะ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี” ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. ณ ขัวศิลปะ ArtBridge ChiangRai (ABCR)นิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการประจำปีของกองทุนศิลปินเชียงราย (ขัวศิลปะ) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ ในชื่องานว่า “คารวะ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี” เพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ, ศิลปินชาวจังหวัดเชียงราย ที่ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที ๓ กันยายน ๒๕๕๗


ศิลปินที่เข้าร่วมแสดงผลงาน จำนวนกว่า ๒๕o คน มีงานหลากหลายเทคนิคทั้งงานจิตรกรรม ภาพถ่าย เครื่องปั้นดินเผา งานแกะสลัก เซรามิค ของศิลปินรุ่นเยาว์ รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ต่างมาแสดงพลังความศรัทธา อาลัย แก่อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี


นิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๓o เมษายน ๒๕๕๘ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๑o.oo -๑๙.oo น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร o๘๘-๔๑๘-๕๔๓๑ //www.facebook.com/artbridgechiangrai, artbridgechiangrai.cr@gmail.com
o๘๘


ขัวศิลปะเป็นองค์กรทางสังคมที่ก่อตั้งขึ้นโดยศิลปินชาวจังหวัดเชียงราย และคณะผู้สนับสนุนกองทุนศิลปินเชียงราย เพื่อจะเป็นดั่งสะพานที่เชื่อมศิลปะสู่สังคม เผยแพร่ผลงานศิลปะและสนับสนุนส่งเสริม การสร้างสรรค์งานศิลปะของศิลปินไทย ขัวศิลปะมีห้องแสดงผลงานศิลปะ แบบหมุนเวียนของศิลปินเชียงราย และ ศิลปินไทย รวมถึงศิลปินในระดับนานาชาติ


ขัวศิลปะ ArtBridgeChiangRai (ABCR)
หอศิลป์ ร้านขายของที่ระลึก: เวลา ๑o.oo .- ๑๙.oo น.
ร้านกาแฟ ร้านอาหารครัวศิลปิน : เวลา ๘.oo – ๒๒.oo น.
ที่อยู่ : ๕๕๑ หมู่ ๑ ถ.พหลโยธิน ต.บ้านดู่ อ. เมือง จ. เชียงราย ๕๗๑oo (ก่อนถึงแยกสนามบิน แม่ฟ้าหลวง ติดกับวัดขัวแคร่ )
โทรศัพท์ : o๕๓-๑๖๖-๖๒๓, o๘๘-๔๑๘-๕๔๓๑
Fax : 053-166 624
551 Moo 1 Phahoyothin Road., Bandu, Chiangrai 571000
e-mail: artbridge.cr@gmail.com ,www.facebook.com/artbridgechiangrai ,www.artbridgechiangrai.org/



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














กลุ่มสายน้ำกก ๒


ด้วย 9 Art Gallery / Architect Studio ได้เปิดตัวดำเนินการเผยแพร่ผลงานศิลปะต่อเนื่องมาแต่ปี ๒๕๔๔ ด้วยจุดประสงค์ที่จะเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนทัศนะทางศิลปะระหว่างชุมชนกับเมืองอื่น ๆ ระหว่างกรุงเทพฯ, เชียงใหม่ รวมถึงระดับนานาชาติ ด้วยศรัทธาในศิลปะเพื่อผลแห่งการพัฒนาวงการศิลปกรรมไปในทิศทางที่เหมาะสมตามกระแสปัจจุบัน


นิทรรศการศิลปกรรม “ กลุ่ม สายน้ำกก ๒” ของ สรพงษ์ ทวีสมบัติ , ชัยวิชิต สิทธิวงค์, กำพล มะโนใจ, สมบูรณ์ สูงขาว, ชาตรี ศรีพรม, นัดทวี ยี่หล้า, ระวี มะโนเรือง และ พิสันห์ คำวัง เป็นนิทรรศการครั้งที่ ๑๑๔ ที่จะจัดแสดงขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ – ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดงานนิทรรศการ ในวันพฤหัสบดี ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.oo น.โดย คุณเกรียงไกร วีระฤทธิพันธ์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดนิทรรศการในครั้งนี้ ณ 9 Art Gallery / Architect Studio จ.เชียงราย


นิทรรศการ : ศิลปกรรมกลุ่มสายน้ำกก ๒ “๕๗”
ศิลปิน : (กลุ่มสายน้ำกก) มีสมาชิกกลุ่ม ๘ คน สรพงษ์ ทวีสมบัติ ,ชัยวิชิต สิทธิวงค์ , กำพล มะโนใจ, สมบูรณ์ สูงขาว, ชาตรี ศรีพรม , นัดทวี ยี่หล้า , ระวี มะโนเรือง , พิสันห์ คำวัง
วันที่ : ๒๗ พฤษจิกายน – ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : 9 Art Gallery / Architect Studio จ.เชียงราย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๕๓-๗๑๙-๑๑o
อีเมล : artgallery9@hotmail.com , artgallerynine@gmail.com
เว็บไซต์ : //www.9artgallery.com











ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














PURSUIT


นิทรรศการวิทยานิพนธ์ “PURSUIT" ผลงานโดยนักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาประยุกตศิลปศึกษา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๓ - ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.oo-๑๘.oo น. ณ หอศิลป์มูนซีกเกอร์ : Moon Seeker Gallery


นิทรรศการ “ PURSUIT " โครงการนิทรรศการการแสดงผลงานวิทยานิพนธ์ระดับศิลปมหาบัณฑิต โดยนักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาประยุกตศิลปศึกษา คณะมัณฑนศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร

จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๓ – ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗
และจะมีพิธีเปิดในวันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.oo น.
ณ Moon seeker gallery (หอศิลป์มูนซีกเกอร์) (ซอยทองหล่อ ๒o หรือ เอกมัย ๒๑)


วัตถุประสงค์ของโครงการ
๑. เพื่อเผยแพร่ วิทยานิพนธ์ให้กับนักเรียนนักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจงานศิลปะ
๒. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ การสร้างสรรค์ผลงาน และเทคนิควิธีการต่าง ๆ ผ่านรูปแบบผลงานหลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นประโยชน์ และเกิดแรงบันดาลใจ แก่ผู้ที่สนใจในงานศิลปะ
๓. เป็นส่วนหนึ่งของสนับสนุนการทำงานด้านศิลปะอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน


ที่ปรึกษาโครงการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิทักษ์ สง่า
ที่ปรึกษาด้านสถานที่
คุณก้องเกียรติ จงสถิตย์วัฒนา


ศิลปิน
นายวิษณุ เรืองมาสวรรณ (จิตรกรรมไทยร่วมสมัย "Thai Contemporary Painting")
นางสาวอัจจิพร มัชฌิกะ (Textile Art)
นางสาวณัฐชา โพธิ์อุดม (Textile Art)
นายฐิติพล เกตุเอี่ยม (Acrylic on Woods)
นายนคร พันธุ์ไม้สี (Acrylic on canvas)
นางสาวเกศินี รักนุกูล (Mixed Media)


สถานที่
หอศิลป์มูนซีกเกอร์ (ซอยทองหล่อ ๒o หรือ เอกมัย ๒๑)
เปิดให้เข้าทุกวัน ๑o.oo-๑๙.oo น. 16/5 Soi
Thong Lor 20, Sukhumvit 55 Bangkok, Thailand 10110 |
//moonseekergallery.com
https://www.facebook.com/moonseekergallery
สอบถามเพิ่มเติม Moon Seeker Gallery : 081 344 3110



ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com














HONEY MIXED RICE


หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยินดีนำเสนอนิทรรศการ “น้ำผึ้งคลุกข้าว” (HONEY MIXED RICE) ผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และ Performance โดย สุรพล ปัญญาวชิระ ด้วยแนวความคิดและแรงบันดาลใจมาจากสองเรื่องคือ ข้าวและน้ำมัน-ข้าว อยู่บน Concept ของคำว่า “คนกินข้าว-ข้าวกินคน” โดยแบ่งข้าวออกเป็นสามเม็ด
ข้าวเม็ดแรกคืออาหาร “จึงก่อเกิดกำเนิดชีวิต”
ข้าวเม็ดที่สองมองเห็นบุญคุณในคุณค่า ”จึงก่อเกิดศิลปะและวัฒนธรรมชีวิต”
ข้าวเม็ดที่สามเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการเมือง “จึงถูกใช้เป็นอาวุธให้ก่อเกิดสงคราม”


-น้ำมัน อยู่บน Concept ของคำว่า “ น้ำผึ้งแผ่นดิน – น้ำนมแม่ธรณี ”
น้ำมันคือทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ใต้ผืนแผ่นดินเมื่อขุดขึ้นมาผ่านขบวนการกลั่นสีของมันจะออกเป็นสีเหลืองอำพันคล้ายสีของน้ำผึ้งจึงเรียกมันว่า “น้ำผึ้งแผ่นดิน “ ผืนแผ่นดินจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แม่ธรณี น้ำมันที่อยู่ใต้ผืนแผ่นดินก็เปรียบเสมือนน้ำนม “ ถ้าแม่มีลูก ลูกทุกคนควรจะได้ดื่มกินน้ำนมเท่า ๆ กันอย่างเสมอภาคกัน” จาก Concept ทั้งสองเรื่องที่นำมาแสดงร่วมกันจึงใช้ชื่อนิทรรศการครั้งนี้ว่า น้ำผึ้งคลุกข้าว ( HONEY MIXED RICE )


“น้ำผึ้งแผ่นดิน-น้ำนมแม่ธรณี / คนกินข้าว-ข้าวกินคน”


ขอเชิญร่วมพิธีเปิดนิทรรศการในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น.


นิทรรศการ : “น้ำผึ้งคลุกข้าว” (HONEY MIXED RICE)
ศิลปิน : สุรพล ปัญญาวชิระ
วันที่ : ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ – ๑๑ มกราคม ๒๕๕๘
สถานที่ : ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๑ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ติดต่อศิลปิน : o๒-๕๑๒-๔๕๗๒
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๑๘-๓๗o๙







ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














จาก "กำแพงแห่งความหวัง" สู่ "คามาอิชิที่ฉันรัก" เคียวโกะ อาเบะ


เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี ๒o๑๑“คามาอิชิ” เป็นหนึ่งเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ต้นปี ๒o๑๓ เคียวโกะ อาเบะ ศิลปินหญิงชาวญี่ปุ่นในไทย ได้มีโอกาสเดินทางไปที่เมืองนี้ และใช้เวลาในช่วง ๑ ปีเต็มไปกับการวาดภาพลงบนกำแพงขนาดความยาว ๔๓ เมตร และสูง ๘ เมตร






กำแพงแห่งความหวัง



เดิมทีกำแพงนี้เป็นเพียงกำแพงคอนกรีตสกปรกๆ ของโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสนามเด็กเล่นของบรรดาเด็ก ๆ ผู้ประสบภัยที่ส่วนหนึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวบนภูเขา และเพื่อนของเคียวโกะ เคยมาเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวแห่งนี้


ด้วยความร่วมมือจากคนในท้องถิ่นและอาสามัครทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาพวาดบนกำแพง ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “กำแพงแห่งความหวัง” และเคียวโกะเป็นผู้ออกแบบและร่วมวาด ได้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีสื่อหลายแห่งในญี่ปุ่นที่มาทำข่าวเกี่ยวกับกำแพงนี้ ที่เติมเต็มความสุขให้กับผู้พบเห็นด้วยสีสันอันสดใส และประกอบด้วยภาพของดวงอาทิตย์ ภาพนก ฯลฯ ตลอดจนภาพของเด็ก ๆ ที่กำลังยืนเรียงหน้ากระดานจับมือกัน ซึ่งในส่วนนี้เด็กๆในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มาใช้สนามเด็กเล่น รับหน้าที่เป็นผู้วาดภาพตัวเองขึ้นมา ด้วยว่าในอนาคต หากพวกเขาเดินทางกลับมา พวกเขาจะได้รำลึกถึงความทรงจำของตัวเอง เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้






คามาอิชิ ๔ ฤดู คามาอิชิที่ฉันรัก



ล่าสุดในนิทรรศการแสดงเดี่ยวภาพวาด ครั้งที่ ๖ ของเคียวโกะ ที่เมืองไทย ณ อักโกะ แกลเลอรี่ ภาพวาดบนผืนผ้าใบซึ่งมีขนาดใหญ่มากหนึ่งภาพในนิทรรศการ และ ประกอบด้วยภาพขนาด ๑x๑.๕ เมตร จำนวน ๔ ภาพ นำมาเรียงต่อกัน อาจทำให้ผู้ชม หวนคิดถึง ภาพวาดบนกำแพงแห่งความหวัง ณ เมืองคามาอิชิ แม้ว่าเรื่องราวในภาพจะไม่ใช่เรื่องราวเดียวกันกับภาพวาดบนกำแพง แต่ก็เป็นภาพที่เคียวโกะได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับสถานที่และผู้คน ที่เธอได้รู้จักและร่วมงานด้วย ตลอดระยะเวลา ๑ ปีเต็ม ณ เมืองคามาอิชิ นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง จวบจนกระทั่งฤดูหนาว






นอกจากนี้เคียวโกะยังวาดภาพเล็ก ๆ ขึ้นมาอีกหลายภาพ ซึ่งภาพเหล่านี้ต่างสะท้อนความสุขและความทรงจำในช่วงเวลาที่เธอได้ใช้จ่ายไปที่เมืองคามาอิชิ เช่นกัน อาทิ ภาพทางรถไฟสายที่เธอนั่งจากโตเกียวไปยังคามาอิชิ, สวนซากุระใกล้ๆกับสถานีรถไฟ ที่เบ่งบานราวกับเป็นของขวัญส่งท้ายในช่วงเวลาที่เธอทำงานวาดภาพกำแพงแห่งความหวังเสร็จสมบูรณ์, ภาพลำธารบนทางอันแสนสงบที่เธอต้องเดินผ่านในช่วงตี ๕ ของทุกวัน, ภาพอุโมงค์ซีเมนต์ที่รายล้อมไปด้วยดอกไวโอเลต ซึ่งเธอจำได้ว่า จะมีเด็กบางคนในศูนย์พักพิงมาแอบร้องไห้ที่นี่ เนื่องจากเข้ากับเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่ได้ และเธอก็ได้ใช้สีที่เหลือจากการวาดภาพกำแพงแห่งความหวังมาวาดภาพฝากไว้ในอุโมงค์ซีเมนต์อันนี้ ด้วยหวังใจว่า เด็กที่มาแอบร้องไห้จะยิ้มออก เมื่อเห็นภาพวาดของเธอ






รวมไปถึงภาพวาดของตัวเธอเองที่กำลังจินตนาการถึงทุ่งดอกคอสมอสที่คามาอิชิ ซึ่งดอกไม้นี้จะเบ่งบานและสวยงามที่สุด ในช่วงเดือนตุลาคม และอยากจะกลับไปเที่ยวทุ่งดอกคอสมอสที่คามาอิชิอีกครั้ง แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาไปกับการเตรียมงานเพื่อจัดแสดงนิทรรศการภาพวาด เคียวโกะจึงวาดภาพขึ้นมาทดแทนความรู้สึกตรงนั้นและนำมาจัดแสดงในนิทรรศการด้วย






“คามาอิชิที่ฉันรัก” ชื่อของนิทรรศการจึงมีที่มาจากตรงนี้นี่เอง


จากความรู้สึกที่เคียวโกะอยากจะถ่ายทอดถึงความรัก ความสุข ความทรงจำ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเต็มของตัวเองที่คามาอิชิ และในวันเปิดนิทรรศการ นอกจากบรรดาแขกคนสำคัญในเมืองไทย ที่มีส่วนสนับสนุนให้เธอได้เดินทางไปวาดภาพกำแพงแห่งความหวัง ส่วนหนึ่งยังเดินทางมาจากญี่ปุ่น และคนเหล่านี้เป็นคนที่เธอเคยรู้จักและร่วมงานด้วยที่คามาอิชิ และทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจเมื่อได้เห็นตัวเองปรากฎอยู่ในภาพวาด ๔ ฤดูของเคียวโกะ






ประเทศไทยที่ฉันรัก



ถึงเวลานี้ เป็นระยะเวลา ๑๘ ปี แล้วที่เคียวโกะมาใช้ชีวิต ทำงานศิลปะและสร้างครอบครัวอยู่ที่ประเทศไทย นอกจากจะเคยจัดนิทรรศการแสดงผลงานของตัวเองในชื่อ “ประเทศไทยที่ฉันรัก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยืนยันถึงความรักและความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมีต่อประเทศที่เธออาศัยอยู่มานาน พบเธอครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ยังจำได้ว่าศิลปินคุณแม่ลูกสองคนนี้ได้บอกเล่าให้ ART EYE VIEW ฟังว่า "ฉันรักประเทศไทย ฉันชอบแสงแดดที่นี่มาก ๆ"


พบเธอครั้งล่าสุด เคียวโกะได้บอกเล่าให้ฟังว่าพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะว่า “ฉันรักประเทศไทย ก่อนจะมารักและแต่งงานกับคนไทยเสียอีก”






เคียวโกะเกิดที่โออิตะ เมืองทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น จบการศึกษาจาก Fukuoka Kyushu Designer School เมืองฟูกูโอกะ เมื่อเรียนจบทำงานเป็นนักวาดประกอบ ขณะเดียวกันก็ได้เดินทางไปท่องเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศ ในครั้งแรกที่เดินทางมาประเทศไทย เธอรู้สึกหลงรักและบอกกับตัวเองว่าสักวันจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หลังจากนั้นเมื่อเดินทางกลับไปญี่ปุ่นและทำงานอยู่สักระยะ เธอก็มีโอกาสได้พบรักกับสามีซึ่งเป็นคนไทยที่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น กระทั่งแต่งงานและได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างที่เคยตั้งใจไว้






ปัจจุบันสามีของเคียวโกะเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขณะที่ตัวเธอเองทำงานศิลปะและเปิดสอนศิลปะเด็ก อยู่ที่บ้านในย่านสุขุมวิท แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี นับแต่ครั้งที่เคยพบเธอในนิทรรศการครั้งแรก ๆ กระทั่งเจอกันครั้งล่าสุด เคียวโกะยังคงพูดประโยคเดิมให้ใคร ๆ ได้ยินว่า “ฉันรัก ฉันชอบประเทศไทยมาก ๆ”


ประโยคนี้ คนไทยบางคนได้ยินได้ฟังอาจรู้สึกว่า มันก็แค่ประโยคที่หลุดออกมาจากชาวต่างชาติที่พูดจาปากหวานคนหนึ่ง หากยังไม่มีโอกาสได้เห็นภาพวาดเธอแต่ละภาพในนิทรรศการครั้งแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน ภาพวาดที่สื่อให้ผู้ชมรับรู้ได้ว่า ผู้วาด สามารถมองเห็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆที่โคจรอยู่รอบตัว ตัวอย่างเช่นภาพวาดหลายๆภาพเกี่ยวกับชีวิตของเธอในประเทศไทย ที่เคียวโกะวาดในช่วง ๑๘ เดือนที่ผ่านมา และถูกนำมาจัดแสดงให้ชมในนิทรรศการครั้งล่าสุดด้วย อาทิ ภาพอยากจะไปอีก โลคัลพัทยา ภาพเกษตรแฟร์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และภาพเพื่อนของปู ที่เคียวโกะเขียนคำบรรยายประกอบภาพไว้อย่างน่ารัก ๆ ว่า


“เลี้ยงปูซาริ (คล้ายกุ้งก้ามกราม) ซึ่งตัวเล็กมาก ๆ ปูเหล่านี้จะลอกคราบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งก็จะตัวโตขึ้นเรื่อย ๆ การเจริญเติบโตก็ช่างน่าสนใจมาก และเรามักจะเฝ้ามองดูอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้การตอบกลับมาก็ตาม แต่พวกเราก็พูดคุยกับพวกเขาอยู่ทุกวัน ทุกวัน พอทำเช่นนี้ก็เกิดความรู้สึกรักเขาขึ้นมา จนเกิดความรู้สึกเป็นเพื่อนกันไปแล้ว ฉันเริ่มเล่นกับปูซาริด้วยจินตนาการ ขอให้มีชีวิตอยู่นาน ๆ นะคุณปูซาริ”






บางคนที่รู้จักเธอบอกเล่าให้ฟังว่า นี่ขนาดเธอใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เธอยังมีเรื่องราวให้เก็บมารู้สึก เก็บมาวาดมากมาย บางทีแค่เดินออกจากบ้านมาแค่ปากซอย ได้พบเห็นอะไรที่ชอบ เธอก็สามารถเก็บมาเป็นแรงบันดาลใจได้แล้ว คียวโกะมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวตามต่างจังหวัดแค่ปีละครั้งเท่านั้น สาเหตุหนึ่งที่เธอไม่อยากไปบ่อย ก็เพราะกลัวว่าตัวเองจะไปพบไปเจออะไรที่ถูกใจมากมาย จนอดวาดไม่ได้นั่นเอง ดูแค่ผลงานแม้ไม่ได้เจอตัว ชวนให้ใครต่อใครรู้สึกเสมอว่า โลกของเคียวโกะช่างเต็มไปด้วยความสุข






เจอเธอครั้งล่าสุด จึงถามเธอว่า ชีวิตของเธอเคยมีช่วงเวลาของความเศร้าบ้างไหม เพราะมองจากภาพเธอแล้วเรามองแทบไม่เห็นความเศร้าเจือปนอยู่เลย เจ้าของตัวคาแรคเตอร์ ซึ่งเป็นภาพคนแก้มแดง (ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวลาที่คนเรารู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจ มักจะมาอาการแก้มแดง) ตอบว่ามีเหมือนกัน เช่นในเวลาที่ทะเลาะกับเพื่อน หรือคนที่ไม่รู้จักเธอ แต่มาพูดถึงงานของเธอให้รู้สึกไม่ดี แต่เธอก็มีทางออกให้ตัวเองด้วยการลงมือวาดภาพ... และวาดภาพ จนในที่สุดเธอจะรู้สึกดีขึ้น...และดีขึ้นไปเอง


คามาอิชิที่ฉันรัก( Kamaishi, the city I love) วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน - ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ อักโกะอาร์ตแกลเลอรี่ ถนนสุขุมวิท (ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ- ซอย ๔๙) โทร.o-๒๒๕๙-๑๔๓๖



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














Hanami รื่นรมย์ชมดอกไม้


หอศิลป์เซเว่นรังสรรค์ และกลุ่มอาร์ตกิฟท์ ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการแสดงผลงานจิตรกรรม และแนะนำหนังสือ Hanami รื่นรมย์ชมดอกไม้ จะมีพิธีเปิดนิทรรศการโดย คุณวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. บัวหลวงให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น. ณ หอศิลป์เซเว่นรังสรรค์ ถนนสาทร ซ. ๕


นิทรรศการ : Hanami รื่นรมย์ชมดอกไม้

ศิลปิน : กาญจนา สายสิริพร, ก้านแก้ว บุญยรัตพันธุ์, จรูญ เขียวดอกน้อย, นันท์นภัสร์อร ชาญเชาว์กุล, เปรมมิกา พฤฒินารากร, พวงเพ็ญ จันทร์จรุงจิต, พนิดา นิยมทรัพย์ ปทุมารักษ์, รวิวรรณ ประกอบผล, วัลย์นภัส จิรสิทธิธำรง, ศิรินันท์ แสงสุเรนทร์, สันติภาพ สุขเอมโอษฐ์, อรนุช พงศ์สิรินทร์, อัจฉรา พันธ์รัตนมงคล

จัดแสดงวันที่ : ๑๒-๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗

สถานที่ : หอศิลป์เซเว่นรังสรรค์

รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๖๓๘-๒๓๑๕























































ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














Hope : Me My Mind Part II


หากเราเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของชีวิต เราก็จะพบเจอกับความสุข ผลงานชุดนี้ยังคงความเฉพาะตัวของมานิตย์ ที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากชุดที่แล้ว “Me My Mind” เป็นเหมือนการเดินทางของความรู้สึกผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ของมานิตย์ ท้ายที่สุดเขาได้พบว่า มันเป็นความธรรมดาของธรรมชาติ หลายครั้งที่มนุษย์ถูกบดบังด้วยเมฆหมอกของความสิ้นหวัง อันเกิดจากเหตุต่าง ๆ ความทุกข์ การหมดสิ้นหนทาง ความไม่สมความปรารถนา


หลายครั้งที่มนุษย์ถูกบดบังด้วยเมฆหมอกของความสิ้นหวัง อันเกิดจากเหตุต่าง ๆ ความทุกข์ การหมดสิ้นหนทาง ความไม่สมความปรารถนา


“สายน้ำที่ไหลรินและเหือดแห้ง ต้นไม้ที่ผลิดอกและร่วงโรย นกน้อยที่เริ่มโผบินและจบชีวิตลง แสงอาทิตย์ที่สาดส่องในยามเช้าและลาลับไปในตอนเย็น”


หากเราเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ ประตูภายในใจเราจะเปิดออกไปสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประกายแห่งความหวังเฝ้ารอเราอยู่ ความหวังให้เรี่ยวแรงและก่อเกื้อความเบิกบานในชีวิต พัดพาเมฆหมอกเผยให้เห็นแสงสว่างผ่านใจของเรา ให้เราได้มีความกล้าที่จะก้าวเดินอีกครั้ง


“ตราบใดที่มีหวัง ตราบนั้นย่อมมีชีวิต” ( มานิตย์ ศรีสุวรรณ์)


พบปะพุดคุยกับศิลปิน รับสูจิบัตร และร่วมพิธีเปิดนิทรรศการในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. ณ นัมเบอร์วันแกลอรี่ อาคาร เดอะสีลมแกลเลอเรีย ชั้น ๔ กรุงเทพฯ


นิทรรศการ : Hope : Me My Mind Part II
ศิลปิน : มานิตย์ ศรีสุวรรณ์
วันที่ : ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๘
สถานที่ : นัมเบอร์วันแกลอรี่ อาคาร เดอะสีลมแกลเลอเรีย ชั้น ๔ กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับนิทรรศการกรุณาติดต่อ : o๒-๖๓o-๒๕๒๓











ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"จักรวาลและท้องทะเล" ของ คริสติน นูเหวิน


ผลงานของ คริสติน นูเหวิน โคจรไปรอบ ๆ จินตนาการแห่งปริซึมชีวิต และโลกเสมือนฝันที่ที่ซึ่งผืนมหาสมุทรต่าง ๆ ผนวกเข้ากับอวกาศ ผลงานของเธอแสดงให้เห็นถึงกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ดุดัน สิ่งมีชีวิตในรูปแบบคดเคี้ยวไปมา ต้นพืชเลื่อมพรายดั่งรุ้ง ชั้นหนามของหิน และภาพแห่งจิตนาการที่น่าทึ่งต่าง ๆ ซึ่งแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่นแต่ก็กลมกลืน อยู่ในนิเวศมณฑลที่มีความลึกลับ ในขณะที่วิสัยทัศน์ของเรามีความผันผวนระหว่างสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าและสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น การผลัดเปลี่ยนระหว่างสิ่งมีชีวิตดั่งเดิมที่อาศัยอยู่ด้านล่างของทะเล และสิ่งมีชีวิตที่เหมือนสายใยเบา ๆ ล่องลอยอยู่ในท่ามกลางแห่งจักรวาล ผลงานที่ซับซ้อนหลายมิตินี้แสดงการเทียบเคียงอย่างใกล้ชิดอันเป็นความสัมพันธ์ของสิ่งเล็กๆ บนโลกแห่งธรรมชาติ


คริสติน นูเหวิน ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงานของเธออย่างไม่ลดละ ด้วยการพัฒนาจักรวาลวิทยาส่วนบุคคลที่ที่ซึ่ง “สิ่งที่มีร่วมกันในสายพันธ์ต่าง ๆ รูปร่างต่าง ๆ และสภาพแวดล้อมเป็นรูปเป็นร่างที่มองเห็นและแสดงออกได้”


เธอสร้างผลงานที่ฉีกออกจากความคิดเดิม ๆ ที่จำกัดด้วยเวลาและสถานที่ การผสมผสานแก่นสารของวงจรชีวิตที่ลึกลับเกินขอบเขตของโลก ดั่งข้อเสนอแนะถึงเรื่องราวจากอดีตและความเป็นไปได้แห่งอนาคต


ความรู้สึกและการรับรู้ได้ถึงความฝันนี้ ทำให้ผลงานของเธอเป็นเสมือนละอองแห่งดวงดาวที่โปรยปรายสู่โลกแห่งจิตนาการในหัวของเรา สายธารแห่งละอองดาวที่อ่อนโยนยังปลอบประโลมและฟื้นคืนความเป็นเด็กในตัวเราอีกด้วย


คริสติน นูเหวิน ได้รับปริญญาตรีสาขาศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย - ลองบีช และปริญญาโทสาขาศิลปกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย - เออร์ไวน์


เธอเคยแสดงผลงานเดี่ยวแล้วที่ พิพิธภัณฑ์แฮมเมอร์ ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย, ศูนย์การแสดงศิลปะหาดฮันติงตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย , หอศิลป์ไมเคิล คอห์น ลอสแอนเจลิส , พิพิธภัณฑ์งานศิลป์ คริสป์ แอลเลิร์ท เซนต์ออกัสติน ฟลอริด้า และหอศิลป์ ๑o ชานเซอรีเลน ฮ่องกง


นอกจากนี้ ผลงานของเธอยังเคยร่วมจัดแสดง ในนิทรรศการกลุ่ม ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะหาดลากูนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ,พิพิธภัณฑ์ปาซาเดนาแคลิฟอร์เนีย รัฐแคลิฟอร์เนีย, แกลอรี่ เลอรอย เนแมน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ นิวยอร์ก, แกลอรี่ เชินเนอร์ แอนด์ เชินเนอร์ นิวยอร์ก, แกลอรี่ San Art โฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม, Dancing Elephants Project โบโกตา โคลัมเบีย, Kunsthalle zu Kiel คีล ประเทศเยอรมัน, Sprueth Magers Projekte มิวนิค ประเทศเยอรมัน


และล่าสุด ระหว่างวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เธอจะจัดแสดงผลงานชุด The Cosmos and The Sea (จักรวาลและท้องทะเล) ณ แกเลอเรีย คูย์อัน ประเทศเวียดนาม


ปัจจุบัน คริสติน นูเหวิน ใช้ชีวิตและทำงานอยู่ใน ลองบีช แคลิฟอร์เนีย







ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














HOF Festival เทศกาลของคนรักงานศิลป์ ที่พระโขนง


W District (ดับเบิลยู ดิสทริค) ย่านแฮงเอาต์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ร่วมกับ HOF ART จัด HOF Festival หรือ “HOFest” เทศกาลเอาใจคนรักงานศิลปะทุกรูปแบบ ขนงานศิลปะกว่า ๔oo ชิ้นมาจัดแสดงเพื่อให้ผู้สนใจได้ชมและเลือกซื้อเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้ พร้อมจัดโชว์กิจกรรมศิลปะหลากหลายรูปแบบ อาทิ Art Carnival, คอนเสิร์ตเสียงเพลงแห่งดินแดนเหนือใต้ของญี่ปุ่น, ชมการทำงานศิลปะแบบสด ๆ กันอย่างใกล้ชิด หรือ ย้อนยุคกับดูหนังอาร์ตกลางแปลงบนดาดฟ้าสัมผัสไอหนาวของกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ - ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ ณ W District ถ.สุขุมวิท ๖๙-๗๑(ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง)






กิจกรรมไฮไลต์ในสัปดาห์นี้ ไปจนถึงต้นเดือนมกราคมปีหน้าได้แก่

วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. เป็นต้นไป การจัดขบวนแห่จำลองบรรยากาศจาก Brazilian Carnival มาพร้อมกับขบวนพาเหรดศิลปินระดับโลก ในรูปแบบของ “Art Carnival” ขบวน Juggling วงดนตรีและงานเฉลิมฉลองเต็มพื้นที่ W District ทั้งงานออกร้านผลงานศิลปะ สินค้าแฮนด์เมด เฮนน่า แทตทู และกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้เข้าร่วมงานทุกเพศทุกวัย กิจกรรมสำหรับคุณหนู ๆ ที่สามารถเข้ามาร่วมสนุกกันได้ทั้งครอบครัว พร้อมร่วมประมูลผลงานศิลปะจากศิลปินเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ โก๋เอ็ม บุดด้าเบลส เพื่อนำรายได้มอบให้กับเด็กด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร และพบกับปาร์ตี้เสียงเพลงสไตล์บราซิเลียนจากดีเจ และการแสดงคาโปเอร่า


วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๓o - ๒๒.oo น. พบกับการแสดงที่เล่นไปกับอารมณ์และความรู้สึกของคนดู ณ ขณะนั้น กับ PERFORMING ART จากกลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร บริเวณ หน้า HOF ART SPACE และ HOF ART Residency


วันที่ ๕-๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ ร่วมเทิดพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้บรรยากาศแห่งศิลปะ ทั้งการปั้นสด และการวาดสดจากศิลปินชื่อดัง


วันที่ ๑๒-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ บรรยากาศแห่งการจับจ่ายปลายปีแบบอาร์ต ๆ เนื่องจากศิลปินมาทำของขวัญสนุก ๆ ในรูปแบบพิเศษเพื่อให้ทุกท่านได้มีของฝากสำหรับคนรอบข้างในราคามิตรภาพกว่า ๓o ร้านค้า รอบ HOF ART Residency


วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เทศกาล Bangkok Clay Connection Contest รวบรวมศิลปินเซรามิกจากทั่วเมืองไทย รวมตัวกันกว่า ๑oo ท่านแสดงผลงานและจำหน่ายผลงานในราคาพิเศษ วันเดียวเท่านั้น (ศิลปิน อาทิ อ.นนทิวรรธน์ จันทนะผลิน, อ.สุโรจนา เศรษฐบุตร, พิม สุทธิคำ, นีโน่ สาระบุตร, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์, บัทม์ แก้วงอก และอีกหลายท่าน)


วันที่ ๑๘-๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ย้อนยุคกับเทศกาลหนังกลางแปลงบนดาดฟ้า ครั้งแรกในประเทศไทย “Open Reel Festival” จากการรวมตัวของกลุ่มคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศออสเตรเลีย คัดเลือกภาพยนตร์ขนาดสั้นและสารคดีที่น่าสนใจเพื่อมาฉายในบรรยากาศสบาย ๆ เอกเขนกดูหนังบนดาดฟ้า กลางกรุงเทพฯ และพบกับการพูดคุยอย่างเป็นกันเองตลอด ๔ คืน โดยศิลปินและผู้เชี่ยวชาญในแวดวงภาพยนตร์


วันที่ ๒๖-๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ กิจกรรมการกุศลเพื่อส่งมอบความอบอุ่นแก่เด็กน้อยในพื้นที่หนาวเหน็บ


วันที่ ๙-๑o มกราคม ๒๕๕๘ กิจกรรมเอาใจคุณหนู ชวนมาเล่นสนุกด้วยศิลปะกับคุณครูทรายน้อยและคุณครูน้ำว้า (ฟรี) และกิจกรรมเสริมที่จัดขึ้นเพื่อเอาใจคุณหนูในราคาพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น


วันที่ ๑๖-๑๗ มกราคม ๒๕๕๘ ปิดท้ายเทศกาลด้วยกิจกรรม HiP สุด HOF กับการ Battle dance, Battle Graffiti จากเหล่าบรรดา B-Boy และศิลปินแนว Street ชื่อดัง พร้อมพบกับเสียงเพลงจาก DJ ตลอดงาน







ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














บทที่ (-) ลบหนึ่ง


บทที่ (-) ลบหนึ่ง : "The great artist of tomorrow will go underground" - Marcel Duchamp


วันที่ : ๒๘ พฤศจิกายน - ๑๑ มกราคม ๒๕๕๘


สถานที่: ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น ๗


กิจกรรมบนพื้นที่นิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินรุ่นใหม่


ส่วนหนึ่งของโครงการทดลอง Y.A.N (Young Artist Network by BACC)


พิธีเปิดกิจกรรมในวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
wikalenda.com














ครั้งแรกในไทย!! ศิลปินระดับไอคอนโลก M/M Paris


เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการสนับสนุนศิลปินระดับโลก และศิลปินไทยที่มีความสามารถ ให้ได้นำเสนอสุดยอดผลงานศิลปะและดีไซน์ทุกแขนง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หลงใหลงานศิลปะ ล่าสุด สยามเซ็นเตอร์ มอบของขวัญส่งท้ายปีให้คนไทย ด้วยการนำผลงานอาร์ตและดีไซน์ชิ้นมาสเตอร์พีซของศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส M/M (Paris) มาจัดแสดงให้ตื่นตาตื่นใจในรูปแบบของนิทรรศการ “Siam Center Idea Avenue presents M/M (Paris)” ระหว่างวันที่ ๒๑ พ.ย. ๒๕๕๗ ถึง ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














งานแต่งผ้าไทยอย่างไรให้ทันสมัย ครั้งที่ ๔


งานแต่งผ้าไทยอย่างไรให้ทันสมัย ครั้งที่ ๔ โดยสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ โถงบริเวณ ชั้น ๑ อาคารนวัตกรรม : ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อส่งเสริมให้ทุกท่านมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบสาน วัฒนธรรมและภูมิปัญญาการแต่งกายด้วยผ้าไทย โดยกิจกรรมจะมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำและให้คำปรึกษาในการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าจากผ้าไทยที่ท่านนำมาด้วย


พบร้านจำหน่ายผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าไทย ในงาน กรุณานำผ้าไทยของท่านมาให้วิทยากรแนะนำ
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบัน

ยอดสน วรสิงห์
อภิชัย สภาวสุ
นฤมล สิกขะฤทธิ์
พิมลชาต์ ชูโต
อำไพนาถ กิจส่งเสริมชน
พัชรพล วิวิชชานนท์
ภาณุพงศ์ รัตนโชติ


สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งเพื่อเลือกช่วงเวลา
สถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ o๒-๒๖๑-๒o๙๖
Facebook สถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ข่าวประชาสัมพันธ์ : คุณจีรวัฒน์ วิทยากรณ์
นักประชาสัมพันธ์ สถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com
เฟซบุคทอฟ้าผ้าไทย














ธรรมชาติ เวลา และความว่าง
(NATURE • TIME • SPACE)


นิทรรศการ ธรรมชาติ เวลา และความว่าง (NATURE • TIME • SPACE) ผลงานโดย สมวงค์ ทัพพรัตน์ (Somwong Tupparat) จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓ - ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดในวันพุธที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น. ณ People's Gallery P1-P3 ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร : bacc


นิทรรศการ ธรรมชาติ เวลา และความว่าง
ศิลปินสมวงศ์ ทัพพรัตน์

เรื่องราวของธรรมชาติ นอกจากจะนำเอาความสดชื่นมาให้แล้ว ยังช่วยโน้มน้าวจิตใจให้สงบ และพอใจต่อความเรียบง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาระของรูปทรงต่าง ๆ ในธรรมชาติที่เบียดเสียดหรือแทรกตัวอยู่ในพื้นที่ว่างทั่วไป การปรากฏของสีสันและบรรยากาศที่แสดงช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาตินั้น เป็นความงามที่ช่วยขัดเกลาจิตใจให้ละเมียดละไมยิ่งขึ้น


ความประทับใจจากธรรมชาติที่เป็นการเห็นโดยผ่านมุมมองต่างๆ ได้กระตุ้นให้เกิดความสนใจต่อความงานในเบื้องต้นและปลุกเร้าให้เกิดการเพ่งพินิจพิจารณา เพื่อค้นหาความงามที่เป็นความจริงแท้ตามจิตนาการส่วนตัว ผมสนใจสรรพสิ่งในธรรมชาติที่เกิดขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า และกาลเวลาที่เห็นได้ชัดตามปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาในแต่ละวันหรือฤดูกาลต่าง ๆ ทั้งสรรพสิ่งในธรรมชาติและเวลาที่เกี่ยวโยงสัมพันธ์กันนั้นทำให้เกิดการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงมิรู้จักจบสิ้น อันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่คงที่และยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ จึงมุ่งค้นหาความงามที่เป็นความจริงแท้ ซึ่งปรากฏอยู่ในธรรมชาติ เวลาและความว่าง


ผลงานชุดนี้มิได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการลดหลั่นของสีที่ค่อนข้างบางเบา ดูค่อย ๆ พล่าเลือน และละลายหรือหายกลืนไปกับบรรยากาศของภาพ คล้ายกับมีมิติที่ซับซ้อนอยู่ระหว่างรูปลักษณ์กับความว่างเปล่า ทั้งนี้ด้วยประสงค์จะแสดงออกถึงจินตนาการส่วนตัว อันเกิดจาการได้พิจารณาสาระในธรรมชาติที่เชื่อมสัมพันธ์กับการเวลา ด้วยการมุ่งสร้างสรรค์ความงามที่แฝงไว้ด้วยความสงบลึก ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ เวลา และความว่าง



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com














สยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด พาราไดซ์ ครั้งที่ ๘


รูปแบบการแสดง 'กล้วยไม้' ในงาน 'สยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด พาราไดซ์ ครั้งที่ ๘' ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์กล้วยไม้ไร้พรมแดน 'สีสันแห่งเอเชีย' นำเสนอความสวยงามของกล้วยไม้เด่นของประเทศใน 'ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน' ทั้ง ๑o ประเทศ






นักนิยมกล้วยไม้จะได้ชื่นชมความงามของ 'เนการา บรูไนดารุสซาลาม' หรือชี่อไทย 'สิงโตหูช้าง' ช่อดอกมีลักษณะห้อยลง ความยาว ๒o-๒๒ เซนติเมตร ประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กสีเหลืองริ้วสีแดง กลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อเน่าเพื่อช่วยในการดึงดูดแมลงวัน เจริญเติบโตในป่าดิบชื้นของเกาะบอร์เนียว จัดเป็นกล้วยไม้ชนิดใหญ่ที่สุดในสกุลสิงโต (Bulbophyllum)






กล้วยไม้จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ชื่อวิทยาศาสตร์ Dendrobium sp. ไทยเรียก 'หวายกลีบบิด' มีถิ่นกระจายพันธุ์แถบเกาะชวา บอร์เนียว สุมาตรา ฟิลิปปินส์ ยาวไปถึงออสเตรเลียและเกาะทางแปซิฟิก โดยเฉพาะเกาะนิวกินี






จากกัมพูชา ชื่อวิทยาศาสตร์ Paphiopedilum concolor (Lindl. ex Bateman) Pfitzer ไทยเรียก 'รองเท้านารีเหลืองปราจีน' กล้วยไม้อาศัยบนดิน ค้นพบในปีค.ศ. ๑๙๘๔ เดิมมีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน (มณฑลยูนนาน, กุ้ยโจว, กวางสี) เมียนมาร์ ไทย ทางภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนาม มีการกระจายพันธุ์ในกัมพูชา






มาเลเซียประชันความงามด้วย Coelogyne rochussenii de Vriese ดอกออกโดยรอบกระถางคล้ายผ้าม่าน ดอกสีเขียวอมเหลือง มากกว่า ๕o ดอกต่อช่อดอก สามารถออกดอกได้เกือบตลอดทั้งปีในสภาพร้อนชื้น ไทยเรียก 'เอื้องสายเสริฐ'






จากเมียนมาร์ เราจะได้ชม รองเท้านารี สไปเซอเรียนุม พบในบริเวณหุบเขาในแถบแม่น้ำบารักและแม่น้ำโซนัยในรัฐอัสสัมของประเทศอินเดีย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล ๓๗o-๑,๑๕o เมตร ตลอดถึงเมียนมาร์ เจริญเติบโตอยู่บนต้นไม้ หิน และรอยแยกของมอสที่ขึ้นกันหนาแน่น ในบริเวณที่มีหมอกหนา ฝนประปรายในช่วงฤดูหนาว และฝนตกชุกในช่วงฤดูร้อน






กล้วยไม้ขึ้นชื่อของสิงคโปร์ Vanda Miss Joaquim (แวนด้ามิสโจคิม) รู้จักกันในชื่อของ 'กล้วยไม้สิงคโปร์' และ 'กล้วยไม้เจ้าหญิงอโลฮา' เป็นกล้วยไม้ลูกผสม เนื่องจากออกดอกได้ตลอดทั้งปี สิงคโปร์จึงยกเป็นดอกไม้ประจำชาติตั้งแต่วันที่ ๑๕ เมษายน ค.ศ. ๑๙๘๑ นอกจากนี้ยังมี รองเท้านารีเดเลนาติไอ จากประเทศเวียดนาม, Waling-Waling กล้วยไม้ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามและน่าดึงดูดใจที่สุดของฟิลิปปินส์ เป็นอาทิ






ส่วนจุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงงานครั้งนี้คือ ประติมากรรมยักษ์ ๒ ตน ขนาดความสูง ๕ เมตร ประดับด้วยกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ ยืนตระหง่านคู่ซุ้มประตูศิลปะแบบไทย ขนาดความสูง ๙ เมตร และอลังการกับ สวนกล้วยไม้จำลองจากวรรณคดี สื่อถึงความพร้อมของประเทศไทยสำหรับการเปิดประตูต้อนรับชาติต่าง ๆ ในอาเซียน เข้ามาสัมผัสความสวยงามของ 'กล้วยไม้ไทย' และเป็นศูนย์กลางของการจัดงานกล้วยไม้ระดับภูมิภาค กำหนดจุดจัดแสดงไว้ที่บริเวณโบทานิคัล การ์เดน ชั้น M ใจกลางพื้นที่ของสยามพารากอน






"นอกเหนือจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังได้เพลิดเพลินกับความงดงามอลังการของ 'กล้วยไม้' หลากหลายสายพันธุ์กว่า ๖oo,ooo ดอก ชมความสวยงามของกล้วยไม้ ๙ สกุล ๑๒o ชุด ที่มีผู้ส่งเข้าประกวดจากทั่วประเทศ เพื่อชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงการรวบรวมกล้วยไม้จากจังหวัดต่าง ๆ มาจัดแสดงให้ได้ชมกันเป็นครั้งแรก ร่วมด้วยประติมากรรมกล้วยไม้จากโรงแรมสยามเคมปินสกี้ และโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน นิทรรศการภาพวาดกล้วยไม้ไทย หัวข้อ 'มหัศจรรย์กล้วยไม้ไร้พรมแดน สีสันแห่งเอเชีย' จากบริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ผลงานเยาวชนไทยชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับว่าผู้เข้าชมงานนี้จะได้รับความสุขจากการชมและถ่ายภาพกับดอกกล้วยไม้ บรรยากาศ และได้รับความรู้ภายในงานอย่างครบถ้วน" ลักขณา นะวิโรจน์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท สยามพารากอน รีเทล จำกัด กล่าว






กรมส่งเสริมการเกษตร ผนึกความร่วมมือกับ สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทย สมาคมกล้วยไม้ลพบุรี สมาคมกล้วยไม้ราชบุรี และสมาคมกล้วยไม้สกุลช้าง สรรหากล้วยไม้เด่นจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า ๖o จังหวัด นำมาจัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกในงานนี้ เช่น กล้วยไม้หวายปอมปาดัวร์ จากกรุงเทพมหานคร กล้วยไม้สกุลหวายลูกผสม นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จากประเทศออสเตรเลียตอนเหนือ ไปผสมพันธุ์ยังประเทศฝรั่งเศส ต้นสูงประมาณ ๕o เซนติเมตร ก้านชูดอกยาว ดอกขนาดค่อนข้างใหญ่ กลีบดอกสีม่วงแดง อายุการปักแจกันนาน ออกดอกได้ตลอดปี






จากจังหวัดอุดรธานี มิสอุดรซันไฌน์ กล้วยไม้ลูกผสมในสกุลแวนดากับสามปอยดง เกิดจากการศึกษาผสมพันธุ์โดยเกษตรกรในจังหวัด นายประดิษฐ์ คำเพิ่มพูน ได้รับการจดทะเบียนกับสมาคมกล้วยไม้โลกประเทศอังกฤษเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๑ ไม่มีเกสรและน้ำหวาน แต่มีกลิ่นหอมรัญจวนแบบไทย ๆ ให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกในช่วงเช้าตรู่ถึงบ่ายโมง จนกว่าดอกจะเหี่ยวแห้งไป จึงมีการสกัดกลิ่นมาผลิตเป็นหัวน้ำหอม และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำหอมอุดรซันไฌน์






จังหวัดระนองมี โกมาซุม กล้วยไม้ประเภทอิงอาศัย ลำต้นเจริญทางด้านข้าง ความยาวประมาณ ๓o-๕o เซนติเมตร กาบใบมีขนสีดำ ลักษณะใบรูปไข่ยาวรี ปลายใบมี ๒ แฉกไม่เท่ากัน ออกดอกที่ยอด ช่อดอกสั้น ช่อหนึ่ง ๆ มี ๓-๕ ดอก กลีบดอกสีขาว ปากสีเหลืองส้ม โคนปากสอบ ปลายปากเว้า มีสันนูนสองสันจากโคนออกมาถึงกลางปาก ขนาดดอกโตประมาณ ๑o เซนติเมตร กลิ่นหอมอ่อน ออกดอกเดือนตุลาคมถึงธันวาคม






กล้วยไม้เด่นจังหวัดยะลา หญ้าจิ้มฟันควาย เป็นกล้วยไม้ดิน ชอบยืนต้นเดี่ยว ๆ สูง ๕o เซนติเมตรโดยประมาณ มีลักษณะลำต้นเป็นข้อเป็นปล้องคล้ายพืชตระกูลหญ้าหรือไผ่ ใบเรียวแหลม ดอกออกเป็นช่อ ๆ ที่ปลายยอด ช่อละ ๑-๒ ดอก กลีบดอกสีขาวปนม่วงอ่อน ปลายดอกรูปกรวยโคนเล็ก ปากดอกบานออก ลึกเข้าไปในกรวยมีสีเหลืองแซมขาว ออกดอกระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน พบมากตามทุ่งหญ้าบนภูเขาหรือไหล่เขาตามพื้นดินค่อนข้างแฉะของเขาป๊กโย๊ะ อำเภอบันนังสตา ขึ้นรวมอยู่เป็นกลุ่มค่อนข้างหนาแน่น เมื่อออกดอกพร้อมกันแล้วบริเวณดังกล่าวจะมีความสวยงามและสะดุดตามาแต่ไกล






จากจังหวัดน่าน เอื้องจำปาน่าน ช่อดอกห้อยย้อยลงมาเป็นพวง ช่อละประมาณ ๓-๑๕ ดอก หากดูแลดีต้นสมบูรณ์ให้ดอกได้มากถึง ๒o ดอก ดอกสีเหลืองอ่อน ปากดอกสีเหลืองเข้ม บริเวณปากดอกห่อคล้ายท่อ มีเส้นสีน้ำตาลแดงแต้ม ส่งกลิ่นหอม การปลูกเลี้ยงควรใช้วัสดุปลูกที่ไม่แฉะมากจนเกินไป วางในที่ร่มรำไร บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ๕oo-๑,ooo เมตร เป็นกล้วยไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์อีกชนิดหนึ่ง แต่ยังหาดูได้ตามป่าดิบทางภาคเหนือ โดยเฉพาะเมืองน่าน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี






นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ ฟ้ามุ่ย จ.เชียงใหม่, เอื้องแซะ จ.แม่ฮ่องสอน, แดงอุบล จ.อุบลราชธานี, รองเท้านารีเหลืองกระบี่ จ.กระบี่, รองเท้านารีเหลืองปราจีน จ.ปราจีนบุรี, รองเท้านารีขาวชุมพร จ.ชุมพร, ราชินีเหมือง จ.ภูเก็ต, กุหลาบหนองคาย จ.หนองคาย เป็นอาทิ


"วัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้โดยหลัก คือต้องการยกระดับการจัดงานแสดงและประกวดกล้วยไม้ในระดับประเทศสู่ความเป็นสากล ต้อนรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ รวมถึงการส่งเสริมธุรกิจกล้วยไม้ไทยในวงกว้าง พร้อมกระตุ้นให้คนไทยสนใจ รักในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ ตลอดจนนิยมนำกล้วยไม้มาใช้ในการจัดตกแต่ง" สุรพล จารุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงการสนับสนุนการจัดงานนี้ในส่วนของภาครัฐ ในงานยังมี นิทรรศการกล้วยไม้ ๔ สายพันธุ์ใหม่ของโลกที่ค้นพบในประเทศไทย ได้แก่ ว่านแผ่นดินเย็นอุ้มผาง, เอื้องกลีบติดพังงา, เอื้องศิริชัย และเอื้องรังนกไทยทอง


งาน 'สยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด พาราไดซ์ ครั้งที่ ๘' มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน - ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมเปิดประตูสู่อาเซียน สัมผัสความงดงามของดอกกล้วยไม้ พร้อมชื่นชมกล้วยไม้ไทย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์







จากนสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๓o พ.ย. ๒๕๕๗













Chiengmai Design Week 2014


เทศกาลงานออกแบบ Chiang Mai Design Week 2014

เวลา: ๖ - ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗
สถานที่: ทั่วเมืองเชียงใหม่
ครั้งแรกของเทศกาลงานออกแบบที่จะเปลี่ยนนิยามของเมือง ให้คุณ “หลงรัก” เชียงใหม่มากกว่าที่เคย


เทศกาลงานออกแบบ Chiang Mai Design Week 2014 จัดขึ้นภายใต้ธีมหลัก “Born Creative” ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของเมืองเชียงใหม่ที่เป็นมากกว่าจุดหมายของนักเดินทาง แต่ยังเป็นพื้นที่บ่มเพาะความสร้างสรรค์ให้งอกเงยและแผ่ขยายออกไปได้ไม่รู้จบ โดยนำเสนอผ่านเรื่องราวของงานออกแบบกับเมือง งานออกแบบกับสังคม และงานออกแบบกับชีวิต ในรูปแบบที่หลากหลาย:


DESIGN SHOWCASE - คอลเล็กชั่นล่าสุดโดยกว่า ๕o ดีไซเนอร์ชั้นนำและคลื่นลูกใหม่เพื่อ CMDW2014 โดยเฉพาะ
CREATIVE SPACE WORKSHOP - เรียนรู้พร้อมลงมือทำจริงกับ ๒๖ สตูดิโอแถวหน้าทั่วเชียงใหม่
CITY INSTALLATION & TOUR - สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับเมืองด้วยศิลปะหลากหลาย
พร้อมปั่นจักรยานชมย่านสร้างสรรค์และเที่ยวชิมเส้นทางกาแฟ
BUSINESS PROGRAMME - เจรจาธุรกิจ สร้างเครือข่าย พร้อมช้อปสินค้าหลากไอเดียกับกว่า ๑oo ร้านค้า
CREATIVE DIALOGUE - เวทีแลกเปลี่ยนไอเดียสดใหม่กับนักสร้างสรรค์ไทยและต่างประเทศ
เปิดรับสมัคร ๑ พฤศจิกายนนี้ ดูรายละเอียดกิจกรรมchiangmaidesignweek.com


Chiang Mai Design Week 2014 จะร้อยต่อภาพผลงานของนักออกแบบทุกสาขา เข้ากับความร่วมมือของชุมชนเจ้าของพื้นที่ สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เป็นเทศกาลแห่งปีที่กระตุ้นความเคลื่อนไหวและส่งเสริมธุรกิจสร้างสรรค์ในท้องถิ่นให้เติบโต และเติมความหมายใหม่ให้กับเชียงใหม่


สอบถามข้อมูลได้ที่
TCDC กรุงเทพฯ โทร. o๒-๖๖๔-๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓, ๒๑๔ เวลา ๑o.๓o – ๒๑.oo (ปิดวันจันทร์)
TCDC เชียงใหม่ โทร. o๕๒-o๘o-๕oo ต่อ ๓๑๑, ๓๓๕ เวลา ๑o.๓o – ๑๘.oo (ปิดวันจันทร์)



ภาพและข้อมูลจากเวบ
tcdc.or.th














เทศการศิลปะ HOFest EP 1 Art Carnival


วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ร่วมกับ Hof Art จัดอีเวนท์ประจำปี “HOFest Ep.1 ART CARNIVAL” ตลาดนัดศิลปะสไตล์คาร์นิวัลทุกสุดสัปดาห์ ณ โครงการ W District เริ่ม ๒๘-๒๙ พ.ย. นี้ ตั้งแต่เวลา ๑๖.oo น.เป็นต้นไป


กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นเทศกาลประจำปีที่รวบรวมงานศิลปะกว่า ๔oo ชิ้นมาจัดแสดงในพื้นที่โครงการ W District ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท ๖๙-๗๑ โดยจะมีการเปิดเทศกาลด้วยขบวนแห่ที่จำลองบรรยากาศจากคาร์นิวัลในประเทศบราซิล ขบวน Juggling วงดนตรีและงานเฉลิมฉลองเต็มพื้นที่โครงการ


โดยภายในงานแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย Zone HOF Art Space : พื้นที่แสดงโชว์และจำหน่ายงานศิลปะ, Zone Art Residency : พื้นที่แสดงโชว์และจำหน่ายงานศิลปะ, Zone W Walking Street : พื้นที่จำหน่ายสินค้า, Zone W Market : พื้นที่จำหน่ายอาหารและดนตรี และZone พื้นที่แสดงกิจกรรม


นอกจากนี้ยังมีการออกร้านผลงานศิลปะ และสินค้าทำมือ สินค้าแฟชั่นสตรีท เฮนน่า แทททู รวมทั้งการประมูลผลงานศิลปะจากศิลปินและเซเลบริตี้ชื่อดัง อีเวนท์ดังกล่าวจะจัดทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗- ๑๗ มกราคม ๒๕๕๘ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.facebook.com/wdistrict







ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค WDistrict
ddproperty.com














เที่ยวงานพระจันทร์หลากสี..ที่เกาะพงัน


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุยร่วมกับสมาคมโรงแรมเกาะพะงัน และชาวเกาะพะงัน ขอเชิญชวนท่านที่สนใจเข้าร่วมงานพระจันทร์หลากสี..ที่พะงัน (Phangan Color Moon Festival 2014) จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๙-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณท่าเทียบเรือท้องศาลา เกาะพะงัน


ท่านจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวเกาะพะงัน กิจกรรมสะท้อนเอกลักษณ์วิถีพะงันแบบทั่วทั้งเกาะ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายทั้งกิจกรรม สืบสานงานศิลป์ถิ่นพะงัน อาทิ การแข่งขันและโชว์ศิลปะบนเรือนร่างบอดี้เพ้นท์ ชมฝีมือช่างสัก TATTOO ภาพวาด ภาพเขียนและภาพถ่ายสะท้อนวิถีพะงัน รวมถึง บีชปาร์ตี้แฟชั่นโชว์ กลุ่มกิจกรรมด้านวิถีชีวิต ชาวพะงันจะต้อนรับท่านด้วย วัฒนธรรม กินห่อชายทะเล พบกับอาหารพื้นถิ่น อาหารตามฤดูกาลแบบพื้นบ้าน อาหารทะเลจาก ตลาดน้ำซีฟู้ด กิจกรรมกีฬา ฟุตบอลชายหาด ชวนกันปั่นเกาะ Phangan Bike for Better Life หรือจะ Big Bike Ride to the Moon ท่านเคยได้ยินงาน Full Moon Party บีชปาร์ตี้ใต้แสงจันทร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก


วันนี้ชาวพะงันมีโยคะใต้แสงจันทร์ ฝึกสอนมวยไทยใต้แสงจันทร์ นอกจากนั้นเป็นการออกบูธของสินค้าโอท็อปและซับพลายเออร์สินค้าสำหรับชาวโรงแรม สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว เกาะสมุย o-๗๗๔๒-o๕o๔ หรือ สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน o๘-๙๖๓๙-o๘๖๔



ภาพและข้อมูลจากเวบ
nantachatfirst.wordpress.com














เทศกาลรถถีบเชียงใหม่


อะเมสซิ่งไทยทัวร์ ขอเชิญทุกท่านเที่ยวงานงาน เทศกาลรถถีบเชียงใหม่ ๒๕๕๗ (Chiang Mai Bike Festival 2014) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕ – ๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo น. – ๒๑.oo น. ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยภายในงานนอกจากท่านจะได้ชมบูธสินค้ากว่า ๒oo บูธ แล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการประวัติจักรยาน ทริปปั่นกว่า ๑o ทริป: เบา หนัก สนุก โหด ทางเรียบ ขึ้นดอย และยังจะได้ช้อป ชิม ชิลกับโซนร้านอร่อยและของฝาก ชมศิลปวัฒนธรรมงดงาม พร้อมทั้งสนุกไปกับคอนเสิร์ต: Tattoo Colour, Del ritmo, Mahasamranbanburi เพลิดเพลินกับกิจกรรมดูหนังจักรยาน รวมถึงกิจกรรมสนุก ๆ ภายในงานอีกมากมาย และที่พลาดไม่ได้กับกิจกรรมแข่งขัน Chiang Mai Classic โดยในปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีแรก



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคเทศกาลฯ
amazingthaitour.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 01 ธันวาคม 2557
Last Update : 1 ธันวาคม 2557 23:16:52 น. 0 comments
Counter : 4616 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.