happy memories
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
9 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒o๑





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์
ขุนอิน



วันที่ ๑๘-๒๑ เมษายน พ.ศ. ๑๕๕๘ ที่จะถึงนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดงาน "ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจัดงานก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ในวาระครบรอบ ๒๓๓ ปี นอกจากนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมยังได้เห็นความสำคัญของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์เเห่งราชวงศ์จักรี ที่พระองค์ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์รวมถึงพระมหากษัตริย์อีกทุกๆ พระองค์ที่ทรงมีความสำคัญต่อเหตุการณ์ในเเต่ละยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นกระทรวงวัฒนธรรมจึงได้จัดริ้วขบวนเเห่ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของการจัดงาน โดยริ้วขบวนที่ว่านี้จะมีความยาวกว่า ๒ กิโลเมตรและใช้ชื่อริ้วขบวนว่า "ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์" โดยจะเริ่มขบวนตั้งเเต่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยไปจนถึงท้องสนามหลวง และเเบ่งออกเป็น ๙ ขบวนตามลำดับที่มีความสำคัญของเเต่ละยุคสมัยในรัชกาลต่าง ๆ ตั้งเเต่ ๑ ถึง ๙ ดังนี้


ในขบวนที่ ๑ ใช้ชื่อว่า "สร้างบ้านสร้างเมือง" มีเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในยุครัชกาลที่ ๑ เช่น สงคราม ๙ ทัพเเละริ้วขบวนนี้ก็จะนำโดยดารารับเชิญคุณศรราม เทพพิทักษ์


ริ้วขบวนที่ ๒ ชื่อว่า "เฟื่องฟูวรรณกรรม" ก็คือยุคของรัชกาลที่ 2 โดยมีดารารับเชิญคุณนุ่น วรนุช เเต่งกายเป็นนางสีดาอยู่ในริ้วขบวนนี้


ขบวนที่ ๓ ใช้ชื่อว่า "เลิศล้ำเศรษฐกิจ" ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๓ นั้นเป็นยุคที่การค้าไทยกับจีนนั้นเจริญรุ่งเรืองมาก ริ้วขบวนก็จะเป็นสำเภาจีนจำลองพร้อมการเเสดงลอดลายมังกร ต่อมาใน ริ้วขบวนที่ 4 ในยุคสมัยรัชกาลที่ ๔ ก็จะใช้ชื่อว่า "แนวคิดอัจฉริยะ" ริ้วขบวนเเสดงจะเป็นการเเสดงเเสงสีเสียงสื่อผสมยิมนาสติกจากนักเเสดงไทยเเลนด์ก๊อตทาเล้นต์


ขบวนที่ ๕ ใช้ชื่อว่า "วัฒนธรรมสู่สากล" ริ้วขบวนจะเป็นรถไฟจำลองซึ่งเป็นการเเสดงถึงความเจริญในด้านการคมนาคมเเละสาธารณูปโภคในยุครัชกาลที่ ๕ ส่วนใน


ขบวนที่ ๖ ก็จะใช้ชื่อว่า "มากล้นการศึกษา" ริ้วขบวนก็จะสื่อถึงความเจริญทางการศึกษา การก่อกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ขบวนที่ ๗ ใช้ชื่อว่า "ประชาธิปไตย" ริ้วขบวนจะสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง การจัดระเบียบศิลปวัฒนธรรมไทย ริ้วขบวนจะผ่านการเเสดงโดยขุนอิน ด้วยการประชันระนาดกลางถนนราชดำเนิน ส่วนใน


ขบวนที่ ๘ ใช้ชื่อว่า "นำไทยสามัคคี" สื่อถึงความสุขที่กลับมาในรัชกาลที่ ๘ ของชาวสยาม และจะเป็นการเเสดงลีลาศในบทเพลงสุนทราภรณ์ ขับร้องโดยคุณเศรษฐา ศิระฉายา


ขบวนที่ ๙ ใช้ชื่อว่า "มากล้นพระบารมี" รถขบวนเศรษกิจพอเพียงเเละมีการเเสดง "หรอย เริงรื่น ม่วนซื่น โฮเเซว" สื่อถึงวิถีชีวิตเกษตรกรชาวไทยนำโดย คุณตุ๊กกี้ ชิงร้อย


เป็นยังไงบ้างครับริ้วขบวนเเห่ทั้ง ๙ เเละยังไม่หมดนะครับจากนั้นจะเป็นการขับร้องเพลง "ครองแผ่นดินโดยธรรม" จากนักเเสดงทั้งหมดกว่า ๒ พันคน ซึ่งเอาเเค่ในวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ เพียงวันเดียวก็ยิ่งใหญ่สวยงามอลังการ แล้วยังไม่รวมถึงการเเสดงบนเวที ที่ท้องสนามหลวงอีกจนถึงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ ซึ่งจะมีรายละเอียดที่เวทีใหญ่บริเวณท้องสนามหลวงดังนี้


วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ หลังจากริ้วขบวนเเห่ถึงบริเวณท้องสนามหลวงเเล้ว ในเวลา ๑๘.oo น. โดยประมาณก็จะเป็นพิธีเปิด โดยมีพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน ต่อจากนั้นก็จะเป็นโชว์การประชันระนาดของขุนอิน โตสง่า การเเสดงจำอวดหน้าม่าน และคอนเสิร์ตหนูนา โดม เดอะสตาร์ วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ สมาคมศิลปะเพื่อเยาวชน การเเสดงนาฏศิลปสี่ภาค มหกรรมลีลาสวงสุนทราภรณ์ เเละลิเกไชยยา มิตรชัย วันที่ ๒o เมษายน ๒๕๕๘ มหกรรมเเตรวง เพลงพื้นบ้านภาคกลาง การประกวดกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ ดนตรีลูกทุ่งรุ่ง สุริยา และจินตหรา พูลลาภ วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นวันที่ครบรอบกรุงรัตนโกสินทร์อย่างเเท้จริงก็จะเริ่มการเเสดงด้วยคอนเสิร์ตศิลปินเเห่งชาตินำโดยครูสุเทพ วงษ์กำเเหง ครูผ่องศรี วรนุช เพลิน พรหมเเดน และอีกหลายๆ ท่านและจบด้วยการเเสดงโขนตอนนารายณ์อวตาล จากกรมศิลปากร นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการต่างๆ ที่เกี่ยวกับกรุงรัตนโกสินทร์และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยเเละอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิดเอาเป็นว่า ๑๘-๒๑ เมษายนนี้ขอเชิญพี่น้องชาวไทยมาร่วมกันเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๓๓ ปี ที่ท้องสนามหลวงด้วยกันทุกท่าน



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net
คอลัมน์​ "โลกใบนี้ดนตรีไทย"นสพ.คม ชัด ลึก ๙ เม.ย. ๒๕๕๘














ตามรอยพระยุคลบาทในหลวงกับองคมนตรี



เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อาจารย์ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ ได้รังสรรค์พระฉายาสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภาพมีโทนสีม่วงอันเป็นสีประจำวันราชสมภพ อาจารย์ชูศักดิ์ขอรวมใจคนไทยทั้งประเทศถวายพระพรในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้


อาจารย์ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในวงการศิลปะว่า เป็นศิลปินที่จงรักภักดีและเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์งานภาพเขียนพระราชวงศ์มากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย อาจารย์เล่าถึงแรงบันดาลใจในการวาดพระฉายาสาทิสลักษณ์นี้ว่า


“ได้เห็นภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตามเสด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานมาตลอด ได้เห็นพระองค์ท่านทรงจดบันทึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือราษฎร พระองค์ท่านทรงงานเพื่อแผ่นดินตั้งแต่ทรงพระเยาว์ตราบจนพระชนมายุย่างเข้า ๖o พรรษา คนไทยได้ประโยชน์จากพระเมตตาของพระองค์ ในฐานะคนวาดรูปขอวาดพระฉายาสาทิสลักษณ์เพื่อร่วมใจกับคนไทยทั้งประเทศถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญและทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน”


นอกจากพระฉายาสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อาจารย์ชูศักดิ์ยังมีผลงานที่ภาคภูมิใจมากคือ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มากมายหลายภาพ แต่หนึ่งในภาพที่อาจารย์ภูมิใจที่สุดในชีวิตจิตรกรคือ ภาพชื่อ “พระมิ่งขวัญคู่บารมีของแผ่นดิน” เป็นภาพเขียนสีอะคริลิกบนผืนผ้าใบขนาด ๘ คูณ ๘ เมตร ติดตั้งเป็นมิ่งขวัญประดับอาคารสินธรทาวเวอร์ ถนนวิทยุ อาจารย์เขียนภาพนี้โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นทั้งมิ่งขวัญ กำลังใจ และพลังใจของคนไทยทั้งสยามประเทศ อาจารย์อยากจะสื่อให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อคนไทยและประเทศไทย เมื่อคนไทยมองภาพนี้จะระลึกถึงคำสอนของพระองค์ที่ให้ครองตนด้วยสติ ไม่ประมาทหรือมัวเมา ตั้งอยู่ในความพอเพียง


อาจารย์ชูศักดิ์ได้เปิดเผยความในใจไว้ว่า “สำหรับตัวผมที่เป็นจิตรกร ได้มีโอกาสสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตนเองรักและเทิดทูน ผมรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่ได้เกิดเป็นคนไทยในรัชกาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ถือว่าเป็นทั้งโชคเป็นทั้งบุญ ผมได้ใช้ทั้งความรู้สึกและจิตวิญญาณทั้งหมดสร้างงาน “พระมิ่งขวัญคู่บารมีของแผ่นดิน” เพื่อเก็บไว้เป็นชิ้นงานประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความภักดีของคนในยุคนี้ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ การที่งานชิ้นนี้ได้ติดตั้งอยู่ในอาคารสินธรทาวเวอร์ที่มีคนเข้ามาใช้บริการหลายพันคนต่อวันยิ่งทำให้ผมมีความสุขใจมาก” อาจารย์จบประโยคด้วยรอยยิ้มของศิลปินอารมณ์ดี


ชิ้นงานขนาด ๘ คูณ ๘ เมตร นับว่าใหญ่มากแล้ว อาจารย์ยังซุ่มทำงานขนาดยักษ์ยาวถึง ๘o เมตร เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาจารย์ได้ทุ่มเททำงานชิ้นนี้มาสี่ปีแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า นับเป็นงานศิลปะที่มีความยาวมากที่สุดชิ้นหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว


สำหรับผู้ที่ชื่นชอบผลงานของอาจารย์ชูศักดิ์ติดตามผลงานของอาจารย์ได้จากภาพเขียนและประติมากรรมชุดต่าง ๆ เช่น ภาพเขียน “สังเวชนียสถาน 4” บนผนังทั้งสี่ทิศภายในเจดีย์หลวงปู่มั่น วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี จิตรกรรมฝาผนัง อาคารแสดงธรรมหลังใหม่และผลงานประติมากรรมนูนต่ำที่วัดพระราม ๙ รวมถึงภาพเขียนในโบสถ์ของวัดไทย ณ เมืองเคลเลอร์ มลรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา


ข่าวดี! คืออาจารย์ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ กำลังจะมี “งานแสดงภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ถึง ๓o ภาพ” ภายใต้ชื่องานนิทรรศการ “ตามรอยพระยุคลบาทในหลวงกับคณะองคมนตรี” จัดโดยคณะองคมนตรี ที่ซีคอนสแควร์ บางแคตั้งแต่วันที่ ๑o-๑๕ เมษายนศกนี้ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยและผู้สนใจแวะเวียนไปชมกันได้.











































ภาพและข้อมูลจาก
dailynews.co.th














รอยยิ้มของปวงชนชาวไทย



ไม่ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ไปพื้นที่ไหน ภาพที่คนไทยจะได้เห็นเป็นอันดับแรกคือรอยแย้มพระสรวลที่เปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตาต่อปวงชน เหตุนี้ในโอกาสมหามงคลฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ รัฐบาล ได้ร่วมกับ หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้หัวข้อ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” เพื่อเผยแพร่พระราชจริยวัตรอันงดงาม และพระปรีชาสามารถ รวมทั้งพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย รวมทั้งประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอาเซียน โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ บริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันก่อน


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ นี้เกิดขึ้นจากความรักและความผูกพันของคนไทยที่มีต่อเจ้าฟ้ามหาจักรีที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทรงเป็นนักพัฒนาและมีความเป็นครูบาอาจารย์ เสด็จฯ ตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ มาตลอด ๖o ปี อยู่ในความทรงจำของคนไทย


“ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เห็นพระรูปแห่งความทรงจำ ทุกภาพมีความหมาย มีคุณค่าต่อคนไทยทั้งแผ่นดิน คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นภาพ มีภาพพระฉายาลักษณ์วันที่ทรงบรรจุเป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทรงทำงานเป็นอาจารย์เช่นสามัญชน ด้วยรักและห่วงใยชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสอนตลอด ๖o พรรษา ความเป็นครูมีคุณค่ายิ่ง ทรงดำเนินรอยตาม ไม่เฉพาะโรงเรียนนายร้อย แต่รวมสถาบันการศึกษาอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน ทรงทำงานหนัก แต่นั่นคือ ความรักที่พระองค์อยากพระราชทานให้ชาวไทย จึงควรตระหนักและช่วยกันรักษาบ้านเมือง นำความรักสามัคคีให้กลับคืนมาในชาติ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพรียงกัน" ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


ด้านคุณยาย วิรัช เพชรรัตน์ จากหาดใหญ่ที่ชวนลูกและหลานชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เผยว่า ทุกครั้งที่เห็นพระองค์ทรงแย้มพระสรวลมีความสุขมาก ทรงเป็นเจ้าฟ้าที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ ทุกประเทศที่เสด็จฯ ไปก็มีแต่รอยยิ้ม สงสารพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยจากพระราชกรณียกิจ ไม่ได้พักเลย ทรงรักประชาชนของพระองค์


นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” แบ่งเป็นเนื้อหา ๓ ส่วนได้แก่ส่วนที่ ๑ พระปรีชาสามารถส่วนที่ ๒ พระราชจริยวัตรโดยแบ่งตามช่วงพรรษาและส่วนที่ ๓ พระกรุณาธิคุณมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ด้วยเครื่องสายและเครื่องเป่าโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทุกวัน รอบที่ ๑ เวลา ๑๖.๓o -๑๗.๓o น. รอบที่ ๒ เวลา ๑๘.oo-๑๙.oo น. โอกาสนี้พสกนิกรทั่วไทยจะได้ชื่นชมพระราชจริยวัตรที่งดงามพร้อมรอยยิ้มของพระองค์ผ่านนิทรรศการและพระฉายาลักษณ์ตลอด ๖o พรรษา ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กรุงเทพมหานคร จะจัดแสดงจนถึง วันที่ ๘ เมษายน นี้ ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๖ เมษายน ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ ๗-๑o พฤษภาคม ที่หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จ.สกลนคร ภาคกลาง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ พฤษภาคม ที่ หอประชุมพิพัฒน์มงคล องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๔-๗ มิถุนายน ที่หอประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จ.กระบี่







ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร



ในโอกาสอันเป็นศุภมงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ๙ มทร.ร่วมใจเทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร ในฐานะเป็นข้าแผ่นดินรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง ๙ มทร. พร้อมใจกันถวายพระพรชัยมงคล ขอให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตเป็นขวัญและกำลังใจของปวงชนชาวไทยตลอดกาล และขอถวายปฏิญาณจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และร่วมแรงร่วมใจในการสร้างสรรค์พัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าสืบไป ชาวราชมงคลจัดโครงการ ๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ ๗ “เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมเฉลิมฉลอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘โดยในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เป็นเจ้าภาพ


รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า โครงการ ๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ ๗ การพัฒนาเครือข่ายงานประกันคุณภาพกิจกรรมนักศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง ๙ แห่ง ได้แก่ มทร.ธัญบุรี, มทร.อีสานมทร.พระนคร, มทร.สุวรรณภูมิ, มทร.ศรีวิชัย, มทร.กรุงเทพ, มทร.ล้านนา, มทร.รัตนโกสินทร์ และมทร.ตะวันออก โดยมีความคาดหวังในการส่งเสริมความรู้ในการประกันคุณภาพร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์องค์ความรู้ ทั้งนี้ภายในโครงการยังมีการจัดการแสดงและนิทรรศการกิจกรรม “๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย” เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และคงไว้ ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย ตลอดจนความภาคภูมิใจในความเป็นไทย การดำเนินการในครั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง ๙ แห่ง มีแนวคิดในการเผยแพร่สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงาม พร้อมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างเจตคติที่ดีต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้แก่เยาวชนและชนชาวไทย สร้างความรัก ความสามัคคี เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ทาง มทร.ธัญบุรี จึงได้จัดงานเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในครั้งนี้


“จักร” นายจักรกฤษณ์ คงทอง นักศึกษาชั้นปีที่ ๔ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ นายกองค์การนักศึกษา มทร.ธัญบุรี เล่าว่า สำหรับปีนี้ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน “๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ ๗” เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง “เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร” เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ กิจกรรมภายในงาน พิธีถวายสังฆทานเพื่อเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดแสดงนิทรรศการ ๙ ราชมงคลร่วมใจ สืบสานวัฒนธรรมไทย เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาเครือข่ายประกันคุณภาพกิจกรรมนักศึกษา การแสดงศิลปวัฒนธรรมจาก ๙ มทร. นอกจากนี้ทางมทร.ธัญบุรี ยังมีมหรสพมากมายภายในงาน รำวงย้อนยุค หนังกลางแปลง และร่วมแต่งกายผ้าไทยภายในงาน ซึ่งงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ - ๔ เมษายน ๒๕๕๘ และในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ขอเชิญร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ลานอนันต์รังสรรค์ มทร.ธัญบุรี


“เสธ” นายพีรพล พุกโหมด นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาเครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม นายกองค์การนักศึกษา มทร.พระนคร นิทรรศการในด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน เห็นได้จากที่พระองค์ท่านทรงเสด็จไปยังประเทศจีน เรียนรู้ภาษาจีน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีนแน่นแฟ้นขึ้น นักศึกษาจีนที่มาศึกษายัง มทร.พระนคร สาธิตการทำ “โจงโก๋เจ๋” เชือกมงคลของประเทศจีน ในนามตัวแทนของนักศึกษา มทร.ธัญบุรี สำนึกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยฯ เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ท่านตลอดไป


“ปาล์ม” นายณพล สถวิรวงศ์ นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ นายกองค์การนักศึกษา มทร.รัตนโกสินทร์ เล่าว่า ๑ ปี จะมีการจัดงานนี้ เป็นโครงการที่ดี ทำให้นักศึกษาทั้ง ๙ มทร. ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมไปจนถึงวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นที่มหาวิทยาลัยฯ ตั้งอยู่ ในการจัดงานปีนี้ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้นำพระสาทิสลักษณ์รูปสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน ๔ ภาพ โดยเป็นผลงานการวาดของอาจารย์ที่วิทยาลัยเพาะช่าง ภูมิใจที่ได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล “๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย” งานที่ทำให้ชาวราชมงคลทั้ง ๙ มทร. ได้มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน


“โต๊ด” นายสุพัฒน์ พันธุ์ไพโรจน์ นักศึกษาชั้นปีที่ ๔ สถาบันเทคโนโลยีการบิน นายกองค์การนักศึกษา มทร.ตะวันออก เล่าว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ท่านได้พระราชทานเครื่องดนตรีไทยแก่ มทร.ตะวันออก โดยทางมหาวิทยาลัยฯ ได้นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ซึ่งการทรงดนตรีไทยเป็นพระปรีชาของพระองค์ท่าน ทรงอนุรักษ์ดนตรีไทยไม่ให้หายไปจากประชาชนชาวไทย จากที่ได้เห็นพระองค์ทรงงานหนัก ด้วยความเป็นห่วงพสกนิกรของพระองค์ท่าน ตนเองจึงยึดตัวอย่างในด้านความเพียรพยายามของพระองค์ท่าน มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต


ทางด้านนายกองค์การนักศึกษา มทร.สุวรรณภูมิ “เล็ก” นายณัฐพงษ์ พรหมหา นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ เล่าว่า มทร.สวุรรณภูมิร่วมใจจงรักภักดี แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นิทรรศการที่พร้อมใจการจัดขึ้นในงานนี้ ภูมิใจที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยฯ แห่งนี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขอเป็นข้ารองฝ่าพระบาทพระองค์ตลอดไป ความเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง ๙ มทร. จะประพฤติตนเป็นคนดีและช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป


ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาทั้ง ๙ มทร. น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปินสิรินธร” ๙ ราชมงคลร่วมใจสืบสานวัฒนธรรมไทย ให้อยู่คู่สังคมไทยสืบไป







ภาพและข้อมูลจาก
news.rmutt.ac.th 1
news.rmutt.ac.th 2












พระทรงเครื่อง พระมหาจักรพรรดิ.



รื่นเริงวันสงกรานต์ เฉลิมฉลองปีใหม่ไทย



ร่วมฉลองปีใหม่ไทยในเทศกาลมหาสงกรานต์ ซึ่งศูนย์การค้าดังร่วมสืบสานประเพณีกันอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มจากกลางใจเมือง ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรม “สงกรานต์...สืบสานประเพณีไทย สุขใจไทยทั่วหล้า ๒๕๕๘” ในวันที่ ๑o-๑๕ เม.ย. ที่ฮอลล์ ออฟ เฟม และพาร์ค พารากอน ชั้น M โดยมีไฮไลต์ด้วยการอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณอันทรงคุณค่ารวม ๙ องค์ อาทิ พระประทานพร, พระไภษัชยคุรุ และพระพุทธรูปประทับรอยพระพุทธบาท, พระหายโศก เป็นต้น และยังมีกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ดั้งเดิมที่หาดูได้ยาก เช่น นิทรรศการชุดรดน้ำสงกรานต์ ๔ ภาค, การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย, การแสดงวัฒนธรรมร่วมอาเซียน (สงกรานต์อาเซียน) ฯลฯ


ส่วนศูนย์การค้า ใหญ่ย่านชานเมืองฝั่งตะวันออก พาราไดซ์ พาร์ค ถ.ศรีนครินทร์ จัดงาน “พาราไดซ์ พาร์ค มหกรรมเถลิงศก มหาสงกรานต์ สืบศิลป์แผ่นดินสยาม” โดยปีนี้ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุหรือพระเขี้ยวแก้ว จากประเทศอินเดีย มาให้คนไทยได้สักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลในเทศกาลปีใหม่ไทย พร้อมทั้งอัญเชิญมหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ เทวรูปท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ขจัดภัยอันตรายทั้งปวง, เทวรูปทศกัณฐ์ มหาราชาแห่งอสูรพงษ์ ผู้มีอำนาจราชศักดิ์เสน่หาร่ำลือใน ๓ โลก เงินทองมากมาย และเป็นครั้งแรกที่ได้มีการอัญเชิญหินลอยน้ำศักดิ์สิทธิ์จากมหาสมุทรอินเดีย และน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์จากศรีลังกา ถิ่นกำเนิดแห่งพุทธศาสนา รวมทั้งกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม อาทิ การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนยกรบ ในวันที่ ๑๒ เม.ย. เวลา ๑๖.oo-๑๗.oo0 น., เพลงฉ่อยพื้นฐาน, ลำตัดหวังเต๊ะ, การแสดงหุ่นกระบอก, นาฏยศาลาหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ เป็นต้น พร้อมเทศกาลอาหารอิ่มอร่อยทั่วทิศ ชิมและชมในงาน ได้ตั้งแต่วันที่ ๙-๑๕ เม.ย.


ศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ ถ.สุขุมวิท ๒๑ จัดงาน “โอทอป สงกรานต์หรรษา มหกรรมผ้าไทย” สืบสานวัฒนธรรมประเพณี ทั้งศิลปะการแสดงจากทั่วภูมิภาค เช่น หนังใหญ่ วัดขนอน, หุ่นละครเล็ก จากโจหลุยส์, นาฏมวยไทย แล้วยังจะได้พบกับสินค้าที่มาจากวัฒนธรรมอันหลากหลาย อาทิ ลายไทย เครื่องเงิน จากเชียงใหม่, เครื่องทองรัตนโกสินทร์ จากกาญจนบุรี, บาติกน้ำเต้าหู้-ดินสอพอง จากลพบุรี, ฝ้ายแกมไหม จากอุดรธานี, ผ้าทอไทลื้อ จากน่าน, ไหมไทย จากสุรินทร์ เป็นต้น โดยจัดงานที่ชั้น LG, G, M วันที่ ๙-๑๕ เม.ย.





พระประทานพรพระประทานพร





พระล้อม





พระไภษัชยคุรุ































ภาพและข้อมูลจาก
thairath.co.th














สงกรานต์ปากน้ำ เมืองโบราณ สมุทรปราการวิถีไทย



เมืองโบราณ ร่วมกับ เทศบาลตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ จัดงาน “สงกรานต์ปากน้ำ เมืองโบราณ สมุทรปราการวิถีไทย” ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo-๑๙.oo น. ณ บริเวณกิจกรรมสงกรานต์ถนน ๑oo ปี เมืองโบราณ เข้าชมฟรีตลอด ๕ วัน !


เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งแห่งแรกของโลก ร่วมกับ เทศบาลตำบลบางปูจังหวัดสมุทรปราการ เตรียมจัดงาน “สงกรานต์ปากน้ำ เมืองโบราณ สมุทรปราการวิถีไทย” พบกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร่วมสรงน้ำพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ก่อพระเจดีย์ทราย เพลิดเพลินไปกับการเล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยชมการแสดงวิถีไทย 4 ภาค อิ่มอร่อยไปกับร้านค้าอาหารท้องถิ่นมากมายระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo-๑๙.oo น. ณ บริเวณกิจกรรมสงกรานต์ถนน ๑oo ปี เมืองโบราณ ฟรี!! ค่าเข้าเที่ยวชมเมืองโบราณตลอด ๕ วัน











































ภาพและข้อมูลจาก
FB เมืองโบราณ
prachachat.net














สงกรานต์ผ้าไทย แลก Like ชาวศิริราช



ตามที่ คณะฯ จะจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ศิริราช ประจำปี ๒๕๕๘ “ศิริราชเชิดชู กตัญญูดำรง สรงน้ำอาจารย์ สงกรานต์ปีใหม่ ตำนานไทย ตำนานธรรม”ในวันศุกร์ที่ ๑o เมษายน ๒๕๕๘ ตั้งแต่เวลา ๙.๕o – ๑๔.oo น. ณ โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ และ บริเวณสนามหญ้าข้างลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก


ทั้งนี้ ขอเชิญบุคลากรและนักศึกษาวิทยาเขตบางกอกน้อย ร่วมส่งประกวดภาพถ่าย โครงการ “สงกรานต์ผ้าไทย แลก Like ชาวศิริราช” โดยมีรายละเอียด ดังนี้


๑. คุณสมบัติ/หลักเกณฑ์การร่วมกิจกรรม

๑.๑ ผู้ร่วมกิจกรรมเป็นบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หรือนักศึกษาในวิทยาเขตบางกอกน้อย

๑.๒ ถ่ายภาพเดี่ยว หรือหมู่คณะฯ (ไม่เกิน 5 คน)

๑.๓ บุคคลในรูปร่วมแต่งกายด้วยผ้าไทย

๑.๔ ถ่ายภาพคู่กับสถานที่สำคัญ ๆ ของโรงพยาบาลศิริราช

๑.๕ Upload ภาพขึ้นบน Facebook ของท่าน พร้อมระบุ ชื่อ – สกุล หน่วยงาน/ภาควิชา และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

๑.๖ ติด Hashtag คำว่า “#SiSongkran58”

๑.๗ ไม่จำกัดจำนวนเพื่อนที่ต้องการ Tag

๑.๘ สามารถส่งภาพถ่ายได้เพียง ๑ ภาพเท่านั้น


๒. เกณฑ์การตัดสิน

๒.๑ พิจารณาจากภาพถ่ายที่มีจำนวน Like มากที่สุด ๕ อันดับ

๒.๒ ภาพถ่ายที่ผ่านการคัดเลือกจะนำไปให้คณะกรรมการตัดสินเพื่อพิจารณาลำดับการให้รางวัลต่อไป

๒.๓ การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด


๓. ระยะเวลาร่วมกิจกรรม

สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้ – ๘ เมษายน ๒๕๕๘ ก่อนเวลา ๑๖.oo น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ ตึกอำนวยการ ชั้น ๑ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ o๒–๔๑๙-๗๖๕๕, ๙๗๖๕ และ ๙๖๙๑๒ (ผู้ประสานงาน : นางสาวเกรวี มณีโชติ)


๔. รางวัลการประกวด

๔.๑ รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล ๓,ooo บาท

๔.๒ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เงินรางวัล ๒,ooo บาท

๔.๓ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๒ เงินรางวัล ๑,ooo บาท

๔.๔ รางวัลชมเชย (จำนวน ๒ รางวัล) รางวัลละ ๕oo บาท


๕. การประกาศผล : ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลผ่านเว็บไซต์คณะฯ si.mahidol.ac.th ในวันศุกร์ที่ ๑o เมษายน ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจาก
si.mahidol.ac.th














'โหมโรง' ณ เคแบงก์สยามพิฆเนศ
นันทพร ไวศยสุวรรณ์



เปิดตัวได้สมศักดิ์ศรีจริง ๆ สำหรับสถานบันเทิงแห่งใหม่ใจกลางเมือง “โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ” ในบรรยากาศ “ปฐมฤกษ์” พร้อม “เบิกโรง” ละครเวทีแห่งความภาคภูมิใจ “โหมโรงเดอะมิสิคัล ไร้ราก ไร้แผ่นดิน” ที่ชั้น ๗ อาคารสยามสแควร์วัน สยามสแควร์ วันก่อน เรียกว่าสมใจ ๒ ยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัทเวิร์คพอยท์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย ที่จับมือกันจนเกิดเป็นสถานบันเทิงแห่งนี้

วันนั้นดิฉันได้ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย และให้รู้สึกดีมาก ๆ ที่เห็นการเปิดพื้นที่ให้แก่ศิลปะการแสดงเพิ่มขึ้นเพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากทั้งสองอย่าง... การสร้างโรงละคร เป็นการทุ่มทุนที่บอกเลยว่าปราบเซียน ส่วนการทำละครนั้น ก็เป็นงานหินไม่แพ้กัน!!

จนเมื่อได้เข้าไปสัมผัส จึงรับรู้ถึงความตั้งใจของคนรักศาสตร์ทั้ง ๒ แขนงจริง ๆ ระบบแสง สี เสียง และไฮดรอลิกต่าง ๆ ที่จะสามารถเนรมิตได้ในยุคนี้ โรงละครเคแบงก์ฯ จัดมาเต็ม

ส่วนของ “ละคร” ที่เลือกมาเพื่อ “เบิกโรง” ยิ่งเสริมความ “ขลัง” เข้าไปใหญ่! เพราะ “โหมโรง” เคยสร้างความประทับใจจากภาคของภาพยนตร์มาแล้ว การกลับมาในเวอร์ชั่นละครเวที เชื่อว่าทีมงานต้องทำอย่างสุดฝีมือจริง ๆ และก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ...

กว่า ๓ ชั่วโมง ละครชวนหัวใจให้เดินตามไปกับเรื่องราวของบ้านเมืองและเสียงดนตรี ในยุครัชกาลที่ ๕ ไปจนถึงยุค จอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยมี “ศร” เป็นคนเดินเรื่องสลับไปมา ตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งบั้นปลายของชีวิต

เป็นการร้อยเรียงเรื่องราวของคนระนาดที่ผ่านทั้งยุครุ่งเรืองที่สุด และยุคตกต่ำที่สุดของวงการดนตรีไทยได้อย่างแยบยล

เรื่องนี้คุณธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม หรือ”สังข์” แห่งโต๊ะกลมโทรทัศน์ กำกับร่วมกับ “ครูเงาะ” รสสุคนธ์กองเกตุ, ส่วนบท ดัดแปลงมาจากบทของคุณอิทธิสุนทรวิชัยลักษณ์, เรื่องของดนตรี แน่นอนว่าต้องเกณฑ์มาใน

ระดับยอดฝีมือ รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ด้วยอยากจะขอบคุณทีมงานทุกคน ที่ช่วยกันทำให้เสียง “ระนาด” ดังกึกก้องในหัวใจคนไทยอีกครั้ง!! ยิ่งได้พระเอกใน ๒ ช่วงวัย ยิ่งเหมือนฟ้าประทาน!นายศร ในวัยหนุ่ม รับบทโดย “อาร์ม” กรกันต์ สุทธิโกเศศ หนุ่มหน้ามนคนนี้ นอกจากร้องเพลง เล่นละครเวที และเป็นพิธีกรแล้ว เขายังมีพื้นฐานการเล่นระนาดเป็นทุนเดิมด้วยถ้าไม่ใช่เพราะความทุ่มเทฝึกซ้อม จนสามารถ

ประชันมือระนาดระดับครูให้เราอ้าปากค้างได้ คงยากที่จะมี “นายศร” ที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้... ต้องยกนิ้วให้จริง ๆ

ขยับมาสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ เป็น “ท่านครู” ที่ผู้คนเคารพนับถือ รับบทโดย “พ่ออี๊ด”สุประวัติ ปัทมสูตก็ยิ่งทำให้เราเชื่อพัฒนาการในตัวนายศรอย่างไม่มีข้อสงสัย ด้วยโครงเรื่อง ด้วยฝีไม้ลายมือของนักแสดง และด้วยฉาก แสง สี แสง ทำให้ “โหมโรง เดอะมิวสิคัลฯ”

สนุกและประทับใจที่สุดแล้วจะไม่ยกให้เป็นการถือฤกษ์เบิกโรงที่วิเศษสุดได้อย่างไร โหมโรง เดอะมิวสิคัลฯ เปิดการแสดงแล้วตั้งแต่ วันที่ ๔ เมษายนนี้ คุณที่รักในศิลปะการแสดง รักในศิลปะดนตรี และรักในรากเหง้าแห่งแผ่นดิน จะไม่อยากไปพิสูจน์หน่อยหรือและคงได้พบกัน เพราะมั่นใจว่าดิฉันต้องไปฟัง
เสียงระนาดซ้ำอีกครั้งแน่นอนค่ะ!!



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net
คอลัมน์ "มองผ่านเลนส์คม" นสพ.คม ชัด ลึก ๖ เม.ย. ๒๕๕๘














นิทรรศการสัญจร เจาะลึกเส้นทางนักออกแบบระดับตำนาน
Essential Eames ต้นแบบงานดีไซน์แห่งศตวรรษที่่ ๒o



เมื่อพูดถึงชื่อของชาร์ลส์และเรย์ อีมส์ หลายคนมักนึกถึงผลงานเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ Eames Lounge and Ottoman เก้าอี้ Moulded Plastic Chair หรือ เก้าอี้ Lounge Chair Wood ที่ได้รับการขนานนามจากนิตยสารไทม์ให้เป็น “ดีไซน์แห่งศตวรรษ” และกลายเป็นสัญลักษณ์ของงานออกแบบอเมริกัน ชาร์ลส์ อีมส์ (๑๙o๗-๑๙๗๘) เป็นสถาปนิก และเรย์ อีมส์ (๑๙๑๒-๑๘๙๙) เป็นศิลปินแนวแอ็บสแทร็ก ชาร์ลส์ และเรย์พบกันที่แครนบรูก อะคาเดมี ออฟ อาร์ต รัฐมิชิแกนในปี ๑๙๔o ขณะนั้นชาร์ลส์เป็นหัวหน้าภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรมและเรย์เป็นศิลปินแนวแอ็บสแทร็กที่มาเริ่มเรียนด้านการออกแบบ การพบกันครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองกลายเป็น “คู่ชีวิต” และ “คู่คิด” ในการทำงาน





ชนินทร์ สิริสันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ชนินทร์ ลิฟวิ่ง, มร.อีมส์ ดีมีเทรียส,
อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC),
มร.อีมส์ ดีมีเทรียส หลานชายของชาร์ลส และเรย์ อีมส์



จวบจนวันนี้ผลงานการออกแบบของสองสามีภรรยาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักออกแบบชาวอเมริกันคนสำคัญ โดยเหล่านักสร้างสรรค์และนักออกแบบชาวไทยสามารถค้นพบเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ผลงานของทั้งสองได้รับการยอมรับให้เป็นต้นแบบงานดีไซน์แห่งศตวรรษที่ ๒o ผ่าน Essential Eames : Icons of 20th Century Design (Essential Eames-ต้นแบบงานดีไซน์แห่งศตวรรษที่ ๒o) นิทรรศการสัญจรโดย เฮอร์แมน มิลเลอร์ ร่วมกับ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และ บริษัท ชนินทร์ ลิฟวิ่ง จำกัด ซึ่งนำมาจัดแสดงที่ประเทศไทย ระหว่างนี้จนถึง ๓๑ พฤษภาคมนี้ณ แกลเลอรี่ ๒ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น ๕ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม





อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC),
มร.เจอเรมี่ ฮ็อคกิ้ง รองประธานภาคพื้นเอเชีย เฮอร์แมน มิลเลอร์






ปเรตร์ อรรถวิภัชน์, ชนินทร์ สิริสันต์, ภาวิชญา ภาวิจิตร,
อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC), มร.อีมส์ ดีมีเทรียส,
มร.เจอเรมี่ ฮ็อคกิ้ง, พิชิต วีรังคบุตร ผอ.ฝ่ายกิจกรรมและนิทรรศการ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)




















ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














แต่งกายผ้าไทยเฉิดฉายกลางห้างหรู



ผ้าไทยสวยชนะใจทุกคนอยู่แล้ว ยิ่งมาสวมใส่บนเรือนร่างไม่ว่าจะชายหญิง ยิ่งดึงดูดสายตาชื่นชมจากคนที่พบเห็นได้อย่างมากมาย ดูอย่างวันก่อนแบรนด์กระเป๋าผ้าไทย "โจ แบก" (Jo's Bag) จัดแฟชั่นโชว์กระเป๋าจากผ้าไทยพร้อมด้วยเครื่องแต่งกายแบบไทยโบราณจากกลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ และห้องเสื้อสันชัย (Sanshai) ผ่านกิจกรรม "ยุคทองของผ้าไทย" เพื่อสนองพระราชดำริดำริใน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านการอนุรักษ์ผ้าไทย และเผยแพร่ประวัติความเป็นมาของผ้าไทยในรูปแบบของนิทรรศการผสมผสานกับแฟชั่นโชว์ เพื่อให้ได้เห็นถึงความงดงามของผ้าไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยรุ่นใหม่ได้รู้จักนำผ้าไทยมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และเกิดจิตสำนึกที่ดีร่วมกันในการช่วยอนุรักษ์ผ้าไทยใหเคงอยู่สืบไป



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














ลายผ้ามัดหมี่บนจานเซรามิก สร้างงานศิลปะบนโต๊ะอาหาร



ชุดอาหารเซรามิก ฝีมือของ “พรสุวารี อินทร์เอี่ยม” นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ที่หยิบเอาลวดลายของผ้ามัดหมี่ มาตกแต่งเพิ่มสีสันบนชุดอาหารตะวันตก วางตำแหน่งเป็นสินค้าสำหรับธุรกิจโรงแรมและเป็นของที่ระลึก


พรสุวารี เล่าว่า ผ้ามัดหมี่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสีสันและลวดลายที่เกิดขึ้นจากการนำเส้นด้ายมามัดเป็นเปลาะ ๆ แล้วนำไปย้อมสี ถือเป็นภูมิปัญญาที่ต้องอาศัยทักษะเชิงศิลปะชั้นสูง ลวดลายผ้ามัดหมี่โดยส่วนใหญ่ตั้งแต่สมัยโบราณจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวตามธรรมชาติ ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมประเพณี การอนุรักษ์และสืบสานผ้ามัดหมี่และลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้นำลวดลายผ้ามัดหมี่ มาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบชุดอาหารเซรามิก


“สาเหตุที่เลือกทำงานเซรามิก เพราะเกิดจากความชอบเป็นส่วนตัว รวมถึงมีทักษะความรู้ จากการเรียนในวิชาเอกเครื่องปั้นดินเผา ที่ มทร.ธัญบุรี และมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุจินต์ เพิ่มพูน เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา โดยนำลวดลายความเป็นไทยของผ้ามัดหมี่มาตกแต่งลงบนขอบจานเพื่อให้มีสีสัน เพิ่มความสวยงาม อรรถรสในการรับประทานอาหารและความหลากหลายของลวดลายที่มีอยู่เดิมให้มากยิ่งขึ้น”


“ชุดอาหารตะวันตกเซรามิกที่ออกแบบนี้ เป็นชุดอาหารมื้อเย็น ๑ ชุด สำหรับ ๒ ที่ มีจำนวนทั้งหมด 8 ชิ้น คือ จานแบนขนาดใหญ่ จานแบนขนาดกลาง จานรอง และถ้วยซุป ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒๘, ๒๔, ๑๔ และ ๙ เซนติเมตร ตามลำดับ โดยยึดมาตรฐานผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร”


“การออกแบบลวดลายผ้ามัดหมี่เพื่อการผลิตนี้ ตนได้ศึกษาข้อมูลผ้ามัดหมี่ในลวดลายดอกพิกุล ลายสามกษัตริย์ ลายหมี่ขอ จากอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี และได้คิดค้นพัฒนาลวดลายขึ้นมาใหม่ ส่วนกระบวนการผลิต ตนได้ใช้เนื้อดินสโตนแวร์เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ใช้วิธีการขึ้นใบมีด ตกแต่งด้วยการติดรูปลอก เผาเคลือบที่อุณหภูมิ ๑,๒oo องศาเซลเซียส เผาตกแต่งที่อุณหภูมิ ๘oo องศาเซลเซียส จนสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์”


“จุดเด่นของชุดอาหารตะวันตกเซรามิกอยู่ที่เทคนิคการเผาเคลือบและการเผาตกแต่ง ซึ่งจะให้พื้นผิวของผลิตภัณฑ์มีสีที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีลวดลายความเป็นไทยของผ้ามัดหมี่จากการออกแบบ มีการเลือกใช้สีที่กระตุ้นให้เกิดความอยากรับประทานอาหาร และหากผลิตเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์ จะวางตำแหน่งชุดอาหารตะวันตกเซรามิกนี้เป็นสินค้าสำหรับธุรกิจโรงแรมและเป็นของที่ระลึกสุดพรีเมี่ยม อันบ่งบอกถึงความเป็นไทยอย่างชัดเจน”


พรสุวารี เผยต่ออีกว่า ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจชุดอาหารเซรามิกลายผ้ามัดหมี่มากมาย และติดต่อให้ออกแบบและผลิต ซึ่งต้องพิจารณาทั้งแหล่งผลิตและกำลังการผลิตต่อไป แต่จะยึดเทคนิค วิธีการผลิต และการนำไปใช้สอนได้จริงจากชุดอาหารเซรามิกนี้ แผนธุรกิจในอนาคตจะยังคงเน้นผลงานศิลปะเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาต่อไป รวมถึงออกแบบคิดค้นในผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อทำให้ผลงานด้านศิลปะอันแสดงออกถึงความเป็นไทย สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้มากยิ่งขึ้น















ภาพและข้อมูลจาก
news.rmutt.ac.th














นานาหน้า (Faces)



"นานาหน้า"
โดย วิทยา สุดประเสริฐ
ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ณ ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรี่ (ถนนพระราม ๔)


นิทรรศการ “นานาหน้า” นำเสนอผลงานจิตรกรรมสีอะคริลิกบนผ้าใบ โดย วิทยา สุดประเสริฐ ด้วยแนวความคิดเกี่ยวกับการแสดงออกถึงใบหน้าของผู้คนที่ศิลปินรู้จักสนิทสนม มีความรักใคร่ชอบพอ และมีความสนใจในบุคลิกลักษณะอันโดดเด่นของผู้เป็นแบบ โฉมหน้าของนักแสดงที่มีชื่อเสียง ศิลปินชั้นนำ หรือหลากหลายบุคคลผู้ใกล้ชิดศิลปิน ถูกถ่ายทอดผ่านเส้นสีฝีแปรงอันสดใสสุกสว่างในหลากหลายอิริยาบถ สื่อให้เห็นถึงความสนุกสนานและความสุขอันบ่มเพาะจากสัมพันธภาพและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน















i>ภาพและข้อมูลจาก
portfolios.net













๒๖ ปี ชาตรี ศรีชล
เคน สองแคว



ชาตรี ศรีชล คือ นักร้องระดับขุนพล ที่มีความสามารถรอบตัวและน้ำเสียงที่ไม่เหมือนใคร มีบทเพลงที่เป็นอมตะ ได้แก่ " สาวผักให่ " "สมัครรักสมัครแฟน "" "วอนแฟนเพลง" "โฉมนาง" "เมาเหล้าเมารัก" "รอไม่ไหว" "ทหารห่วงเมีย" ฯลฯ

ชาตรี หรือ นาย สมบุญ ลีเส็ง จากวงการไปจวนจะครบ ๒๖ ปี ในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ข้อมูลที่บันทึกไว้ เขาเกิดวันจันทร์ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ที่บ้านนากระรอก ต.ทุ่งขวาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งทางสภาวัฒนธรรมต.ทุ่งขวาง และ อบต.ทุ่งขวาง ที่มี นาย สญชัย อภิชิตพงศ์ชัย เป็นนายกอบต. ได้จัดงานประกวดร้องเพลงแนวเสียง ชาตรี ศรีชล มา ๔ ปีแล้ว

ปีนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง ขอเชิญชาวชลบุรี สมัครเข้าร่วมประกวดร้องเพลงเงาเสียง "ชาตรี ศรีชล" ครั้งที่ ๕ ประจำปี ๒๕๕๘ ในงานอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและรำลึก "ชาตรี ศรีชล" ระหว่างวันที่ ๘-๑๒ เมษายน ๒๕๕๕ ณ วัดนากระรอก ตำบลทุ่งขวาง อำเภอพนัสนิคม ชลบุรี โดยวัดที่จัดนั้นอยู่ไม่ไกลจากภูมิลำเนาเกิดของชาตรี ศรีชล

สำหรับรายละเอียดการประกวดร้องเพลงมีดังนี้ คือ ต้องเป็นนักร้องท้องถิ่น ที่มีภูมิลำเนาในชลบุรี โดยไม่จำกัดอายุและเพศ ซึ่งข้อนี้ ผมเห็นด้วยกับคณะผู้จัดงาน เพราะเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ผมได้ไปทำข่าวการประกวดร้องเพลงเก่าอมตะที่วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด พบว่านักร้องที่เข้าประกวดเกือบทั้งหมดนั้น มาจากเวทีเดินสายประกวด หน้าซ้ำ ๆ ช้ำ ๆ เบียดผู้เข้าประกวดท้องถิ่นหรือหน้าใหม่ตกรอบไปเกือบหมด

หลายปีก่อน ผมเคยไปดูการประกวดร้องเพลงที่ อ.ดอนเจดีย์ ที่ให้เฉพาะคนสุพรรณบุรีเข้าประกวด แม้ว่าจะมีนักร้องเดินสายที่เป็นคนสุพรรณฯเข้าไปแทรกบ้าง แต่ก็ยังทำให้มีสีสันการประกวดที่หลากหลาย ไม่จำเจ

ประกวดเงาเสียงชาตรี ศรีชล ปีก่อนหน้านั้น ผมได้ดูชาวบ้านร้องเพลงชาตรี ศรีชล ทั้งเด็กผู้ใหญ่ และบางคนเป็นญาติกับชาตรี นามสกุลเดียวกัน ก็เข้ามาประกวดด้วย ร้องดีบ้าง ไม่ดีบ้างก็ไม่ทำให้หงุดหงิด กลับเป็นเรื่องน่าภูมิใจที่ทำให้คนท้องถิ่นไม่ลืมบทเพลงของขุนพลเพลงท่านนี้

เกณฑ์การตัดสินและการให้คะแนนปีนี้ ผู้ประกวดต้องแต่งกายสุภาพเหมาะสม ที่สำคัญจังหวะและทำนองต้องยึดถือตามต้นฉบับเพลงเดิมของชาตรี ศรีชลเท่านั้น การให้คะแนน รวม ๑oo คะแนน แบ่งเป็นน้ำเสียงถึง ๔o คะแนน ทำนอง/จังหวะ ๓o คะแนน อักขระควบกล้ำ ๑o คะแนน อารมณ์ ลีลา ๑o คะแนน และการแต่งกาย ๑o คะแนน

เริ่มคัดเลือกกันมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว วันนี้ยังทันเวลา สำหรับชาวชลบุรี เดินทางไปสมัครและยื่นใบสมัครได้ที่ ส่วนการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง ในวันและเวลาราชการ อย่าลืม หลักฐานการสมัคร ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองเอกสาร ถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ส่วนการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง โทร o๓๘-๑๖๒๒๑๖-๙ และ o๘๖-๘๔๔-๗๕๕๓

การประกวดจะเริ่มวันพุธที่ ๘ และ พฤหัสบดีที่ ๙ เมษายน เป็นรอบคัดเลือก ส่วนวันเสาร์ที่ ๑๑ เมษายน รอบชิงชนะเลิศด้วยเพลงช้า ๑ เพลง และเพลงเร็ว ๑ เพลง ด้วยเพลงที่ไม่ซ้ำกับรอบคัดเลือก รางวัลการประกวด ผู้ชนะเลิศจะได้ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัล ๑o,ooo บาท ส่วนรองจะได้ ๘,ooo บาท ๕,ooo บาท และรางวัลชมเชย ๒ รางวัลคนละ ๑,ooo บาท

และขอเชิญชวน แฟนเพลงทั่วประเทศ ไปเที่ยวงาน ไปดูหุ่นปั้นชาตรี ศรีชลที่วัด และไปดื่มด่ำกับบทเพลงดี ๆ ของขุนพลเพลงลูกทุ่งผู้นี้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งมีที่เดียวในประเทศที่จัดงานเช่นนี้ได้



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net
คอลัมน์ "เป็นคุ้ง เป็นแคว"นสพ.คม ชัด ลึก ๙ เม.ย. ๒๕๕๘














“หมื่นวันที่ฝันไป” ๓o ปี ศิลปิน “กลุ่มเดินดิน”



ครบรอบ ๓o ปีของการก่อตั้งกลุ่ม ล่าสุดศิลปิน "กลุ่มเดินดิน" จึงได้รวมตัวกันจัดแสดงผลงานศิลปะผ่านนิทรรศการ “หมื่นวันที่ฝันไป”


หลายคนอาจมีคำถาม กลุ่มเดินดิน คือใคร? คำตอบคือ เหล่าอดีตนักศึกษาศิลปะหลายคนที่จบการศึกษาด้านศิลปกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา (หรือในปัจจุบันคือ คณะศิลปกรรมและออกแบบอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน) ได้แก่ มงคล อุทก, เทอดเกียรติ พรหมนอก, เลอพงศ์ พุฒิชาติ, สุรพล ปัญญาวชิระ, นิคม กุบแก้ว, อุดม พรหมนอก และสุขสันต์ เหมือนนิรุจน์ ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้


โดยการแสดงผลงานศิลปะต่อสาธารณะชนทุกครั้งที่ผ่านมา ในนามของกลุ่มเดินดิน ซึ่งครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ ๑o แล้ว เกิดขึ้นภายใต้เจตนารมณ์ที่ว่า


“โลกที่เราดำรงอยู่ ประกอบด้วยสรรพสิ่ง เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงมีอยู่ตลอดเวลา และมีความสัมพันธ์ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การทำงานศิลปะก็เพื่อจรรโลงโลก ส่งเสริม สร้างสรรค์ ให้มนุษย์และสังคมโลกได้พัฒนาก้าวหน้า”


หากแต่สิ่งที่พวกเขาอยากเห็น มนุษย์และสังคมดีขึ้น ตามเจตนารมณ์นับตั้งแต่เริ่มตั้งกลุ่ม (ปี ๒๕๒๘) จนกระทั่งวันนี้ ซึ่งนับเป็นเวลา ๓o ปีแล้ว (๑o,+*o วัน) ก็ยังคงเป็น “หมื่นวันที่ฝันไป” ดังชื่อนิทรรศการ


“สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อม ดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย หมื่นกว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นผู้คนที่ป่วยทางจิต เราเห็นสังคมที่ป่วยทางความคิด เราเห็นประเทศที่ป่วยทางโครงสร้าง เดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิม จะเปลี่ยนก็แต่วัตถุและสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเท่านั้นเอง ผู้คน สังคมและประเทศ ยังคงเจ็บป่วยอยู่เช่นเดิม” สุรพล ปัญญาวชิระ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเดินดิน กล่าวในวันเปิดนิทรรศการ


นิทรรการศิลปะ “เดินดิน หมื่นวันที่ฝันไป” จัดแสดงให้ชมระหว่างวันนี้ - ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๘ ณ ห้องสตูดิโอชั้น ๔ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


นอกจากนี้ยังมีผลงานของสมาชิกกลุ่ม นิทรรศการครั้งนี้ยังมีผลงานของศิลปินรับเชิญมาร่วมจัดแสดงด้วย ได้แก่ ทวี รัชนีกร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) ปี ๒๕๔๘, สุรชัย จันทิมาธร ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี ๒๕๕๕, ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ, อุดม จรัสจรุงเกียรติ, สนาม จันทรเกาะ(เสียชีวิตแล้ว), สุวนิช โรจน์วัฒน์(เสียชีวิตแล้ว), จุมพล อภิสุข, สาโรช เผือกสำลี, สมชาย เผือกวิไล, ไขแสง ปัญญาวชิระ, ชูเกียรติ ฉาไธสง, สุรศักดิ์ สีตวรรณมาศ และประสิทธิ์ โตโพธิ์กลาง


“จากการเดินทางมาครึ่งค่อนชีวิต คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การพบปะผู้คน มันได้สร้างมิตรภาพของการเป็นเพื่อนเกิดขึ้นอย่างมากมายบนถนนศิลปะ


นิทรรศการครั้งที่ ๑o ของกลุ่มที่มีชื่อว่า เดินดิน หมื่นวันที่ฝันไป ครั้งนี้จึงไม่น่าแปลกที่จะมีมิตรสหายนำผลงานศิลปะมาร่วมแสดง จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น ๓o ปี ของกลุ่มเดินดินและเพื่อน ๆ หรือเรียกเป็นชื่อใหม่อีกชื่อหนึ่งว่า หมื่นวันที่ฝันไป ๓o ปี เดินดินและเพื่อน ก็ได้เช่นกัน”



img src = //mpics.manager.co.th/pics/Images/558000004057802.JPEG>



























ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














โปสการ์ดจากประเทศจีน



ภาพถ่ายจากอินสตาแกรมเปรียบเหมือนโปสการ์ดยุคใหม่ที่น่าสนใจและติดตาม ...


อิงกริด โบส มอร์จอห์น ช่างภาพลูกครึ่งอเมริกันสวีเดน ผู้พลัดถิ่นไปอยู่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน นาน ๘ ปี ซึ่งช่วงเวลา ๑oo วันก่อนลากลับบ้านที่สวีเดน เจ้าตัวได้อินสตาแกรมอย่างต่อเนื่อง


ล่าสุด ภาพจากอินสตาแกรมแนว street photos ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพของหมีแพนด้า ชาไข่มุก ยานพาหนะ อาหาร และเรื่องราวที่น่าสนใจต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นนิสัยและความเป็นอยู่ของคนที่นั่น ของ อิงกริด ถูกรวบรวมมาเป็น Postcards from China หนังสือเล่มเล็ก ๆ ขนาดกะทัดรัด พร้อมเรื่องเล่า เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและความเข้าใจในสังคมประเทศจีน ที่เจ้าตัวได้ไปสัมผัส


เชิญผู้สนใจร่วมงานเปิดตัวหนังสือ และนิทรรศการภาพถ่าย Postcards from China (โปสการ์ดจากประเทศจีน) ในวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. ณ เซริเดีย แกลเลอรี แอนเนกซ์ ชั้น 4 เซ็นทรัล เอมบาสซี


จากนั้นนิทรรศการภาพถ่ายจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














หอศิลป์กรุงเทพฯ จัดอบรมฟรี “การบริหารจัดการศิลปวัฒนธรรม”



หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวน นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจงานด้านการจัดการศิลปวัฒนธรรมเข้าร่วมการฝึกอบรมทักษะการบริหารจัดการในโครงการ Training of Art Manager 2015


เป็นการฝึกอบรมที่เน้นเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ควบคู่ไปกับการบรรยายให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการศึกษาดูงานในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ส่งผลให้สามารถนำประสบการณ์ และองค์ความรู้ที่ได้รับ ไปใช้ปฏิบัติงานได้จริง


ผู้เข้าฝึกอบรมไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ และจะต้องเข้ารับการฝึกอบรม ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘


คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ

๑.. ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมต้องมีอายุระหว่าง ๒o - ๓๕ ปี
๒. มีความสนใจการจัดการศิลปวัฒนธรรม
๓. เรียนในสาขาศิลปะ และวัฒนธรรมหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
๔. มีความตั้งใจ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่
๕. ตรงต่อเวลา สามารถเข้าร่วมการฝึกอบรมได้อย่างน้อย ๘o% ของเวลาการฝึกอบรม


ส่งใบสมัครพร้อมบทความแนะนำตนเอง ความสนใจในการจัดการศิลปวัฒนธรรม และจะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์อย่างไร ความยาวไม่เกิน ๒ หน้า A4 โดยส่งกลับมาที่ฝ่ายการศึกษา หอศิลปกรุงเทพฯ Email: education@bacc.or.th


หรือส่งด้วยตนเองที่จุดประชาสัมพันธ์ชั้น ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ (รับจำนวนจำกัด เพียง ๒o ท่านเท่านั้น)


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายการศึกษา โทร. o-๒๒๑๔ -๖๖๓o - ๘ ต่อ ๕๑๙ และ Email: education@bacc.or.th


โครงการ BACC Training of Art Manager 2015 จัดโดย ฝ่ายการศึกษาหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ให้คำปรึกษาโครงการโดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 09 เมษายน 2558
Last Update : 9 เมษายน 2558 23:52:36 น. 0 comments
Counter : 3994 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.