Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2567
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
2526272829 
 
6 กุมภาพันธ์ 2567
 
All Blogs
 
หลวงพระบาง - วัดอาฮามอุตมะธานี, วัดวิชุน, วัดใหม่สุวรรณภูมาราม

06.04 น. เช้าวันที่ 5 มิถุนายน 2566 วิวหน้าที่พัก...สายน้ำคานริเวอร์วิวค่ะ















ที่พักเรา สายน้ำคานริเวอร์วิว



สะพานข้ามสายน้ำคาน



วัดอาฮามอุตมะธานี
 (ไม่แน่ใจอ่านถูกหรือเปล่า)  อยู่ใกล้กับวัดวิชุน 



จากที่พัก เราตั้งใจจะไปวัดวิชุน ปักหมุดเดินมา เจอวัดนี้ก่อน


 
อุโบสถวัดอาฮาม สร้างโดยพระเจ้ามังทาตุราชในปี พ.ศ. 2365 ด้านข้างอุโบสถจะเป็นที่ตั้งของหอเสื้อเมืองหรือหอ “ปู่เยอ-ย่าเยอ” หลังคามีลักษณะซ้อนกันอยู่ 3 ชั้นตรงกลางสันหลังคามีช่อฟ้ารูปทรงแปลกตาจากวัดทั่วไปในหลวงพระบาง ข้างบันไดทางขึ้นอุโบสถด้านหน้ามีรูปปั้นสิงห์ลอยตัว ทาด้วยปูนขาวถัดออกไปด้านข้างทั้งสองด้านเป็นรูปปั้นยักษ์ลอยตัวบางตำรากล่าวว่าเป็นทวารบาล อุโบสถได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2474 และค้นพบโบราณวัตถุมีค่าหลายชิ้นที่ฝังอยู่ใต้อุโบสถ ด้านหน้ามีพระธาตุ 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระธาตุทรงแปดเหลี่ยมในอดีตมีหอคลุมอยู่ อีกองค์เป็นพระธาตุย่อมุมบริเวณมุมฐานทั้งสี่ด้านประดับด้วยเสารูปดอกบัว









ภายในอุโบสถ



พระธาตุเจดีย์



ด้านข้างวัดอาฮาม มีซุ้มประตู สามารถเดินเพื่อเข้าไปบริเวณวัดวิชุนได้



07.17 น.


 
วัดวิชุนหรือวัดวิซุน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2058 ในรัชสมัยพระเจ้าวิชุลราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง พอมาถึงปี พ.ศ. 2343 พวกโจรธงดำภายใต้การบังคับบัญชาของพวกฮ่อ ได้เข้ามาโจมตี จนวัดถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง จนมาถึง พ.ศ. 2441 จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานในวัดแห่งนี้

เอกลักษณ์ของวัดนี้เห็นได้จากประตูไม้ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจากปราสาทวัดภู แขวงจำปาศักดิ์ ในเขตลาวภาคใต้ ด้านในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลาจารึกรูปแบบต่าง ๆ มเหสีของพระเจ้าวิชุลราชได้ชักนำให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นซึ่งต่างจากพระธาตุอื่น ๆ เพราะเป็นรูปทรงกลมตัดครึ่ง มองเหมือนแตงโมจึงเรียกว่าพระธาตุหมากโม (ธาตุปะทุม) ต่อมา พ.ศ. 2485 วัดนี้จึงได้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก

 


ยังไม่เปิดให้เข้าชมด้านในโบสถ์ - เปิด 7.30 น. ค่ะ




 
น้อย-สุกสาคอน เล่า แต่ดั้งเดิมคนลาวเรียกพระธาตุที่พระนางพันตินะเชียงเบด พระอัครมเหสีในพระเจ้าวิชุนนะราดผู้สละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างว่า “ทาดปะทุม” (ທາດປະທຸມ) สื่อความถึงดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ ได้ชื่อว่าเป็นพระธาตุใหญ่ที่งดงามสุดในสมัยนั้น ต่อมาคนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาเรียกทาดหมากโมตามรูปทรงกลมตัดครึ่งดูคล้ายแตงโมแบ่งครึ่งคว่ำครอบองค์พระธาตุไว้

“สมัยโบราณหลวงพะบางเคยมีวัดมากถึง ๖๕ วัด ปัจจุบันเหลือ ๓๒ วัด เนื่องจากเคยมีจีนฮ่อมาเผาผลาญเมืองหลวงพะบางรวมถึงวัดนี้ด้วยแต่กลับเหลือทาดนี้ไว้ เขาคงคิดว่าภายในไม่มีอะไร ความจริงบรรจุของมีค่าไว้มากมายทั้งทาดเจดีย์ พระพุทธรูปทองคำ เงิน ทอง เยอะแยะไปหมด”

ภายหลังที่พบรัฐบาลจึงนำวัตถุทั้งหมดซึ่งล้วนมีคุณค่าด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมไปเก็บรักษาที่ “หอคำ” (หอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพะบาง) อดีตพระราชวังที่ประทับเจ้าชีวิตสายหลวงพะบาง

มัคคุเทศก์สาววัย ๒๓ ปี ย้อนประวัติศาสตร์ตามที่เธอศึกษาเรื่องราวท้องถิ่นให้ฟัง

“เมื่อห้าร้อยปีก่อนวัดเดิมนี้เคยใช้เสาจากไม้แท้ขนาดใหญ่ทั้งประดู่ มะค่า พะยูง จำนวน ๔,๐๐๐ กว่าต้น สมัยนั้นไม้สักยังไม่มีค่าเท่าไม้ที่คงทนมากเหล่านี้ ต่อมามีพวกโจรข้าศึกบุกโจมตี ปล้นสะดม ทำให้วัดนี้ถูกทำลายส่วนหนึ่ง อีกเกือบร้อยปีต่อมาได้จึงปฏิสังขรณ์ใหม่ ใช้เวลาปีเดียวก็สร้างเสร็จแต่ไม่สามารถหาไม้ขนาดใหญ่ได้ครบ ๔,๐๐๐ กว่าต้นดังเดิม เสาบางต้นจึงใช้ไม้ขนาดเล็กกว่าแล้วครอบชั้นนอกด้วยปูน”

ด้วยเป็นดำรัสของเจ้าชีวิตวิชุนนะราด (ພະເຈົ້າວິຊູນນະຣາດ) จึงตั้งชื่อวัดตามนามของพระองค์ แล้วอัญเชิญ “พะบาง” พระพุทธรูปปางห้ามสมุทรจากวัดมะโนรม (ວັດມະໂນຣມ) มาประดิษฐาน

“จนถึงวันนี้ วัดวิชุนนะราดมีอายุร้อยกว่าปีแล้ว คนหลวงพะบางให้ความเคารพศรัทธามาตลอด ไม่เพียงเป็นวัดที่ได้รับการสร้างขึ้นก่อนวัดเซียงทองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักมากกว่า พระพุทธรูปหลายองค์สำคัญก็เคยประดิษฐานที่นี่ แม้ปัจจุบันวัตถุมรดกทางศาสนาจะย้ายไปรักษาที่หอคำเกือบหมดแล้ว ที่นี่ยังเคยสำคัญขนาดว่าก่อนที่เจ้ามหาชีวิตทุกพระองค์จะขึ้นครองราชย์ต้องบวชจากวัดนี้ก่อน แต่เมื่อจะสึกต้องไปสึกที่วัดอื่น ด้วยถือว่าที่นี่เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อขึ้นครองราชย์ก็ต้องมาดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาจากโอ่งในวัดนี้”

https://www.sarakadee.com/2019/07/26/mark-mo/




ซุ้มประตูทางเข้าอีกด้าน



ซุ้มประตูฝั่งที่ติดกับวัดอาฮาม มองเห็นพระธาตุพูสีบนเขา





07.21 น. เจ้าหน้าที่ดูแล เปิดประตูแล้วค่ะ แต่ด้านหน้าทางเข้ายังเตรียมไม่เรียบร้อยดี



พระประธานหลวงในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง

















ด้านหน้าถนน











ซ้ายมือ ทางขึ้นวัดวิชุน มองตรงไปเห็นพระธาตุพูสี









07.37 น. เดินไปตลาดเช้าต่อค่ะ











07.47 น. ถึงแล้วค่ะ ตลาดเช้า



นอกจากเงินกีบบ้านเค้า ลาวยินดีรับเงินไทยค่ะ



ชอบค่ะ มากี่รอบก็ซื้อกลับไปกิน



สาหร่าย ที่เอาไปทำไคแผ่น



เชื้อฟืน



หนังควายตากแห้ง 









ห้องสมุด




 

วัดใหม่สุวรรณภูมาราม เดิมเป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ใกล้พระราชวังหลวงพระบาง (หอคำ) มากที่สุด ถือเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของหลวงพระบาง สร้างโดยเจ้าอนุรุทธและเจ้ามันธาตุราช เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาวจนถึงสิ้นสมัยราชอาณาจักร
 


สิมของวัดเป็นแบบผสมผสานหลายสกุลช่างเข้าด้วยกัน เป็นสิมแบบโอ่โถงอยู่ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เกือบจะคล้ายกับสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีขนาดใหญ่ สูงโปร่ง เครื่องประกอบหลังคา มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์อย่างอุโบสถศิลปะรัตนโกสินทร์ หลังคาแอ่นโค้ง มีโหง่และช่อฟ้า (สัตตะบูริพัน) ตกแต่งด้วยลายฟอกคำอย่างสิมแบบหลวงพระบาง หลังคามีการซ้อนชั้นแบบเชียงขวาง และมีคอสองแบบไทลื้อ ทวารบาล เช่น รูปเทวดาถือช่อดอกกระดันงา ตามแบบที่นิยมในศิลปะลาว ขณะเดียวกันก็มีรูปมังกรแบบจีนสลักไว้ด้านล่าง ส่วนภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง คนลาวเรียกว่า พระเอ้ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องต้นอย่างพระมหาจักรพรรดิ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ส่วนผนังด้านในประดับพระพิมพ์ปิดทององค์เล็ก ๆ เป็นหมื่นองค์ มีภาพปูนปั้นปิดทองเรื่องพระเวสสันดรที่แฝงด้วยเรื่องราวการดำเนินชีวิตของชาวเมืองหลวงพระบาง ด้านหน้ายังปรากฏหอขวาง















ด้านหน้า ถ้าเป็นตอนเย็น บริเวณนี้ ก็คือตลาดมือด มีของขายเต็มไปหมด



ฝั่งตรงข้าม อีกฟากถนน ทางขึ้นพระธาตุพูสี





พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง





เดินกลับที่พักค่ะ















ตอนที่ 1 @ One Vientiane Hotel, ร้านแหนมเนืองสีหอม, วัดสีสะเกด
ตอนที่ 2 หลวงพระบาง - สายน้ำคาน ริเวอร์วิว, ร้านโจมา, ร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม
ตอนที่ 3 หลวงพระบาง - เดินเล่น, วัดแสนสุขาราม, วัดเชียงทอง
ตอนที่ 4 หลวงพระบาง - พระธาตุพูสี




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2567 17:26:54 น. 0 comments
Counter : 559 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSleepless Sea, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnamfaseefoon, คุณmultiple, คุณปรศุราม, คุณเนินน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปัญญา Dh, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณดอยสะเก็ด, คุณร่มไม้เย็น, คุณSweet_pills, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 166 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.