ปฏิบัติการพิชิตความอวบวันที่ 18 (มี 13 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับน้ำหนักตัว) มาฝากค่ะ

หวัดดีจ้า...

วันนี้หยุดอยู่บ้านล่ะ ตื่นมาหนัก 49 เท่าเดิมก็ดีใจแล้ว ค่อยๆลดกันไป เนอะ
วันนี้ไม่มีอะไรมาก ตื่นมาก็เที่ยงแล้วอ่ะ เมื่อยมากๆเลย ผลจากการยกน้ำหนักเมื่อวาน แขนขาง่อยไปแล้ว (-.-')

กินอะไรไปมั่งล่ะเนี่ย

ตื่นมาก็เที่ยงแล้วใช่ม๊า...กินไข่ต้มไปฟองนึงเอาแรงก่อน แล้วก็ปอกมันแกวไว้กินเล่นทั้งวัน เลยไม่ค่อยหิวหรอก แต่แอบกินหนมขาไก่ไปห่อนึง ไม่มีอะไรมากตอนเย็นก็ไม่หิว เพราะมีแต่มันแกวเต็มท้อง อิอิ

หลังจากนั้นก็คิดว่า น่าจะออกกำลังซะหน่อย แต่ว่ามันยังปวดเมื่อยอยู่เลยน๊า... เอาก็เอา เลยเล่นเครื่องอีลิปไปแค่ 6 นาทีเอง เกื่อบจะเปนลม มันเมื่อยแล้วก็เหนื่อยมากเลยอ่ะ อาจจะกินน้อยด้วยก็ได้มั๊ง เลยไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ ที่จริงเราก็เป็นคนไม่ค่อยมีแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ เรียนพละก็ได้เกรดหนึ่งตลอดเลย(ที่ผ่านเพราะอาจารย์ให้ทำรายงานส่งหรอกนะ)

อืม...หลังจากนั้นประมาณทุ่มสี่สิบห้าก็กินชาเขียวฟูจิชะไปครึ่งขวด

จบรายการกินวันนี้จ้า...เหนื่อย เมื่อย ไปอาบน้ำดีกว่า เนอะ

ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคนเลยน๊า...มาสู้ สู้ กันค่ะ พวกเราต้องผอม


พอดีเมื่อกี๊หยิบหนังสือ"รีดเดอร์ไดเจส" เล่มใหม่ล่าสุดมาอ่าน มีเรื่องเกี่ยวกับความอ้วนด้วย เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ (เอาแบบย่อๆนะ มันยาวอ่ะ)


13 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับน้ำหนักตัว

"คนส่วนใหญ่มักกล่าวหาคนอ้วนว่าขี้เกียจและขาดความมุ่งมั่น แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหลายเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้" ข้อมูลต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงล่าสุดที่อธิบายสาเหตุของรูปร่าง ขนาดต้นขา ความอ้วน และความแข็งแรง


1. พันธุกรรม สำคัญกว่าที่คิด
- นักวิทยาศาสตร์ค้นพบยีนอ้วนในมนุษย์ ปัจจุบันมีชื่อเรียกที่สุภาพว่ายีนเอฟทีโอ ผลการศึกษาพบว่าผู้มียีนชนิดนี้สองชุดมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 และมีโอกาสอ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มียีนดังกล่าว คาดว่ายีนเกี่ยวกับความอ้วนน่าจะมีมากกว่า 100 ยีน แต่ละยีนอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นยีนละสองหรือสามกิโลกรัม คนปกติราวครึ่งหนึ่งมียีนเอฟทีโอหนึ่งชุด และร้อยละ 16 มียีนชนิดนี้สองชุด แต่การมีปัจจัยเสี่ยงด้านพันธุกรรมไม่ได้แปลว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสผอม การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
2. บางคนมีเซลล์ ไขมันมากกว่าคนอื่น
- เซลล์ไขมันของแต่ละคนมีปริมาณแตกต่างกันอย่างมาก บางคนมีเซลล์ไขมันมากเป็นสองเท่าของคนทั่วไป ไม่ว่าน้ำหนักจะลดหรือเพิ่ม จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายยังคงเดิมและพร้อมเสมอจะดูดซับหรือสะสมไขมันไว้ในเซลล์ การลดจำนวนเซลล์ไขมันเป็นเรื่องทำได้ยาก แต่สิ่งที่เราทำได้คือการควบคุมให้เซลล์มีขนาดเล็ก (ดูข้อถัดไป)
3. เราสามารถเปลี่ยน ระบบเผาผลาญ
- เซลล์ไขมันในคนอ้วนมีการเผาผลาญเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทำให้เผาผลาญไขมันน้อยลง การมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเพียงห้ากิโลกรัมสามารถชลอการเผาผลาญไขมันซึ่งส่งผลให้อ้วนมากขึ้นกว่าเดิมและกลายเป็นวงจรเลวร้ายเมื่อไขมันที่สะสมเพิ่มขึ้นกลับทำให้การเผาผลาญไขมันลดลง การออกกำลังคือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง การออกกำลังเป็นประจำช่วยให้มีน้ำหนักตัวปกติ
4. ความเครียด ช่วยสร้างไขมัน
- ความเครียดจากทุกสถานการณ์ ทำให้ร่างกายโหยหาอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตฮอร์โมนเครียด ฮอร์โมนเครียดทำให้ร่างกายสะสมไขมันเพิ่มขึ้น ควรออกกำลังเป็นประจำควบคู่กับการผ่อนคลายความเครียด เช่น ฝึกโยคะ หรือ ทำกิจกรรมพิเศษร่วมกับครอบครัว
5. โอกาสอ้วนเกิดได้ ตั้งแต่ในครรภ์แม่
- การกินอาหารรสหวานหรือไขมันสูงระหว่างตั้งครรภ์มีผลเสียต่อทารกในครรภ์ นักวิจัยคาดว่าน้ำหนักตัวของแม่ขณะตั้งครรภ์มีผลต่อสภาพแวดล้อมในมดลูก ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายพึงระลึกไว้เสมอว่าการกินอาหารถูกสุขลักษณะตั้งแต่วันนี้ช่วยปกป้องลูกคุณจากโรคอ้วนได้ตั้งแต่แรกเกิด
6. หลับนานขึ้น น้ำหนักลดลง
- การนอนหลับเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความรู้สึกเต็มอิ่มในทุกเรื่องและส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงเองโดยอัตโนมัติ การอดนอนทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุลย์ โดยฮอร์โมนเลปทิน(มีฤทธิ์ทำให้รู้สึกอิ่ม)ลดลง และฮอร์โมนเกรลิน(กระตุ้นความหิว)เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เรารู้สึกหิวและอยากกินอาหารทั้งที่ร่างกายไม่ขาดอาหาร ที่จริงแล้ว การนอนหลับคือวิธีรักษาโรคอ้วนที่ง่ายและประหยัดที่สุด
7. น้ำหนักของคู่สมรส ก็มีส่วน
- การอ้วนขึ้นหรือผอมลงสามารถติดต่อกันได้ หากคู่สมรสคนหนึ่งอ้วน อีกคนมีโอกาสอ้วนขึ้นร้อยละ 37
8. ไวรัสอาจเป็นสาเหตุ ของโรคอ้วน
- การติดเชื้ออะดีโนไวรัสทำให้เกิดโรคของระบบทางเดินหายใจตอนบนและโรคระบบทางเดินอาหาร นักวิจัยพบว่าไวรัสนี้อาจทำให้อ้วน เซลล์ต้นกำเนิดเป็นเซลล์ที่มีศักยภาพสูงในการปรับเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ชนิดอื่น การติดเชื้อไวรัสอาจทำให้เปลี่ยนเป็นเซลล์ไขมัน เชื้อไวรัสทำให้เซลล์ไขมันเพิ่มจำนวนและสะสมไขมันไว้มากขึ้น
9. คุกกี้ ก็เสพติดได้
- การเสพติดอาหารมีลักษณะแตกต่างจากการเสพติดโคเคนหรือแอลกอฮอล์ แต่ไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อได้ยินรายชื่ออาหารที่อาสาสมัครชอบกิน สมองส่วนที่ตอบสนองทันทีคือบริเวณเดียวกับที่ตอบสนองต่อยาเสพติด เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับโดปามีนซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับแรงจูงใจและความพึงพอใจ หากตัวรับสัญญาณโดปามีนของคนอ้วนมีน้อยลง พวกเขาคงต้องกินอาหารเพิ่มเพื่อให้เกิดความพึงพอใจในระดับเดิม
10. โรคหูทำลาย การรับรส
- ผู้ที่รับรู้รสชาติน้อยกว่าผู้อื่นมักเป็นคนอ้วน อาจเกิดจากโรคหูติดเชื้อซึ่งสามารถทำลายเส้นประสาทรับรสที่อยู่ใกล้หูชั้นกลาง พบว่าผู้มีปัญหาหูติดเชื้อหลายครั้งมีโอกาสเป็นโรคอ้วนสูงกว่าคนทั่วไปร้อยละ 35 เมื่อเส้นประสาทถูกทำลาย ทำให้รับรู้รสหวานมันน้อยลงจึงต้องกินในปริมาณสูงขึ้น พลังงานที่ได้รับเพิ่มขึ้นแม้เล็กน้อยแต่ต่อเนื่องเป็นยาวนานก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน
11. สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมัน
- อนุมูลอิสระนอกจากเป็นสาเหตุของความชรายังทำให้อ้วนด้วย อนุมูลอิสระทำอันตรายต่อเซลล์บอกความรู้สึกอิ่ม การกินอาหารทุกชนิดทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย อาหารที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากได้แก่ ลูกกวาด มันฝรั่งทอด และคาร์โบไฮเดรตชนิดต่างๆ การกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำทำให้เซลล์บอกความรู้สึกอิ่มถูกทำลายอย่างต่อเนื่องหลายปี ต่อมา การส่งสัญญาณอิ่มอาจแผ่วลงทำให้เกิดความหิวขึ้นง่ายกว่า ควรงดอาหารขยะและหันมากินผัก ผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
12. เลือกสูตรอาหาร ชนิดใดก็ได้
- แนวคิดหรือคำแนะนำด้านโภชนาการมีองค์ประกอบที่เหมือนกันคือ หลักโภชนาการเพื่อสุขภาพสี่ข้อ ดังนี้
* เลือกกินคาร์โบไฮเดรตในรูปของธัญพืชไม่ขัดขาวและใยอาหาร
* หลีกเลี่ยงไขมันชนิดทรานส์แลไขมันอิ่มตัว
* กินโปรตีนชนิดไม่ติดมัน
* กินผักและผลไม้มากขึ้น
อาหารที่ให้หลีกเลี่ยงคือน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี เนื่องจากกระตุ้นการหลั่งอินซูลินทำให้อ้วนและเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน หลักสำคัญของสูตรอาหารยุคปัจจุบันคืดเน้นทางสายกลางมากกว่าการงดหรือห้าม ซึ่งทำให้เราปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้จริง

13. คนอ้วน ก็แข็งแรงได้
- ขนาดรูปร่างไม่ใช่อุปสรรคของสุขภาพดี งานวิจัยจากวารสารอายุรศาสตร์ ศึกษาข้อมูลสุขภาพของผู้ใหญ่จำนวน 5,440 คนพบว่าร้อยละ 51 ของผู้มีน้ำหนักเกินและร้อยละ 32 ของผู้เป็นโรคอ้วนมีผลตรวจสุขภาพปกติ ระดับน้ำตาลในเลือด คอเรสเตอรอลและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ข้อมูลอีกเรื่องที่ท้าทายความเชื่อเดิมคือ ร้อยละ 23.5 ของคนผอมมีผลตรวจเลือดผิดปกติซึ่งส่งผลให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงกว่าคนอ้วน
"การลดน้ำหนักอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเปลี่ยนแปลงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นเป็นเรื่องไม่ยาก"

เฮ้อ...กว่าจะพิมพ์เสร็จเล่นเอาเมื่อยเลย เพื่อนๆลองเอาไว้อ่านกันดูเล่นๆน๊า..



Create Date : 25 มีนาคม 2552
Last Update : 26 มีนาคม 2552 22:07:33 น. 12 comments
Counter : 637 Pageviews.

 
ซู่ๆค่าา ^0^

ใช่แล้วค่าคุณเอมมี่ขายังเจ็บอยู่เลย T^T
อยากหายไวๆแล้วง่า จะได้กลับไปเบิร์น... เฮ้อ...
ยังไงถ้าคุณเอมมี่จะออกกำลังกาย
เอาของเราไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ ว่าอย่าลืมวอร์มร่างกายก่อนล่ะ


โดย: สาวประเภทสวย วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:20:51:04 น.  

 
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ถ้าออกกำลังไม่ไหว อย่าฝีนมากนะคะ บางทีร่างกายเราต้องการการพักผ่อนล่ะ


โดย: tanamura วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:21:19:49 น.  

 
ออกกำลังกายช่วงแรกๆจะปวดเมื่อยแบบนี้เลยค่ะ เคยเป็นเหมือนกัน
อาจจะเพราะไม่ได้วอร์มก่อน

อย่าลืม warm up และ cool down ปิดท้ายด้วยน๊า

สู้ๆนะคร๊า




โดย: KwanGZaar วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:21:42:41 น.  

 
กินน้อยจังเลยเนาะ
ดีจังไม่ค่อยหิว หมาวนี้หิวตลอดเวลาเลยอะ


โดย: มะหมาว (nujumjim ) วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:22:51:17 น.  

 
ขอบคุณความรู้ครับผม
13. คนอ้วน ก็แข็งแรงได้ ชอบอันนี้ครับ แต่ขอแข็งแรงแล้วหุ่นดีด้วยนะครับ


โดย: มนุษย์เกลียดกุ้ง วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:23:50:11 น.  

 
หาบิกินี่สีชมพูเจอแล้วนะ


โดย: maydaysayHi วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:0:18:41 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: MizuYogan วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:1:31:37 น.  

 
แวะมาอิจฉาและเป็นกำลังใจให้คนน้ำหนักน้อยคร๊า อิ..อิ.. 49แล้วอิจฉาจังเย้ย ของเราไม่ไหวแล้วมันกลับมาอีกแล้วอ่ะ 52.5อีกแล้ว


โดย: jrom วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:5:30:15 น.  

 
ได้ความรู้มาอีก 13 ข้อ ความคุณค่ะ


โดย: R e R a : วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:6:11:11 น.  

 
เอ็มมี่กินน้อยจังเลยน่ะ แถมยังไม่หิวอีกต่างหาก
ทำได้ไงค่ะเนี้ยะ ถ้าเป็นเรานะ หิวทั้งวันแน่เลย +5555


โดย: sansa วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:9:06:57 น.  

 
โอ้ววว วันนี้มีความรู้มาให้อ่านกันด้วย อิอิ

ป.ล. ไบโอมันไม่น่ากลัวเน้อ
มันยากกกกกกกก ตะหาก อิอิ


โดย: kittypiggybent (KurodaBB ) วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:16:02:10 น.  

 
ข้อ7. น้ำหนักของคู่สมรส ไม่น่าละ เมื่อก่อนเรากินน้อยแต่เดี่ยวนี้กินเยอะมากๆๆ เพราะแฟนเราหนัก129kg แล้วเป็นคนชอบกินมาก งี้เรามีสิทธจะอ้วนเหมือนแฟนเราไหมเนี่ย


โดย: pekei วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:21:50:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

emmycookie
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.สงวนลิขสิทธิ์ พศ.2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก รูปภาพข้อความ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินตามกฏหมายขั้นสูงสุด
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
 
25 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add emmycookie's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.