ข้อห้าม หลังคลอด

หลังคลอดกลับมาบ้านแล้ว คุณแม่อย่าเพิ่งตีปีกร้องเย้ๆ ว่าต่อไปนี้สบายแล้ว จะทำอะไรก็ได้ดั่งใจ...ช้าก่อนค่ะ
ถึงจะทำอะไรต่อมิอะไรได้ แต่ยังมีข้อห้ามที่ทั้งคุณแม่คนใหม่และลูกตัวน้อยไม่ควรทำ
และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ เอาไว้รอให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิมแล้วคอยทำตามใจชอบดีกว่าค่ะ

Newborn เบบี๋น้อยแรกคลอดยังบอบบางมาก คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยใส่ใจดูแลในทุกเรื่อง
เพื่อความปลอดภัยจึงมีข้อห้ามดังต่อไปนี้ค่ะ


ห้ามออกนอกบ้าน
ลูกน้อยวัยละอ่อนภูมิคุ้มกันในร่างกายยังทำงานไม่สมบูรณ์เต็มที่ ทั้งยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ
การพาเด็กไปอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง มลพิษ เชื้อโรคหรือฝุ่นละออง ฯลฯ
ก็จะทำให้เสี่ยงที่ร่างกายจะรับเชื้อโรคและเจ็บป่วยได้ง่าย

Advise : สำหรับเด็กแรกคลอดบ้านยังเป็นวิมานค่ะ ควรให้อยู่ในบ้านก่อน
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงก่อนไปผจญกับโลกภายนอก และให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยด้วยนะคะ


ห้ามกินของอื่นนอกจากนมแม่
เด็กแรกคลอดอาหารหลักชนิดเดียวคือนมแม่ เพราะกระเพาะอาหารและลำไส้ลูกยังไม่พร้อมที่จะรับอาหารชนิดอื่น
เมื่อกินเข้าไปอาจจะทำให้ท้องเสียและเกิดป่วยได้

Advise :ส่วนใหญ่คุณย่าคุณยายจะหวังดี อาศัยภูมิปัญญารักษาอาการของหลาน เช่น หลานดูดนมไม่ได้
แล้วใช้ปัสสาวะเช็ดลิ้นเพื่อเช็ดละอองฝ้าที่เกิดขึ้น จริงๆแล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดเช็ดจะดีกว่าปัสสาวะนะคะ
หรือลูกยังไม่ครบ 6 เดือน ก็อย่าเพิ่งให้กินกล้วยครูด เพราะจะทำให้ท้องอืด อึดอัด แน่น ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ
เพราะกล้วยครูดนั่นเองค่ะ


ถ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ... ห้ามใช้
ผิวหนังลูกแรกคลอดบางใสเหมือนปีกแมลงปอจนสามารถมองเห็นเส้นเลือดข้างใน
แถมบนผิวก็ยังไม่มีแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคภายนอกได้เหมือนผู้ใหญ่
ผิวลูกช่วงนี้ที่บอบบางจึงมีโอกาสแพ้ง่าย ทั้งยังเกิดแผลถลอกได้มากกว่าปกติด้วยค่ะ

Advise : นอกจากจะต้องสัมผัสและอุ้มลูกอย่างระมัดระวังแล้วการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับเด็กก็จำเป็น
เพื่อป้องกันการระคายผิวทั้งนี้การใช้น้ำยาซักล้าง น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์ของใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
ที่ไม่มีสารตกค้าง ด้วยนะคะ


ท่านอนและนั่งต้องระวัง
เด็กแรกคลอดข้อต่อกระดูกยังอ่อนอยู่ค่ะ โดยเฉพาะกระดูกแขน ขา และกระดูกคอ เวลาอุ้มต้องประคองคอให้ดีนะคะ
เพราะข้อต่อที่ยังไม่แข็งแรง เรียกว่าเปราะบางและมีโอกาสบิดงอได้ง่าย ทั้งไม่สามารถทนต่อการรับแรงกระแทก
กด ทับ ดึง หรือยื้อได้ โดยเฉพาะส่วนที่แตกหักบ่อยที่สุดคือ กระดูกแขน ขา มือเท้าและไหปลาร้า

Advise : การอุ้มหรือเล่นกับลูกต้องระวังช่วงข้อต่อและคอเป็นพิเศษ ส่วนท่านอนสำหรับเด็กคลอดนั้น
ควรให้นอนหงายโดยให้ลำตัว แขน ขาปล่อยสบายๆไม่ให้ส่วนใดทับหรือบิดงอ
แล้วที่กังวลศีรษะจะแบบนั้น ก็ยังไม่น่ากังวลเท่ากับความปลอดภัยของลูกนะคะ


ไม่จับเขย่า โยน โยกอย่างรุนแรง
บอกเรื่องกะโหลกศีรษะลูกที่ยังปิดไม่สนิทแล้วเชื่อมโยงเรื่องของการห้ามโยนต่อเข้าไปค่ะ
สมองของลูกวัยขวบปีแรกยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทั้งเส้นเลือดก็มีโอกาสฉีกขาดง่าย น้ำในช่องสมองมากกว่าเนื้อสมอง
การได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เช่น ถูกเขย่า ถูกโยก อาจทำให้เกิดภาวะ Shaken Baby
Syndrome(SBS) คืออาการที่เนื้อสมองไปกระทบกับกะโหลกศีรษะจนมีเลือดออกในสมอง
ซึ่งอาการนี้ส่งผลต่อพัฒนาและการเจริญเติบโต

Advise : ท่าพิสดารในการเล่นกับลูก ทั้งจับโยนกลางอากาศหรือจับลูกเขย่าอย่างรุนแรง
ห้ามทำเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดอาการ SBS ซึ่งไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอก
คุณแม่จึงควรเลี่ยงสาเหตุที่จะก่อให้เกิดภาวะที่มีความเสี่ยงนี้นะคะ


ห้ามให้สะดือเปียกแฉะ
ลูกแรกคลอดสะดือที่ถูกตัดยังไม่แห้งดีค่ะ จะอาบน้ำหรือเช็ดตัวคุณแม่ต้องระวังไม่ให้สะดือเปียกแฉะ
แล้วปกติสะดือจะหลุดเองภายใน 2 สัปดาห์ ระหว่างนี้ต้องระวังเรื่องความสะอาดและให้สะดือแห้งอยู่เสมอ
เพราะหากสะดือเปียกจะทำให้เป็นแผลอักเสบ แล้วทำให้ลูกเป็นไข้ได้ค่ะ

Advise : หลังอาบน้ำเสร็จคุณแม่ควรเช็ดและทำความสะอาดสะดือ
ใช้น้ำยาทำความสะอาดจากโรงพยาบาลเช็ดหลังอาบน้ำ แล้วสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศเพื่อให้สะดือแห้ง
อย่าเชียวค่ะที่จะโปะแป้งหรือเช็ดแรงๆเพื่อให้สะดือแห้งเร็ว กลับจะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้นนะคะ
แล้วคุณแม่ต้องคอยสังเกตหากสะดือลูกบวมแดงต้องรีบพาไปพบคุณหมอนะคะ

จาก นิตยสาร Modernmom ฉบับเดือนธันวาคม 2550

Create Date : 12 พฤษภาคม 2552		1 comments
Last Update : 12 พฤษภาคม 2552 14:13:41 น.
Counter : 1454 Pageviews.
Share Tweet