Bloggang.com : haiku : เสพงานศิลป์ ๑๘๑

เสพงานศิลป์ ๑๘๑

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

สยาม ผ่านมุมกล้อง จอห์น ทอมสัน ๒๔๐๘-๒๔๐๙

นิทรรศการภาพถ่ายโบราณที่เป็นผลงานของนายจอห์น ทอมสัน (พ.ศ. ๒๓๘o – ๒๔๖๔) ช่างภาพชาวสก็อตที่เดินทางเข้ามายังทวีปเอเชีย โดยผลงานของเขาได้ถูกนำไปจัดแสดงในหอศิลป์ประเทศต่างๆ หลายแห่ง เช่น ไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง เป็นต้น โดยในแต่ละประเทศก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดแสดงภาพถ่ายที่เกี่ยวกับประเทศจีนเท่านั้น

นายจอห์น ทอมสันได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปลายรัชกาลที่ ๔ หรือ พ.ศ. ๒๔o๘ และใช้เวลาอยู่ในพระนครและจังหวัดใกล้เคียงเป็นเวลาหลายเดือน จึงได้สร้างผลงานด้านการถ่ายภาพบุคคลสำคัญ ชาวบ้าน บ้านเมือง ทิวทัศน์ ภาพถ่ายชิ้นที่สำคัญที่สุด คือ พระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ หรือรัชกาลที่ ๕ ตอนทรงพระเยาว์ โดยเขาเป็นช่างภาพคนแรกที่ได้รับเกียรติอย่างใหญ่หลวงโดยรัชกาลที่ ๔ ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพพระองค์ในพระบรมมหาราชวังและพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่น อีกหลายพระองค์

ทางคณะกรรมการจัดงานฯ จึงเห็นสมควรที่จะจัดนิทรรศการภาพถ่ายโบราณผลงานของนายจอห์น ทอมสัน ขึ้นที่พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ หอศิลป์นี้ เนื่องจากเห็นว่า เป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวัง ที่ที่จอห์น ทอมสันได้เข้าไปเมื่อ ๑๕o ปีที่แล้วเพื่อถ่ายภาพสำคัญเหล่านี้

นิทรรศการครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพต้นฉบับมาจัดแสดง โดยแต่ละภาพจะมีการอัดขยายภาพขนาดไม่ต่ำกว่า ๑ เมตรเพื่อ ให้เห็นรายละเอียดของภาพโบราณนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

อนึ่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ นิทรรศการนี้จะเป็นหนึ่งในงานแรกที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ และเป็นการรำลึกครบรอบ ๑๕o ปีในการเข้ามาเมืองไทยของนายจอห์น ทอมสันอีกด้วย

จุดเด่นของนิทรรศการภาพถ่ายโบราณครั้งนี้คือ

- เป็นงานแรก ๆ ของปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคล ๕ รอบพระชนมายุในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- เป็นงานรำลึก ๑๕o ปีแห่งการมาเยือนสยามของจอห์น ทอมสัน
- นายจอห์น ทอมสันถือเป็นช่างภาพคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในคริสตวรรษที่ ๑๙
- ภาพที่จัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ได้มาจากต้นฉบับฟิลม์กระจกเดิมที่มาจากสถาบันเวลคัมแห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- เป็นครั้งแรกที่ภาพถ่ายเมืองไทยของจอห์น ทอมสันได้มาจัดแสดงในที่เดียวกันทั้งหมด
- นิทรรศการนี้จะประกอบด้วยภาพถ่ายโบราณ ๖o ภาพพร้อมด้วยสิ่งของร่วมสมัยอีกจำนวนหนึ่ง
- เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำภาพถ่ายโบราณมาจัดแสดงในรูปแบบขนาดใหญ่ที่อัดขยายจากต้นฉบับ มีความคมชัดสูง

คณะกรรมการจัดนิทรรศการฯ

๑. หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการฯ และภัณฑารักษ์
๒. นางเบ็ตตี้ เยา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนายจอห์น ทอมสันและภัณฑารักษ์ร่วม
๓. นายไพศาลย์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ กรรมการจัดนิทรรศการและภัณฑารักษ์ร่วม
๔. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรมศิลปากร

นิทรรศการนี้จะเปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ ๑o มกราคม-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo น.-๑๖.oo น. เว้นวันจันทร์และอังคาร
สอบถามรายละเอียดงานได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑o๒oo
โทรศัพท์ : o๒-๒๘๒-๘๕๒๕ o๒-๒๘๑-๒๒๒๔
//www.facebook.com/thenationalgallerybangkok

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
manager.co.th

ภาพและข้อมูลจากนสพ.โพสต์ทูเดย์ ๑๔ ม.ค. ๒๕๕๘

'สรรค์ศิลป์ แผ่นดินสยาม' หอศิลป์ร่วมสมัย จากราชดำเนิน...สู่ใจกลางกรุง

สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับ กลุ่มสยามพิวรรธน์ ยกหอศิลป์ร่วมสมัยมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ โดยจัดอย่างยิ่งใหญ่ เนรมิตพื้นที่ ๓ ศูนย์การค้าดังใจกลางกรุงเทพมหานคร จัดงาน “สรรค์ศิลป์ แผ่นดินสยาม” ผ่านงานศิลป์ ๓ รูปแบบ ๓ กิจกรรม ใน ๓ ศูนย์การค้าใจกลางกรุง ศูนย์การค้าสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยกิจกรรมทั้ง ๓ โซนได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ชาย นครชัย ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ทางสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จับมือกับสยามพิวรรธน์ โชว์งานศิลป์ร่วมสมัยสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่องาน “สรรค์ศิลป์ แผ่นดินสยาม” ซึ่งเป็นการยกหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน มาจัดแสดงงานศิลป์ในแขนงต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัส และเข้าถึงมุมมองทางด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ในย่านใจกลางกรุง ผ่าน ๓ รูปแบบ ๓ สถานที่ ๓ ศูนย์การค้า โดยได้รับความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย รวมทั้งจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้ซาบซึ้งในพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปวัฒนธรรมของพระองค์ท่าน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปให้ได้รู้จักเข้าถึง และเกิดแรงบันดาลใจให้หันมาสนใจศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และช่วยกันต่อยอดการสร้างสรรค์ ธำรงรักษามรดกของชาติให้ยั่งยืนต่อไป

งาน “สรรค์ศิลป์ แผ่นดินสยาม” เนรมิตให้ทุกพื้นที่การจัดงานอัดแน่นและอบอวลไปด้วยงานศิลป์ อย่างเต็มรูปแบบ โดยแบ่งเป็น ๓ โซน ๓ ศูนย์การค้าชั้นนำของกรุงเทพฯ โดยแบ่งเป็น

โซนที่ ๑ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เป็นการจัดแสดงนิทรรศการ “กษัตริย์ ศิลป์ แผ่นดินสยาม” โดยรวบรวมผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในแขนงต่าง ๆ มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้เข้าชมได้ซาบซึ้งถึงพระปรีชาสามารถอันเกิดจากความรัก ความเพียรของพระองค์ ที่แม้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ยังทรงให้ความสนพระทัยในงานด้านศิลปวัฒนธรรม ซึ่งความพิเศษของโซนนี้จะเป็นการจัด Reactable Exhibition ซึ่งเป็นการแสดงผลงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านจอ Multi Touch พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร ผ่านการ์ดอิเล็กทรอนิกส์

โซนที่ ๒ เวที แสดงศิลป์ แผ่นดินสยาม สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เป็นการจัด “แสดงศิลป์ แผ่นดินสยาม” ซึ่งจัดเป็นเวทีโชว์ศิลป์ที่คนศิลป์ร่วมสมัยผลัดเปลี่ยนกันมาแสดงความสามารถทางด้านศิลปวัฒนธรรมในสาขาต่าง ๆ ทั้งการพบปะพูดคุยกับ นิมิต พิพิธกุล ศิลปินรางวัลศิลปาธร สาขา ศิลปะการแสดง เพชราวุธ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งและอาจารย์สอนวิชาศิลปะออกแบบและการถ่ายภาพ สถาบันแนะแนวสร้างสรรค์ศิลปะและการออกแบบ “EASEL Studios” พร้อมชมการแสดงละครหุ่นสายเสมา นอกจากนั้นยังพบกับการแสดงจาก เก่ง The Voice-ธชย ปทุมวรรณ ที่จะมาขับเสภาเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแสดงมินิคอนเสิร์ต ร่วมพูดคุย และชมการแสดงจาก ตุล ไวทูรเกียรติ พร้อมด้วยสมาชิกในวงอพาร์ตเมนท์คุณป้า และ โดม เดอะสตาร์-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และร่วมฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากคณะนักร้องประสานเสียงสยาม พร้อมชมการแสดงจากนิสิตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และการแสดงแฟชั่นโชว์จาก Young Designer “Beside Me Collection” และ “The Next World” by Siripim Poolsombat เป็นต้น

และโซนที่ ๓ ณ บริเวณ Grand Hall ชั้น ๑ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ จะเป็นงาน “สร้างศิลป์ แผ่นดินสยาม” ซึ่งเป็นลานกิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว เปิดพื้นที่ให้เด็กได้ทำงานศิลป์จากฝีมือและจินตนาการของตนเอง พร้อมทั้งรับความรู้เกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ โดยจัดเป็นกิจกรรมเวิร์กช็อปให้เด็ก ๆ ได้ลองทำงานศิลป์ด้วยตัวเองและสามารถนำผลงานกลับบ้านได้ เช่น การทำโมบายเมฆ ประดิษฐ์เครื่องบินสนามแม่เหล็ก สร้างบ้าน ๓ มิติ เป็นต้น รวมถึงสามารถรับความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมทุกแขนงได้จากจอ Multi Touch ขนาดใหญ่ และสนุกกับการวาดภาพ

ภาพและข้อมูลจากเวบ
soclaimon.wordpress.com

คืนความสุขชาว(ลูก)กรุง

ขึ้นต้นปีมานี้ มีหลายกิจกรรมที่ถือเป็นเทศกาลคืนความสุขให้กับคนไทยที่รักเพลงลูกกรุงไทยสากล ต่อเนื่องกันถึง ๔ งานในช่วงไตรมาสแรก ขอเรียงลำดับการจัดงานเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายและจดบันทึกไว้ในปฏิทินหรือตัดเก็บไว้ เพื่อป้องกันความสับสน

ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นลูกกตัญญู พยายามเสาะแสวงหากิจกรรมคอนเสิร์ตในแนวนี้เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ไปชม จึงน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับครอบครัวผู้ที่สนใจ ซึ่งจะขอเรียงลำดับตามวันแรกของการจัดงาน

งานแรกของปีนี้ คือ “สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล ลำดับที่ ๕“ เนื่องในโอกาสชาตกาล ๑o๕ ปี ครูเอื้อ สุนทรสนาน (บุคคลสำคัญของโลก ด้านดนตรีไทยสากลจากองค์การยูเนสโก)

“สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” ในครั้งนี้ จะนำเสนอละครเพลงที่มีเนื้อหาชีวิตชนบทและธรรมชาติ ซึ่งเพลงลูกกรุงก็มีไม่น้อย ไม่เพียงแต่เพลงลูกทุ่งเท่านั้น โดยนำบทเพลงอันไพเราะ เกี่ยวกับความรักประทับใจ ภาษาสวยงาม

โดยจะมีบทเพลงที่มีความหมายพิเศษต่อครูเอื้อ ซึ่งเป็นบทเพลงที่กำเนิดมาจากความรักที่มีต่อคุณอาภรณ์ สุนทรสนาน ภรรยาสุดที่รัก อาทิ เพลง “ยอดดวงใจ” “ศึกในอก” สำหรับชื่อเรื่องละครเพลงนี้ มาจากบทเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” ที่ครูพรพิรุณ ประพันธ์ ซึ่งเราจะจดจำจากเสียงร้องของครูเอื้อ ได้เป็นอย่างดี โดยมีท่อนขึ้นต้นว่า “ก่อนจากกัน คืนนั้นสองเรา...” (สำหรับเด็กรุ่นใหม่ ถ้าเอ่ยชื่อเพลงนี้ เขาจะนึกถึงเพลงของวง “บูโดกัน” ซึ่งชื่อเพลงเหมือนกัน แต่ต่างเนื้อร้อง)

นอกจากนั้นยังมีเพลง รำวงเดือนลอยฟ้า ธารน้ำรัก ตาอินกะตานา คู่ทาส ฝันถึงกันบ้างนะ บ้านของเรา บัวกลางบึง ฝากหมอน ขอให้เหมือนเดิม กรุงเทพฯราตรี น้ำตาลใกล้มด สุริยาลับฟ้า ศึกในอก ฉันยังคอย ดอกไม้ใกล้มือ คอยลม ผู้แพ้รัก สาส์นรัก รักฉันสักครึ่งหัวใจ คำรำพัน ฟ้าคลุ้มฝน ยอดดวงใจ ข้างขึ้นเดือนหงาย

“สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” เริ่มวันเสาร์ที่ ๒๔ มกราคม (รอบการกุศล) วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เสาร์ที่ ๓๑ และเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มวันอาทิตย์ที่ ๑ เสาร์ที่ ๗ อาทิตย์ที่ ๘ เสาร์ที่ ๑๔ อาทิตย์ที่ ๑๕ เสาร์ที่ ๒๑ อาทิตย์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ สิบรอบ การแสดงจะเป็นรอบ ๑๔.oo น. ทุกรอบ

งานใหญ่ต่อมา คือ ละครเฉลิมพระเกียรติ “ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช” ที่กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลเมืองหัวหิน และภาคธุรกิจเอกชนอีกหลายหน่วยงาน จึงพร้อมใจกันจัดขึ้นอีกครั้ง เพื่อถวายความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรณาธิคุณ และร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมายุ ๘๘ พรรษา และจะเป็นบันทึก ปรากฏการณ์แห่งรักที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีต่อประชาชนคนไทย

“ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช” ไม่มีการจำหน่ายบัตร ชมฟรีทุกรอบแต่ต้องโทรไปสำรองที่นั่งก่อน การแสดงเริ่มวันพุธที่ ๒๘ มกราคม-วันอาทิตย์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ณ สวนหลวงราชินี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในครั้งนี้ นำแสดงโดย อาณัตพล ศิริชุมแสง พิมดาว พานิชสมัย รอง เค้ามูลคดี เบน ชลาทิศ นพพล พิทักษ์โล่พานิช พิจิกา จิตตะปุตตะ ลูกแก้ว-ขวัญแก้ว คงนิสัย โดยมีความอลังการกว่าครั้งแรก อาทิ เพิ่มพื้นที่แสดง เพิ่มพื้นที่นั่งชม เติมระบบเทคนิคแสงสีประกอบการแสดง บรรเลงสดด้วยวงออร์เคสตรา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมแก่ผู้ชม และสร้างความประทับใจมิรู้ลืมกับ

การเปิดจองบัตรวันแรกที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับล้นหลาม ซึ่งรอบวันเสาร์ที่ ๓๑ มกราคม บัตรเต็มแล้ว ยังเหลือบัตรอีกเพียง ๔ รอบเท่านั้น ผู้สนใจ รีบโทรเข้าไปสำรองบัตรฟรี ได้ที่ o๙-o๒๓๗-๕๙๕o และ o๙-o๒๓๗-๕๙๖o หรือศึกษารายละเอียดการจองบัตรได้ที่ เฟซบุคการแสดง

กิจกรรมต่อมาที่น่าสนใจ คือ "ชมวัง ฟังเพลง สัญจร" ครั้งที่ ๒ ในวันเสาร์ที่ ๓๑ มกราคม-วันอาทิตย์ที่ ๑ กุมภาพันธ์

คณะเดินทางพร้อมกันที่พระราชวังพญาไท ในวันเสาร์เวลา ๗.oo น. ออกเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรี ชมพระอุโบสถและภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดใหญ่สุวรรณาราม เดินทางต่อไปพระราชวังบ้านปืน ชมสถานีรถไฟหัวหิน (หนึ่งในฉากสำคัญของละครเฉลิมพระเกียรติ “ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช”) พักที่โรงแรมแกรนด์หัวหิน รับประทานอาหารเย็นร่วมร้องเพลงและฟังเพลง ณ ห้องอาหารโรงแรม วันอาทิตย์ที่ ๑ เดินทางไปพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ชมพระนอนบริเวณเชิงเขาวัง และออกเดินทางจากเพชรบุรีแวะซื้อของที่ระลึกกลับกรุงเทพฯ และถึงพระราชวังพญาไทโดยสวัสดิภาพ

"ชมวัง ฟังเพลง สัญจร" ครั้งที่ ๒ บัตรราคา ๓,๙oo บาท (สามารถแยกพักเดี่ยวได้ โดยเพิ่มเงิน ๘oo บาท) สอบถามรายละเอียด และ สำรองที่นั่งได้ที่ o-๒๓๕๔-๗๗๓๒, o๘-๑๖๒๑-๘๗๖๑

หากว่า วางแผนการเดินทางดี ๆ ก็จะได้ ชมละครเฉลิมพระเกียรติ “ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช” ซึ่งมีฉากจำลองสถานีรถไฟหัวหิน และไปชมสถานที่จริง ๆ กับ "ชมวัง ฟังเพลง สัญจร" ได้อย่างพอดีลงตัว

อีกงานหนึ่งของมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี คือ คอนเสิร์ตการกุศล “เทศกาลหวานเพลงรัก” ในวันศุกร์-เสาร์ที่ ๒o-๒๑ กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมฯ ๒ ศิลปินแห่งชาติ สุเทพ วงศ์กำแหง ควงคู่ สวลี ผกาพันธุ์ พร้อมด้วย ๑๒ ศิลปินยอดนิยม ร่วมถ่ายทอด ได้แก่ สุชาติ ชวางกูร - นรีกระจ่าง คันธมาส โอ ชัยรัตน์ เทียบเทียม - ก้อย พรพิมล ธรรมสาร อ๊อด โอภาส ทศพร - อิ๋ว พิมพ์โพยม เรืองโรจน์ สุเมธ องอาจ - อุ้ย รวิวรรณ จินดา จี๊ป วสุ แสงสิงแก้ว - บีม จารุวรรณ บุญญารักษ์ อาร์ท พลกฤษณ์ ถมยา - ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ

แค่ชื่อนักร้องนักดนตรีมืออาชีพก็พอนึกภาพออกว่า คอนเสิร์ตนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน และยังมีวงดนตรีคุณภาพ ”กาญจนะผลิน” โดย จิรวุฒิ กาญจนะผลิน ควบคุมวง อีกด้วย “เทศกาลหวานเพลงรัก” บัตรจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตทุกสาขา o-๒๒๖๒-๓๔๕๖ รายได้เพื่อบูรณะพระราชวังพญาไท

วันนี้ ขอสรุปคร่าว ๆ ให้ได้บันทึกไว้อย่างเป็นระบบ หลังจากนี้ คงจะได้มีโอกาสลงในรายละเอียดของแต่ละงานอีกครั้งหนึ่ง

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net
gotoknow.org

“สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล ลำดับที่ ๕“
เนื่องในโอกาสชาตกาล ๑o๕ ปี ครูเอื้อ สุนทรสนาน

“บทเพลงอันเป็นอมตะของวงสุนทราภรณ์ โดยการนำของครูเอื้อ สุนทรสนาน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างของคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า ๗o ปีว่าเป็นบทเพลงที่ไพเราะด้วยท่วงทำนองที่หลากหลาย ทันสมัย และด้วยคำร้องที่ละเมียดละมัย สวยงาม และถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้อย่าลงตัว ไม่แต่เท่านั้นในปี ๒๕๕๓

ครูเอื้อสุนทรสนาน ยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านดนตรีไทยสากลอีกด้วย นั่นเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีของความเป็นอัจฉริยะของครูเอื้อ สุนทรสนาน” ในความหลากหลายของทำนองและคำร้องดังกล่าว ได้ปรากฏบทเพลงของสุนทราภรณ์ ที่เกี่ยวพันกับธรรมชาติที่สวยงามลงตัวอยู่ไม่น้อยและบทเพลงที่ว่านี้ได้สะท้อนภาพของวิถีชีวิตคนไทย และสังคมไทยในอดีตเมื่อครั้งที่ทุกพื้นถิ่นไทยยังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ด้วย

ธรรมชาติที่หลากหลาย และสอดคล้องไปกับทุกจังหวะชีวิตของผู้คนในทุกช่วงเวลานาทีจนถึงทุกฤดูกาล “สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล ลำดับที่ ๕” จึงภาคภูมิใจที่จะนำเสนอละครเพลงที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งสัมพันธ์กับ ชีวิตชนบทและธรรมชาติ โดยนำบทเพลงอันไพเราะ ซาบซึ้งของสุนทราภรณ์ที่เกี่ยวพันกับธรรมชาติ มาสร้างความประทับใจอาทิ “ข้างขึ้นเดือนหงาย” “บัวกลางบึง” “ธารน้ำรัก”

ในขณะเดียวกันก็มีเนื้อหาของความรักที่สุดแสนประทับใจมามอบแก่ท่านผู้ชม โดยมีบทเพลง ที่มีความหมายพิเศษต่อครูเอื้อมาเป็นส่วนสำคัญด้วย ซึ่งบทเพลงพิเศษที่ว่านี้เป็นบทเพลงที่กำเนิด มาจากความรักที่มีต่อภรรยาสุดที่รัก “คุณอาภรณ์ สุนทรสนาน” นั่นเอง อาทิ “ยอดดวงใจ” “ศึกในอก” สำหรับชื่อเรื่องของละครในลำดับที่ ๕ นี้ ก็มาจากบทเพลงอันเป็นที่จดจำจากเสียงร้องของครูเอื้อ สุนทรสนานเอง ทั้งเป็นที่รู้จักและประทับใจต่อแฟนเพลงมาอย่างยาวนาน นั่นคือเพลง “ขอให้เหมือนเดิม”

นี่เองคือที่มาของละครรื่นอารมณ์ผสมโรแมนติค ประจำปี ๒๕๕๘
“ขอให้เหมือนเดิม สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล”

เนื้อเรื่องโดยย่อ

ที่หมู่บ้านบึงบัว จังหวัดยโสธร อันเป็นหมู่บ้านที่ยังมีวิถีชีวิตของชาวบ้านที่สอดคล้องไปกับธรรมชาติที่สวยงาม มีนางเอกของเรื่องคือ “น้ำตาล” ที่มีคนรักชื่อ “ธงชาติ” ทั้งสองตั้งใจจะครองรักกันอย่างคู่รักอื่น ๆ แม้ธงชาติจะถูกกีดกันจากพ่อของน้ำตาลเพราะมีฐานะยากจนกว่าก็ตาม แต่เรื่องราวที่จะพิสูจน์หัวใจรักของทั้งสองก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำตาลเลือกที่จะเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อหาโอกาสที่รออยู่ในวงการบันเทิงที่สวยงามเย้ายวน โดยการชักนำของ “พัดชา” สาวนักปั้นมือทองของวงการในขณะเดียวกันน้ำตาล ก็มี “ภาวุฒิ” หนุ่มหล่อ ฐานะดีมาติดพัน ส่วนธงชาติก็มีสาวร่วมหมู่บ้านคือ “เดือน” คอยเป็นเพื่อนคลายเหงาใจให้กับเขา ผู้ซึ่งลูกพี่ลูกน้องชื่อ "เอก" นั้นชอบอยู่ ทั้งสองจะประคองความรักของกันไปได้อย่างไร ในขณะเดียวกันตัวละครมากสีสันอีกมากมายจะนำพาเรื่องราวความแตกต่างของชนชั้นได้อย่างสนุก เฮฮา และสำหรับความรักของทั้งสองจะเป็นแบบอย่างที่สวยงาม กินใจกับความหมายที่ว่า “รักแท้คือการให้” ที่ผู้ชมจะซาบซึ้งและประทับใจแน่นอน.

รายชื่อเพลง ๒๓ เพลง

รำวงเดือนลอยฟ้า / ธารน้ำรัก/ ตาอินกะตานา/ คู่ทาษ/ ฝันถึงกันบ้างนะ/ บ้านของเรา/ บัวกลางบึง/ ฝากหมอน/ ขอให้เหมือนเดิม/ กรุงเทพฯราตรี/ น้ำตาลใกล้มด/ สุริยาลับฟ้า/ ศึกในอก/ ฉันยังคอย / ดอกไม้ใกล้มือ/ คอยลม/ ผู้แพ้รัก/ สาส์นรัก/ รักฉันสักครึ่งหัวใจ/ คำรำพัน/ ฟ้าคลุ้มฝน/ ยอดดวงใจ ข้างขึ้นเดือนหงาย

กำหนดการแสดง

๒๔ มกราคม - ๒๒ กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 10 รอบ
บัตรราคา ๒,๕oo/ ๒,ooo/ ๑,๕oo/ ๑,ooo บาท
จำหน่ายบัตร ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/jslshowbiz
Instagram : JSL Showbiz
Youtube : JSL Global Media

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค
thaiticketmajor.com

คอละครเวทีห้ามพลาด “บางละเมิด” รีสเตจอีกครั้งในปี ๕๘ นี้

บางละเมิด ดินแดนที่เราไม่เคยได้เป็นเจ้าของ” จัดแสดงครั้งแรกในปี ๒o๑๒ ‘บางละเมิด’ เป็นละครเวทีฟอร์มเล็ก ๆ หากประเด็นไม่เล็กน้อยเลย เนื่องจากพูดถึงเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน โดยการจัดแสดงครั้งแรกนั้นได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ในแง่การนำเสนอประเด็นทางสังคมที่แสนจะใกล้ตัว มาท้าทายให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในการขบคิดอย่างเปิดกว้าง เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายครบรส และโดดเด่นจนได้รับ ‘รางวัลบทละครดั้งเดิมยอดเยี่ยม’ จากชมรมวิจารณ์ศิลปะการแสดงแห่งประเทศไทย

‘บางละเมิด’ สร้างสรรค์และแสดงเดี่ยวโดย ‘อรอนงค์ ไทยศรีวงศ์’ ศิลปินการละครจากกลุ่มบีฟลอร์ผู้มีผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องในช่วง ๑o กว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงเป็นเจ้าของรางวัลการันตีอันได้แก่ รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเทศกาลละครกรุงเทพ ปี ๒oo๙, รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์สั้นเรื่อง ‘แหม่มแอนนา หัวนม มาคารอง โพนยางคำ และการศึกษาขั้นพื้นฐาน’ จากเทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ ๑๘ ทั้งยังเคยได้รับคำชื่นชมว่าเป็น “นักแสดงละครเวทีผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์”

ทั้งนี้การรีสเตจบางละเมิดใน พ.ศ. ๒๕๕๘ นี้ได้มีการปรับปรุงพัฒนาเนื้อหาและการแสดงขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน จัดแสดงที่ Thong Art Space Sukhumvit 55 ระหว่างวันที่ ๒๒ มกราคม - ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๒o.oo น. บัตรเข้าชม ๕oo บาท สำรองที่นั่งโทร. o๙-๕๕๔๒-๔๕๕๕ หรือ o๙-๕๙๔๒-๔๕๕๕ ข้อมูลเพิ่มเติม facebook : Thong Lor Art Space และ B-Floor Theatre

ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th

ศิลปะ: อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมในอาเซียน

“การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มิเพียงแต่จะรวมตัวกันในมิติทางเศรษฐกิจเท่านั้น หากแต่เป็นการดำเนินการควบคู่ไปกับประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน และประชาคมสังคม-วัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งเป็นสามส่วนหลักของประชาคมอาเซียน

ดังนั้นการรวมตัวกันเป็นประชาคม จึงไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการพัฒนาทางเศรษฐกิจเท่านั้น หากแต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจสังคม – วัฒนธรรม ของประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะเป็นรากฐานในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาคม”

คือเหตุผลที่ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมการบรรยาย “อาเซียนในมิติวัฒนธรรม” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕

และในปีนี้เพื่อเปิดศักราชแห่งการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน ยังจัดกิจกรรมการบรรยาย อาเซียนในมิติวัฒนธรรม ในชุด “ศิลปะ: อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมในอาเซียน” โดย อาจารย์ ดร. สุธา ลีนะวัติ ภาควิชาทฤษฎีศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

เพื่อทำความเข้าใจรากฐานทางศิลปะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์ร่วมทางวัฒนธรรมของประชาคมอาเซียน

โดยการบรรยายจะจัดให้มีขึ้น ๓ ครั้ง ดังนี้
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ศิลป์/สิปป์: รากเหง้าและแนวคิด
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๘ ทวยเทพ: ศรัทธาและพลังสร้างสรรค์
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๘ ปรัชญา: พุทธสิปป์กับความงาม
ระหว่างเวลา ๑๔.oo – ๑๖.oo น. ณ ห้อง ๔o๗ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. o-๒๘๘o-๙๔๒๙, o-๒๘๘o- ๙๔๒๙ ต่อ ๓๘๑o

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

Workshop ดอกไม้กระดาษ

Workshop ดอกไม้กระดาษ ๑๔, ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

หลักสูตร Basic1

๑๔ ก.พ. / ๙.oo-๑๗.oo น./ ๔,๕oo บาทต่อท่าน

แพทเทิร์น ๔-๘-๑๒ กลีบ ให้เป็นดอกไม้ได้หลายชนิด

Basic2

๑๕ ก.พ. / ๙.oo-๑๗.oo น./ ๔,๕oo บาทต่อท่าน

แพทเทิร์น ๑-๕ กลีบ ให้เป็นกุหลาบและดอกไม้ได้หลายชนิด

สมัครทางกล่องข้อความแฟนเพจ และ Lind id : paperart

เรียนที่บ้านบรมราชชนนี ๑๗

*ใช้กระดาษเรเนซองซ์ ๒oo แกรม / มีอุปกรณ์ Workshop ให้พร้อมใช้

** เรียนคอร์สเดียวได้ แต่ถ้าจะเรียน Basic2 ต้องผ่าน Basic1 ก่อน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Thai paper art

Workshop วาดรูปดอกไม้ปลายฤดูหนาว

คลาสเดียว วันเดียวเท่านั้น กิจกรรมดี ๆ โดนใจคนรักการวาดภาพสีน้ำ เปิดศักราชใหม่ พลาดไม่ได้กับ วาดรูปงานดอกไม้ไทยด้วยสีน้ำ โดยครูมาโนช ผู้ระบายอายหอมของดอกไม้ด้วยปลายพู่กัน

Workshop โดย มาโนช กิตติชีวัน ในโลกของงานวัฒนธรรมดอกไม้ไทย วาดรูปงานดอกไม้ไทยด้วยสีน้ำ คลาสเดียวเท่านั้น สำหรับเดือนมกราคม

วันเสาร์ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo-๑๗.oo น. ที่เดียวเท่านั้น ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเรียนได้ที่ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
โทร. o๒-๖๖๙-๓๖๓๓-๔ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ๑o.oo น. ถึง ๑๘.oo น.

สมัครด่วน รับจำนวนจำกัด

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคพิพิธภัณฑ์

หมอลำเคน ดาเหล่า

"หมอลำ" ภูมิมรดกวัฒนธรรมของชาวอีสาน

ความสนุกในแดนอีสานทุกครั้งไม่เคยขาดเสียงแคนและหมอลำ ดังเห็นได้จากงานเฉลิมฉลองหมู่บ้านงานเมืองทุกครั้งมีหมอลำขึ้นรำร้องบนเวทีให้สนุกสนานตามคำกลอนสอนคน อาทิตย์นี้ได้ตามรอยวัฒนธรรมสัญจรไปกับดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ที่ขอนแก่น ซึ่งมีการจัดงานให้หมอลำน้อยใหญ่ตั้งแต่ระดับศิลปินแห่งชาติและหมอลำรุ่นใหม่ที่เดินตามรอยครูออกมาแสดงความรู้สึกที่ดีต่อในหลวง

หมอลำความบันเทิงของชาวอีสาน

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกับหมอลำแดนอีสาน

การที่การแสดงหมอลำในแดนอีสาน ซึ่งมีรูปแบบของเพลงลาวโบราณเกิดขึ้นในดินแดนอีสานอย่างเพร่หลายนั้น สืบเนื่องมาจากสยามประเทศได้เปิดให้มีการสร้างบ้านแปงเมืองขนานใหญ่ในดินแดนอีสานหรือสยามภาคตะวันออกเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๑ ด้วยผู้คนส่วนหนึ่งอพยพมาจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขงตามเพี้ยพญามาสร้างชุมชนเมืองขึ้น ในครั้งนั้นเจ้าจอมแว่น พระสนมชาวเวียงจันทน์ในรัชกาลที่ ๑ ผู้เป็นธิดาของ เสนอพระ (คือพระนครศรีบริรักษ์ฯเจ้าเมืองรัตนนครหรือขอนแก่นคนแรก) ซึ่งเป็นสนมแต่พ.ส.๒๓๒๒นั้นได้เป็นที่โปรดปรานยิ่งนักต่อมาได้มีบทบาททำให้มีการตั้งเมืองขอนแก่นขึ้น และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้การร้องหมอลำได้รับการฝึกฝนและถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องมาจนเต็มดินแดนอีสานถึงทุกวันนี้

คำสอนผาแดงนางไอ่ที่นำมาร้องกลอนลำ

คำกลอนโบราณเรื่อง

ปัจจุบันหมอลำมีลักษณะทำนองของการลำแตกต่างกัน มีการเรียกชื่อเป็น ลำเต้ย ลำกลอน ลำเรื่อง ลำเพลิน ลำซิ่ง เป็นต้นแม้แต่ลำตัดในภาคกลางก็จัดได้ว่าเป็นการร้องกลอนเช่นเดียวกันการเรียก"หมอลำ"หมายถึง ผู้มีความชำนาญการในการ "ลำ"คือการขับร้องเป็นเรื่องหรือบรรยายเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยทำนองเพลงอันไพเราะ ซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องจากคำกลอนโบราณ เช่นผาแดง นางไอ่,นกจอกน้อย, ท้าวก่ำกาดำ,ขูลูนางอั้ว, เป็นต้น เรื่องโบราณแต่งไว้เป็นกลอน อีสานเรียกว่า ลำหรือเรื่อง ส่วนใหญ่แต่งเป็นคำกลอน จึงเรียกว่า กลอนลำ ผู้ชำนาญในการเล่านิทานเรื่องจากคำกลอนนั้นเรียกว่า “หมอลำ” ซึ่งมีการใช้กลอนสั้นและกลอนยาวเป็นหลักแม้ภ่ายหลังจะแตกลูกการร้องออกไปอีกมากมายก็ตาม

ลีลาปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกับหมอลำศิลปินแห่งชาติ

ฉวีัวรรณ-พันธู-ศิลปินแห่งชาติผลงานหมอลำ

เดิมนั้นหมอลำเกิดจากผู้เฒ่าผู้แก่นักเล่านิทานที่เกี่ยวกับจารีตประเพณีและศีลธรรม โดยเรียก ลูกหลานให้มาชุมนุมกัน แล้วเล่าเป็นเรื่องจากวรรณคดีชาดก เช่น กาฬเกษ สินชัย ภายหลังมีการออกท่าทางรำให้ดูเป็นไปตามเรื่องในท่าทาง พระเอก นางเอก นักรบ เป็นต้น โดยใช้สำเนียงสั้นยาว ใช้เสียงสูงต่ำ ประกอบ และหาเครื่องดนตรีประกอบ เช่น ซุง ซอ ปี่ แคน จนเกิดความสนุกครึกครื้น ผู้แสดง มีทั้งชายและหญิงประกอบกันจนมีรูปแบบเป็นกลอนลำแบบสมบูรณ์ เมื่อมีผู้แสดงเป็นหญิงด้วย การร้องกลอนเกี้ยวพาราสี ชิงดีชิงเด่นยาด (แย่ง) ชู้ยาดผัวกัน ร้องโจทย์ร้องแก้ ประชันขันท้ากัน แม้แต่เรื่องตลกโปกฮาก็แทรกให้สนุกสนานตามสติปัญญาหมอลำจึงถือเป็นภูมิปัญญาของหมอลำอย่างสมบูรณ์แบบ

หมอลำฉวีวรรณ พันธุ ศิลปินแห่งชาติ

หมอลำป.ฉลาดน้อย ศิลปินแห่งชาติ

ต่อมาจนหมอลำฝ่ายหญิง ก็มีเครื่อง ดนตรีประกอบจังหวะเพื่อความสนุกสนาน จนกระทั่งเพิ่มผู้แสดงให้มีจำนวนเท่ากับตัวละครทำให้มีพระเอก นางเอก ตัวโกง ตัวตลก เสนา ครบถ้วนบนเวที การเล่นหมอลำนั้นได้มีการพัฒนามาตามลำดับจากหมอลำโบราณ ของผู้เฒ่าผู้แก่เล่านิทานให้ลูกหลานฟัง ไม่มีท่าทาง และดนตรี ประกอบมาเป็น ลำคู่หรือลำกลอน ที่มีหมอลำชายหญิงสองคนลำสลับกัน มีเครื่องดนตรีประกอบ คือ แคน ลำหมู่ เป็นการลำที่มีผู้แสดงเพิ่มมากขึ้น จนเกือบจะครบตามจำนวนตัวละครที่มีในเรื่อง มีเครื่องดนตรีประกอบเพิ่มขึ้น เช่น พิณ (ซุง หรือ ซึง) กลองมาจนถึงลำซิ่ง ที่นำเอาเครื่องดนตรีสากลมาเข้าร่วมให้จังหวะเหมือนลำเพลิน มีหางเครื่องเหมือนดนตรีลูกทุ่ง กลอนลำสนุกสนานมีจังหวะอันเร้าใจ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว วันนี้หมอลำเป็นภูมิวัฒนธรรมอีสานที่พูดได้ว่า "หมอลำไม่มีวันตาย จากลมหายใจชาวอีสาน"ได้เลย

หมอลำสาวที่ต่องานบทเพลงอีสาน

หมอลำแต่ละถิ่นร่วมกันฝากคำกลอน

เจ้าจอมแว่นผู้เริ่มหมอลำในอีสาน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com

ภาพและข้อมูลจากนสพ.โพสต์ทูเดย์ ๑๔ ม.ค. ๒๕๕๘

'๖๕ ปี ๖๕ ภาพเขียนแห่งความทรงจำ' นำรายได้สมทบทุนมอบให้ ๑๒ มูลนิธิ/องค์กร

ผ่านพ้นไปอย่างน่าประทับใจ งานกาลาดินเนอร์การกุศล “๖๕ ปี ๖๕ ภาพเขียนแห่งความทรงจำ” โดยได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานในงาน ณ ห้องสกุณตลา โรงแรมเพนนินซูล่า เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อหารายได้สมทบทุนมอบให้ ๑๒ มูลนิธิ/ องค์กร จัดโดย ลลิสา จงบารมี ประธานมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร

โอกาสนี้ในวาระที่เจ้าภาพ ลลิสา จงบารมี มีอายุย่างเข้า ๖๕ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ด้วยแรงบันดาลใจและจิตสำนึกที่จะมอบสิ่งที่มีประโยชน์ให้แก่สังคม โดยนำภาพเขียนสีน้ำมันที่ได้เขียนมาตลอดระยะเวลาเกือบ ๑๕ ปี จำนวน ๖๕ ภาพ มอบให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายในการจัดงาน มอบให้แก่องค์กรการกุศล จำนวน ๑๒ แห่ง ซึ่งเป็นอีกโครงการหนึ่งที่แสดงถึงความเอื้ออาทร ดูแลซึ่งกันและกันของสังคมที่สามารถเข้าถึงให้ความสำคัญ และแบ่งปันความห่วงใย แม้จะเป็นสิ่งที่เล็กน้อยได้ก็ตาม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ โดยยอดเงินบริจาคทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน ๓,๑oo,ooo บาท ทั้งนี้ได้เชิญ ๑๒ มูลนิธิ/องค์กร ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก

สภากาชาดไทย, สภากาชาดไทย, มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ, มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ (กรุงเทพฯ), มูลนิธิกระจกเงา, มูลนิธิวัดโคกม่วง, มูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร, มูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกรเพื่อจิตรกรพิเศษ (ศิลปินพิการ),มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ, มูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ และ มูลนิธิเพื่อนช้าง จังหวัดลำปาง มารับมอบเงินบริจาค ณ ร้าน La Creperie ถ.สุขุมวิท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๘

ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com

Predetermined

นิทรรศการ "Predetermined" ผลงานของประเสริฐ ยอดแก้ว

จัดแสดง ณ TANG Contemporary Art กรุงเทพฯ

จัดแสดงไปจนถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

ดูรายละเอียดได้ที่ portfolios.net

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
portfolios.net

บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 16 มกราคม 2558

Last Update : 16 มกราคม 2558 19:49:58 น.

0 comments

Counter : 2999 Pageviews.