Engine Mapping: กระทบ-ไม่กระทบ?
อย่างที่เล่าให้เพื่อนๆ ทราบไปเมื่อวันก่อนว่ามีอะไรใหม่ๆ มาที่สนามบาเลนเซียอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือเรื่องยางมีเดียมที่นักขับจะได้ใช้แข่งจริงเป็นครั้งแรก ส่วนอีกเรื่องก็คือการจำกัด engine mapping โดยเรื่องหลังนี้ถือเป็นประเด็นเด่นก่อนการแข่งขันเลยค่ะ
ที่ว่าเด่นก็เพราะเขากำลังรอดูว่าการห้ามทำ engine mapping ระหว่างควอลิฟายกับการแข่งขันจะส่งผลต่อทีมเร้ดบูลอย่างไร เพราะเป็นทีมที่ทำเวลารอบควอลิฟายได้ดีที่สุดโดยคาดว่ามาจากการปรับเครื่องยนต์เพื่อให้เผาไหม้ได้แก๊สออกมามากเพื่อผลดีกับตัว blown diffuser แต่ถ้าถามเซบาสเตียน เวทเทล แล้ว เขาไม่รู้สึกกังวลเลยค่ะ เขาเชื่อว่าในขณะที่ทีมของเขาได้รับผลกระทบ ทีมอื่นๆ ก็ต้องได้รับผลกระทบเช่นกัน และการที่รถเร้ดบูลวิ่งได้ดีเพราะส่วนประกอบทั้งหมด ไม่ใช่เพียงชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่ง
บรรยากาศในห้องแถลงข่าวเมื่อวานนี้
ขณะที่ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ผู้ที่มีความทรงจำดีๆ มากมายที่บาเลนเซียก็เชื่อว่ากฎใหม่เรื่อง engine mapping คงไม่ส่งผลอะไรมากนักกับอันดับควอลิฟาย เขายังคิดว่าเวทเทลคือคนที่เร็วที่สุด นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่ายังมีเวลาให้เฟอร์รารี่ฟื้นกลับมา แต่มีข้อแม้ว่ารถสีแดงต้องวิ่งได้เร็วที่สุดในสนาม
แต่ทางด้าน ลูอิส แฮมิลตัน เชื่อมั่นว่าการปรับกฎ engine mapping ครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีให้แม็คลาเรนเอาชนะเร้ดบูลในรอบควอลิฟายได้ เพราะโดยปกติเมื่อถึง Q3 ทีไร เร้ดบูลดูเหมือนจะงัดไม้เด็ดจากการปรับอะไรบางอย่างกับเครื่องมาทุกครั้ง เช่นเดียวกับเฟอร์รารี่ในสนามที่แล้วที่ผลงาน Q3 ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
เรื่องนี้จะส่งผลกับใคร อย่างไร มากน้อยแค่ไหน อีกไม่กี่อึดใจเราก็จะได้ทราบกันแล้วล่ะค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 ภาพจาก formel1.de
Create Date : 24 มิถุนายน 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2554 14:12:14 น. |
Counter : 1271 Pageviews. |
|
|
|
จะเป็นไงนะ เมื่อ ห้ามโม ?
motoGP & F1 ตอนนี้ซ้อมอยู่ เมฆ ครึ้มเชียว ทั้งคู่เชียว
วันแข่ง อย่าตกน้าาา