Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

อันตรายจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย .. โดย ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย



อันตรายจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย

ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ สุวชัย อินทรประเสริฐ
ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย




การทำแท้งไม่ปลอดภัย เป็นการทำแท้งเนื่องจากเกิดการตั้งครรภ์ไม่ปรารถนา หรือไม่พึงประสงค์ หรือตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทำแท้งโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ความ สามารถ ทำในสถานที่และเครื่องมือที่ไม่สะอาด ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ถูก กระทำอย่างมาก



สาเหตุของการตั้งครรภ์ไม่พร้อม

(1) ร่วมเพศโดยไม่ได้คุมกำเนิด ทั้ง ๆ ที่ทราบว่าการคุมกำเนิดสามารถป้องกันการตั้งท้องได้ แต่ไม่ได้ใช้ หรือบางครั้งได้ข่าวลือที่ผิดๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด จึงไม่ได้คุมกำเนิด

(2) ความล้มเหลวจากการคุมกำเนิด เช่น

ลืมทานยา เลยกำหนดไปฉีดยา ฉีดยาแล้วเลือดออกกะปริด กะปรอย จึงไม่ได้ไปฉีดต่อ ถุงยางอนามัยรั่ว เป็นต้น

รวมทั้งรายที่คุมกำเนิดอย่างถูกต้อง แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ 100% เช่น ใส่ห่วงอนามัยแล้วก็ยังมีโอกาสล้มเหลวได้บ้าง

แม้แต่รายที่แพทย์ ทำหมันให้แล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดความล้มเหลวได้ถึงร้อยละ 0.2 หรือ 1 รายในการทำหมัน 500 ราย

(3) ร่วมเพศโดยไม่สมัครใจ เช่น ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศ เป็นต้น



เมื่อตั้งท้องโดยไม่ได้วางแผนไว้ ก็จะเกิดการไม่อยากได้ หรือไม่พร้อม ซึ่งเนื่องมาจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือยังเป็นวัยรุ่นยังอยู่ในวัยเรียน ยังไม่ได้แต่งงาน พบว่าวัยรุ่นมีการตั้งท้องไม่พร้อมจำนวนมาก ซึ่งมักจะหาทางออกโดยการไปทำแท้ง และมักจะไปทำแท้งโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้ ทำโดยไม่สะอาด ซึ่งเรียกรวมกันว่า "ทำแท้งไม่ปลอดภัย" ซึ่งผิดกฎหมาย

การลักลอบทำแท้งทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก บางรายก็ไปซื้อยามากินเอง ซื้อยามาเหน็บช่องคลอด ยาเหล่านี้จะลักลอบซื้อขายกันใน ตลาดมืด หรือซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีราคาสูงมาก เม็ดละหลายร้อยบาท หรือบางทีหลายพันบาท ทั้งๆ ที่ราคาจริง ๆ ยาเม็ดละไม่ถึง 20 บาท




อันตรายจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย

รายที่ไปลักลอบทำแท้งส่วนหนึ่งจะไม่เกิดผลแทรกซ้อน ก็นับว่าโชคดีไป แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ไปลักลอบทำแท้ง มักจะเกิดผลแทรกซ้อนตามมาหลายอย่าง ได้แก่การตกเลือด เสียเลือดมาก อักเสบติดเชื้อ มดลูกเน่า บางรายใช้เครื่องมือทำให้มดลูกทะลุ หลายรายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีการติดเชื้อรุนแรงจนแพทย์ไม่สามารถช่วยได้ ต้องลงท้ายด้วยการถูกตัดมดลูกเพื่อช่วยชีวิต แต่บางรายแพทย์ช่วยไม่ทัน ก็เสียชีวิต

ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการทำแท้งไม่ปลอดภัยหลายสิบราย และยังมีที่ไม่เปิดเผยอีกเป็นจำนวนมาก (อัตราตาย 300-500 รายต่อการทำแท้ง 100,000 ครั้ง)

บางรายแม้จะผ่านเหตุการณ์ตอนต้นไปได้ แต่ก็จะมีการอักเสบเรื้อรังตามมา เช่น ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ตกขาวบ่อย ๆ เมื่อพร้อมที่จะมีลูกก็มีไม่ได้ เพราะเป็นหมัน จากท่อนำไข่อักเสบติดเชื้อและอุดตัน บางรายตั้งท้องได้ ก็ยังไม่วายจะเกิดปัญหาที่รกฝังตัว ลึกในเนื้อมดลูก ทำให้มดลูกแตก ขณะที่ยังตั้งท้องไม่ครบกำหนด หรือเพิ่งจะเริ่มเจ็บครรภ์ มดลูกก็แตกเสียก่อน เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยที่แพทย์ไม่สามารถช่วยได้ทัน เพราะเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก




การป้องกันการทำแท้งไม่ปลอดภัย

ทางที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันการตั้งท้อง เมื่อตนเองยังไม่พร้อมที่จะมีลูก การหลี่กเลี่ยงการร่วมเพศในวัยรุ่น ที่ยังไม่แต่งงาน เป็นสิ่งที่ควรกระทำ ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องคุมกำเนิด เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจจะติดโรคร้าย เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น หรือผู้หญิงอาจจะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด กรณีนี้ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ก็ช่วยป้องกันการตั้งท้องได้ดี

ถ้าร่วมเพศโดยไม่ได้ป้องกัน ก็ยังมีเวลาในช่วง 3 วันหลังร่วมเพศ ถ้าใช้ยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกต้อง ก็จะป้องกันการตั้งท้องได้มาก

เมื่อ ตั้งท้องไปแล้ว ก็ต้องหาทางออกที่ดีที่สุด ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ โดยทั่ว ๆ ไปการทำแท้งนั้นผิดกฎหมาย แต่บางกรณีแพทย์ก็สามารถทำแท้งหรือที่เรียกว่ายุติการตั้งครรภ์ให้ได้ โดยถูกต้องตามข้อบังคับของแพทยสภา เช่น แม่มีโรคทางร่างกาย มีความผิดปกติทางด้านจิตใจ หรือทารกมีความพิการซึ่งแพทย์ตรวจได้ หรือในกรณีที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ถูกล่อลวงทางเพศไปขายบริการทางเพศ หรือตั้งครรภ์เมื่ออายุยังไม่ถึง 15 ปี ซึ่งผิดกฎหมายอาญา

ในกรณีนี้แพทย์ก็สามารถช่วยเหลือได้ โดยการทำแท้งอย่างปลอดภัย หรือส่งต่อไปรับบริการในสถานที่ ๆ ปลอดภัย ซึ่งแทบจะไม่มีอันตราย ถ้าทำในอายุครรภ์ที่เหมาะสม ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง (อัตราตายต่ำมาก) แม้รายที่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย ก็อาจจะให้คำปรึกษาหรือให้การช่วยเหลือโดยรับฝากครรภ์ต่อ ติดต่อบ้านพักฉุกเฉินให้อยู่จนคลอดแล้วค่อยกลับไปเรียนหรือประกอบอาชีพใหม่ได้



สรุป ....

จะเห็นได้ว่าการทำแท้งไม่ปลอดภัย เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ควรหาทางป้องกันการตั้งท้องไม่พร้อม โดยการไม่ร่วมเพศถ้ายังไม่ได้แต่งงาน หรือต้องใช้การคุมกำเนิดอย่างจริงจังถูกต้อง ก็จะปลอดภัยจากปัญหาที่กล่าวมาได้




โครงการ FACT SHEET แพทยสภา:: เผยแพร่โดย สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา

กรณีพบสถานพยาบาล หรือ คลินิกที่มีทำแท้ง ถือเป็นการผิดกฎหมาย กรุณาแจ้งได้ที่

1. ผู้อำนวยการ กองการประกอบโรคศิลปะ(นพ.ธารา ชินะกาญจน์)
โทร .02 5918844

2. รับเรื่องร้องเรียนโดย ฝ่ายจริยธรรม แพทยสภา
โทร. 02-590-1881,02-590-1888 กด 2
แฟกซ์ 02 591 8614-5
Email : tmc@tmc.or.th

3. เลขาธิการแพทยสภา (นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์)
Email : Skomrit@gmail.com

4. รองเลขาธิการแพทยสภา (นอ.(พ.)นพ.อิทธพร คณะเจริญ )
Email : ittaporn@gmail.com

เพื่อดำเนินการต่อไป




ปล.

แถมเรื่องนี้ ด้วยเลยนะครับ ..


ทำแท้ง ปัญหาที่ยังไร้ ทางออก ....

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=18-01-2009&group=4&gblog=67





Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 13:12:45 น. 2 comments
Counter : 2985 Pageviews.  

 
แวะมาขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

แล้วก็มาแนะนำ Blog ผมด้วยค๊าบ

มาหาความรู้ได้เช่นกันน้า

//anti-cancer.bloggang.com


โดย: zinkzaa วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:08:38 น.  

 


ข้อเท็จจริงเรื่องการทำแท้งในประเทศไทย ..... ... โดย นพ. สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=11-01-2010&group=4&gblog=80



โดย: หมอหมู วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:16:26:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]