happy memories
Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๗๘





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










นับเท้า นับทาง...สร้างศิลป์เพื่อคนชรา


ในยุคนี้วัยรุ่นหนุ่มสาวดูจะสนใจสังคมออนไลน์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมากจนอาจหลงลืมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย คนในครอบครัวที่อยู่ใกล้ตัว รวมทั้งยังมีอีกเยอะที่พาคนแก่เฒ่าไปทิ้งไว้ในสถานสงเคราะห์คนชรา ตอกย้ำความจริงผู้สูงอายุถูกหลงลืมกับนิทรรศการศิลปะ "นับเท้า นับทาง" (Distance by Steps) แนวคิดโดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และบุตรชาย แก้วเก้า พงษ์ไพบูลย์ ที่มีพิธีเปิดนิทรรศการเมื่อวันที่ ๒ ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธาน ทรงวาดภาพเพื่อเป็นการเปิดนิทรรศการ ทอดพระเนตรชมนิทรรศการ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


นิทรรศการศิลปะครั้งนี้มุ่งรวบรวมและแสดงผลงานศิลปะทั้งบทกวีของอาจารย์เนาวรัตน์ และภาพถ่ายจากการเดินทางไปเยือนเรือนพักแรมผู้ชราทั่วทุกภาค โดยแก้วเก้า พร้อมชักชวนศิลปินร่วมอุดมการณ์ให้มาสะท้อนความคิดผ่านภาพเขียนสีน้ำ สีอะครีลิก สีน้ำมัน ประติมากรรม ภายใต้แนวคิดเดียวกัน ได้แก่ ทวี รัชนีกร, กมล ทัศนาญชลี, แนบ โสตถิพันธุ์, อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ, ศรีวรรณ เจนหัตถการ, วินัย ปราปริบู, เอกชัย ลวดสูงเนิน, หงษ์จร เสน่ห์งามเจริญ ฯลฯ รวมมีผลงานให้ชมกว่า ๑oo ชิ้น


อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ทุกวันนี้สภาพการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศส่งผลต่อผู้คนอย่างรุนแรง วิถีชีวิตทุก ๆ หน่วย โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรง จากที่เคยอยู่อย่างอบอุ่น เอื้ออาทรและเอาใจใส่กัน กลับกลายไปใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ มุ่งหน้าหาเลี้ยงตัวเอง ลืมคำนึงถึงกันและกัน ผู้ที่พึ่งพาตัวเองได้ยากอย่างผู้ชราจึงค่อย ๆ หมดความสำคัญลง ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งให้ว้าเหว่และเดียวดาย


กวีซีไรต์กล่าวต่อว่า นิทรรศการนี้ปรารถนาจะสร้างสายใยระหว่างวัยกับวัย และหัวใจกับหัวใจให้เกิดขึ้นในคนทุกคน ศิลปินผู้แสดงงานส่วนหนึ่งได้ไปเยี่ยมเยือนบ้านพักคนชราทั่วทุกภาคเพื่อบันทึกภาพแห่งชีวิต ความคิด และความรู้สึกของผู้ชรา ถ่ายทอดเป็นผลงานศิลปะ หวังให้เกิดความรักความเข้าใจต่อคนชรา ที่เหมือนเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของพวกเรา รายได้สมทบเข้ากองทุนสำหรับคนชรา เพื่อช่วยเหลือคนชราที่ไม่มีครอบครัวคอยดูแล ส่วนชื่อ "นับเท้า นับทาง" มาจากการพูดคุยกับผู้สูงอายุในบ้านพัก เริ่มตอนตีห้า ยี่สิบก้าวไปที่ห้องน้ำ และอีกห้าสิบก้าวไปที่โรงอาหาร อีกยี่สิบก้าวไปที่สถานที่พักผ่อน ตอนหกโมงเย็น อีกห้าสิบเก้ากลับไปที่ห้องนอน สะท้อนการใช้ชีวิตที่วนเวียนแบบนี้


"สมเด็จพระเทพฯ ทรงเปรยศิลปินทำงานช่วยเหลือเด็ก ผู้ป่วย นักโทษในคุก น่าจะดูแลเรื่องคนชราบ้าง จึงดำเนินตามพระราชดำรินั้น เกิดโครงการนี้ บวกกับแก้วเก้า ลูกชาย ได้อ่านหนังสือเรื่อง "เวลา" ของชาติ กอบจิตติ แล้วประทับใจ อยากไปถ่ายบรรยากาศของบ้านพักคนชรา ไปแต่ละบ้านเจอบรรยากาศเงียบเหงา ว้าเหว่ ถูกทอดทิ้งจริง ๆ ทั้งเหนือ อีสาน และภาคใต้ ไทยกำลังเข้าปัญหาสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น ต้องกระตุ้นให้ทุกคนเห็นความสำคัญของช่วงวัยชีวิต ต่อไปนี้จะลำบากขึ้น ลูกต้องดูแลทั้งพ่อแม่ที่แก่ชราและลูกของตัวเอง แบกรับภาระ ขณะที่บ้านพักคนชราในบ้านเราก็มีน้อย ศิลปะช่วยให้คนได้รับรู้ปัญหา ใจสู่ใจ" อ.เนาวรัตน์เผย และชวนมาอ่านบทกวี "แรมชรา" ที่ผู้สูงอายุชุมชนในเขตคลองเตยช่วยกันปักแต่ละตัวอักษรลงบนผืนผ้าด้วยความตั้งใจ


ด้านแก้วเก้า ช่างภาพสารคดีคู่ใจเนาวรัตน์ กล่าวว่า หลังอ่านงานเขียนเรื่อง "เวลา" ได้ไปบ้านพักคนชราบางแค สองปีให้หลังเยี่ยมเยือนบ้านพักคนชราทั่วทุกภาค รับรู้ได้ถึงความเหงาที่มีเต็มไปหมด ไม่ว่าจะมีกิจกรรมใด แต่ในแววตาคนชราไม่ได้มีความสุข สิ่งที่เขาโหยหาคือให้ลูกหลานญาติมาเยี่ยม คนชราถูกหลงลืมไว้ในสังคม เริ่มบันทึกภาพในบ้านพักคนชรา จ.อุดรธานี แห่งแรก ก่อนตระเวนถ่ายทั่วประเทศ รวบรวมภาพมาจัดแสดงงานกับคุณพ่อ จากประสบการณ์ที่ตระเวนบ้านพักคนชรา แววตาจะสดชื่น ร่าเริงเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ มีแผนจะนำภาพไปจัดแสดงที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนคนชรามีโอกาสได้เห็นภาพเหล่านี้แน่นอน จะนำหนังมอบให้ทุกบ้านพัก


นิทรรศการนี้ครั้งนี้ เอกชัย ลวดสูงเนิน ศิลปินที่มีชื่อเสียง บอกว่า ได้สร้างสรรค์ภาพขนาดใหญ่ชื่อ "ที่พักกายพักจิต" เทคนิคสีน้ำมันบนลินิน โดยวาดเรือนไทยขึ้นคู่กับภาพบังบัวสวนโมเน่ต์ ในอารมณ์ตะวันออก ให้ความรู้สึกอบอุ่น ถ้าคนชราได้พักในสถานที่นี้จะเย็นกายเย็นใจ ตนร่วมโครงการเพราะอยากกระตุ้นให้หนุ่มสาวห่วงหาคนชรามากขึ้น ทุกวันนี้ปู่ย่าตายายถูกทอดทิ้ง วัยนี้ต้องการกำลังใจ ไม่ว่างไปหาก็หมั่นโทรพูดคุย แล้วยังมีไลน์ เฟซบุ๊ก แช้ตกันได้ทุกเวลา


นอกจากจัดนิทรรศการศิลปะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ ๒ ม.ค.-๕ ก.พ. ๒๕๕๘ แล้ว ยังมีบทบันทึกความทรงจำผ่านหนังสือภาพชื่อ "นับเท้า นับทาง" รวบรวมภาพถ่ายโดยแก้วเก้า พงษ์ไพบูลย์ และบทกวีโดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ รายได้จากการจำหน่ายหนังสือนี้จะมอบให้บ้านพักคนชรา และส่วนหนึ่งจะมอบให้สภาผู้สงอายุแห่งประเทศไทย.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
komchadluek.net














































ภาพและข้อมูลจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ๕ ม.ค. ๒๕๕๘













เปิดพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี คลังความรู้ คู่เมืองพิษณุโลก


สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) ร่วมกับ จังหวัดพิษณุโลก, เทศบาลนครพิษณุโลก, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ได้ลงนามความร่วมมือและแถลงข่าว การเปิดตัวพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีในรูปแบบ Discovery Museum พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ต้นแบบแห่งแรกในจังหวัดพิษณุโลก ที่พร้อมเปิดให้ประชาชนและเยาวชนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการชมพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป






“พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” แห่งนี้ก่อตั้งขึ้น โดย จ่าสิบเอก ดร.ทวี บูรณเขตต์ เพื่อเก็บอดีตให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็น และศึกษา อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานการจัดการในระดับสากล และเพื่อการคงอยู่อย่างยั่งยืนของแหล่งเรียนรู้โดยภายในพิพิธภัณฑ์ ได้ทำหน้าที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่แสดงวิถีพื้นบ้านของชาวเมืองพิษณุโลก และภาคเหนือตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรสาน กระต่ายขูดมะพร้าว เครื่องมือจับปลา เครื่องดักสัตว์ ตะเกียง เครื่องปั้นดินเผานับหมื่น ๆ ชิ้น มาจัดแสดง หรืออีกนัยหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” แห่งนี้ คือขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาไทย ที่เก็บรวบรวมวิถีชาวบ้านที่นับวันจะหาดูได้ยากในปัจจุบันมากที่สุดอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย






นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) กล่าวว่า สพร.ต้องการพัฒนาสนับสนุน ให้พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี คือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ จะเป็นฐานในการศึกษาเพื่อพัฒนาพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่บรรจุด้วยองค์ความรู้ และเป็นต้นแบบของการสร้างสรรค์แหล่งเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างเครือข่ายของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ในภูมิภาค ผ่าน ๔ วิธีการหลัก ดังนี้






ด้านกายภาพ สพร. ใช้หลักการของ universal design เช่น การออกแบบให้คนพิการสามารถเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ได้ การออกแบบลำดับประสบการณ์การชมโดยเพิ่มพื้นที่ orientation หรือการแสดงแนวคิดหลักของพิพิธภัณฑ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ชมก่อนเข้าชมนิทรรศการ


ด้านนิทรรศการ ปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้เป็นแบบ discovery museum เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นหลัก ผ่านเทคนิคการเล่าเรื่องแบบ story telling ผ่านเทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของผู้ชมในการเข้าถึงข้อมูลด้วยตนเอง เช่น เกม หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องดึง ผลัก ชักโยกด้วยตนเอง






ด้านการประชาสัมพันธ์ เน้นการสร้างให้พิพิธภัณฑ์จ่าทวีมีความโดดเด่นสะดุดตา และง่ายต่อการเข้าถึง เพื่อเป็นการเชิญชวนให้มีผู้สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์มากขึ้น และสุดท้าย ด้านความยั่งยืน ของการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ โดยการสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ และคนในพื้นที่ เพราะพิพิธภัณฑ์ที่ดีจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และขับเคลื่อนโดยคนในชุมชนเอง






นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี จังหวัดพิษณุโลก ได้เปิดให้ประชาชนชาวไทยเข้าชมฟรี ในโอกาสการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบ Discovery Museum โดยสามารถเข้าชมฟรีได้ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๘.๓o-๑๖.๓o น. สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. o๕๕-๒๑๒-๗๔๙







ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
sabymedia.com
sadoodta.com














ฟื้นฟูเมืองโบราณอู่ทองหวังดึงนักท่องเที่ยว


วันที่ ๖ ม.ค. ๒๕๕๘ พ.อ.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) อนุมัติงบประมาณในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ วงเงิน ๓๓ ล้านบาท ให้แก่สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทอง


โดยแบ่งเป็น ๔ โครงการย่อย ประกอบด้วย ๑. ศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ๕ ล้านบาท, ๒. ส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ๓ ล้านบาท, ๓. อนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทอง ๗ ล้านบาท และ ๔. โครงการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เมืองโบราณอู่ทอง ๑๘ ล้านบาท


นางศิริกุล กสิวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทอง มุ่งหวังเป็นเส้นทางเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ยุคทวารวดี ให้แก่ชุมชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งเป็นโครงการระยะ ๓ ปี (๒๕๕๘-๒๕๖o) โดยปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ตั้งเป้าพัฒนาภายใต้แนวคิด “เมืองโบราณอู่ทองอดีตที่รอการฟื้นคืน ประเพณีศิลปวัฒนธรรมที่รอการฟื้นฟู” ทั้งนี้คำว่า “ฟื้นคืน” หมายถึง “ให้กลับมาอีกครั้ง” เพราะในอดีตเมืองโบราณอู่ทองเคยเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในยุคแรกเริ่มของทวารวดี และเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของทวารวดี


โดยโครงการนี้จะต้องฟื้นคืนเมืองให้กลับมามีชีวิตชีวา ด้วยการฟื้นฟูประเพณี ศิลปวัฒนธรรม พัฒนาคนในชุมชน ชมรม สมาคม มูลนิธิ และสร้างภาคีเครือข่ายในพื้นที่ตำบลอู่ทอง พร้อมกับผลิตสินค้าการท่องเที่ยว เช่น เส้นทางท่องเที่ยวเกิดใหม่ที่สะท้อนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทอง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง



ภาพและข้อมูลจากเวบ
chaoprayanews.com














Beyond Memory


PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญชมนิทรรศการประติมากรรม Beyond Memory “อดีตและความทรงจำ” โดย รองศาสตราจารย์สุวิช สถิตวิทยานันท์


พิธีเปิดนิทรรศการ วันพุธที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. โดย ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี


นิทรรศการ : Beyond Memory
ศิลปิน : องศาสตราจารย์สุวิช สถิตวิทยานันท์
วันที่ : ๒๑ มกราคม – ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๑-o๘๒o











ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














The Momentum


Momentum คือ ความสามารถในการเคลื่อนที่ของวัตถุในความเร็วเท่ากัน วัตถุที่มีมวลมากกว่าจะขับเคลื่อนเร็วและแรงกว่าวัตถุที่มวลน้อย คำนิยาม “The momentum “จึงถูกหยิบยกมาเป็นคอนเซ็ปต์หลัก ให้กับงานนิทรรศการส่งท้ายปลายปี ของ หอศิลป์ ศุภโชค ดิ อาร์ท เซ็นเตอร์ เพื่อเปรียบเปรยถึงสภาวะพลังการสร้างสรรค์ของศิลปินที่ไม่หยุดนิ่ง ผ่านผลงานหลากหลายรูปแบบจาก ๕ ศิลปิน ไทยมากความสามารถ ที่มีรูปแบบงานโดดเด่นชัดเจน มีทิศทางเฉพาะตน แตกต่างกันไปตามมิติชีวิต The Momentum คือแรงขับเคลื่อนของชีวิตศิลปิน ที่จะเร็วหรือแรง ทรงพลังแค่ไหน งานศิลปะของเขาและเธอคือคำตอบ






เปี่ยมจันทร์ บุญไตร ศิลปินหญิงมากพรสวรรค์ เอกลักษณ์ของผลงานเป็นที่จดจำ ทั้งความแสบสันต์ประชดประชันสังคมได้อย่างมีอารมณ์ขัน รอบนี้เป็นการเดินทางต่อจากนิทรรศการ Human Noid ในปีที่แล้วศิลปินเพิ่มดีกรีความสนุกเร้าใจให้กับผลงานประติมากรรมของตนเอง ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย ผสมผสาน แต่ยังคงการันตีเนื้อหาผลงานที่ ครบรส กลมกล่อม เรียกรอยยิ้มจากผู้ดูได้แน่นอน










ป๋อง แท่งทอง ผลงานในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของนิยามคำว่าศิลปินอย่างเต็มตัวครั้งแรกในชีวิตของเขาประสบการณ์ที่ผูกพันกับงาน Stop motion มาร่วม ๑o ปี ทำให้เขาคนนี้กำลังจะสร้างมิติใหม่ในวงการประติมากรรมเทคนิควิธีการเฉพาะทางที่คิดค้นขึ้นถูกนำมาเป็นกลไกสำคัญสำหรับการสร้างงานขึ้นงานจาก มือ และจบงานพร้อมด้วยร่องรอย ลายนิ้ว เสมือนถ่ายทอด dna ตน ไปบนพื้นผิวผลงานเหล่านั้นความน่ารักจากคาแรคเตอร์ที่เขาสร้าง ซ่อนนัยยะชีวิตสีเทา ความเหงาโดดเดี่ยว การยึดติดกับบางสิ่งตลอดมางานศิลปะครั้งนี้ของเขาจึงคล้ายจะเป็นลายแทงให้ศิลปินตามหาตัวตนในบทบาทที่รอคอย










ณัฐภัทร ดิสสร ศิลปินหน้าใหม่ที่มีสไตล์ส่วนตัวไม่เหมือนใคร การวิจารณ์ ล้อเลียนและเย้ยหยันสังคมคือความท้าทายสำหรับเขา ศิลปินสร้างผลงานให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เจตนารอคนมาร่วมเล่นด้วย ผลงานในครั้งนี้จัดเต็มทั้ง ๒ มิติ และ ๓ มิติ อาทิเช่น ผลงานวาดเส้นการ์ตูนความหมายร้ายลึก งานจิตรกรรมสีน้ำมัน กับความจงใจส่วนตัวที่อยากให้เห็นได้ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง และยังมีจิ๊กซอว์ไม้ขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นจากตัวละครที่อ้างอิงที่มาจากชีวิตจริงของตัวศิลปินเอง ผลงานของเขาเหมือนเกมส์ทดสอบจิตใจ ช่วงชิงกันระหว่างอำนาจฝ่ายต่ำของมนุษย์ และความรักความเมตตาที่สังคมอาจจะหลงลืม










คียาภัทร เกตุไสว ศิลปินอายุน้อยทักษะเยี่ยมที่ครั้งนี้ถ่ายทอดความชื่นชอบส่วนตัวเขียนภาพบุคคลที่มีบทบาทสำคัญหลากหลาย ทั้งผู้นำการปกครอง ศิลปิน นักร้อง นักแสดง หรือ บุคคลที่ถูกนิยามให้เป็นแรงบันดาลใจของโลก มีส่วนเปลี่ยนแปลงแนวคิดชีวิตผู้คน ผลงานของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ และมีสไตล์การเขียนที่เป็นตัวของตัวเองอย่างดีเยี่ยม ภาพเขียนชุดนี้ มีที่มาเริ่มต้นมาจากสมุดสเก็ตซ์หนึ่งเล่มที่เปรียบเสมือนพื้นที่ฝึกฝนจิตใจของศิลปิน










ปิดท้ายด้วยน้องเล็ก เด็กหญิงเพนท์ฟ้า ชาญชุติวาณิช เด็กน้อยที่เติบโตพร้อมกับพรสวรรค์ที่งดงามเมื่อเริ่มเข้าสู่ระบบการศึกษา การศึกษาแบบ โฮมสคูล โดยครอบครัวคือทางที่เลือกเพื่อมุ่งมั่นเรียนรู้ศิลปะอย่างเต็มที่ พรสวรรค์และใจรักศิลปะของลูกสาวได้รับการประคับประคองด้วยแรงใจจากครอบครัวที่ทุ่มเทผลักดันให้ทักษะของสาวน้อยพุ่งทะยานไกล ผลงานตั้งแต่ระหว่างอายุ ๖ ขวบถึงปัจจุบัน มากกว่า ๑oo ชิ้นจะถูกนำมาโชว์ในงานครั้งนี้ ผลงานที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการศิลปะ และเชื่ออย่างยิ่งว่าเมื่อได้ชมผลงานของเธอ ผู้ดูอาจลืมไปเลยคือผลงานของเด็กหญิงอายุเพียง ๘ ขวบเท่านั้น










นิทรรศการ : “The momentum”
ศิลปิน : เปี่ยมจันทร์ บุญไตร, ป๋อง แท่งทอง, ณัฐภัทร ดิสสร, คียาภัทร เกตุไสว, เด็กหญิงเพนท์ฟ้า ชาญชุติวาณิช
วันที่ : ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ -๑๘ มกราคม ๒๕๕๘
สถานที่ : ชั้น ๑-๓ อาคารใหม่ หอศิลป์ ศุภโชค ดิ อาร์ ท เซ็นเตอร์
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : o๒-๒๕๘-๕๕๘o ต่อ ๔o๑, o๘๖-๘๙๑-๑๘๙๓



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














เด็กเอ๋ยเด็กดี


วันนี้ถึง ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ ที่ Toot Yung Art Center (ตูดยุง อาร์ตเซนเตอร์ ) เอกมัยซอย ๒ นิทรรศการภาพเขียน "เด็กเอ๋ยเด็กดี" ( "Dek Oey Dek Dee" ) โดย ตะวัน วัทธุยะ โดยศิลปินต้องการสะท้อนอารมณ์ขันภายใต้สภาวะบ้านเมืองสงบเรียบร้อยในปัจจุบัน ผ่านภาพเขียนที่ได้แรงบันดาลใจจากเพลงสอนคุณธรรม ๑o ข้อ และหนังสือเรียนสำหรับนักเรียนประถมศึกษาไทยจากยุค 70s จัดแสดงวันนี้ถึง ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ ที่ Toot Yung Art Center (ตูดยุง อาร์ตเซนเตอร์ ) เอกมัยซอย ๒ ถ.สุขุมวิท พระโขนง กรุงเทพฯ (ลงสถานีบีทีเอสเอกมัย) เปิด อังคาร-อาทิตย์ เวลา ๑๑.oo น.- ๒o.oo น.สอบถามโทร. o๒-๗๑๔-๓๗๖๖ เวบไซต์ //www.tootyunggallery.com/



ภาพและข้อมูลจากเวบ
dangdd.com
bangkokbiznews.com














ท่องโลกแห่งอิสรภาพผ่านศิลปะ เลอ คินลาร์ด


ก้อย อาร์ต แกลเลอรี่ นำเสนอนิทรรศการ “Le Kinlaads” (เลอ คินลาร์ด) ผลงานศิลปะร่วมสมัย โดย ปอม จิตรประทักษ์ศิลปินรุ่นใหม่ที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ สะท้อนโลกแห่งความฝันอันไร้ขอบเขตและกาลเวลา


“Le Kinlaads” (เลอ คินลาร์ด) การแสดงผลงานเดี่ยวชุดล่าสุด ของ ปอม จิตรประทักษ์ ศิลปินหนุ่มไฟแรงที่คว้าปริญญาด้านกราฟิก ดีไซน์ จากสถาบันเลื่องชื่ออย่าง เซ็นต์ มาร์ติน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์งานศิลป์จากอังกฤษ ก่อนเริ่มเข้าสู่แวดวงศิลปกรรมในประเทศไทย โดยผลงานชุดล่าสุดนี้ ปอมตั้งใจสะท้อนจินตนาการไร้ขีดจำกัด สร้างโลกแห่งอิสรภาพ และความอบอุ่น ที่ไร้ซึ่งขอบเขตและกาลเวลา ด้วยแรงบันดาลใจจากความคิด ประสบการณ์ และการเดินทาง โดยใช้เทคนิคการวาดภาพแบบ Illustration ถ่ายทอดอารมณ์ ความรัก ความเพ้อฝัน เพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ชมงานศิลป์ พร้อมเชิญชวนและกระตุ้นเตือนให้อย่าหยุดที่จะทำตามฝัน เพราะความสุขทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้เพียงแค่เรากล้าออกนอกกรอบและก้าวสู่เส้นทางของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์


สนุกกับการท่องโลกแห่งจินตนาการที่เปี่ยมด้วยความสุขในนิทรรศการ “Le Kinlaads” โดย ปอม จิตรประทักษ์ซึ่งจะจัดแสดง ณ ก้อย อาร์ต แกลเลอรี่ ๒๔๕ ซอยสุขุมวิท ๓๑ (ซอยสวัสดี) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ ๙ มกราคม-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๑.oo-๑๙.oo น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. o๒-๖๖๒-๓๒๑๘



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com














ศิลปหัตถกรรมอันงดงามแห่งโทโฮขุ


เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ร่วมกับสำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการ “ศิลปหัตถกรรมอันงดงามแห่งโทโฮขุ ญี่ปุ่น” นิทรรศการสัญจรจากประเทศญี่ปุ่นที่จัดเพื่อระลึกถึงโอกาสครบรอบเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นที่โทโฮขุเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ภูมิภาคโทโฮขุที่ขึ้นชื่อด้านความงดงามของทัศนียภาพตามธรรมชาติและอุดมไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้คนในท้องถิ่นต่างจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนั้น แต่พวกเขาได้ร่วมมือร่วมใจสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นสร้างความสงบและความปกติสุขให้กลับคืนมาสู่ชีวิตของพวกเขาโดยเร็วเท่าที่จะทำได้





ไหสาเก จาก คาวาทสึระ ยุซาวะ จ.อากิตะ





เครื่องเขินอัปปิ จากจ.อิวาเตะ



ผลงานจัดแสดงนิทรรศการทั้ง ๗o ชิ้นนี้แสดงถึงเทคนิคชั้นสูงทางด้านศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมที่ฟูมฟักกันมาในภูมิภาคโทโฮขุของญี่ปุ่น อันประกอบด้วย เครื่องเขิน เครื่องเคลือบดินเผา งานปัก สิ่งทอ เครื่องจักสาน งานดัดไม้ เครื่องโลหะ และงานวาดระบายสี เป็นต้น ทั้งหมดล้วนเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้สอยในชีวิตประจำวันที่ใช้กันมาในญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตกาล ผู้ชมจะได้รับรู้ถึงมรดกทางศิลปะและหัตถกรรมอันเป็นเอกลักษณ์อันดึงดูดของโทโฮขุจากความความงามของ ผลงานศิลปหัตถกรรมเหล่านี้ และจะช่วยให้เข้าใจภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้มาจากการใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมถึงทักษะฝีมือ และความชำนาญที่พัฒนาขึ้นจากภูมิปัญญาเหล่านั้นได้มากยิ่งขึ้น


กำหนดการแสดงงาน

นิทรรศการ : หัตถกรรมพื้นเมืองอันวิจิตรงดงามแห่ง ภูมิภาคโทโฮขุ จากประเทศญี่ปุ่น
สถานที่ : นิทรรศสถาน อาคารศิลปวัฒนธรรม สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วัน/เวลา : วันศุกร์ที่ ๑๖ มกราคม – วันศุกร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๙.oo – ๑๗.oo น. (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
พิธีเปิด : วันศุกร์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๗.oo น.


จัดโดย
เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


สนับสนุนโดย
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย

เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
ชั้น ๑o อาคารเสริมมิตร ทาวเวอร์ ๑๕๙ ถนนสุขุมวิท ๒๑ กรุงเทพฯ ๑o๑๑o
โทร. o๒-๒๖o-๘๕๖o-๔ โทรสาร o๒-๒๖o-๘๕๖๕
Website: //www.jfbkk.or.th
Facebook: //www.facebook.com/jfbangkok
Twitter: //www.twitter.com/JFBKK





ตะกร้าสานไม้ไผ่ จากจ.อาโอโมริ









ชิโกะ มุนาคาตะ, “The Cave of Lion”, สี, ภาพพิมพ์แกะไม้, 2496





ว่าว “คินทาโร่กับยามะอุบะ” จาก จ.อาโอโมริ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














นิทรรศการภาพวาดของ สุดาภรณ์ เตจา


ตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธันวาคม ถึง วันที่ ๑๘ มกราคม สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพจะนำเสนอนิทรรศการ “Emotions” ผลงานรังสรรค์ของ สุดาภรณ์ เตจา ศิลปินอายุน้อยที่จัดแสดงงานจิตรกรรมเดี่ยวครั้งแรกเมื่อต้นปี ๒o๑๔ ที่แกลเลอรี่เซรินเดีย ในกรุงเทพ และหลังจากนี้เธอจะไปจัดแสดงงานที่แกลเลอรี่ ฌอง-ฟรองซัวส์ กาโซ ในนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มีนาคม ถึง วันที่ ๒๕ เมษายน


ศิลปินไทยผู้มากฝีมือผู้นี้เป็นที่รู้จักผ่านทาง ไทยลีวูด – โครงการศิลปินพำนัก (เอกชน) ที่ก่อตั้งโดย ฮุค และ มารี ฟองแตน แตแตงเช่ – ซึ่งให้ความสำคัญกับวิธีการวาดภาพมากกว่ามุ่งเน้นในตัวผลงาน สุดาภรณ์ เตจา สร้างสรรค์ชิ้นงานนามธรรมด้วยการระบายสี การหยด และการปาดสีลงบนผืนผ้าใบ แม้ว่าสไตล์ของเธอแสดงให้เห็นจิตนาการและความรู้สึก หรือแม้แต่จะเป็นศิลปะแบบนามธรรม แต่เธอไม่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะประเภทนั้น งานของสุดาภรณ์นำเสนออย่างตรงไปตรงมา สะท้อนจิตวิญญาณของเธอราวกับพยายามแสดงให้เห็นอารมณ์ที่มีต่อพื้นที่และสิ่งรอบตัว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในผลงานของสุดาภรณ์ เตจา คือ นัยยะที่ซ่อนอยู่ในการแสดงออกที่สะท้อนให้เห็นว่าเธอปลดปล่อยตัวเองและแสดงออกถึงสิ่งที่รู้สึก ณ ขณะนั้นอย่างเต็มที่ผ่านสีสันและพื้นผิว ในขณะเดียวกันเป็นการเชิดชูจิตรกรรมที่ทำหน้าที่เป็นสื่อในการสื่อสารด้วยของมันตัวเอง


ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
วันที่: วันที่ ๑๘ ธันวาคม ถึง วันที่ ๑๘ มกราคม
ราคา : ชมฟรี
สถานที่ : สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ เลขที่ ๑๗๙ ถนนวิทยุ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. o๒-๖๗o-๔๒๒๒



ภาพและข้อมูลจากเวบ
afthailande.org
contestwar.com














บทที่ (-) ลบหนึ่ง


วันที่ : ๑๓ ธันวาคม - ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
สถานที่: ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น ๗
กิจกรรมบนพื้นที่นิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินรุ่นใหม่
ส่วนหนึ่งของโครงการทดลอง Y.A.N (Young Artist Network by BACC)
เปิดกิจกรรม ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.oo น. (ลงทะเบียน ๑๘.๓o น.)


ส่วนหนึ่งของโครงการ Young Artist Network (Y.A.N) กิจกรรมในรูปแบบการทดลองในพื้นที่นิทรรศการนี้ คือการตั้งคำถามเชิงโครงสร้าง เพื่อสืบหาประเด็นทางศิลปะและความคิดร่วมสมัยของศิลปินรุ่นใหม่ ผ่านการทำงานในรูปแบบเครือข่ายเพื่อแตกประเด็น ด้วยกระบวนการเชิงทดลอง สังเกตุการณ์ ถกเถียง ศึกษาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และท้ายสุดสรุปผลวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดเก็บเป็นฐานความคิด และการดำเนินงาน เกี่ยวกับศิลปินรุ่นใหม่ในอนาคต


หากถามถึงความเข้าใจในตัวตนและผลงานของศิลปินที่เคลื่อนตัวอยู่บนเส้นทางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมในปัจจุบัน คำตอบแฝงอยู่ในปรากฏการณ์ที่ศิลปินเชื่อมโยงศิลปะเข้าสู่สาธารณะในรูปแบบต่าง ๆ ศิลปินรุ่นนี้ตอบสนองต่ออิทธิพลส่งตรงมาจากรุ่นก่อนหน้า ในลักษณะที่พวกเขาเคลื่อนตัวออกจาก ความหมายเดิมของศิลปะ ดำรงอยู่ภายใต้ความเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะปรับตัวไปตามสถานการณ์ ที่ก้าวรุดไปข้างหน้า ผลงานศิลปะและศิลปินในยุคข้อมูลข่าวสาร กระตุ้นให้เราต้องพิจารณาและตั้งคำถาม ต่อวาทกรรมที่เคลื่อนตัวในปัจจุบัน รวมถึงเครื่องมือทางความคิดในการรองรับ ตีความและทำความเข้าใจ


โดยโครงการกิจกรรมเชิงทดลองนี้ ดำเนินผ่านการตั้งสมมติฐานบทยืนตั้งต้น ในปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ตั้งแต่ ๑) การผลิตงานศิลปะ ๒) พื้นที่ศิลปะ ๓) ผู้ชมงานศิลปะ และ ๔) ความคิดวิเคราะห์ในบริบททางสังคมและการวิพากษ์วิจารณ์งานศิลปะ สมมติฐาน ๔ แขนงนี้ นำเสนอผ่านรูปแบบกิจกรรมบนพื้นที่นิทรรศการ เพื่อรองรับการเข้ามามีส่วนร่วมจากผู้ชม ในการร่วมสร้าง ร่วมรับรู้ ร่วมศึกษา ถึงการดำรงอยู่ของศิลปะในความหมายที่เป็นคุณค่าร่วมทั้งของศิลปินและสาธารณชน


บทที่ ลบหนึ่ง ‘The great artist of tomorrow will go underground’ – Marcel Duchamp คือจุดยืนจาก ‘ใต้ดิน’ ถอยกลับไปที่ประเด็นพื้นฐาน ตั้งคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับศิลปะและศิลปินรุ่นใหม่ สำรวจวาทกรรมจากแกนของผู้ผลิต พึ่งพาความเข้าใจในบริบทรอบด้าน เพื่อกระตุ้นความเข้มแข็งทางความคิด และหล่อเลี้ยงเจตจำนงที่แท้จริงของศิลปินในการสร้างงานศิลปะ สนับสนุนความเป็นไปได้ในการปฏิบัติการ ที่เป็นวิวัฒนาการผ่านข้อจำกัดหลากมิติ เพื่อสร้างเครือข่ายของความคิดและคุณค่าเชิงลึกที่เป็นพลังขับเคลื่อนแห่งยุคสมัย


ภัณฑารักษ์
พิชญา ศุภวานิช


กิจกรรมหลัก: ศิลปิน นักเขียนและนักวิจารณ์
จุฑา สุวรรณมงคล
เฮนรี่ ทราน
อธิคม มุกดาประกร
กลุ่มศิลปิน Money Faketory

เนื้อหาวาทกรรมและความคิดร่วมสมัย
The Reading Room

เนื้อหาสำรวจวิจัยและข้อมูลสนับสนุน
ณรงค์ศักดิ์ นิลเขต
ปองกมล วงษ์อุบล

โครงการริเริ่มและดำเนินงานโดย ฝ่ายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สอบถามเพิ่มเติม exhibition@bacc.or.th



ภาพและข้อมูลจากเวบ
bacc.or.th














“เงิน เงิน เงิน” หนังวันเด็ก


เนื่องในโอกาสครบรอบ ๕o ปี “เงิน เงิน เงิน” ภาพยนตร์ยอดนิยมในยุค ๒๕o๘ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมไทยในบริบทของการพัฒนาภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าสังคมและวัฒนธรรมไทยอย่างใหญ่หลวง จากสังคมเกษตรกรรมแบบยังชีพมาเป็นสังคมเกษตรอุตสาหกรรม
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) กระทรวงวัฒนธรรมเชิญชม ภาพยนตร์เรื่อง “เงิน เงิน เงิน”


วันเสาร์ที่ ๑o มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.oo-๑๗.oo น.
ณ หอประชุม ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
๑๓.oo – ๑๓.๓o น. ลงทะเบียน
๑๓.๓o – ๑๔.oo น. เสวนาแนะนำภาพยนตร์ “เงิน เงิน เงิน”
โดย คุณ อิงคศักย์ เกตุหอม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)
๑๔.oo – ๑๖.๓o น. ฉายภาพยนตร์เรื่อง “เงิน เงิน เงิน” ฉบับปี พ.ศ. ๒๕o๘ นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์
๑๖.๓o – ๑๗.oo น. ร่วมแลกเปลี่ยนหลังชมภาพยนตร์



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Art Eye View














The Journey of Suriya & Postcard Art Exhibition


ผลงานของ สุริยะ ฉายะเจริญ

พิธีเปิด วันเสาร์ที่ ๑o มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น. เป็นต้นไป
ณ หลังแรกบาร์ ซอยมหรรณพ ๑ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
นิทรรศการระหว่างวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ - ๓๑ มกราคม ๒๕๕๘
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๑๘.oo-o๑.oo น.


ติดต่อสอบถามรายละเอียดนิทรรศการ
โทรศัพท์ o๙o-๙๘๖-๙๙๓๗
E-mail: jumpsuri@gmail.com






สุริยะ ฉายะเจริญ จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาจิตรกรรม เกียรตินิยมอันดับ ๒ และ ปริญญาโทสาขาทฤษฎีศิลป์ จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีประสบการณ์การทำงานด้านการออกแบบกราฟิก การจัดนิทรรศการศิลปะ การแสดงนิทรรศการศิลปะอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง มีผลงานวิจัย บทความวิชาการ บทความวิจารณ์ศิลปะ เผยแพร่ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ และแบบออนไลน์ (jumpsuri.blogspot.com) ปัจจุบัน สุริยะ ฉายะเจริญเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม






แนวคิด



ผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ The Journey of Suriya & Postcard Art Exhibition มี ๒ ชุด ประกอบไปด้วย


๑. The Journey of Suriya เป็นผลงานจิตรกรรมขนาดเล็กที่บันทึกภาพจากประสบการณ์การเดินทางและสังเกตสภาพแวดล้อมที่พบเจอผ่านแนวคิดที่ว่า “งานจิตรกรรมเป็นเสมือนเป็นการบันทึกผ่านภาษาของภาพที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ”


๒. Postcard Art Exhibition เป็นการจัดแสดงผลงาน Postcard ที่ได้รับความร่วมมือจากศิลปินผู้ร่วมแสดงจาก ๕ ประเทศ ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิค ๒ มิติที่หลากหลาย และส่งผลงานมาในรูปของ Mail Art



ภาพและข้อมูลจากเวบ
jumpsuri.blogspot.com














Beautiful Mom มนุษย์แม่


เหล่าเพื่อนพ้อง คุณแม่ที่มีมุมมองบวกเกี่ยวกับบทบาทคุณแม่ โมเดิร์นมัม ชมนิทรรศการศิลปะ Beautiful Mom 'มนุษย์แม่' นิทรรศการภาพถ่ายขาวดำเปลือยความเป็นคุณแม่ทีคุณไม่คุ้นตา แต่น่าประทับใจ และมีความหมายลึกซึ้ง ผลงานของการถ่ายภาพของ แทน นิธิวีร์ จาก KiddyFoto ช่างภาพบุคคล (Portraits) มากประสบการณ์ ที่ตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวผ่านนางแบบภาพนิ่ง ๙ คุณแม่คนดัง ที่หลายคนรู้จัก ที่ร้าน Library Cafe, Jam Factory คลองสาน


งานนี้นำโดย แม่พลอยของพพาย พลอย มัลลิกะมาส คอลัมนิสต์ นักเขียน นักเดินทางเจ้าของร้านเสื้อให้นม My Happy Job ผู้ริเริ่มโปรเจ็ค Beautiful Mom, แม่เจี๊ยบของลีโอ ควาร์ติโรลี วนิษฐา ตันสกุล อดีตมัณฑนากร ที่ผันตัวมาเป็นคุณแม่ฟูลไทม์และเกษตรกรปลูกป่ากินได้ที่เมืองมิลาน อิตาลี แม่แพรของโรมัน นัดดา ศรีทองดี มือกลอง และดีไซเนอร์สาว ภรรยาคนสวยของศิลปินดัง คุณโลเล ศรีทองดี, แม่ ตุ๊กตา พนิดา เอี่ยมศิรินพกุลของน้องชื่นใจ บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ polkadot ภรรยาคนเก่งของบอย ตรัย ภูมิรัตน์ศิลปินดัง


นิทรรศการจัดที่ร้าน Library Cafe, Jam Factory คลองสาน โดย นิทรรศการภาพถ่าย จะจัดแสดงตั้งแต่ ๓o พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึงปลายเดือน มกราคม ๒๕๘ ทุกวัน


หลังชมนิทรรศการคุณสามารถอุดหนุนกระเป๋าผ้าลาย Beautiful Mom โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เหล่าคุณแม่ จะนำเงินจำนวนดังกล่าวบริจาคให้กับ โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา สังกัดมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขากรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน //www.cfbt.or.th นอกจากนี้คุณยังสามารถสมทบทุนเพื่มเติม ได้ที่ ร้านมาย แฮปปี้ จ๊อบ โทร. o๘๖–๘๙๙๙–oo๖ หรือ o๙๕–๕o๑–๑๗๙๙



ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุค The Jam Factory Bangkok




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 07 มกราคม 2558
Last Update : 7 มกราคม 2558 21:33:44 น. 0 comments
Counter : 3503 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.