ทำอย่างไร ถึงจะตัวสูง ??? สูง ไม่สูง เกิดจากอะไร ???
ทำอย่างไร ถึงจะตัวสูง ??? สูง ไม่สูงเกิดจากอะไร ??? แนะนำ เวบ https://www.kidgrowth.net/ ซึ่งมีเนื้อหา ความรู้ เกี่ยวกับ ความสูง โดยเฉพาะในเด็ก มีข้อมูล ครบถ้วน เป็นภาษาไทย แถมมี กราฟความสูง และ น้ำหนัก ของเด็กไทย ให้ดู แถม ถ้าสงสัยยังสอบถามได้อีกด้วยนะครับ ... ปัจจัยสำคัญที่ควบคุมความสูง๑. พันธุกรรม (ยีน)พ่อแม่ปู่ย่าตายายสูง ลูกก็มักจะสูงด้วย ๒. ฮอร์โมน ๓. โภชนาการสารอาหารที่สร้างเสริมกระดูก จึงมีสำคัญต่อความสูง สารอาหารสำคัญคือ โปรตีนแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส วิตามินดี และ เกลือแร่อื่น ๆ ๔. การออกกำลังกาย ๕. โรคหรือความเจ็บป่วยเรื้อรังเช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคทาลัสซีเมีย ๖. ยา หรือ ฮอร์โมนบางชนิด เช่นยาสเตียรอยด์ เนื้อหาในเวบ https://www.kidgrowth.net/ พัฒนาการของหนูตอนอยู่ในครรภ์ เริ่มตั้งไข่จนเป็นวัยรุ่น สังเกตดูเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น การคำนวณความสูง ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ภาวะตัวเตี้ย/การวินิจฉัย ปัญหาการเจริญเติบโต สาเหตุทีทำให้เด็กตัวเตี้ย ปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ เด็กตัวเตี้ยกับการเล่นกีฬา สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรปฏิบัติ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต การรักษาด้วยฮอร์โมน ขนาดและการบริหารฮอร์โมน การเก็บฮอร์โมนเจริญเติบโต การฉีดฮอร์โมนเจริญเติบโต


 ................................ เครื่องมือเบื้องต้นในการประเมินภาวะตัวเตี้ย 
 ขอเชิญผู้สนใจ ดาวน์โหลด new Thai growth chart โดยสมาคมต่อมไร้ท่อเด็กและวัยรุ่นไทย New Thai Growth Chart by TSPE 15 June 2022 https://thaipedendo.org/thai-growth-chart-by-tspe/
กราฟมาตรฐานการเจริญเติบโต (GrowthCurve) คืออะไร? https://www.kidgrowth.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=538640361 .....................................
 ....................................... ภาวะเตี้ย การป้องกันและแก้ไข https://www.doctor.or.th/article/detail/1205 นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 348 เมษายน 2008 https://www.doctor.or.th/clinic/detail/6988 วารสารคลินิก เล่มที่: 279 : มีนาคม 2008 นักเขียนหมอชาวบ้าน: ศ.นพ.พัฒน์มหาโชคเลิศวัฒนา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
 
..................................................
จากกระทู้ห้องสวนลุม https://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8517942/L8517942.html#1 Yoko Height ใส่แล้วทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้นจริงหรือเปล่าครับพอดีสนใจอยู่อ่ะครับ ไม่แน่ใจว่ามันจะ work จริงหรือเปล่า https://www.yoko-thailand.com/index.php?step=page1 ถ้าเคยลองดูตามเว็บต่างประเทศก็มีมาตอบเหมือนกัน บางคนบอกเพิ่มจริงซึ่งผมดูแล้วก็ไม่น่าใช่หน้าม้า แต่บางคนก็บอกไม่เห็นเพิ่มเลย ผมเลยอยากรบกวนผู้รู้ผู้ที่เคยใช้ หรือคุณหมอที่เชี่ยวชาญมาให้ความรู้หน่อยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ฺBlizzing เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 ความคิดเห็นที่ 1 ไม่จริงครับ .... "สิ่งที่อยู่บริเวณกระดูกสันหลังทั้ง 24 ชิ้น นี้คือกระดูกอ่อน (CartilaginousPads) ที่เรียกว่า Disks และเนื่องจาก Disksเป็นกระดูกอ่อนที่ยังไม่ถูกปิดดังนั้นมันสามารถที่จะถูกทำให้หนาขึ้นได้จากการกระตุ้นของ Growth Hormone (ที่ได้มาจากใช้ YOKO) ดังนั้น ความหนาของ Disksที่เพิ่มขึ้น " ........ ที่เขา “อ้าง”ว่า Disk [ Disc ] เป็นกระดูกอ่อนนั้นก็ถูกครับแต่ว่า เป็นกระดูกอ่อนที่บางมาก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็น หมอนรองกระดูก(ลักษณะคล้ายเจลลี่) และ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(พังผืด) ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับความสูง เลย แล้วก็ไม่มีการทำให้เพิ่มขึ้น มีแต่บางลงตามธรรมชาติ ....... ที่อ้าง ๆ การวิจัยอะไรก็แค่ใช้คำ เท่านั้นเอง ไม่ได้มีการอ้างอิงผลงานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่นิดเดียว ... ลองแวะไปอ่านในเวบนี้ ก็ได้ครับ https://www.thaispine.com/intervertebral_disc.htm มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซึ่งอ้างข้อมูลเดียวกันกับ YOKO เลยเปลี่ยนแค่ชื่อสินค้า เท่านั้นเอง .. เล่นกันง่าย ๆ ไม่รู้ว่าใครลอกใคร แต่สรุปก็คือ มั่วทั้งคู่ ... https://masnie.siam2web.com/?cid=579349

ลองเข้าไปอ่านในเวบดร่าม่าแอดดิกได้ทั้งความรู้ และ ความฮา .. https://drama-addict.com/?p=9106 โดย: หมอหมู วันที่: 6 มีนาคม2553 เวลา:11:45:53 น. ..........................................

เครดิตภาพ อย.ไม่รับรองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มความสูง จากข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่มีการกล่าวอ้างว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเพิ่มความสูงได้นั้นไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่มีงานวิจัยใดที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือยืนยัน https://oryor.com/oryor2015/print-detail.php?cat=44&id=1360
..................................
#อยากให้ลูกสูงสมใจ มาแก้ปัญหาอย่างถูกต้องกันดีกว่า
Utai Sukviwatsirikul ๑๒ มิย.๖๐
ข้อมูลตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน พบว่ากระดูกของมนุษย์ เพศชาย จะหยุดสูงที่อายุเฉลี่ย 16 ปี และเพศหญิง หยุดสูงที่อายุเฉลี่ย 14 ปี โดยปัจจัยความสูงของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ พันธุกรรม การออกกำลังกาย และการนอนหลับ แต่ต้องอยู่ในช่วงวัยที่กระดูกกำลังพัฒนา และยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่า สามารถเพิ่มความสูงได้ หลังจากกระดูกหยุดพัฒนาแล้ว
1. ทำความเข้าใจก่อนว่า #ส่วนสูงขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ส่วนสูงขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ จะสูงเท่าไหร่นั้นมียีนส์หลายยีนส์ที่ส่งผลด้วย เพราะฉะนั้นใช่ว่าถ้าทั้งพ่อทั้งแม่เตี้ยแล้วลูกจะไม่สูง และก็ใช่ว่าถ้าทั้งพ่อทั้งแม่สูงจะทำให้ลูกของคุณสูงโตเป็นยักษ์เช่นกัน #คำแนะนำต่อไปนี้ช่วยให้ลูกคุณสูงได้สมใจครับ
2. #โภชนาการที่ดีมีส่วนทำให้ลูกของคุณสูงขึ้นได้ ควรมั่นใจว่าอาหารที่คุณเตรียมให้ลูกนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นสำหรับเด็ก ทั้งเกลือแร่ วิตามิน โปรตีน คาโบไฮเดรต และ ไขมัน ที่สำคัญ คือ อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ แคลเซียมที่เป็นสารอาหารที่ทำให้กระดูกแข็งแรงก็สำคัญมาก โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาให้ข้อมูลว่า เด็กอายุ 1-3 ปีควรได้รับแคลเซียม 700 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนเด็กอายุ 4-8 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และเมื่ออายุ 9-18 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน
#ไปต้องไปหลงเชื่อโคตรนมยี่ห้อไหน เลือกที่มีคุณภาพเหมาะสม ดื่มสม่ำเสมอ ดีกว่าเย๊อะ
3. ถ้าอยากให้ลูกสูง #เด็กๆต้องนอนหลับอย่างเพียงพอ เพราะเวลานอนหลับเป็นเวลาที่ #ฮอร์โมนการเจริญเติบโตทำงาน เด็กเล็กควรนอนหลับ 10 - 13 ชั่วโมงต่อคืน ที่สำคัญคือถ้าอยากให้ลูกสูง และมีสุขภาพที่ดีควรให้เขาเข้านอนเป็นเวลาและตื่นเป็นเวลา หรือนอนและตื่นเวลาเดียวกันในทุกๆ วันด้วยแม้แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์
4. #เด็กๆยิ่งออกกำลังกายยิ่งมีโอกาสสูง ควรมีเวลาออกกำลังกายประมาณ 60 นาทีต่อวัน การออกกำลังกายไม่ได้แค่ช่วยเรื่องส่วนสูงและการเจริญเติบโต แต่ยังช่วยป้องกันโรคอ้วนในเด็กด้วย ถ้ามีเวลาไม่มากนักก็ชวนลูกขยับแข้งขยับขานิดหน่อยก็ยังดี อาจชวนกันไปเดินเล่น พาสุนัขไปเดินเล่น ชวนลูกเดินไปซื้อของหน้าปากซอยด้วยกัน เป็นต้น
5. #ถ้าลูกของคุณมีความผิดปกติจริงๆ เช่น เตี้ยกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กวัยเดียวกันมากเกินไป #ควรไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่า เพราะอาจหมายถึงความผิดปกติของร่างกายหรือความผิดปกติทางการแพทย์ได้เช่นกันในบางกรณี อย่าได้ไปหลงเชื่ออาหารเสริมแหกตาใดๆเลยครับ เปลืองเงิน เสียเวลา เสียโอกาสที่ลูกจะสูงได้ตามศักยภาพของเค้า
#สุดท้าย
#ตัวสูงเท่าไรแต่ใจต่ำก้อไม่มีประโยชน์ เราได้เห็นตัวอย่างของการก่ออาชญกรรมหลายรายในวัยรุ่น ที่เกิดจากการไม่ได้รับการขัดเกลาที่ดีจากบิดามารดา
สิ่งที่ควรสนใจและสอนลูกมากที่สุดคือ ให้เขามั่นใจในตนเองไม่ว่ารูปร่างของเขาจะเป็นอย่างไรมากกว่า ลูกโตขึ้นไม่จำเป็นต้องนมโตด้วยการผ่าเสริมอึ๋ม ลูกอยากขาวโบ๊ะไม่จำเป็นต้องไปฉีด gluta ที่สำคัญคือ อย่าเน้นไปที่รูปลักษณ์หรือหวังแต่จะให้ลูกสูงปริ้ดแต่เพียงอย่างเดียว ควรเน้นให้ลูกคุณสูงขึ้นและแข็งแรงไปด้วยดีกว่า ที่ดีที่สุดคือปลูกฝังเค้าให้เป็นคนดีไม่ทำร้ายสังคม ไม่เอาเปรียบใคร โตขึ้นเป็นกำลังที่เข้มแข็งในการพัฒนาชาติไทยของเราให้เข้มแข็งขึ้น สำคัญกว่าความสูงมากมายเสียอีก
#เภสัชกรอุทัย #urx #utaisuk https://www.facebook.com/utai.sukviwatsirikul/posts/1600011230030019?pnref=story
::::::::::::::::::::::::::::::::::
ทำอย่างไรถึงจะตัวสูง ??? สูง ไม่สูง เกิดจากอะไร ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=56 ทำอย่างไรถึงจะตัวสูง อาหารเสริมความสูง ?เวบดร่าม่าแอดดิก https://drama-addict.com/?p=9106 ผ่าตัดเพิ่มความสูงทางลัดสู่ความสำเร็จหรือเจ็บปวด https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=58 ผ่าตัดยืดกระดูกให้สูงขึ้น ดีจริงหรือ ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=57 นมเพิ่มความสูงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโคลอสตรุ้ม (Colostrum)เพิ่มความสูงได้ ไม่จริง!อย่าหลงเชื่อ! https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-08-2017&group=4&gblog=131 สารพัด " นม" ที่ควรรู้ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-12-2008&group=4&gblog=65 วิธีเลือกนมถั่วเหลืองให้ได้คุณค่าน่าดื่ม .. Cr. เครือข่ายคนไทยไร้พุง https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=30-01-2018&group=4&gblog=135 ยาเม็ดแคลเซียม https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=29-02-2008&group=4&gblog=19 กระดูกพรุนกระดูกโปร่งบาง https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=27-02-2008&group=4&gblog=15 การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก(BONE DENSITOMERY) https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=29-02-2008&group=4&gblog=16
Create Date : 26 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2565 23:12:55 น. |
|
5 comments
|
Counter : 112221 Pageviews. |
|
 |
|
//www.doctor.or.th/article/detail/1205
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 348 เมษายน 2008
//www.doctor.or.th/clinic/detail/6988
วารสารคลินิก เล่มที่: 279 : มีนาคม 2008
นักเขียนหมอชาวบ้าน: ศ.นพ.พัฒน์ มหาโชคเลิศวัฒนา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เด็กเตี้ย หมายถึงเด็กที่มีความสูงน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 สำหรับอายุและเพศเดียวกัน โดยเทียบกับโค้งการเจริญเติบโต (growth curve) ของชนชาตินั้นๆ เป็นเกณฑ์มาตรฐาน ดังตัวอย่างโค้งการเจริญเติบโตของเด็กไทยโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2542 (ภาพที่ 1). เกณฑ์ปกติคือ ความสูงอยู่ระหว่างเส้นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 (เส้นขอบล่าง) กับเส้นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 97 (เส้นขอบบน).
การเจริญเติบโตล่าช้า (growth retardation) คือ ภาวะที่ร่างกายเจริญเติบโตช้ากว่าอัตราปกติ ทั้งน้ำหนักและส่วนสูงหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง. ตัวอย่างเช่น เด็กอายุ 6 ปี ส่วนสูงเพิ่มขึ้นปีละ 6 ซม. แต่ผู้ป่วยมีส่วนสูงเพิ่มขึ้นเพียงปีละ 2 ซม. ดังนั้นเปอร์เซ็นไทล์ของ ส่วนสูงจึงลดลงจากเดิม เช่น เดิมส่วนสูงอยู่ที่เปอร์เซ็นไทล์ที่ 50 อาจลดลงมาที่ปอร์เซ็นไทล์ที่ 25. ดังนั้นผู้ป่วยที่มีการเจริญเติบโตล่าช้าในระยะแรกอาจไม่เตี้ยชัดเจนคือ ความสูงอาจไม่น้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 แต่ถือว่าผิดปกติ เมื่อมีการเจริญเติบโตล่าช้าเป็นเวลานาน ความสูงก็มักจะน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3.
ดังนั้นจากคำจำกัดความดังกล่าวข้างต้น การประเมินการเจริญเติบโตระยะยาวเพื่อดูอัตราการเจริญเติบโตเป็นระยะยาว จึงมีความสำคัญและจำเป็นในการประเมินเด็กที่เจริญเติบโตช้าหรือเด็กเตี้ย เนื่องจากการประเมินการเจริญเติบโตโดยดูความสูงและน้ำหนักเพียงจุดเดียว ไม่สามารถบอกว่าผิดปกติหรือปกติได้ชัดเจน ยกเว้นแต่มีน้ำหนักและส่วนสูงน้อยกว่าปกติมากจริงๆ.
ตัวอย่างเช่นเด็กที่มีพ่อแม่สูง ลูกมักจะสูง และการเจริญเติบโตจะขนานไปกับโค้งการเจริญเติบโตในแนวบนคือระหว่างเปอร์เซ็นไทล์ที่ 75-90. ในทางตรงข้ามเด็กที่มีพ่อแม่เตี้ย ลูกมักจะเตี้ยและการเจริญเติบโตจะขนานไปกับโค้งการเจริญเติบโตในแนวล่างคือระหว่างเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10-25. ดังนั้น เด็กคนหนึ่งที่มีอัตราการเจริญเติบโตช้าลง (decreased growth rate) โดยที่ส่วนสูงหรือน้ำหนักยังไม่น้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 ก็ควรได้รับการตรวจหาสาเหตุ.
ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความสูง
โดยทั่วไปคนเราจะสูงได้แค่ไหน เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลัก ๖ ชนิดด้วยกัน ดังนี้
๑. ยีนหรือพันธุกรรม
ยีนที่ควบคุมเกี่ยวกับความสูงมีหลายยีน ซึ่งมีผลต่อความสูง ดังนั้นพ่อแม่ที่สูง ร่วมกับปู่ย่าตายายสูงด้วยทั้งตระกูล ลูกก็มักจะตัวสูง
ความผิดปกติของยีนบางตัวทำให้สูง เช่น การผ่าเหล่าของยีน การขาดเอนไซม์ เป็นต้น
๒. ฮอร์โมน
ฮอร์โมนกระตุ้นความสูงในวัยเด็กคือฮอร์โมนเจริญเติบโตที่กระตุ้นกระดูก ทำให้มีการขยายตัวเป็นผลให้กระดูกยาวขึ้น
๓. อาหารการกิน
อาหารมีส่วนสำคัญมากในการเจริญเติบโตของร่างกายซึ่งรวมถึงกระดูก ดังนั้นสารอาหารที่สร้างเสริมกระดูกจึงมีความสำคัญต่อความสูง ส่วนประกอบสำคัญ ของกระดูกคือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนในเนื้อกระดูก
โปรตีน การกินอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานเพียงพอจึงมีความสำคัญต่อการขยายตัวของกระดูก เด็กในประเทศด้อยพัฒนาที่เป็นโรคขาดอาหาร ก็จะมีความสูงและน้ำหนักน้อยกว่าปกติ
โปรตีนมีความสำคัญต่อการขยายตัวและแบ่งตัวของเซลล์กระดูกบริเวณส่วนปลายของกระดูกยาว ทำให้ กระดูกมีการขยายตัวมากขึ้น ดังนั้นโปรตีนที่เพียงพอจึงมีความจำเป็นต่อการเติบโตของกระดูกอย่างมาก
แคลเซียม มีความสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็ว จะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาก
การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าช่วงวัยรุ่นมีอัตราสูงสุดในการสะสมแคลเซียมเข้ากระดูกในชายประมาณ ๓๖๐ มิลลิกรัมต่อวัน ในหญิงประมาณ ๒๘๐ มิลลิกรัมต่อวัน อายุเฉลี่ยที่มีการสะสมแคลเซียม ในอัตราสูงสุดนี้คือ ๑๔ ปีในเพศชาย และ ๑๒.๕ ปีในเพศหญิง
การดูดซึมแคลเซียมจากอาหารในคนปกติจะดูดซึมได้เพียงประมาณ ๑,๐๐๐-๑,๒๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะเพียงพอในการสะสมแคลเซียมในปริมาณดังกล่าว
สมาคมกุมารแพทย์ของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้กินแคลเซียมประมาณ ๘๐๐ มิลลิกรัมต่อวันในเด็กอายุ ๑-๘ ขวบ
ส่วนเด็กโตอายุ ๙-๑๘ ปี ควรได้รับแคลเซียมประมาณ ๘๐๐-๑,๕๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน โดยเฉพาะช่วงที่เข้าสู่วัยหนุ่มสาว ควรได้รับประมาณ ๑,๒๐๐-๑,๕๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีแคลเซียมปริมาณมากและดูดซึมได้ดีที่สุดคือ นมและผลิตภัณฑ์นม อาหารในบ้านเราที่พบว่ามีแคลเซียมสูงได้แก่ กุ้งแห้ง ปลากรอบตัวเล็กๆ ที่กินทั้งก้าง เต้าหู้แข็ง เป็นต้น
วิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทารกที่กินนมแม่อย่างเดียว แนะนำให้วิตามินดีเสริมวันละ ๔๐๐ ยูนิต เนื่องจากนมแม่มีวิตามินดีต่ำคือประมาณ ๑๒-๖๐ ยูนิตต่อลิตร
ส่วนเด็กโตที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย ๑๕-๒๐ นาทีต่อวัน มักมีระดับ ๒๕-OH วิตามินดีปกติ (>25-30 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร)
เกลือแร่อื่นๆ ที่สำคัญคือ โซเดียม เนื่องจากการ กินเกลือโซเดียมมากเกินไปจะทำให้มีโซเดียมและแคลเซียมขับออกทางปัสสาวะมากขึ้น ทำให้มีระดับแคลเซียมในเลือดลดต่ำลง (กระดูกบางลง)
๔.การออกกำลังกาย
นักกีฬาบางประเภทมีรูปร่าง สูงใหญ่ เช่น บาสเกตบอล ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล เป็นต้น ส่วนนักกีฬาบางประเภทมีรูปร่างเตี้ยเล็ก เช่น ยิมนาสติก บัลเลย์ เป็นต้น ทั้งนี้สืบเนื่องจากปัจจัยหลักคือ ประเภทของกีฬาเป็นตัวคัดเลือกให้คนรูปร่างสูงหรือเตี้ยเพื่อให้ได้เปรียบในเชิงกีฬาประเภทนั้นๆ คนรูปร่างเตี้ยก็จะได้เปรียบในเชิงกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ต้องอาศัยความสูง
ส่วนผลของการออกกำลังต่อ การเจริญเติบโต อาจมีผลดีเพียงบางส่วน แต่ไม่เด่นชัดมากนัก แต่บางกรณีอาจมีผลลบได้ การออกกำลังระดับปานกลาง ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเจริญเติบโตชั่วคราวหลังจากการออกกำลัง แต่ระดับฮอร์โมนเจริญเติบโตรวมตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีระดับสูงขึ้น
๕.โรคหรือความเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคโลหิตจางทาลัสซีเมีย โรคติดเชื้อเรื้อรัง เช่น วัณโรค โรคเอดส์ ทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนไอจีเอฟ-1 (IGF-1) ลดลง การเจริญเติบโตช้าลง และความ สูงสุดท้ายไม่สูงเต็มที่ตามศักยภาพทางพันธุกรรม
๖.ยาหรือฮอร์โมนบางชนิด
ตัวที่สำคัญและใช้บ่อยในเวชปฏิบัติ คือ สตีรอยด์มีผลกดฮอร์โมนเจริญ เติบโต มีผลต่อกระดูกโดยตรง ทำ ให้การสร้างกระดูกลดลง และการสลายกระดูกเพิ่มขึ้น มีผลในการต้านฤทธิ์ของวิตามินดี ทำให้การดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสในลำไส้ลดลง ทำให้มีการสูญเสียแคลเซียม ทางไตด้วย จึงทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน หรือกระดูกบางลง การเจริญเติบโตช้าลง และความสูงเต็มที่ต่ำกว่าศักยภาพตามพันธุกรรม
ภาวะเตี้ยเกิดจากอะไร (short stature)..
ความเตี้ยของคนเราเกี่ยวข้องกับ ๒ สาเหตุหลักคือ ภาวะเตี้ยที่ตรวจพบพยาธิสภาพและภาวะเตี้ยที่ไม่ทราบสาเหตุหรือเตี้ยตามพันธุกรรมภาวะเตี้ยที่ตรวจพบพยาธิสภาพ มีสาเหตุต่างๆ มากมาย บางรายอาจมีเพียงสาเหตุเดียว บางรายอาจมีหลายสาเหตุรวมกัน
เนื่องจากการเจริญเติบโตของร่างกายเป็นผลรวมของปัจจัยต่างๆ ร่วมกัน (integrated effects) ได้แก่ พันธุกรรม อาหาร ฮอร์โมน สุขภาพกายและใจและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นความผิดปกติหรือความไม่สมดุลของปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว ทำให้การเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่เหมือนภาวะปกติ ตัวอย่างโรคบางกลุ่มที่พบบ่อย ได้แก่ทารกตัวเล็กตั้งแต่เกิด กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ เป็นต้น
ภาวะเตี้ยที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือเตี้ยตามพันธุกรรม ที่พบได้บ่อย มี ๒ ชนิดคือ
๑. ภาวะเป็นหนุ่ม สาวช้า เป็นภาวะปกติคือเด็กเข้าสู่ความเป็นหนุ่มสาวช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป โดยที่สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด
เชื่อว่าปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนสำคัญในการกำหนดจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ความเป็นหนุ่มสาว และมักจะมีประวัติครอบครัวว่าบิดาและ/หรือมารดาเป็นหนุ่มสาวช้ากว่าปกติ มารดามักมีประจำเดือนครั้งแรกช้า (อายุ ๑๔-๑๘ ปี) บิดาเมื่อเป็นเด็กมักตัวเล็กกว่าเพื่อนๆ เริ่มโตเร็วเมื่อเรียนชั้นมัธยมปลาย และมีความสูงสุดท้ายปกติ
๒. ภาวะเตี้ยตามพันธุกรรมหรือไม่ทราบสาเหตุ
พบได้บ่อย ส่วนมากมักมีพ่อหรือแม่เตี้ย หรือถ้าเตี้ยทั้งพ่อและแม่รวมทั้งปู่ย่าตายายเตี้ยด้วย ก็ชัดเจนมากขึ้นว่าเตี้ยจากพันธุกรรม กรณีที่พ่อแม่ไม่เตี้ย แต่ลูกเตี้ยกว่าปกติ โดยตรวจ ไม่พบความผิดปกติ อัตราความสูงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ก็ปกติคือเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ปกติ
ภาวะเตี้ย ป้องกันและแก้ไขอย่างไร
การเจริญเติบโตเป็นผลรวมของปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว ปัจจัยบางอย่างนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น พันธุกรรมเตี้ย โรคความผิดปกติของโครโมโซม เป็นต้น ปัจจัยบางอย่างสามารถปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงให้ดีที่สุด เพื่อให้การเจริญเติบโตได้เต็มที่ตามศักยภาพทางพันธุกรรม
ปัจจัยภายในร่างกายบางอย่าง เช่น โรคประจำตัว ถ้าสามารถแก้ไขหรือควบคุมให้ดีที่สุด การเจริญเติบโต ก็มักจะดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจชนิดเขียว ถ้าสามารถรักษา หรือผ่าตัดแก้ไขได้ ทำให้ภาวะการขาดออกซิเจนหายไป การเจริญเติบโตก็จะดีขึ้นมาก โรค renal tubular acidosis ผู้ป่วยโตช้ามากเนื่องจากร่างกายเป็นกรด เมื่อควบคุมความเป็นกรดด่างให้ปกติ การเจริญเติบโตก็จะดีขึ้นชัดเจน เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีปัจจัยภายในอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต เช่น การเจ็บป่วยบ่อยๆ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก มีไข้เป็นหวัด ท้องเสีย อาเจียน ถ้าเป็นบ่อยๆ การเจริญเติบโตก็ชะงักทุกครั้งที่เจ็บป่วย
การนอนหลับเพียงพอร่วมกับหลับสนิท มีความสัมพันธ์กับการหลั่งฮอร์โมนเจริญเติบโตในสภาวะปกติ ดังนั้น การนอนหลับน้อยและหลับไม่สนิทอย่างเรื้อรัง จึงอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตในระยะยาว แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน
นอกจากนั้นภาวะเครียดทางจิตใจหรือร่างกายที่เกิดขึ้นเรื้อรัง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการเจริญเติบโตได้ เนื่องจากในสภาวะเครียด ต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ออกมามากอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเจริญเติบโตชะงักจากภาวะคอร์ติซอลมากผิดปกติ เป็นต้น
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยาและปัจจัยอื่นๆ ที่มีผล ต่อการเจริญเติบโต โดยเฉพาะต่อความสูงมีดังต่อไปนี้
๑. ฮอร์โมนเจริญเติบโต เป็นฮอร์โมนที่สำคัญมากต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก ดังนั้น เด็กที่ขาด ฮอร์โมนเจริญเติบโต มักมีการเจริญเติบโตล่าช้ากว่าปกติ
๒. ผู้ป่วยที่เป็นหนุ่มสาวก่อนวัย คือ เด็กชายเริ่มมีอวัยวะเพศโตขึ้นก่อนอายุ ๙ ขวบ ส่วนเด็กหญิงเริ่มมีเต้านมโตขึ้นก่อนอายุ ๘ ขวบ การมีฮอร์โมนเพศหลั่งออกมาก่อนวัย จะทำให้กระดูกปิดก่อนวัย ความสูงสุดท้ายอาจสูญเสียไปมากกว่า ๕-๑๕ เซนติเมตร การให้ยา GnRH-A รักษาจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศลดลง ทำให้กระดูกปิดช้าลง ช่วยให้ส่วนสูง เพิ่มขึ้นจนเกือบปกติเมื่อเทียบกับความสูงเป้าหมายตาม พันธุกรรม คือ อาจมีความสูงมากขึ้น ๕-๑๐ เซนติเมตร เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา
ส่วนเด็กหญิงที่มีพัฒนาทางเพศค่อนข้างเร็ว แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ เริ่มเข้าสู่ภาวะความเป็นสาวเมื่ออายุ ๘-๑๐ ปีและมีประจำเดือนเมื่ออายุ ๑๐-๑๒ ปี เมื่อให้ การรักษาด้วย GnRH-A ติดต่อกันนาน ๒-๔ ปี พบว่าความสูงสุดท้ายไม่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการให้ยาดังกล่าวในเด็ก หญิงที่มีประจำเดือนในวัยปกติ ๙-๑๔ ปีเพื่อให้หยุดการมีประจำเดือน จึงไม่ช่วยให้ความสูงสุดท้ายเพิ่มขึ้น การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ในเด็กที่เข้าสู่ภาวะความเป็นสาวในเกณฑ์ปกติ แต่มีความสูงสุดท้ายจากการคำนวณค่อนข้างเตี้ย คือเฉลี่ยน้อยกว่า ๑๕๐ เซนติเมตร พบว่า กลุ่มที่รักษาด้วย GnRH-A นานเฉลี่ย ๓.๕ ปี มีความสูงสุดท้ายสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ คือมีความสูงมากกว่าที่เคยคำนวณไว้ตอนต้นประมาณ ๔ เซนติเมตร
๓. แคลเซียม เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก แคลเซียมที่กินเข้าไปจะดูดซึมได้เพียงร้อยละ ๓๐
ในวัยเด็กโดยเฉพาะช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น ความต้องการ แคลเซียมจะเพิ่มขึ้นมากและมีผลต่อการเจริญเติบโตและความหนาแน่นของกระดูก
การศึกษาวิจัยโดย Bonjour และคณะแสดงให้เห็นว่าการเสริมแคลเซียมในอาหาร โดยกลุ่มควบคุมได้แคลเซียม ประมาณ ๙๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน เทียบกับกลุ่มเสริมแคลเซียมซึ่ง ได้รับ ๑,๗๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อติดตามรักษานานประมาณ ๑ ปี พบว่า กลุ่มที่เสริมแคลเซียมมีความหนาแน่นกระดูกมากกว่าความยาวของกระดูกสันหลัง และความ สูงเพิ่มขึ้นสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษาส่วนใหญ่ พบว่าการเสริมแคลเซียมช่วยเพิ่มความหนาแน่นกระดูก ช่วยทำให้มีการสะสมแคลเซียมในกระดูกมากขึ้น และมีการลดลงของการสลายแคลเซียมจากกระดูก (bone resorption)
๔. เอสโทรเจน เป็นฮอร์โมน สำคัญทำให้กระดูกปิด การยับยั้งการสร้างเอสโทรเจนโดยใช้ยาที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอโรมาเทส (aromatase) ทำให้ระดับเอสโทรเจนลดลง อายุกระดูกพัฒนาช้าลง
๕. การออกกำลังกาย ถึงแม้การออกกำลังกายระยะยาวนานอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเจริญเติบโต แต่ถ้าออกกำลังกายมากเกินไปจนน้ำหนักลดมากจะไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย
การออกกำลังกายบางประเภท เช่น ยิมนาสติกและบัลเลต์ โดยเฉพาะในผู้หญิง เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความคล่องตัว รูปร่างนักกีฬามักจะต้องตัวเล็ก นักกีฬาจำเป็นต้องฝึกซ้อมอย่างหนักประมาณ ๒๐-๓๐ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้ต้องใช้พลังงานมาก แต่จำเป็นต้องจำกัดอาหารเพื่อให้รูปร่างผอมบางไม่อ้วน การกระโดดกระแทกซ้ำๆ ของกระดูกขาทำให้มีการบาดเจ็บซ้ำๆ บริเวณปลายกระดูก ส่งผลทำให้ส่วนสูงและความสูง สุดท้ายเตี้ยกว่าศักยภาพตามพันธุกรรม เมื่อหยุดเล่นกีฬา ในรายที่กระดูกยังไม่ปิดทำให้มีความสูงสุดท้ายปกติได้
ผลของการออกกำลังกายประเภทต่างๆ ต่อการเจริญเติบโต โดยเฉพาะความสูงไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตมีผลกระทบร่วมด้วย การศึกษาในนักกีฬาเด็กโดยติดตามระยะยาว พบว่านักกีฬาที่ฝึกซ้อมเป็นประจำในช่วงที่เข้าสู่ภาวะหนุ่มสาว ไม่มีผลทำให้อัตราการเจริญเติบโตเร็วขึ้น
การศึกษาในระยะหลังๆ พบว่าการออกกำลังกาย ไม่ได้ช่วยให้ความสูงเพิ่มขึ้น แต่ช่วยให้ความหนาแน่นกระดูกเพิ่มขึ้น และกระดูกมีขนาดใหญ่กว่า (แต่ไม่ใช่ยาวกว่า) โดยมีความหนาของกระดูกชั้นนอกมากกว่า การออกกำลังกายจึงยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าช่วยให้ความสูงสุดท้ายเพิ่มขึ้น
...............................................
การป้องกันภาวะเตี้ย
พ่อแม่ที่ไม่สูงมักจะมีพันธุ-กรรมหรือยีนเตี้ย ซึ่งมีโอกาสถ่าย ทอดสู่รุ่นลูกหลาน การคัดเลือกเฉพาะยีนที่ไม่เตี้ยในตัวเชื้ออสุจิจาก บิดาหรือไข่จากมารดายังไม่สามารถ ทำได้ในปัจจุบัน เนื่องจากความสูงไม่ได้ถูกควบคุมโดยยีนเพียงยีนเดียว แต่ถูกควบคุมโดยยีนจำนวนมากและซับซ้อน ดังนั้น การป้องกันภาวะเตี้ย ในขั้นตอนการเลือกยีนจึงยังทำไม่ได้
การป้องกันลำดับต่อไปคือ การดูแลทารกในครรภ์ให้แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่เตี้ยกว่าศักยภาพตามพันธุกรรมนั้นๆ ดังนั้น อาหารและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งสุขภาพกายและจิตของแม่ในระหว่างตั้งครรภ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ของทารกในครรภ์
เมื่อทารกเกิดมา การเลี้ยงดูให้มีสุขภาพดี โดยเน้นโภชนาการให้ครบหมู่ ไม่เลี้ยงให้อ้วนหรือผอมเกินไป ควรเน้นการออกกำลังกายปานกลางอย่างสม่ำเสมอ ควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่แออัด ไม่มีมลภาวะ เพื่อลดความ เสี่ยงของความเจ็บป่วยบ่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เด็กวัยก่อนเรียนและวัยเรียนมีการเจริญเติบโตล่าช้า
ในช่วงวัยเด็ก ไม่ควรเลี้ยงให้เด็กมีภาวะอ้วน เนื่องจากเด็กอ้วนบางคนจะเข้าสู่วัยสาวเร็วกว่าปกติ ทำให้โตเร็วกว่าปกติและหยุดการเจริญเติบโตก่อนวัย ทำให้เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สูงเท่าที่ควร
ในช่วงวัยรุ่น เมื่อมีฮอร์โมนเพศ จะทำให้มีการเจริญเติบโตของกระดูกอย่างรวดเร็วและมีการสะสมมวลกระดูกอย่างมาก วัยรุ่นตอนต้นอายุ ๙-๑๕ ปี จึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นม ซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีนที่ดี ควรดื่มนมวันละ ๓-๔ แก้ว ถ้ามีประวัติไขมันในเลือดสูงในครอบครัวหรือมีภาวะอ้วน ควรดื่มนมชนิดพร่องมันเนยหรือขาดมันเนยทดแทนนมปกติ