ท้องนอกมดลูก
วิวัฒนาการของการตรวจการตั้งครรภ์ สมัยนี้ง่ายดายมาก แค่ไปร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง ซื้อที่เทสต์ราคาไม่กี่10บาท มาจุ่มน้ำปัสสาวะก็ทราบแล้ว,การมีเครื่องอัลตราซาวนด์ตรวจอวัยวะภายใน, มีการเจาะเลือดตรวจหาระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์,การตรวจรักษาที่มีประสิทธิภาพ,ความรู้ทางการแพทย์และ การดูแล ระมัดระวังสุขภาพของประชาชน,ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยท้องนอกมดลูกได้เร็วขึ้น คนไข้อาการหนักจนเสียชีวิตดังแต่ก่อนพบน้อยลงมาก
วิธีรักษาท้องนอกมดลูกก็มีหลายวิธีเช่นใช้ยา แม้กระทั่งการผ่าตัด ยังมีออพชั่น ผ่าตัดโดยเจาะรูหน้าท้องใช้กล้องส่องเข้าไป หรือผ่าตัดเปิดหน้าท้องให้เลือก กระนั้น...การตั้งครรภ์นอกมดลูกในปัจจุบัน นับว่ายังเป็นปัญหาทางการแพทย์ ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน หากเกิดขึ้นแล้วปล่อยไว้ย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิต โรคนี้ในบางรายวินิจฉัยได้ไม่ง่าย แม้รักษาอย่างถูกวิธี ก็ยังมี ผลเสียตามมา นั่นคือโอกาสตั้งครรภ์ ปกติในท้องต่อไป มีเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่ง อาจลงเอยด้วยการตั้งครรภ์ นอกมดลูกซ้ำ แท้งลูก หรือไม่ท้องเอาเสียเลย
การตั้งครรภ์นอกมดลูก พบเจอเพียง 1ราย ในหญิงตั้งครรภ์ 200 ราย แต่ไม่น่าเชื่อว่า... ในหน้าที่ของสูติแพทย์ปัจจุบันของดิฉัน ได้รับการปรึกษาเรื่องท้องนอกมดลูกเกือบทุกวัน
ขอเล่าเรื่องคนไข้ที่มาปรึกษา เรื่องท้องนอกมดลูกดังนี้ คุณทัศนา(นามสมมติ) อายุ 19ปี ยังไม่แต่งงานแต่มีเพศสัมพันธ์ คุมกำเนิดโดยการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ตอนนี้ประจำเดือนขาดไป 1เดือนเศษ ซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจถึง 3 ครั้งแล้ว ไม่พบว่าตั้งครรภ์ จากการอ่านหนังสือ พบว่า การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นสาเหตุหนึ่ง ของการตั้งครรภ์นอกมดลูก เธอจึงกลัวว่าตนเองจะตั้งครรภ์นอกมดลูก จึงมาปรึกษา ฟังเรื่องราวแล้ว ดิฉันได้ทดสอบการตั้งครรภ์ โดยการตรวจน้ำปัสสาวะตอนตื่นนอนยามเช้า (ให้ผลแม่นยำกว่าปัสสาวะในเวลาอื่น) ของคุณทัศนาซ้ำ พบว่า ไม่มีฮอร์โมนการตั้งครรภ์จริง นั่นคือคุณทัศนาไม่ตั้งท้องทั้งใน และนอกมดลูก เพราะหากท้องนอกมดลูก ก็ยังต้องตรวจพบฮอร์โมนการตั้งครรภ์
สำหรับสาเหตุ การตั้งครรภ์นอกมดลูกนั้น เกิดจากอะไรก็ตามมาขัดขวางไม่ให้ไข่และอสุจิหรือตัวอ่อน เดินทางผ่านท่อนำไข่ มาฝังที่ในโพรงมดลูกตามปกติ ซึ่งได้แก่
1.การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือยาคุมกำเนิด ที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตัวเดียว (ดังคุณทัศนาอ่านพบ) ยาคุมฯเหล่านี้ ทำให้ท่อรังไข่เคลื่อนไหวผิดปกติ จนตัวอ่อนเดินทางมาไม่ถึงโพรงมดลูก ฝังตัวอยู่ที่ท่อนำไข่ หรือที่อื่นๆ เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก
2.มีพังผืดภายใน ที่ขัดขวางการเดินทางของตัวอ่อน ทำให้ตัวอ่อนฝังตัวนอกมดลูก เช่นเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปีกมดลูกอักเสบ มดลูกอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ฝีในช่องเชิงกราน ฯลฯ เคยผ่าตัดในช่องท้อง เช่นผ่าคลอด ตัดไส้ติ่งอักเสบ ตัดรังไข่ฯลฯ
3.ท้องขณะสวมห่วงอนามัย ซึ่งอาจเป็นการตั้งครรภ์ตามปกติก็ได้ แต่ส่วนหนึ่งเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก จากการที่ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัว ในโพรงมดลูกที่มีห่วงอนามัยได้
4.ตั้งท้องจากการใช้เทคโนโลยีผู้มีบุตรยากเข้าช่วย เช่นเด็กหลอดแก้ว, กิ๊ฟท์ฯลฯ การใส่ตัวอ่อนเข้าไปหลายตัว บางตัวอาจจะฝังผิดที่ กลายเป็นท้องนอกมดลูกได้
สรุป ในรายของคุณทัศนา นอกจากไม่ท้องนอกมดลูกแล้ว อาการประจำเดือนไม่มา ไม่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ แต่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนผิดปกติ จากฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งดิฉันได้ให้คำแนะนำว่า การรับประทาน ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น คุมกำเนิดไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์และอาจส่งผลให้ประจำเดือนผิดปกติไปได้ ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ควรเลือกการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อย เช่น กินยาคุมกำเนิด(เป็นแผง),ฉีดยาคุมกำเนิด,ฝังยาคุมกำเนิด,สวมห่วงอนามัย,หรือใช้ถุงยางอนามัย
คนไข้รายที่สอง คุณนุจรี(นามสมมติ) อายุ 28 ปี มาฝากครรภ์ จากประวัติพบว่า เธอขาดประจำเดือนได้ 2 เดือน ก่อนมาพบดิฉัน เธอซื้อที่ตรวจปัสสาวะมาตรวจแล้ว พบว่าขึ้น 2 ขีดแสดงว่าท้อง ปกติเธอมีลูกยาก แต่งงานกับสามีมาแล้ว 5 ปี ไม่มีบุตร จึงดีใจมากเมื่อตั้งท้อง เธอและสามีขอตรวจดูทารกในครรภ์ โดยเครื่องอัลตราซาวนด์ เพราะอยากเห็นลูกมาก ในรายนี้ดิฉันได้ตรวจน้ำปัสสาวะซ้ำ พบว่าให้ผลบวก คือ ขึ้น 2 ขีดจริง แต่ขีดที่ 2 ซึ่งแสดงถึงฮอร์โมนเด็กนั้นจางกว่าปกติ ผลการตรวจโดยอัลตราซาวนด์ พบว่า มดลูกปกติ ไม่พบทารกในครรภ์ ดิฉันอธิบายว่า ในกรณีของคุณนุจรีอาจเป็นไปได้ 3 ประเด็น คือ
1.ไม่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนที่ตรวจพบ จากการตรวจปัสสาวะที่เห็น ขีดจางๆนั้นเป็นผลบวกหลอก 2.ตั้งครรภ์อ่อนๆ ทารกจึงยังไม่ปรากฏให้เห็นในโพรงมดลูก คุณนุจรีอาจตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจต้องอาศัยการตรวจค้นเพิ่มเติม หรือ รอดูว่าจะมีเด็กทารกมาปรากฏในโพรงมดลูกทีหลังหรือไม่
คุณนุจรีอยากได้ลูกมาก เธอคิดเข้าข้างตนเองว่า คงท้องตามปกติ แต่อาจท้องอ่อนมาก เด็กจึงยังไม่ปรากฏ จึงขอรอเวลาอีก 1 สัปดาห์จึงจะมาตรวจ โดยเครื่องอัลตราซาวนด์ซ้ำ ขณะเดียวกัน เธอก็ถามถึงอาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะหากเธอมีอาการผิดปกติดังกล่าว จะได้มาพบแพทย์ก่อน
ดิฉันได้เล่าว่า ในคนตั้งครรภ์อาการผิดปกติต่อไปนี้ อาจเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ หากมีอาการ ควรมาพบแพทย์โดยด่วนได้แก่ 1. มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ลักษณะ กะปริบกะปรอย หรือตกเลือด 2. ปวดท้องน้อย ปวดมดลูก หรือปวดหลัง 3. แน่นท้อง อืดท้อง 4. หน้ามืดเป็นลม
ในรายของคุณนุจรี เธอรู้สึกสบายดี อีก1 สัปดาห์เธอมาพบแพทย์ตามนัด พร้อมกับมีเลือดออกจากช่องคลอด ผลการตรวจการตั้งครรภ์ ในน้ำปัสสาวะให้ผลเป็นลบ(ขึ้นขีดเดียว) ผลการตรวจภายใน พบว่า เลือดที่ออกเป็นเลือดประจำเดือน ดิฉันอธิบายว่า คุณนุจรีไม่ตั้งครรภ์ ผลการตรวจน้ำปัสสาวะให้ผลบวกหลอก (ซึ่งเจอได้บ่อย) หรืออาจจะตั้งครรภ์แล้ว มีการหลุดฝ่อหายไปก็เป็นไปได้ ตอนนี้จึงมีประจำเดือน ตามปกติ ซึ่งไม่ต้องตรวจ หรือ รักษาเพิ่มแต่อย่างใด
โดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข
Create Date : 14 เมษายน 2552 |
|
71 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2552 13:11:26 น. |
Counter : 53712 Pageviews. |
|
|
|
เพราะพี่สาวกำลังเจอปัญหานี้อยู่
จะได้เอาข้อมูลไปแจ้งให้เค้าทราบได้