happy memories
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๕๕





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto






NagabasA



Nagabas 1A



Nagabas 1B



Nagabas 2



ภาพและข้อมูลจากใบปิดการแสดงโขน













พลังแห่งความสุขจากธรรมชาติ และความดีงาม


นิทรรศการจิตรกรรมภาพวาดพู่กันจีนชุดใหม่ “พลังแห่งความสุขจากธรรมชาติ และความดีงาม” (Power of Happiness from Nature and Virtue) โดย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มีแนวคิดที่ต้องการสื่อสารถึงปรัชญาความคิดของภูมิปัญญาตะวันออก ให้กับบุคคลทั่วไปที่ได้เข้ามาชมผลงาน ด้วยการใช้หมึกจีนและพู่กันจีน ถ่ายทอดสู่ตัวหนังสือจีน เขียนบรรยายเกี่ยวกับปรัชญาของ “เต๋า” และ “ขงจื้อ” ซึ่งปรัชญาของเต๋า สอนให้คนเข้าใจโลกและธรรมชาติ อีกทั้งรู้จักปรับตัวให้เข้ากับโลกและธรรมชาติ เช่นเดียวกับปรัชญาของขงจื้อ สอนให้คนรู้จักเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ให้มีเมตตาธรรม คุณธรรม จารีตธรรม ปัญญาธรรม สัตยธรรม กตัญญูกตเวที และความจงรักภักดี เพื่อนำตนเองไปสู่ความสุขความเจริญที่ยั่งยืน


จากแนวคิดข้างต้นจึงเป็นที่มาของการถ่ายทอดผลงานจิตรกรรมเป็นตัวหนังสือจีน รูปธรรมชาติสัตว์ ต้นไม้ ขุนเขา และ ABSTRACT หลากมิติซึ่งหาชมได้ยาก อาทิ ผลงานชื่อ พลังซ่อนเร้น, พลังแห่งความฝัน, พลังแห่งธรรมชาติ, พลังแห่งการเคลื่อนไหว, พลังปล้องไผ่, ป่าสน และช้างไทย งานแสดงศิลปกรรมการกุศลชุดนี้ เป็นการแสดงจิตรกรรมภาพวาดพู่กันจีน จำนวน ๕๙ ภาพควบคู่ไปกับการแสดงผลงานประติมากรรม จำนวน ๑๒ ชิ้น ที่ได้รับรางวัลการประกวดประติมากรรม ในวาระครบรอบ ๒๕ ปีของบริษัทฯ ร่วมแสดงในงานดังกล่าวด้วย


ผลงานภาพวาดพู่กันจีนชุดใหม่ “พลังแห่งความสุขจากธรรมชาติ และความดีงาม” จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ – วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ณ Zone Lifestyle Hall ชั้น ๒ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อเป็นการกุศล ซึ่งภาพที่แสดงจะมอบให้กับผู้ที่บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : o๒-๗๒๕-๘๘๘๘ ต่อ ๑๑๗







ภาพและข้อมูลจากเวบ
supalai.com
artbangkok.com














งานวิพิธทัศนา "วันขาบมงคล" ครั้งที่ 24


สภากาชาดไทยขอเชิญร่วมชมนาฏศิลป์และดนตรีไทย

ในงานวิพิธทัศนา "วันขาบมงคล" ครั้งที่ ๒๔

รายได้บำรุงสภากาชาดไทย

ในวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๗

ณ โรงละครแห่งชาติ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓o น.

ติดต่อซื้อบัตรได้ที่ โรงเรียนนาฏศิลป์ขาบมงคล

โทรศัพท์ o๒-๙๓๙-๒๔๑๗, o๘๑-๙๓๓-๙๒๑๖

โรงละครแห่งชาติ โทรศัพท์ o๒-๒๒๔-๒๓๔๒

บัตรราคา ๓oo, ๕oo และ ๑,ooo บาท รายได้โบำรุงสภากาชาดไทย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุควิทยาลัยเพาะช่าง














นิทรรศการเอเชีย พลัส ครั้งที่ ๔


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) นำสุดยอดผลงานจิตรกรรมบนผืนผ้าใบจำนวน ๕๖ ผลงาน ที่ผ่านการประกวดจิตรกรรมเอเซียพลัส ครั้งที่ ๔ ในหัวข้อ “ลีลา แสงและสี” โดยเป็นผลงานรางวัลจำนวน ๖ ภาพ ได้แก่ รางวัลยอดเยี่ยม ๑ ภาพ รางวัลดีเด่น ๕ ภาพ และผลงานเข้าร่วมแสดง ๕o ภาพ มาจัดแสดงให้ประชาชนและผู้ที่สนใจได้ชื่นชม ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๒ ตุลาคม – ๓o พฤศจิกายน ๒๕๕๗ พิธีเปิดจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.oo น. โดยมี ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดนิทรรศการ


เวทีการประกวดจิตรกรรมเอเซีย พลัส ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) นั้น เริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงศิลปะมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ โดยการประกวดดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้นับเป็นครั้งที่ ๔ ซึ่งแต่ละปีได้มีการกำหนดหัวข้อในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานเกิดความคิดและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการผลิตผลงาน ถือเป็นความโดดเด่นของโครงการประกวดจิตรกรรมเอเซียพลัสที่แตกต่างจากเวทีประกวดอื่น ๆ


การประกวดครั้งนี้ใช้หัวข้อ “ลีลา แสงและสี” เป็นโจทย์ที่กว้างขึ้นกว่าทุกปี เน้นให้มีการเคลื่อนไหวของแสงและสี ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญทางศิลปะอย่างอิสระ ให้ผู้เข้าประกวดได้สร้างสรรค์ผลงานจากจินตนาการได้เต็มที่ โดยยังคงรูปแบบกระบวนการสร้างสรรค์เป็นผลงานภาพเขียน ๒ มิติ ใช้สีอะคริลิค สีน้ำมัน หรือสื่ออิสระบนผ้าใบ ขนาดไม่เกิน ๑๕o x ๒oo ซม. ในปีนี้ปรากฎว่ามีนิสิต นักศึกษา และศิลปินรุ่นใหม่ผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดมากถึง ๑o๖ ท่าน จำนวนผลงาน ๑๔๓ ภาพ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ ๓o มิถุนายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดผู้ได้รับรางวัลดังนี้


รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๑๕o,ooo บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่
ผลงานชื่อ มาญผจญ หมายเลข ๑๑ ของ นายสิทธิวุธ ยาวิชัย
ผลงานชิ้นนี้แสดงออกถึงความรู้สึกการต่อสู้ดิ้นรนที่มีอยู่ในจิตใต้สำนึก โดยใช้ภาพคลื่นน้ำ อันเป็นสัญลักษณ์ของความดีที่ไหลท่วมเหล่ามารในพุทธประวัติ ตอนมาญผจญ ด้วยรูปธรรมทางจิตรกรรมและเทคนิคประดับกระจกสะท้อนถึงแสงสว่างของการเอาชนะกิเลสภายในจิตใจนำมาซึ่งความสุขสงบมาสู่ชีวิต ซึ่งคณะกรรมการตัดสินกล่าวชื่นชมผลงานชิ้นนี้ว่ามีความสมบูรณ์ทั้งในด้านเนื้อหา แนวความคิดคำนึง การแสดงออกที่เป็นรูปแบบอิสระ การประสานกลมกลืนของเทคนิคและปัจเจกภาพส่วนบุคคล เป็นการบรรลุนิติภาวะทางความคิดสมบูรณ์ที่สุด


รางวัลดีเด่น ๕ รางวัล เงินรางวัล ๖o,ooo บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่

ผลงานชื่อ มหัศจรรย์แห่งความงาม ๒๕๕๗ No.4 ของ นายพงศ์ศิริ คิดดี

ผลงานชื่อ บ้านหลังน้อย ของ นายธนโชติ สุขกันตะ

ผลงานชื่อ เหตุการณ์นั้น...ฉันรู้สึก ของ นางสาวนูรียา วาจิ

ผลงานชื่อ บ้าน (Home) ของ นางสาวนอเดียนา บีฮิง

ผลงานชื่อ นิทานของแม่ ของนายนิโรจน์ จรุงจิตวิทวัส



ภาพและข้อมูลจากเวบ
queengallery.org














เทศกาลหุ่นโลก ๒o๑๔


๗๑ ประเทศร่วมเทศกาลหุ่นโลกไทยเป็นเจ้าภาพปี ๕๗ พร้อมเปิดนิทรรศการหุ่นไทย สมัย ร.๙ ขณะที่ สบศ.แสดงละคร “สามัคคีเภท” ชี้ให้เห็นโทษแตกสามัคคีทั่วประเทศ


นายเขมชาติ เทพไชย ผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ วธ. ให้มีการขับเคลื่อนจากกระทรวงด้านการอนุรักษ์สู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ นำทุนทางวัฒนธรรมมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการทำกิจกรรมส่งเสริมความสมานฉันท์ปรองดองของคนในชาติ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ สำหรับปีนี้ สศร. ในนามประเทศไทยได้มีการเจรจาเพื่อขอสิทธิในการดำเนินการจัดงาน “World Puppet Carnival” หรือเทศกาลหุ่นโลก มาจัดยังประเทศไทยภายใต้ชื่อ “เทศกาลหุ่นโลก กรุงเทพฯ ๒o๑๔” ระหว่างวันที่ ๑ - ๑o พ.ย. นี้ ณ บริเวณพื้นที่รอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ เผยแพร่ชื่อเสียงด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยต่อนานาชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ สร้างกระบวนการเรียนรู้ด้านศิลปะหุ่นโลกและหุ่นไทยให้กับเด็กเยาวชน






ทั้งนี้ มีคณะหุ่นจากทั่วโลก ๑๒๔ คณะ จากกว่า ๗๑ ประเทศมาร่วมงาน แบ่งเป็นคณะหุ่นโลกจากภาคพื้นยุโรป ๖๓ ประเทศ ๑๑๔ คณะ คณะหุ่นจากอาเซียน ๘ ประเทศ ๑o คณะ และคณะหุ่น หุ่นเยาวชนจากประเทศไทย ๓o คณะ โดยมีการเปิดพื้นที่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ให้แสดงงานหุ่นทุกวัน อาทิ โรงละครแห่งชาติ โรงละครวังหน้า หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนามหลวง ลานสังคีตศาลา หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์เจ้าฟ้าฯ ที่สำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จะมีการจัดนิทรรศการหุ่นไทยในสมัยรัชกาลที่ ๙ หุ่นอนุรักษ์ หุ่นพื้นบ้าน หุ่นร่วมสมัย สัมมนาประวัติศาสตร์หุ่นโลกด้วย คาดมีผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า ๑ แสนคน






ด้าน ผศ.ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ คณบดีคณะศิลปะนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมเดินหน้าประเทศไทยด้วยมิติวัฒนธรรม สร้างความสุข สร้างความปรองดองสมานฉันท์และสร้างภูมิคุ้มกันทางวัฒนธรรมของ สบศ. นั้น จะเน้นจัดนิทรรศการและการแสดงศิลปวัฒนธรรม วันที่ ๑o - ๑๑ ก.ค. ๒๕๕๗ ณ วิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุง มีวิทยาลัยช่างศิลปะ ๓ แห่ง วิทยาลัยนาฏศิลป์ ๑๒ แห่งเข้าร่วม โครงการดนตรี นาฏศิลป์เพื่อประชาชนสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง โดยวิทยาลัยนาฏศิลป์ ๑๒ แห่ง ให้สถานศึกษาและบูรณาการหน่วยงานอื่นในจังหวัด เช่น ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญมีโครงการศิลปวัฒนธรรมรวมใจไทยทั้งชาติโดยจัดการแสดงละครเรื่อง “สามัคคีเภท” โดยคณะศิลปะนาฏดุริยางค์ คณะศิลปศึกษาและวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศ นับเป็นบทประพันธ์สมัยรัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นแบบเรียนวรรณคดีในวิชาภาษาไทยที่ให้ความรู้ทางคติธรรมชี้ให้เห็นโทษของการแตกสามัคคีได้อย่างชัดเจน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th
harmonyworldpuppet.com
เฟซบุค














ครูวาดเขียน
ศักดิ์สิริ มีสมสืบ


ยังจำบรรยากาศการเรียนศิลปะในยุคสมัยที่คนวัยผมไม่มีอะไรปลุกเร้าใจให้ฮึกเหิม โรงเรียนเล็ก ๆ ในชนบทห่างไกล มีแรงบันดาลใจก็เพียงภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์


ที่เรียกว่า “โปสเตอร์” ก็คงเพราะ ภาพใบปิดหนังเขียนด้วยสีโปสเตอร์ และนาม เปี๊ยก โปสเตอร์ ก็คือแรงบันดาลใจใหญ่หลวง ในยุคนั้น เด็ก ๆ ที่สนใจการวาดเขียนก็ย่อมต้องรู้จัก “เปี๊ยก โปสเตอร์” และ “ชวนะ”


โรงหนังในชนบทจะมีช่างวาดเขียนโปสเตอร์หนังประจำอยู่ โดยสตูดิโอของเขาก็มักจะเป็นเพิงเล็ก ๆ ในซอกมุมใดมุมหนึ่งของโรงหนังนั้นแหละ


โรงหนัง เรียกว่า “วิก” ซึ่งมาจากคำว่า “week” โรงหนังที่ตลาดบ้านวัยเยาว์ของผม ก็คงไม่ต่างจากที่อื่น ๆ คือมุงสังกะสี ฝาไม้ตีเกยกัน มีพื้นกระดานปูด้านหน้าจอ ถัดมามีแผ่นกระดานปูทำม้านั่ง แถวต่อมาเป็นเก้าอี้ยาวมีพนักพิง มีชั้นลอยอยู่ส่วนท้ายสำหรับตั้งเครื่องฉาย และสำหรับคนดูชั้นพิเศษ


ทุกสัปดาห์จะมีภาพยนตร์ใหม่มาแทนเรื่องเก่า ซึ่งมีโปสเตอร์หนังมาปิดทับแผ่นเก่า เด็กรักการวาดเขียนอย่างผมไม่พลาดโอกาสที่จะไปขอใบปิดหนังสักแผ่นสองแผ่นกลับมาเป็นแบบวาดรูปดารา


ครูวาดเขียนในโรงเรียนจะสอนวาดแต่รูปมะม่วง มังคุด และสั่งให้วาด “รูปอะไรก็ได้” โดยมีคะแนนให้แค่ ๑o คะแนน และเด็กที่มีแววหน่อยก็มักจะได้ ๑o เต็ม ๑o เสมอ


ใบปิดหนังและช่างเขียนโปสเตอร์ที่โรงหนังนี่แหละคือครูศิลปะตัวจริง นอกจากนั้นก็เป็นหนังสือการ์ตูน ซึ่งสมัยนั้นเรียก “นิยายภาพ” ผมยังจดจำนาม “ราช เลอสวรวง” “จุก เบี้ยวสกุล” “ทวี วิษณุกร” “พ.บางพลี” “จุ๋มจิ๋ม” “วัฒนา” “จิงโจ้” นามเหล่านี้คือครูศิลปะตัวจริง ให้ความรู้และแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า มีพลังเสียยิ่งกว่ากระทรวงศึกษาธิการ


เด็กที่รักศิลปะในยุคนั้นเติบโต เก่งกล้า มาจากการลอกรูปโปสเตอร์หนัง และภาพการ์ตูนในหนังสือ “สิงห์ดำ” “เหยี่ยวเงิน” “อัศวินสายฟ้า” “เจ้าชายผมทอง” “กระสือสาว” “เลือดกับเหล็ก” (ที่พระเอกชื่อ กรดกับกริช) รวมทั้ง “หนูจ๋า” “เบบี้” การ์ตูนแนวขำขันขายหัวเราะแบบว่าขำกลิ้ง


ยุคสมัยเปลี่ยนไป เด็กศิลป์รุ่นหลังมีโอกาสมากกว่ารุ่นผม มีครูเก่ง ๆ มากมายหลายคน มีค่ายกิจกรรมศิลปะ มีสนามให้แข่งขัน มีเวทีให้สำแดงเจอได้เจอตัวศิลปินตัวเป็น ๆ ต่างจากยุคผมที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคุณครูเหล่านั้นเลย แม้แต่ภาพถ่าย


ล่าสุดผมเพิ่งได้พูดคุยกับ “ราช เลอสรวง” ตัวจริง ยังมีลมหายใจ อายุท่านก็เลยหลักเจ็ดแล้ว ได้พูดคุยกับท่าน บอกท่านว่าท่านคือครูของผม ผมประทับใจ “สิงห์ดำ” มาก นิยายภาพกำลังภายในสุดยอดแห่งจินตนาการเคลื่อนไหวผ่านลายเส้นเฉียบคม ภาพวาดของท่านเหมือนมีเสียงออกมาด้วย ผมหลงใหลสิงห์ดำถึงขนาดเอากระดาษแข็งมาตัดทำโล่กลม ๆ แบบในภาพ วาดลวดลานตามเหมือนเป๊ะ เอาเชือกผูกคาดโล่ไว้กลางอก แล้วก็เอาทางมะพร้าวมาเหลาทำดาบ ออกฤทธิ์ออกเดชเต็มที่ เหนือสิ่งอื่นใดผมวาดรูปสิงห์ดำรูปแล้วรูปเล่า แบบว่า ลอกตามทั้งเล่ม นั่งวาดรูปได้เป็นวันๆ


เคยคิดอยากได้พบเจอ “เปี๊ยก โปสเตอร์” สักครั้ง แต่คิดๆไปก็คงไม่เป็นไรหากไม่ได้พบ ถ้าได้พบก็อยากบอกท่านว่า คอลัมน์ “ฉายาจิตรกร” (หรือ “เงาจิตรกร”) ในนิตยสาร “สตาร์พิคส์” ของท่านคือห้องเรียนวิชาวาดภาพคนที่ไม่เพียงแต่ผม แต่รวมถึงเด็ก ๆ ที่รักศิลปะในยุคนั้น ถือเป็นบรมครู


ที่เขียนถึง “ครูศิลปะ” ในฉบับนี้ก็เพราะผมได้พบครูราช เลอสรวง และได้พูดคุยกับท่าน (ประมาณ ๑o นาที) ที่งาน “กล้าวรรณกรรม” โครงการเพาะบ่มและต่อยอด โดย ซี.พี.ออล จัดขึ้นที่ “บ้านผู้หว่าน” สามพราน นครปฐม เมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมาครับ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net












ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ประธานมูลนิธิ
พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุน และศิลปิน




กองทุนศิลปะฯ มูลนิธิป๋าเปรม จัดประมูลผลงานศิลปะดังเพื่อศิลปินรุ่นใหม่


กองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” เตรียมจัดงานมอบทุนสร้างสรรค์ศิลปะนิพนธ์ ประจำปี ๒๕๕๗ ให้แก่ศิลปินเลือดใหม่จำนวน ๙o คน จาก ๒๖ มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ระดับปริญญาตรี - ปริญญาเอก พร้อมจัดการประมูลผลงานศิลปะของศิลปินระดับบรมครู ศิลปินผู้มีชื่อเสียง และศิลปินผู้เคยได้รับทุน เพื่อหารายได้สมทบทุน กองทุนศิลปะฯ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” สำหรับมอบเป็นทุนต่อไป ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ โรงแรมดุสิตธานี


ในการนี้ กองทุนฯ ได้จัดงานแถลงข่าวโดยมี ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ประธาน มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์, ศาสตรเมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) ในฐานะประธานกองทุนฯ, นายไพฑูรย์ วิโรจน์โภคา ที่ปรึกษากองทุนฯ ร่วมให้รายละเอียด พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุน และศิลปินที่มอบภาพให้กองทุนสำหรับประมูลเข้าร่วมงาน





ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์, นายไพฑูรย์ วิโรจน์โภคา และศาสตรเมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน
ชื่นชมผลงาน “คู่รัก” ของ ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ



ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ประธาน มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า การมอบทุนให้กับนักศึกษาด้านศิลปะนั้น ก็เพื่อเป็นการส่งเสริมให้การศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะของนักศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมทั้งมีส่วนช่วย ปลูกฝังแนวคิดแห่งการทดแทนคุณแผ่นดินให้แก่นิสิต นักศึกษา ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต เนื่องจากการบ่มเพาะและพัฒนาบุคลากรของชาติทางด้านศิลปวัฒนธรรมให้ถึงพร้อมด้วยความรู้ความสามารถควบคู่ไปกับคุณธรรม ตามแนวคิด “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” อันจะเป็นทางไปสู่หลักชัยแห่งการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนสืบไป และปีนี้วงการศิลปะได้สูญเสียศิลปินยอดฝีมือที่นับได้ว่าเป็นปูชนียบุคคลแห่งวงการศิลปะ นั่นคือ ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ และเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงานกองทุนฯ นี้อีกด้วย ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในผู้ริ่เริ่มกองทุนฯ และได้สร้างคุโณปการต่อกองทุนฯ ตั้งแต่แรกเริ่มตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน





ศิลปินที่เคยได้รับทุน ผศ.สมพร แต้มประสิทธิ์, จารุวัตร บุญแวดล้อม,
อ.อัฐพร นิมมาลัยแก้ว และ อ.สิโรจน์ พวงบุบผา



ศาสตรเมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) ประธานกองทุนศิลปะฯ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” เผยว่า การมอบทุนของกองทุนฯ นี้ได้จัดขึ้นมาต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ ๑๔ โดยมอบทุนให้กับนักศึกษาด้านศิลปะชั้นปีสุดท้ายในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะนิพนธ์ ทุนละ ๓o,ooo บาท โดยพิจารณาจากผลการเรียน ความประพฤติ และฐานะทางครอบครัว จำนวนทั้งสิ้น ๙o ทุน ทุนละ ๓o,ooo บาท ซึ่งเป็นนักศึกษาศิลปะครอบคลุมทุกสาขา และในปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะมีการมอบทุนให้กับนักศึกษาศิลปะในระดับปริญญาเอก จำนวน ๑ ทุน ๖o,ooo บาท เพื่อสนับสนุนให้มีการศึกษาศิลปะขึ้นสูงต่อไป และยังมีความพิเศษในปีนี้ ที่กองทุนฯ จะได้มอบทุนสนับสนุนให้กับ ผศ.เจ๊ะอับดุลเลาะห์ เจ๊ะสอเหาะ อดีตนักศึกษาที่เคยได้รับทุน ปัจจุบันเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในการจัดสร้างหอศิลป์ให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้ทางศิลปะ อันจะทำให้ศิลปะใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความความตื่นตัว และขยายวงกว้างต่อไป





ผลงานของ ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ



นายไพฑูรย์ วิโรจน์โภคา ที่ปรึกษา กองทุนศิลปะฯ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” ให้รายละเอียดการจัดประมูลผลงานศิลปะ ประจำปี ๒๕๕๗ กล่าวว่า การประมูลผลงานศิลปะในปีนี้ ถือได้ว่าเป็นการประมูลผลงานของศิลปินแห่งชาติมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ศิลปะไทยครั้งหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นการประมูลครั้งเดียวที่มีผลงานของศิลปินแห่งชาติมาร่วมประมูลกันทั้งสิ้น ๑o ผลงาน ๑o ศิลปินแห่งชาติ อาทิ ศ.ปรีชา เถาทอง, ศ.เกียรติคุณ ชะลูด นิ่มเสมอ, ศ.อิทธิพล ตั้งโฉลก, ศ.เดชา วราชุน, ศ.วิโชค มุกดามณี, ศ.ธงชัย รักปทุม, อ.ทวี รัชนีกร, ศาสตรเมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน รวมถึงผลงานของ อ.ประเทือง เอมเจริญ ซึ่ง ดร.อำนวน วีรวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้กับกองทุนนำมาร่วมประมูลในปีนี้ และผลงานที่จะเป็นไฮไลท์สำหรับการประมูลครั้งนี้ ยกให้กับภาพ “คู่รัก” ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์แนวฝัน ๆ หวาน ๆ ของแมวคู่รัก ๒ ตัวกำลังคลอเคลียชมดาวบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืด มีแต่ประกายดาวบนท้องฟ้าเป็นเพื่อน ซึ่งเป็นผลงานของ ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ





ผลงานของ ศ.เกียรติคุณ ชลูด นิ่มเสมอ



นอกจากผลงานของศิลปินแห่งชาติแล้ว ยังมีผลงานของศิลปินชั้นเยี่ยมจากการแสดงงานศิลปกรรมแห่งชาติ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่เคยได้รับทุนจากกองทุนฯ ที่กำลังแรงขึ้นมาได้มอบผลงานร่วมประมูลครั้งนี้ด้วยหลายคน เช่น อ.อัฐพร นิมมาลัยแก้ว และ.อนุพงษ์ จันทร ซึ่งทั้งสองท่านนี้เป็นอาจารย์สอนศิลปะอยู่ที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สำหรับศิลปินที่มีชื่อเสียงอีก ๒ ท่านที่มอบผลงานให้กับการประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ อ.ปัญญา วิจินธนสาร และ ผศ.ไพโรจน์ วังบอน” รองคณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้งสิ้น ๓๕ ผลงาน





ผลงานของ อ.อัฐพร นิมมาลัยแก้ว



ทั้งนี้ พลเอกสุรยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนผู้สนใจ นักสะสม และผู้รักงานศิลปะ เข้าร่วมประมูลผลงานศิลปะครั้งนี้กันมาก ๆ เพราะรายได้ทั้งหมด จะได้เป็นทุนสนับสนุนและกำลังใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ ๆ รวมถึงวงการศิลปะในวงกว้าง ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่าต่อประเทศชาติต่อไป


กองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” จะจัด “พิธีมอบทุนและประมูล” ประจำปี ๒๕๕๗ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ จะเป็นประธานในงาน ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ โรงแรมดุสิตธานี ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลผลงานศิลปะ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนฯ โทร o๒-๒๔๑-oo๘๘



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com














คุณชวน หลีกภัยเยือนเมืองแอลเอ แสดงงานศิลป์-ปาฐกถา


“ชวน หลีกภัย” นำผลงานศิลปะกว่า ๗o ชิ้นจัดแสดงที่สถานกงสุลใหญ่ แอลเอ ๑๓-๑๗ ตุลาคม พร้อมแสดงปาฐกถา “พระมหากษัตริย์กับประเทศไทย” ที่วัดไทย ในวันที่ ๑๒ ตุลาคมนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส แจ้งมายังสยามทาวน์ยูเอสว่า นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมายังนครลอส แอนเจลิส ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยอดีตนายกฯ จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ขอเชิญชวนให้ประชาชนไทยในเขตอาณาเข้าร่วม หนึ่งคือร่วมฟังการกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “สถานบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย” ในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo ณ วัดไทย ลอส แอนเจลิส และสองคือการจัดแสดงผลงานศิลปะ ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๗ ตุลาคม เวลา ๙.oo – ๑๗.oo น. ณ บริเวณชั้น ๒ อาคารสถานกงสุลใหญ่ฯ โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น.


เกี่ยวกับเรื่องนี้ สยามทาวน์ฯ ได้สอบถามไปยัง ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ในฐานะประธานสภาศิลปกรรมไทยแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมเยือนลอส แอนเจลิส ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ทราบว่านายชวน หลีกภัย ได้เดินทางมาตามคำเชิญของสภาศิลปกรรมไทยฯ โดยนอกจากจะมาจัดแสดงผลงานภาพวาดลายเส้นจำนวนกว่า ๗o ชิ้นแล้ว ยังเป็นการมาพักผ่อน และหาแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานใหม่ ๆ สำหรับนำเข้าจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะครั้งใหญ่ ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสครบรอบ ๓o ปีของการมี “ศิลปินแห่งชาติ” ในประเทศไทยด้วย


“ท่านจบศิลปะจากช่างศิลป์นะครับ และท่านเป็นคนที่ชอบวาดรูปตลอดเวลา ตอนเป็นนายกฯ เวลาไปไหนท่านก็จะสเก็ตรูปคนโน้นคนนี้ ไปต่างประเทศก็จะวาดรูปผู้นำประเทศต่าง ๆ ไว้เยอะมาก ไปงานศพก็จะสเก็ตรูปพระ ทีนี้งานพวกนี้มีอยู่มากมาย ผมก็เลยขอท่านเอามาจัดแสดงที่อเมริกา ซึ่งท่านก็ยินดี เลือกให้มา ๗o กว่ารูป และพอดีช่วงนี้การเมืองมันก็นิ่งแล้ว ท่านก็มาได้ ก็จะเชิญท่านมาพักผ่อนด้วย จะพาไปโยเซมิติ ไปซานฟรานฯ เพราะช่วงนี้ใกล้จะครบรอบ ๓o ปีของการมีศิลปินแห่งชาติพอดี คือท่านเป็นผู้ก่อตั้งให้มีศิลปินแห่งชาติขึ้นในเมืองไทยนะ ตอนท่านเป็นนายกฯ ท่านได้ให้กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งดูเหมือนจะมีท่านสัมพันธ์ ทองสมัคร เป็นรัฐมนตรี ดำเนินการจัดตั้งโครงการศิลปินแห่งชาติขึ้นมา คือให้ท่านมาพักผ่อนไปด้วย มาหาแรงบันดาลใจในการสร้างงานด้วย เพราะกลับไปก็จะมีนิทรรศการใหญ่เลยในราวเดือนกุมภาพันธ์ คือจะรวมเอาศิลปินแห่งชาติทั้งสามสาขา คือทัศนศิลป์, วรรณศิลป์ และศิลปะการแสดง มาร่วมกันแสดงงาน โดยมีท่านชวน ในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งศิลปินแห่งชาติ มาเป็นศิลปินรับเชิญด้วย ที่ศูนยวัฒนธรรมฯ ในโอกาสครบรอบ ๓o ปีศิลปินแห่งชาติ”


ดร.กมล ทัศนาญชลี กล่าวด้วยว่า นายชวน หลีกภัย ไดัรับการยกย่องเชิดชูเกียรติโดยคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น “ฐาปนันดรศิลปิน” ซึ่งถือเป็นศิลปินอันดับสี่ของประเทศไทย รองจาก “อัครศิลปิน” ซึ่งคณะกรรมการวัฒธรรมแห่งชาติ ถวายเป็นพระราชสมัญญาแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, “อัคราภิรักษศิลปิน” อันเป็นพระราชสมัญญาของ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และ “วิศิษฎศิลปิน” อันเป็นพระสมัญญาของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


“คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีมติเมื่อปี ๒๕๕๔ ให้มีการประกาศยกย่องท่านชวนเป็น “ฐาปนันดรศิลปิน” หมายถึงผู้เป็นหลักก่อตั้งโครงการศิลปินแห่งชาติ สืบเนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มผลักดันให้เกิดโครงการศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี ๒๕๒๗” ดร.กมล ทัศนาญชลี กล่าว


ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ปี ๒๕๔o กล่าวถึงผลงานศิลปะของนายชวน หลีกภัย ด้วยว่า เป็นภาพลายเส้นที่แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ ความมีสติ และความเป็นคนช่างสังเกตของผู้วาด อันเป็นผลมาจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องมายาวนาน


“เหมือนกับลับมีดให้คมเสมอนะครับ การสเก็ตคือการฝึกสมาธิ ฝึกความแม่นยำในการเขียนคน เขียนใครเป็นคาเร็กเตอร์ได้ ไม่ต้องใช้ยางลบ แม่นยำมาก ผมว่าระดับผู้นำประเทศนี่ มีน้อยมากที่มีพื้นฐานศิลปะระดับท่านชวน งานของท่านเป็นงานสด รวดเร็ว ตัดสินใจดี การลาก การหยุด เส้นน้อย ๆ มันยาก ตอนที่รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตพร้อมท่าน ระหว่างผมขึ้นไปไปปาฐกกถา ท่านสเก็ตผมนะ เหมือนเลย คือว่างปุ๊บท่านจะเขียน จนกระทั่งใจมันสั่งเส้นได้ ก็ถือว่าท่านก็มีความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ พอมาเป็นผู้นำประเทศ เป็นนายกฯ ก็จะมีความละเอียด มีความสังเกต มีสมาธิ ตรงนี้ที่คนอื่นไม่มี”


ดร.กมล ทัศนาญชลี กล่าวด้วยว่า นิทรรศการผลงานศิลปะของอดีตนายกรัฐมนตรีที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ระหว่าง ๑๓-๑๗ ตุลาคม จะใช้ชื่อนิทรรศการว่า “การแสดงศิลปะลายเส้นของฐาปนันดรศิลปิน นาย ชวน หลีกภัย ในโอกาสครบสามสิบปีโครงการศิลปินแห่งชาติ” เป็นการแสดงงานเดี่ยวของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะมีผลงานของศิลปินแห่งชาติอีกห้าท่านเป็นส่วนเสริม คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี. อ.ประกิต (จิตร) บัวบุษย์, อ.ประเทือง เอมเจริญ, อ.ธงชัย รักปทุม และของตนเอง


“ผมเคยเอางานของท่านมาแสดงเมื่อเกือบ ๆ ๒o ปี ที่แวนคูเวอร์ กับที่ยูซีเบิร์คเล่ย์ ตอนนั้นสมัยกงสุลใหญ่ฯ ชำนิ ฤทธิประสาท แต่แสดงร่วมกับศิลปินแห่งชาติอีกหลายคน อ.สวัสดิ์ ตันติสุข, อ.ประกิต บัวบุศย์, อ.ประเทือง เอมเจริญ แล้วก็ผม แต่ว่าที่แอลเอนี่เป็นครั้งแรก และก็เป็นศิลปินเดี่ยวด้วย”


ส่วนกิจกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีระหว่างอยู่ในความดูแลของสภาศิลปกรรมไทยฯ นั้น ดร.กมล ทัศนาญชลี กล่าวว่า นอกเหนือจากการแสดงปาฐกถาเรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย” อันเป็นหัวข้อที่ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ เป็นผู้กำหนด ที่วัดไทย ลอส แอนเจลิส ในวันที่ ๑๒ ตุลาคม เวลา ๑๓.oo น. และการไปร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการผลงานศิลปะ ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ในเย็นวันที่ ๑๓ ตุลาคม แล้ว เวลาที่เหลือคือการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน โดยตั้งใจจะว่าจะไปโยเซมิติ และซานฟรานซิสโก นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีจากจังหวัดตรัง จะไปร่วมงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดยสมาคมไทยปักษ์ใต้แห่งแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ ๑๘ ตุลาคมด้วย ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ ๒o ตุลาคม.



























ภาพและข้อมูลจากเวบ
siamtownus.com


















ภาพและข้อมูลจากนสพ.โพสต์ทูเดย์ ๒๑ ต.ค. ๒๕๕๗









posttoday 1













“คาราวานวาดสด” รวมพลนักวาดประกอบ ในงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ”


ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เราไม่ได้พบแค่หนังสือ คนขายหนังสือ และนักเขียน เพราะกว่าจะเป็นหนังสือบางเล่ม "นักวาดภาพประกอบ" ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะหนังสือที่เน้นนำเสนอเรื่องและผลงานของนักวาดภาพประกอบ มีให้เห็นมากขึ้นทุกปี ในแต่บูธของแต่ละสำนักนักพิมพ์ ยิ่งในงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๙ ปีล่าสุด ซึ่งจะมีไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


บูธของ Thaibooksociety ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย หรือ PUBAT ได้จัดกิจกรรม “คาราวานวาดสด” รวบรวมนักวาดภาพประกอบมากหน้าหลายตา มานั่งวาดภาพให้กับผู้สนใจ










เบื้องต้น หันหรร หรรษา นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ ผู้หน้าที่รวบรวมเหล่านักวาดภาพประกอบ มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และเป็นหนึ่งในผู้ประสานงานให้กับ Thaibooksociety เล่าให้ฟังว่า Thaibooksociety เป็นโครงการที่พยายายามรวบรวมคนที่ทำงานทางด้านวงการหนังสือทั้งหมด หรือมีส่วนร่วมต่อการเกิดขึ้นของหนังสือ ๑ เล่ม มารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักแปล บรรณาธิการ นักวาดภาพประกอบ ฯลฯ และร่วมกันผลักดันให้อาชีพเหล่านี้ได้รับการยอมรับดังเช่นหลาย ๆ อาชีพ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถทำให้ได้อย่างเต็มที่ในอนาคต


“เราต้องการจะสร้างมาตรฐาน ของวิชาชีพขึ้น อย่างที่แพทย์มีใบรับรองวิชาชีพของตน แต่เป็นนักเขียน เป็นนักวาดภาพประกอบ เราไม่มีใบรับรองวิชาชีพ ยกตัวอย่าง เวลาเราไปยื่นภาษี กลายเป็นว่าเรามีอาชีพอิสระ บางครั้งเกิดป็ญหาอยากจะกู้หนี้มาซื้อบ้าน ขอไม่ได้ ด้วยความที่เรามีอาชีพอิสระ ดังนั้นส่วนหนึ่ง Thaibooksociety จึงเกิดขึ้นเพื่อในอนาคตเราจะรวมคนทั้งหมดในวงการหนังสือเข้ามา เพื่อช่ววยกันทำให้เกิดมาตรฐานของวิชาชีพนี้ขึ้น เพื่อให้คนรู้ว่าเราก็คืออาชีพ ๆ หนึ่ง ดังเช่นหลายอาชีพ ไม่ใช่อาชีพอิสระ และเผื่อว่าในอนาคตเราจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่


ซึ่ง หันหรร หรรษา ได้เข้ามาช่วยงานโครงการ ในส่วนของนักวาดภาพประกอบ ทว่าโดยปกติแล้วเธอมีอาชีพเป็น นักเขียน นักวาดภาพประกอบ บรรณาธิการเล่ม ให้กับสำนักพิมพ์ toshare สำนักพิมพ์ที่เน้นนำเสนอผลงานของนักวาดภาพประกอบหน้าใหม่ และนำรายได้ส่วนหนึ่งแบ่งปันไปช่วยเหลือสังคม รวมถึงจัดงานอีเว้นต์ ที่รวบรวมนักวาดภาพประกอบมาอยู่ในงานเดียว ตัวอย่างเช่น งาน “รวมเส้น” ที่จัดต่อเนื่องมาแล้ว ๓ ปี










ส่วน “คาราวานสด” เป็นกิจกรรมที่โครงการ Thaibooksociety เพิ่งจัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือ หลังจากที่โครงการก่อตั้งมาแล้ว ๒ ปี


“ปีที่แล้วบูธของโครงการยังไม่มีกิจกรรมจริงจังเท่าปีนี้ แค่แจกที่คั่นหนังสือเฉย ๆ แต่ปีนี้ เรามีกิจกรรมให้คนเข้ามาร่วมสนุก นั่นก็คือ “คาราวานวาดสด” ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้คนทั่วไปได้ทราบว่า วงการหนังสือ มีนักวาดภาพประกอบเหล่านี้อยู่นะ เราก็ เลยไปเชิญนักวาดภาพประกอบที่ดัง ๆมาร่วมกิจกรรม อาทิ โอม รัชเวชย์, เฉลิม อัคคะพู, Animatoey, มุนิน , เดอะดวง, หันหรร หรรษา ฯลฯ ซึ่งนักวาดภาพประกอบเหล่านี้ต่างเคยมีผลงานรวมเล่มของตัวเองมาแล้ว มาช่วยเป็นนักวาดไฮไลท์ให้หน่อย


นอกจากนี้ภายในบูธเรายังมีนักวาดภาพประกอบมือสมัครเล่น มานั่งวาดสดด้วย เป็นน้องๆนักวาดภาพประกอบหน้าใหม่ ที่ไม่เคยมีผลงานหนังสือรวมเล่มเป็นของตัวเอง โดยที่เราจะนำรายได้ส่วนหนึ่ง ไปมอบให้โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น ”










บริการที่คาราวานวาดสด มีให้กับผู้สนใจ คือทุกคนนสามารถมานั่งเป็นแบบให้กับนักวาดภาพประกอบแต่ละคนวาดภาพให้ ในอัตรา ๑๕o- ๘oo บาท หรือใครที่ไม่สะดวก จะทิ้งภาพถ่ายไว้ให้วาดก็ได้เช่นกัน หรรษาบอกว่า นับตั้งแต่วันแรกของงานสัปดาห์หนังสือ กระทั่งเวลานี้ กิจกรรม “คาราวานวาดสด” มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างดี


“ผลตอบรับดีมาก นักวาดแต่ละคนแทบไม่ได้เงยหน้า วันธรรมดานักวาด ๑ คน มีคนมานั่งเป็นแบบให้วาด ประมาณ ๕-๖ คน เป็นอย่างต่ำ แต่วันเสาร์และอาทิตย์ ๑o - ๑๕ คน เป็นอย่างต่ำ อาจเพราะเราคัดเลือกนักวาดมาหลากหลายสไตล์ เวลาเด็กมาเห็นก็ชอบ วัยรุ่นเห็นก็ชอบ ผู้ใหญ่มาเห็นก็ชอบ แต่ส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการเยอะที่สุดคือนักศึกษาจนถึงวัยทำงาน และส่วนหนึ่งพวกเขาก็เป็นแฟนคลับของนักวาดเหล่านี้อยู่แล้ว นี่ขนาดเราประชาสัมพันธ์ในวงจำกัด ก็ยังมีคนมาใช้บริการเรื่อย ๆ อาจเพราะคนภายนอกนั่นเองที่ช่วยบอกต่อๆกันไป แบบปากต่อปาก ช่วยเราประชาสัมพันธ์กิจกรรม”










ขณะที่บรรดานักวาดภาพประกอบก็ต่างให้ความสนใจ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก


“ ตอนที่หรรเปิดรับสมัครนักวาดเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ มีนักวาดให้ความสนใจกว่า ๙o คน ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ นี่ขนาดหรรโพสต์บอกข่าวการรับสมัคร แค่หน้า facebook ของตัวเองนะ ไม่ได้ไปประกาศทางอื่นเลย ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีนักวาดหน้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน แต่ผลงานของพวกเขายังไม่มีโอกาสที่จะรวมเล่มกันได้ทุกคน สมมุติมีนักวาด ๑oo คน ก็ไม่ใช่ว่าผลงานของพวกเขาจะถูกตีพิมพ์ออกมาได้ ๑oo เล่ม ดังนั้นพวกเขาจึงสนุกกับกิจกรรมนี้มาก เพราะนักวาดทุกคน เขาก็อยากจะมีที่ ๆ จะปล่อยของอยู่แล้ว”


นอกจากนี้ภายในงานสัปดาห์ก็ยังมีบูธของสำนักพิมพ์อื่นๆที่มีบริการในลักษณะเดียวกันอีกหลายบูธ อาทิ “ตลาดวาดสด” ของ สำนักพิมพ์ toshare นำโดย จ๊อด ๘ ริ้ว นักวาดภาพประกอบหน้าใหม่ที่หน้าเพจของคนมีคนติดตามเกือบ ๘ แสนคน รวมไปถึง บูธของ “บ้านศิลปิน คลองบางหลวง” ที่ชักชวนเหล่าศิลปินมืออาชีพ มาประจำการนั่งวาดหลายคน และสำนักพิมพ์ Full Stop ที่แม้จะไม่มีนักวาดภาพประกอบในสังกัดมานั่งวาดสด แต่ก็จัดคิวมาให้แฟน ๆ พบปะกันพูดคุยทุกวัน ไม่นับรวมผลงานรวมเล่ม ๆ ใหม่ ของนักวาดภาพประกอบแต่ละคนที่เพิ่งคลอดออกมาทันงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ พอดิบพอดี อาทิ หยอย ศศิ, ทรงศีล ทิวสมบูรณ์ ฯลฯ


ได้ยินได้ฟังดังนี้ คนไม่ชอบอ่าน แต่ชอบวาด ก็ดูจะคึกคัก กับการไปเยือนงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติกับเขาด้วยเหมือนกัน















ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














นิทรรศการแสดงผลงานเดี่ยวจิตรกรรมสีน้ำครั้งที่ ๓ “ดอกไม้แทนใจ”
(Solo watercolor exhibition 3rd Power of Love)


นิทรรศการ : “ดอกไม้แทนใจ” (Solo watercolor exhibition 3rd Power of Love)
ศิลปิน : สาโรจน์ อนันตอวยพร (Saroj Ananta-auoyporn )
ลักษณะงาน : จิตรกรรมสีน้ำ
ระยะเวลาที่จัดแสดง : ๒๔ ตุลาคม – ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
พิธีเปิดนิทรรศการ : ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น.
สถานที่ : หอศิลป์จามจุรี ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๒
ติดต่อศิลปิน : o๘๑-๙๘๘-๖o๓๙


แนวความคิด

ธรรมชาติได้รังสรรค์ดอกไม้ขึ้นมาให้มีความสวยงามตามแต่ละสายพันธุ์ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีคุณค่าทางใจ ทั้งความรัก ความสุข ความเคารพ ศรัทธา และแทนใจได้ในหลายความรู้สึก จากความประทับใจในคุณค่าและความงามของดอกไม้ จึงนำมาแสดงออกผ่านสีน้ำที่บางเบา โปรงใส เพื่อแทนความรัก ความสุข สดชื่น อิ่มเอิบ เบิกบานใจ แทนใจที่มีต่อพ่อแม่ คนที่เรารัก เคารพ ศรัทธา โดยเน้นความนุ่มนวล อ่อนหวานตามลักษณะเฉพาะตัวของตนเอง


หมายเหตุ มีกิจกรรมสาธิตสีน้ำทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๑๓.oo น.(และในวันที่กำหนด)







ภาพและข้อมูลจากเวบ
chamchuriartgallery.blogspot.com














นิทรรศการจำลองอาคารแสดงประเทศไทย


ปีนี้อาคารแสดงประเทศไทย Thailand Pavilion 2015 - จัดภายใต้คอนเซ็ป Nourishing and Delighting the World แต่คุณไม่ต้องบินไปไกลถึงอิตาลี เพราะสุดสัปดาห์นี้เราย่องานนี้มาให้คนไทยได้ดู และร่วมภาคภูมิใจก่อนใครในโลก กับ "งานนิทรรศการจำลองอาคารแสดงประเทศไทย" ในงานมหกรรมโลก The Universal Exhibition Milano 2015, ITALY พร้อมการแสดงไทยประยุกต์มากมาย ในวันที่ ๒๔ - ๒๖ ตุลาคมนี้ ณ Skyhall ชั้น ๓ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว











ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Thailand Pavilion Expo 2015














นิทรรศการสีประกายแดด


หอศิลป์จามจุรี จุฬาฯ ขอเชิญชมนิทรรศการ “สีประกายแดด” ผลงานจิตรกรรมสีอะคริลิคของ รุ่งพันธุ์ บุรุษชาติ จัดแสดงระหว่าง วันที่ ๒๒ ตุลาคม – ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ นิทรรศการ “สีประกายแดด” นำเสนอภาพความงามของพืชพรรณดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ สีสันสดใส ยามเมื่อแสงอาทิตย์กระทบสีสันของดอกไม้ เปล่งประกายให้ความรู้สึกแก่ผู้พบเห็น ศิลปินได้บันทึกและถ่ายทอดความงดงามเหล่านั้นด้วยสีอะคริลิค ผ่านฝีแปรงประทับไว้บนเฟรมผ้าใบอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความสุข สงบ และอิ่มเอิบใจ หวังให้จินตนาการที่สัมผัสได้ด้วยตา และหัวใจของผู้เสพงานศิลปะ เป็นความสุขใจ กำลังใจ หรือปลอบประโลมใจของใครบางคน


ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หอศิลป์จามจุรี จุฬาฯ โทร. ๐๒-๒๑๘-๓๗๐๙



ภาพและข้อมูลจากเวบ
chula.ac.th













กำหนดการพิธีประกาศรางวัล

สถานที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยห้องประชุมชั้น ๑o
วันที่ : ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗
เวลา : ๑๓.oo น-๑๕.oo น.


๑๓.oo น. : ลงทะเบียนสื่อมวลชน
๑๓.๓o น. : พิธีกรกล่าวต้อนรับสื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติภายในงาน
๑๓.๓๕ น. : พิธีกรกล่าวเชิญ ผู้บริหาร ททท. ขึ้นมายังบนเวที
· กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ CSR Holiday
· รูปแบบและความแตกต่างระหว่าง CSR และ CSR Holiday
· ไฮไลท์ของกิจกรรม CSR Holiday 2014
· โครงการประกวด Viral Clip “รักษ์เกาะไทยไปเกาะเสม็ด”
๑๓.๔o น. : VTR ประมวลภาพกิจกรรมของนักศึกษาทั้ง ๖ ทีม ที่เข้ารอบ
๑๔.oo น. : เข้าสู่การประกาศผลรางวัล


พิธีกรกล่าวแนะนำคณะกรรมการในการตัดสิน
ชม Clip ของนักศึกษาทั้ง ๖ ทีม
พิธีกรประกาศผลรางวัล โดยเรียงตามลำดับจากลำดับสุดท้าย ไล่มาจนมาถึง
ลำดับผู้ที่ชนะ
๑๔.๔๕ น. : เก็บภาพที่ระลึกร่วมกัน
๑๕.oo น. : สัมภาษณ์ตามอัธยาศัย / จบงาน


ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ALL SUCCESS PR

คุณจันทรธณี พิสิทธิพร (ปู) M- o๘๖-๘๘๖-๔๘๑๖ *Line id : iampuja

e-mail: jantornthanee@gmail.com, allsuccesspr@gmail.com



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 21 ตุลาคม 2557
Last Update : 22 ตุลาคม 2557 9:06:00 น. 0 comments
Counter : 3449 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.