happy memories
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 มีนาคม 2567
 
All Blogs
 

โขนรามเกียรติ์ ชุด “สัจจะพาลี” ณ วัดไชยวัฒนาราม





การแสดงโขนไทย หน้าวัดไชยวัฒนาราม
กับวิวฟ้าระเบิด สวยสุดยอดอลังการงานสร้าง ทั้งจากคนและธรรมชาติ
ให้ภาพมันเล่าเรื่องว่า โขนไทย มีคนให้ความสนใจมากแค่ไหน


ขออภัยที่ดองบล็อกอีกแล้ว อัพบล็อกฉลองตุรษจีนไว้แล้วหายศีรษะไปเลย พอดีงานเข้า ไม่มีเวลาเขียนบล็อก หยุดอัพบล็อกไปนานชักจะเพลิน ไม่ทันไร ดองบล็อกไว้เดือนนึงพอดี ที่หายไปเพราะคอมเกเรด้วย ไม่งั้น คงได้อัพบล็อกนี้ฉลองวันวาเลนไทน์ไปแล้ว ตอนนี้คอมอาการไม่ดีเท่าไหร่ ต้องรอให้น้องชายว่างค่อยเอาคอมไปส่งโรงหมอ แต่พอจะเขียนบล็อกต่อ เนทก็ใช้ไม่ได้อีก เพราะช่างไฟมาซ่อมสายไฟแล้วน้องชายบอกให้ตัดสายเก่าทิ้ง แต่สายที่ถูกตัดดันเป็นสายสัญญาณเน็ทซะนี่ ต้องเรียกช่างให้กลับมาต่อสายใหม่

เมื่อวานนี้ได้เห็นภาพที่แปะไว้หัวบล็อกแล้วชอบมาก ภาพผู้คนที่กำลังชมโขนที่วัดไชยวัฒนารามภายใต้ท้องฟ้ายามเย็น สีท้องฟ้างามได้ใจมากกกก เลยขออนุญาตแฮบมาอัพบล็อก ทั้งภาพและคำบรรยายใต้ภาพได้มาจากเพจ Chanadetch Meng's Jeweler Chawgeranai เสียดายที่การแสดงโขนมีแค่สองวัน แถมหมดเขตวันนี้แล้ว แต่ไหน ๆ เซฟภาพและข้อความไว้แล้ว ก็อัพลงบล็อกซะเลย ช่วงนี้งานยุ่งได้ใจ อาจต้องดองบล็อกเป็นระยะ ๆ แต่จะตระเวนใช้สิทธิ์์โหวตให้เพื่อน ๆ ทุกวันค่ะ






ตารางการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด “สัจจะพาลี” ณ วัดไชยวัฒนาราม

จัดแสดงในวันที่ ๙ - ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๗
เวลา ๑๗.๓๐ น. การบรรเลงดนตรีสากล โดย วง Orchestra สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
เวลา ๑๙.๐๐ น. การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด "สัจจะพาลี" โดย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร (ระยะเวลาการแสดง ๒.๓๐ ชม.)

เนื่องจากที่นั่งภายในงานมีจำกัด ทุกท่านสามารถนำเก้าอี้สนามขนาดเล็ก หรือ เก้าอี้พกพาส่วนตัวขนาดเล็ก เข้ามารับชมการแสดงภายในพื้นที่ได้

อุทยานประวัติศาสตร์ ขอความร่วมมือทุกท่านแบ่งปันพื้นที่การรับชม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและทุกท่านสามารถรับชมอย่างทั่วถึง

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หรือ ติดต่อเบอร์โทรศัพท์ ๐๓๕-๒๔๒-๒๘๖ หรือ ๐๓๕-๒๔๒-๒๘๕


ภาพและข้อมูลจาก
เพจ Chanadetch Meng's Jeweler Chawgeranai











โขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด “สัจจะพาลี”
จรัญ พูลลาภ จัดทำคำบรรยาย


โขน
เป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยมาแต่โบราณ มีกำเนิดมาจากการเล่นโบราณ ๓ อย่าง คือ ชักนาคดึกดำบรรพ์ กระบี่กระบอง และหนังใหญ่ นิยมเล่นเรื่องรามเกียรติ์ เริ่มแรกผู้แสดงจะสวมหัวโขนปิดหน้าและใช้ผู้ชายแสดงทั้งหมดไม่สามารถพูดเองได้ต้องมีผู้พูดแทน เรียกว่า ผู้พากย์ – เจรจาและขับร้อง ผู้แสดงต้องแสดงท่าเต้น ท่ารำไปตามคำพากย์ - เจรจา บทร้อง และเพลงหน้าพาทย์ที่บรรเลง ต่อมาได้วิวัฒนาการให้ผู้แสดงซึ่งสมมติเป็นเทพบุตร เทพธิดาและมนุษย์ชายหญิง สวมแต่เครื่องประดับศีรษะไม่ต้องปิดหน้าทั้งหมดและใช้ผู้หญิงเข้าร่วมแสดง แต่ยังคงรักษาจารีตการแสดงแบบดั้งเดิมไว้ คือ มีผู้พากย์ – เจรจาและผู้ขับร้องแทน เว้นแต่ตัวตลกที่สามารถพูดได้ด้วยตนเอง





เนื้อเรื่องการแสดง


กล่าวถึงพระอิศวรมอบบำเหน็จความชอบแก่พญากากาศที่ชะลอเขาพระสุเมรุที่เอนทรุดให้ตั้งตรงได้ โดยประทานนามให้ว่า “พญาพาลีธิราช” และประทานตรีเพชรสุรกานต์ให้เป็นอาวุธประจำกายแล้วประทานพรว่า เมื่อต่อสู้ให้ได้กำลังศัตรูแบ่งมาสมทบครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงออกพระโอษฐ์ฝากผอบบรรจุนางเทพดาราไปประทานแก่สุครีพน้องชายแต่พระนารายณ์ซึ่งเฝ้าอยู่ด้วยทูลทัดทานว่าไม่ควรฝากสตรีงามไปกับบุรุษ เกรงจะไม่ถึงมือสุครีพ ดังเทวะประสงค์ เมื่อพาลีได้ยินจึงกล่าวถวายสัตย์สาบาน ว่าหากตนคิดทรยศน้องชายขอให้ตายด้วยศร พระนารายณ์แล้วนำผอบเหาะกลับไปเมืองขีดขิน เมื่อมาถึงพาลีเฝ้าแต่ครุ่นคิดด้วยความสงสัยว่านางในผอบ จะงดงามเพียงใดจึงเปิดออกดูเห็นความงามของนางเทพดารา บันดาลให้ลืมคำสัตย์สาบานต่อพระนารายณ์ เข้าเล้าโลมเกี้ยวพานจนได้นางเทพดาราเป็นชายา

กล่าวถึงทรพีควายผู้ลูกทรพากับนางนิลากาสร ซึ่งได้ลอบมาคลอดในถ้ำฝากเทวดาช่วยพิทักษ์เลี้ยงดู เป็นเหตุให้ทรพีมีฤทธิ์จิตหยาบช้า คอยวัดรอยเท้าทรพาพ่อของตนจนเท่าจึงไปสู้รบฆ่าบิดาตาย ยิ่งกำเริบฤทธิ์ขึ้นไปท้าพระอิศวรรบถึงวิมานเขาไกรลาส พระอิศวรให้ลงมาสู้กับพาลีและสาปให้ตายด้วยฤทธิ์ของพาลี เมื่อพาลีถูกทรพีมาท้าทายสังเกตว่าทรพีมีฤทธิ์และกำลังผิดธรรมดา จึงออกอุบายให้ไปสู้รบในถ้ำแล้วสั่งสุครีพน้องชายให้หมั่นพาพลมาตรวจดูหน้าถ้ำ ถ้าเห็นเลือดข้นไหลออกมาหมายความว่าตนมีชัยชนะ แต่ถ้าเลือดใสหมายความว่าตนสิ้นชีวิต ให้รีบขนหินมาปิดปากถ้ำอย่าให้ทรพีออกมาได้ สั่งแล้วก็เข้าไปรบกับทรพีในถ้ำ สู้กันอยู่นานไม่อาจชนะได้พาลีสงสัยว่าคงมีเทวดาคอยรักษากายจึงร้องถามแต่ทรพีควายอกตัญญูมิได้รู้คุณเทวดา กลับตอบว่าเก่งด้วยตนเองไม่มีเทวดาช่วยเหลือ เมื่อสิ้นคำเทวดาต่างพากันออกจากกาย ทรพีจึงถูกพาลีฆ่าตาย ขณะนั้นบังเกิดฝนตกลงมาชะล้างเลือดทรพีที่มีสีข้นกลายเป็นเลือดใส เมื่อสุครีพมาเห็นก็ตกใจและเสียใจคิดว่าพาลีตาย จึงสั่งพลลิงขนหินมาปิดปากถ้ำ




ฝ่ายพาลีเห็นปากถ้ำถูกปิดก็โกรธ คิดว่าสุครีพผูกใจเจ็บแค้นจะฆ่าตนเพราะเรื่องนางเทพดารา จึงตัดหัวทรพีขว้างทำลายปากถ้ำออกมาไล่ฟาดฟันขับไล่สุครีพออกจากเมืองโดยไม่ฟังเหตุผล สุครีพหนีมาในป่าจนมาพบหนุมานหลานชายพาไปเฝ้าพระราม พระลักษมณ์ กราบทูลเรื่องราวให้ทราบ พระรามรำลึกถึงคำพาลีที่เคยถวายสัตย์สาบาน จึงให้สุครีพไปท้าออกมารบเพื่อจะแผลงศรสังหาร เมื่อสุครีพล่อพาลีออกมาต่อสู้บนท้องฟ้า พระรามจึงแผลงศรพรหมาสตร์หมายจะสังหาร แต่ความเก่งกาจของพาลีสามารถจับลูกศรไว้ได้แล้วเหาะลงมาต่อว่าพระราม แต่เมื่อเห็นพระรามเป็นพระนารายณ์และกล่าวทวงสัตย์สาบาน พาลีก็สำนึกผิดทูลถวายชีวิตและฝากสุครีพพร้อมพลวานรถวายเป็นข้าพระรามแล้วสั่งสอนสุครีพจนเสร็จสิ้น ก็ใช้ลูกศรปักตัวเองถึงแก่ความตาย




สุครีพนำร่างพาลีกลับไปกรุงขีดขินแล้วนำไพร่พลวานรมาถวายเป็นข้าทหารตามสัตย์สัญญา พระรามจึงยกกองทัพข้ามมหาสมุทรไปทำสงครามกับทศกัณฐ์ยังกรุงลงกา ฝ่ายทศกัณฐ์รู้ข่าวก็บัญชาใช้ญาติวงศ์และมิตรสหายออกรบต่างพ่ายแพ้สิ้นชีวิต ทศกัณฐ์จึงยกกองทัพออกรบเป็นศึกใหญ่ แต่ไม่อาจชนะพระรามได้ต้องถอยทัพกลับเข้ากรุงลงกา พระรามรู้จากพิเภกว่าไม่สามารถสังหารทศกัณฐ์ได้เพราะถอดดวงใจออกจากร่างฝากไว้กับพระฤาษีโคบุตรผู้เป็นอาจารย์ ต้องให้ข้าทหารอาสาไปลวงเอามาทำลายแล้วแผลงศรซ้ำ หนุมานขออาสาและขอองคตไปด้วย เมื่อหนุมานวางอุบายลวงเอากล่องดวงใจทศกัณฐ์มาได้สำเร็จ มอบให้องคตเก็บรักษาไว้แล้วแกล้งให้พระฤาษีพาไปฝากตัวกับทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์ครั้นเห็นหนุมานเข้ามาก็โกรธแต่พอได้ฟังเหตุผลของพระโคบุตราก็ยอมรับหนุมานไว้แต่งตั้งให้เป็นอุปราช กรุงลงกา ทศกัณฐ์เสียรู้หนุมานถูกหลอกให้ออกรบจนถึงแก่ความตาย




เมื่อเสร็จศึกขณะนั้นครบเวลา ๑๔ ปีตามที่พระรามรับสัตย์ไว้ พระพรต พระสัตรุด และสามพระมารดาเสด็จมาพร้อมกระบวนเกียรติยศมาอัญเชิญพระราม นางสีดา และพระลักษมณ์ กลับคืนสู่กรุงศรีอยุธยา พระรามเสด็จขึ้น เถลิงถวัลยราชย์สมบัติเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา ยังความปลาบปลื้มโสมนัสแก่เหล่าบรรดาเทพบุตร นางฟ้า พากันมาร่วมรำร่ายถวายพระพรชัยมงคลแซ่ซ้องสรรเสริญพระบารมีสมเด็จพระรามและพระบรมวงศ์จักรีทุกพระองค์ให้ทรงพระเจริญ




โดยในปี ๒๕๖๗ นี้ กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ผสานสองมรดกที่ขึ้นทะเบียนรับรอง โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) “โขน - มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” และ “วัดไชยวัฒนาราม – โบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขตมรดกโลก” กับการแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี ณ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ ๙ - ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๗ เพื่อสืบสานและเชิดชูวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า สอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานที่มุ่งหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย รวมถึงในระดับนานาชาติ




การเดินทางไปจังหวัดอยุธยาจากกรุงเทพมหานคร
รถยนต์ส่วนตัว : จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้หลายเส้นทางดังนี้

ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ (ถนนพหลโยธิน) ขับผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๒ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๙ เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐๔ (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข ๓๐๒ (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๐๖ (ถนนติวานนท์) แล้วข้ามสะพานนนทบุรีหรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานีต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข ๓๑๑๑) เลี้ยวแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๒๖๓ เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้จากแอปพลิเคชัน Google Map

รถตู้ นักท่องเที่ยวสามรถขึ้นรถตู้กรุงเทพ-อยุธยาได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ ๖๐ บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดขึ้นลงรถ

รถไฟนักท่องเที่ยว สามารถใช้บริการรถไฟที่วิ่งเส้นทางสายเหนือจากสถานีหัวลำโพง ลงที่สถานีพระนครศรีอยุธยา โดยมีขบวนรถไฟให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๔.๐๐ – ๒๒.๔๕ น. ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ ๑๕ บาทสำหรับรถไฟชั้น ๓ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยที่เบอร์ ๑๖๙๙๐ หรือ https://www.railway.co.th


การเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม


รถยนต์ส่วนตัว วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่บริเวณนอกเกาะอยุธยา โดยใช้เส้นทางวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานกษัตราธิราช เมื่อลงจากสะพานให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ ๗๕๐ เมตร จะพบกับตัววัด(มีที่จอดรถบริการที่หน้าวัด)


รถตุ๊กตุ๊กภายในตัวเมืองอยุธยา มีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการในอัตรา ๒๐-๔๐ บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับการเหมารถ ค่าเช่าตุ๊กตุ๊กต่อชั่วโมงจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ ๒๐๐ บาท

Grabcar พื้นที่จ.อยุธยามีระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab ให้บริการ โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ https://grb.to/2F9a2bx เวลาในการเปิด–ปิดทำการ วัดไชยวัฒนารามเปิดทำการทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๘.๐๐ น.













ภาพและข้อมูลจาก
mgronline.com
เพจ Chanadetch Meng's Jeweler Chawgeranai 
suthiratfoundation.or.th






บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่





 

Create Date : 10 มีนาคม 2567
0 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2567 21:53:14 น.
Counter : 678 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณRain_sk, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณSleepless Sea, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณSweet_pills, คุณดอยสะเก็ด, คุณThe Kop Civil, คุณร่มไม้เย็น, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณnewyorknurse, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณkae+aoe, คุณmultiple, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณtuk-tuk@korat, คุณดาวริมทะเล, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณ**mp5**, คุณชีริว, คุณpeaceplay, คุณทนายอ้วน, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณวลีลักษณา, คุณmariabamboo, คุณkatoy


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.