สอนลูกให้ประหยัด
คุณสมบัติของผู้ประสบความสำเร็จ ประการหนึ่งที่สำคัญคือ การประหยัด การประหยัดสามารถทำให้บุคคลรู้จักใช้สิ่งของ เงิน ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การประหยัดเงิน ประหยัดเวลา ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟฟ้า ประหยัดการใช้สิ่งของต่างๆ และประหยัดเงิน เป็นต้น
สอนลูกอย่างไรที่จะให้ลูกมีนิสัยประหยัด จากกรณีตัวอย่างของคุณแม่สมศรีที่ฝึกให้ลูกเป็นคนประหยัดเงิน การจับจ่ายใช้สอย ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในชั้นอนุบาล ดังนี้
1.ทุกวันที่ลูกไปโรงเรียน คุณแม่จะสอนว่าเงินที่คุณแม่ให้ไปซื้อขนมที่โรงเรียน วันละ 20 บาทนั้น ลูกก็ใช้จ่ายซื้อขนม แต่ลูกควรให้เหลือบ้างก็จะดีทีเดียวลูกจะเหลือเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้เหลือบ้าง สักบาท สองบาท สามบาท ห้าบาทก็ยังดี
2.ถ้าลูกมีเงินเหลือเท่าไหร่ในแต่ละวัน แม่จะให้เพิ่มอีก 1 เท่าตัว เช่น ถ้าลูกเหลือ 1 บาท แม่จะให้อีก 1 บาท รวมเป็น 2 บาท หากลูกเหลือ 3 บาท แม่ก็จะให้เพิ่มอีก 3 บาท รวมเป็น 6 บาท ลูกก็จะมีเงินเพิ่มมากขึ้น
3.แม่ให้ลูกเอาเงินที่ลูกเหลือแต่ละวัน บวกรวมกับเงินที่แม่บวกเพิ่มอีก 1 เท่าตัว หยอดกระปุกออมสินทุกวัน โดยคุณแม่จะถามลูกทุกวันหลังจากกลับจากโรงเรียนว่า ลูกมีเงินเหลือเท่าไหร่เอาออมานับซิ แม่จะได้ให้เพิ่มอีก 1 เท่าตัวและรีบไปหยอดกระปุกเร็ว…เด็กดี
4.ทุกวันสุดสัปดาห์ แม่และลูกจะเอาเงินจากกระปุกออมสินมาช่วยกันนับ หากได้เงินเท่าไหร่ เช่น 15 บาท หรือ 20 บาท แม่จะบวกเพิ่มอีก 1 เท่าตัว รวมเป็น 30 บาท (15+15) หรือ 40 บาท (20+20) และแม่ก็จะชมเชยว่า ลูกเยี่ยมเลย ลูกทำได้ถ้าลูกอยากทำ แสดงว่าลูกเป็นคนมีความตั้งใจดี มีจิตใจเข้มแข็ง มีวินัยในตนเอง เยี่ยมมาก..ลูกแม่
5.ทุก 1 เดือนแม่จะช่วยกระตุ้นเตือนลูก และฝึกนิสัยร่วมกับลูกจนครบ 1 เดือน แล้วคุณแม่และลูกก็จะช่วยกันนับเงินจากกระปุกออมสิน และคุณแม่ก็จะบวกเพิ่มอีกเท่าตัว เช่น ลูกได้ 120 บาทหรือ 160 บาท จากการหยอดกระปุกและบวกเงินเพิ่มตามเงื่อนไขที่แม่กำหนด แล้วคุณแม่ ก็จะบวกเพิ่มอีก 1 เท่าตัว เป็น 240 บาท 320 บาท เห็นไหมลูกเงินงอกเร็วไหมลูก ลูกก็จะรู้สึกดีใจ
6.ต่อจากนั้นคุณแม่ก็จะนำเงิน จำนวน 240 บาทหรือ 320 บาท ไปฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ของที่ทำงาน คุณแม่ พร้อมด้วยรางวัลลูกด้วยการเปิดสมุดบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ลูกเป็นครั้งแรก 100 บาท และฝากเพิ่มอีก 240 บาท หรือ 320 บาท ซึ่งเป็นเงินของลูก
7. ตอนเย็นวันเดียวกันนั้นคุณแม่ก็นำสมุดบัญชีฝากเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ มาให้ลูกดูพร้อมกับอธิบายว่า คุณแม่เปิดบัญชีให้ลูก 100 บาท ให้เป็นของขวัญที่ลูกสามารถประหยัดเงินได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องเป็น เวลา 1 เดือน นับว่าลูกเป็นเด็กดีมีความต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน นับว่าลูกเป็นเด็กมีความตั้งใจดี ตั้งใจจริง จิตใจเข้มแข็ง มีวินัยในตนเองและลูกทำได้ ลูกทำสำเร็จเยี่ยมจริงลูกแม่ มีเงินตั้ง 340 บาท (240+100)หรือ 420 บาท (320+100)
8.คุณแม่และลูกได้ร่วมมือกันสร้างนิสัยประหยัดให้ลูกติดต่อกันมาเป็นปีๆ จนถึงชั้นมัธยมต้น
9.หลังจากนั้นลูกก็เกิดเป็นนิสัย จะเป็นคนประหยัด เก็บออมเงินที่ได้รับตลอดมา เช่น เงินที่ได้จากของขวัญวันเกิด หรือผู้ใหญ่ให้โอกาสต่างๆลูกก็จะถือว่าเป็นเงินมงคล ควรเก็บสะสมไว้ รวมถึงเงินที่ได้สะสมเป็นประจำ จนลูกสามารถเก็บเงินได้เป็นจำนวนมากทีเดียว และยิ่งลูกมีมาก ลูกก็จะรู้ค่าของเงินและวางแผนที่จะนำเงินไปใช้สำหรับการศึกษาต่อ การลงทุนทำธุรกิจ เป็นต้น
10.การที่ลูกมีนิสัยประหยัดเงิน ทำให้ลูกมีนิสัยประหยัดในเรื่องต่างๆ รู้จักใช้ข้าวของ อาหารการกิน ตลอดจนดูแลสิ่งของในบ้านให้ดูอยู่ในสภาพดี ด้วยการทนุถนอม และเก็บรักษาไว้อย่างดี
ถ้าถามว่าคุณพอใจไหมที่ลูกมีนิสัยประหยัดก็ต้องตอบว่าพอใจลูก !เพราะพิสูจน์ว่า นิสัยสร้างได้จริง! แม้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนาน สม่ำเสมอและทำอย่างต่อเนื่อง แต่ก็คุ้มค่ามิใช่หรือ เพราะมันเป็นมรดกที่คุณแม่และ ลูกช่วยกันสร้างเสริม คุณแม่ว่าลองกลับไปทำดูแล้วจะรู้ว่าไม่ยากเลย ถ้าลงมือทำ”
ขออวยพรให้คุณแม่ประสบความสำเร็จ และสร้างนิสัยดีให้กับลูก ด้วยการลงมือปฏิบัติ และค่อยๆ เสริมแรงให้กำลังใจลูกไปเรื่อยๆ แล้วพฤติกรรมที่พึงปรารถนาก็จะเกิดขึ้น ดังที่ว่า นิสัยดี ประหยัด ไม่มีที่ซื้อหา อยากได้ต้องสร้างเอง และสร้างร่วมกัน! แล้วความสำเร็จก็จะเป็นของคุณแม่ และคุณลูก
โดย ดร.อารี พันธ์มณี
Create Date : 27 เมษายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 27 เมษายน 2552 10:23:41 น. |
Counter : 1586 Pageviews. |
|
|
|