Group Blog
 
 
กันยายน 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 กันยายน 2563
 
All Blogs
 
วัดพระปฐมเจดีย์

เที่ยวใกล้กรุง...10 ธันวาคม 2562 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก่อนโควิด-19

ไปไหว้พระ เที่ยงกินข้าวที่ตลาด บ่ายมากินกาแฟที่ตลาดทุ่งบัวแดง

11.01 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2562





พระพุทธรูปปางคันธารราฐศิลปะทวารวดี



พระพุทธรูปศิลาขาว ชื่อ พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดีปูชนียบพิตร หรือ หลวงพ่อขาว
อยู่ที่ลานชั้นลด (กะเปาะ) ด้านทิศใต้ขององค์พระปฐมเจดีย์





เข้าไปชมภาพจิตรกรรมด้านใน... ห้ามถ่ายภาพค่ะ





พระบรมรูป รัชกาลที่ 5





กำแพงแก้ว 2 ชั้น































จุดธูป เทียน ปิดทอง ด้านนอกค่ะ

วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า ลักษณะเป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ มีวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

พระปฐมเจดีย์ เดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์  มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวงของแผ่นดินสุวรรณภูมิ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) มีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจสร้างขึ้นเมื่อคราวพระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำ แบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ ทั้งนี้จึงพระราชทานนามใหม่ว่า พระปฐมเจดีย์ ด้วยทรงเชื่อว่านี่คือเจดีย์แห่งแรกของสุวรรณภูมิ



และในทุกปีทางวัดได้จัดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวมทั้งหมดเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ให้ประชาชนได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมความงดงามขององค์พระปฐมเจดีย์แห่งนี้กันอย่างทั่วถึง




 

ปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองเหนือได้ทอดพระเนตรพระพุทธรูปโบราณเป็นอันมาก แต่มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ศรีสัชนาลัย (จังหวัดสุโขทัย) ประกอบด้วยพระลักษณะงามเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย แต่ชำรุดมากเหลืออยู่แต่พระเศียร พระหัตถ์และพระบาท จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญลงมากรุงเทพฯ แล้วให้ช่างปั้นสถาปนาขึ้นมาบริบูรณ์เต็มพระองค์ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีเททองหล่อขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2456 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร

พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั่วไป ชื่อเต็มก็คือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร ตามประกาศกระแสพระบรมราชโองการลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2466 แต่ประชาชนทั่วไปจะเรียกว่า หลวงพ่อพระร่วง หรือ พระร่วงโรจนฤทธิ์

พระร่วงโรจนฤทธิ์ มีขนาดความสูงวัดจากพระบาทถึงพระเกศ 7.42 เมตร หรือราว 12 ศอก 4 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะแบบสุโขทัย ประทับยืนอยู่บนฐานทองเหลืองลายบัวคว่ำบัวหงาย ทำวงพระพักตร์ตามยาว พระหนุเสี้ยมนิ้วพระหัตถ์และพระบาทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าระดับพระอุระ เป็นกิริยาห้าม มีพระอุทรพลุ้ยออกมา ห่มจีวรบางคลุมแนบติดพระวรกาย บ่ายพระพักตร์สู่ทิศเหนือ ทำด้วยโลหะทองเหลืองหนัก 100 หาบ

การอัญเชิญพระร่วงโรจนฤทธิ์ เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2457 จำเป็นต้องแยกชิ้นมาและมาประกอบเข้าด้วยกันที่จังหวัดนครปฐม แล้วเสร็จเป็นองค์สมบูรณ์เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตแล้ว ตามความในพระราชพินัยกรรมของพระองค์ระบุว่าให้ บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ไว้ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2469 จึงได้ทำพิธีบรรจุ พระบรมราชสรีรางคาร ณ ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตามพระราชประสงค์ทุกประการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 หลังจากการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าให้อัญเชิญพระสรีรางคาร มาประดิษฐานไว้เคียงข้างพระบรมราชสรีรางคารของพระสวามี และในปี พ.ศ. 2555 หลังจากพระราชพิธีพระราชทางเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าให้อัญเชิญพระสรีรางคาร มาประดิษฐานไว้เคียงข้างพระบรมราชสรีรางคารของพระชนกนาถ และพระสรีรางคารของพระชนนี









11.50 น.





เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวก่อนค่ะ เดินจากวัดมาที่ตลาด เจ้านี้คนต่อคิวเยอะ น่าจะอร่อย



ยืนรอประมาณ 20 นาที ได้ที่นั่งแล้วค่ะ



ข้าวหมูกรอบ เหมือนกันทั้ง 3 จาน (จะได้ไวไว)



เกาเหลา



เดินดูโน่นนี่ นิดหน่อย



















เดินกลับวัดค่ะ















13.45 น. 





14.04 น. ถึงที่หมายแล้วค่ะ



เช็คอินหน่อยเนาะ



เดี๋ยวค่อยไปกินกาแฟกัน เดินสำรวจก่อนค่ะ



ที่ช่วงหนึ่งเค้าฮิตไปถ่ายภาพด้วยโดรนกันที่นี่ล่ะค่ะ















เมี่ยงคำกลีบบัว...ใช้กลีบบัวแทนใบชะพลู





14.31 น. แดดร้อนพอสมควร



15.29 น. ได้เวลากลับแล้วค่ะ




Create Date : 22 กันยายน 2563
Last Update : 22 กันยายน 2563 18:45:08 น. 0 comments
Counter : 1499 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณSleepless Sea, คุณtoor36, คุณtuk-tuk@korat, คุณKavanich96, คุณkatoy, คุณkae+aoe, คุณหอมกร, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณsunny-low, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณนกสีเทา, คุณอุ้มสี, คุณทนายอ้วน, คุณTui Laksi, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณlife for eat and travel, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณVELEZ, คุณชีริว, คุณเนินน้ำ, คุณInsignia_Museum, คุณออโอ, คุณRinsa Yoyolive, คุณเริงฤดีนะ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณSai Eeuu, คุณALDI


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.