วัดภุมรินทร์กุฎีทอง สมุทรสงคราม
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง สมุทรสงคราม
สวัสดีวันอังคารค่ะ พาเที่ยววัดอีกแล้วค่ะ จริงๆ ตั้งใจจะพาไปเที่ยวตลาด...แต่ยังไม่ได้ทำรูปทั้ง ๒ ตลาดเลยค่ะ ทั้งตลาดน้ำอัมพวา กับตลาดบ้านใหม่ ฉะเชิงเทรา อย่างที่เคยบอกไว้ อัพบล็อก...สำหรับเรา ใช้เวลาไม่นาน (ถ้าได้ทำแบบ...ไม่ลุกทำโน่น ทำนี่นะคะ) ที่นาน...คือตอนทำรูปค่ะ...
ความตั้งใจแรกคือจะไปตลาดน้ำอัมพวา เราไปวันที่ 13 เมษายน สงกรานต์พอดี เช้าวันนั้น ดูข่าวเช้าของช่อง 9 เค้าจัดสดจากที่ตลาดน้ำอัมพวา เห็นเงียบๆ ดี น่าไปแฮะ ปะป๊าเลยชวน ไปมั้ย...เราอยากไปอยู่แล้ว...ตัดสินใจไปกัน แต่กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เที่ยงกว่าแล้ว (ใจเย็นดีเนาะ) ทำใจกับถนนหนทาง ช่วงเทศกาลว่า รถน่าจะติด แต่ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ค่ะ ไปได้เรื่อยๆ ถึงวัดภุมรินทร์กุฎีทอง ตอนบ่าย 2 กว่าๆ จะนั่งเรือข้ามไปตลาดน้ำ ก็ดูจะเร็วไปแดดเปรี้ยงเลย ปะป๊าพาลูกไปนั่งกินน้ำแข็งไส...ส่วนแม่ก็เดินถ่ายรูปค่ะ
บ้านเรือนฝั่งโน้น...มองจากท่าเรือวัดภุมรินทร์
ที่เห็นป้อมขาวๆ นั่น ที่เราจะไปซื้อตั๋วลงเรือไปตลาดน้ำค่ะ
กุฎีทอง กุฎิทองหลังนี้ สร้างโดยท่านทอง ท่านสั้น ผู้เป็นบิดามารดาของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ (เดิมชื่อนาค) พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างเมื่อปี พุทธศักราช ๒๓๒๕ ต่อมาได้บูรณะใหม่เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๓๑
พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๑ และสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑
กุฎีทอง เรือนไม้ทรงไทยตกแต่งลวดลายทั้งภายในและภายนอกด้วยลายรดน้ำปิดทองตลอดทั้งหลัง จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อกุฎีทอง แต่เดิมนั้นกุฎีทองตั้งอยู่ที่วัดบางลี่บน ริมแม่น้ำแม่กลองบริเวณที่เป็น ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน โดยกล่าวกันว่า สมเด็จพระอมรินทรา พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงสร้างถวายเจ้าอาวาส วัดบางลี่บนในราวปี พ.ศ.๒๓๒๕ เนื่องจากสมเด็จพระอมรินทราทรงมีพระนิวาสสถานเดิม ณ บ้านบางช้าง ตำบลอัมพวา และทรงเลื่อมใสศรัทธาท่านเจ้าอาวาสวัดบางลี่มาแต่ครั้งยังทรงพำนักอยู่ที่บ้านบางช้าง เมื่อได้รับการสถาปนาเป็นพระบรมราชินีจึงได้สร้างกุฎีทองถวายเจ้าอาวาสวัดบางลี่บนรวมทั้งหมด ๓ หลังด้วยกัน ครั้นต่อมาภายหลังวัดบางลี่บนได้กลายสภาพเป็นวัดร้างเนื่องจากที่ตั้งของวัดนั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นคุ้งน้ำช่วงหักข้อศอกจึงถูกกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งพังกินพื้นที่วัดทำให้วัดเหลือพื้นที่น้อยลงทุกที นานวันเข้าจึงทำความเสียหายให้แก่เสนาสนะต่างๆ ภายในวัด รวมทั้งกุฎีทองที่ได้พังทลายเสียหายลง ๒ หลัง คงเหลืออยู่เพียง ๑ หลัง วัดบางลี่บนจึงกลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
จนกระทั่งในราวปี พ.ศ.๒๔๖๘ พระอธิการเกีย เจ้าอาวาสวัดภุมรินทร์จึงได้รื้อกุฎีทองที่เหลืออยู่หลังสุดท้ายมาปลูกไว้ที่วัดภุมรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ปากคลองประเวศเพชรภูมิ (ปากคลองบางลี่) ฝั่งตะวันตกของอำเภออัมพวา รวมทั้งยังได้เก็บรวบรวมศาสนวัตถุต่างๆ ที่เคยอยู่ในวัดบางลี่บน อันได้แก่ พระประธานภายในพระอุโบสถ รอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปต่างๆ มาประดิษฐานไว้ที่วัดภุมรินทร์ด้วยเช่นกัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดภุมรินทร์จึงมีชื่อเรียกต่อท้ายว่า วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
ใครจะสุขเท่า....
ภาพจะออกโทนสีนี้ซะเยอะเลย...เพราะคนถ่ายชอบค่ะ
ภาพเยอะค่ะ เลยไม่อยากบรรยาย ดูไปเรื่อยๆ นะคะ
ลานตรงกลางด้านนอกค่ะ
ห้องจัดแสดงอีกห้องค่ะ ขึ้นบันไดไปส่วนนี้อยู่ทางปีกขวา
พระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ ค่ะ
ค่า WB ตั้งเป็น Auto ค่ะ
ถ้าจำไม่ผิด (เพราะลองหลายค่ามาก...) อันนี้ ลองปรับ WB เป็น Shade ค่ะ
เดินมาใต้ถุนใกล้ๆ กันค่ะ
ยาวเฟื้อยเลย...นั่งแล้วกลัวโคลงเนาะ
แดดร้อนมาก...เห็นเค้าเล่นลิเก ไม่มีคนดูเลย สงสัยว่าเค้าเล่นประจำอยู่แล้ว หรือเล่นแก้บน...
มาไหว้พระบ้างค่ะ พระพุทธบาทจำลอง อายุกว่า ๒๐๐ ปี
อีกมุมที่พอจะเก็บได้ค่ะ...
เลนส์ 35 mm. ถอยซะไกลเลย...
เดินกลับไปหาลูกแล้วค่ะ
ในเวลาบ่าย 3 กว่าๆ วันที่ 13 เมษายน ทำไมเงียบเหงาแบบนี้....
ขอบคุณที่ติดตามกันจนจบค่ะ จะแบ่งเป็น 2 บล็อกก็น้อยไป พอเป็นบล็อกเดียวก็เยอะไปอีก...
ที่มาข้อมูล... //touronthai.com/gallery/placeview.php?place_id=33000013
ขอบคุณเฮดบล็อก และบีจีคุณญามี่ค่ะ
Create Date : 10 พฤษภาคม 2554 |
|
40 comments |
Last Update : 9 ตุลาคม 2558 10:06:16 น. |
Counter : 11967 Pageviews. |
|
|
|
วันนี้มาเจิม Blog พี่หนู
เรือนไทย สวยงามจังเลยนะคะ
แถม ท่าทางจะลมเย็นสบายนะคะพี่หนู