Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

สารพัด " นม " ที่ควรรู้




แฮบต่อมาจากห้องสวนลุม

https://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7284230/L7284230.html

ขอขอบคุณ คุณ ploykarat ไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ




สารพัดนม ที่คุณแม่ควรรู้



เอามาฝากค่าา

นมนั้นมี ประโยชน์สำหรับลูกน้อยเรามาก แต่นำบางชนิดก็ยังไม่เหมาะกับลูกของเรา เราเลยนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับนมชนิดต่าง ๆ มาให้บรรดาคุณแม่ ๆ ทั้งหลายได้ทราบกัน

นมเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้ำตาลแลคโตส วิตามินและเกลือแร่ นมวัวหรือนมโคซึ่งนิยมนำมาบริโภคมีสารอาหารที่สำคัญได้แก่ น้ำประมาณ 87% น้ำมันเนย (milk fat) 4% น้ำตาลแลคโตส 4% โปรตีน 3% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเคซีน (casein) และเถ้า 0.7% เกลือแร่ที่มีมากในนมคือ แคลเซียมและฟอสฟอรัส นมเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเอ ดี และบีสอง


1. นมสดพาสเจอร์ไรซ์ (Pasteurized Milk)

คือนมสดที่ผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 63 องศาเซลเซียส และไม่น้อยกว่า 30 นาที แล้วทำให้เย็นลงทันทีที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส ความร้อนและเวลาที่ใช้นี้พอสำหรับฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเท่า นั้น แต่ไม่สามารถกำจัดจุลินทรีย์ทั้งหมดในนมได้

ดังนั้นนมพาสเจอร์ไรซ์จึงมีอายุการเก็บรักษาสั้นเพียงประมาณ 7 วัน และต้องเก็บในที่เย็นเท่านั้น (อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียสตลอดเวลา เพราะหากเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม จะมีจำนวนเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเจริญขึ้น ในจำนวนที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้)


2. นมสดสเตอร์รีไรซ์ (Sterilized Milk)

คือนมสดที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูงที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 140 องศาเซลเซียส เป็นเวลาไม่เกิน 15 นาที แล้วทำให้เย็นลงทันทีที่อุณหภูมิไม่เกิน 80 องศาเซลเซียส และบรรจุลงในกระป๋องที่ฆ่าเชื้อแล้ว วิธีนี้จะทำลายเชื้อจุลินทรีย์ในนมได้ทั้งหมด แต่จะทำให้วิตามินที่สำคัญบางตัว เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 สูญเสียไปด้วย

ดังนั้นนมสดสเตอร์รีไรซ์จึงไม่เหมาะกับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และห้ามใช้เลี้ยงทารก เพราะจะทำให้เด็กเป็นโรคขาดสารอาหารได้ นมชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นาน 1-2 ปี เวลาที่ซื้อนมควรสังเกตดูวันที่ผลิตและวันที่หมดอายุของนมให้ดี และหลังจากที่เปิดใช้แล้ว ควรเก็บนมไว้ในที่เย็น เพื่อที่นมจะได้ไม่เสื่อมคุณภาพแล้ว


3. นม ยู เอช ที (U.H.T-Ultra High Temperature Milk)

คือนมสดที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูงเพื่อฆ่าจุลินทรีย์ที่มีอยู่ใน น้ำ นมทั้งหมด ระดับความร้อนที่ใช้มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 133 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 วินาที เพื่อรักษากลิ่นและรสชาติของนม รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในนมให้ยังคงอยู่ สามารถเก็บรักษานมชนิดนี้ได้ที่อุณหภูมิห้องธรรมดาโดยที่ไม่ต้องแช่เย็น และสามารถเก็บรักษานมไว้ได้นานถึง 6 เดือน ดังนั้นการเลือกซื้อควรดูวันผลิตและวันที่หมดอายุของนม เพื่อที่จะได้นมที่ผลิตมาใหม่ๆ เสมอ


4. นมพร่องมันเนย (Low Fat)

คือนมสดที่รีดมาจากแม่วัวและแยกเอามันเนยบางส่วนออก นมพร่องมันเนย เป็นนมที่แยกเอาไขมันส่วนใหญ่ออกไป เหลือไขมันประมาณ 0.05-0.1 ไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงทารก คุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน


5. นมสดขาดมันเนย (Skim Milk)

คือนมสดที่รีดมาจากแม่วัวและแยกมันเนยออกเกือบหมด หรือที่เรียกว่า หางนม คือนมที่ถูกดึงไขมันออกไปทำเนย น้ำนมที่เหลือเรียกว่านมขาดมันเนย


6. นมเปรี้ยว (Cultured Milk หรือ Yogurt)

เป็นนมที่หมักจากเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์โดยจุลินทรีย์นั้นจะหมักทำ ให้ นมมีค่า pH 0.75-0.8 ของกรดแลคติก และทำให้น้ำตาลแลคโตสที่เป็นองค์ประกอบของนมแตกตัว ทำให้ย่อยง่าย อาจมีการปรุงแต่งสี กลิ่น รส ด้วยความเปรี้ยวของนมนอกจากยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียแล้ว ยังทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคได้หลายชนิด ดังนั้นคนที่ดื่มนมแล้วท้องเสียจึงควรมาดื่มนมเปรี้ยวแทน

นมชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดื่มนมไม่ได้เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อย น้ำตาลแลคโตส (lactose intolerance) สามารถบริโภคนมเปรี้ยวได้ไม่มีปัญหาท้องเสียหรือเกิดก๊าซ เพราะน้ำตาลแลคโตสในนมถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก

การบริโภคนมเปรี้ยวนอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่ในนมแล้ว นมเปรี้ยวนั้นยังผ่านการฆ่าเชื้อแบบพาสเจอร์ไรซ์ หรือบรรจุแบบปลอดเชื้อ ผู้บริโภคก็จะได้รับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ด้วย เรียกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ (probiltics) ซึ่งมีข้อมูลยืนยันว่าจุลินทรีย์เหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือช่วยสร้างสภาวะเป็นกรดในทางเดินอาหาร ป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคเจริญและเพิ่มจำนวน นอกจากนั้นสารบางชนิดที่สร้างโดยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ยังมีคุณสมบัติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้อีกด้วย

แต่ถ้าผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยระบบยูเอชที ผู้บริโภคก็จะได้รับเพียงสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในนมเปรี้ยว แต่จะไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่ยังมีชีวิตเข้าไปด้วย

ถ้ามีการนำนมเปรี้ยวมาเจือจางด้วยน้ำนมพร่องไขมันแต่งด้วยสีหรือกลิ่นต่างๆ หรือเติมน้ำผลไม้เพื่อทำให้เป็นนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม (drinking yogurt) ผู้บริโภคจะได้รับปริมาณโปรตีนลดลง เพราะถูกเจือจางด้วยน้ำ และได้รับน้ำตาลทรายเพราะมีการเติมน้ำตาลเพื่อให้มีรสหวานนำรสเปรี้ยว ปัจจุบันนมเปรี้ยวพร้อมดื่มเป็นผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับความนิยมเพราะมีรสชาติ ที่อร่อย


7. นมคืนรูป (Reconstituted Milk หรือ Recombined Milk)

คือนมที่ทำมาจากการนำส่วนประกอบที่สำคัญของนม เช่น นมผงหรือนมผงพร่องมันเนย น้ำมันเนย มารวมกับน้ำ โฮโมจิไนซ์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน มีลักษณะคล้ายนมสด ได้เป็นผลิตภัณฑ์นมคืนรูป และนำมาแปรรูปต่อเป็นนมข้นหวานหรือนมข้นจืด อาจมีการใช้ไขมันอื่นแทนน้ำมันเนย เช่นน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันปาล์ม เป็นต้น ได้เป็นนมคืนรูปแปลงไขมันเป็นการลดต้นทุนการผลิต แต่ต้องระบุฉลากให้ผู้บริโภคทราบ


8. นมข้นหวาน (Sweetened Condensed Milk)

เป็น นมที่มีน้ำน้อยกว่าที่มีอยู่ในน้ำนมดิบและมีการเติมน้ำตาลทรายเพื่อให้มี ความหวานมาก มักนิยมใช้ชงเครื่องดื่มต่างๆ ปริมาณน้ำตาลในนมข้นหวานประมาณ 47-56% ทำให้นมข้นหวานไม่เสื่อมเสียง่ายแม้เก็บที่อุณหภูมิห้อง

การผลิตนมข้นนั้นอาจใช้วิธีนำน้ำนมดิบมาระเหยน้ำออกไปบางส่วนหรืออาจใช้นมผง พร่องมันเนยผสมน้ำ เติมน้ำมันเนยหรือน้ำมันพืชแล้วไปผ่านกระบวนการ ทำให้เป็นเนื้อเดียวกันที่เรียกการโฮโมจิไนซ์ (hormogenization) และปรับมาตรฐานให้มีปริมาณน้ำในผลิตภัณฑ์ตามต้องการ ห้ามใช้นมข้นหวานเลี้ยงทารก เพราะนอกจากมีน้ำตาลมากแล้วจะมีสารอาหารอื่นๆ อยู่น้อย ไม่เพียงพอกับความต้องการของทารก


9. นมข้นจืดหรือนมข้นไม่หวาน (Unsweetened Condensed Milk) หรือ นมข้นแปลงไขมันไม่หวาน

มักบรรจุในกระป๋องและฆ่าเชื้อแบบสเตอริไรซ์ เพื่อให้มีอายุการเก็บนาน นมชนิดนี้ใช้สำหรับทำอาหารหรือขนมอบหรือใช้ใส่ในชา กาแฟ เป็นต้น


10. นมผง (Dried or Powder Milk)

เป็นนมที่ผ่านการระเหยเอาน้ำออกด้วยกรรมวิธีต่างๆ จนได้เป็นนมผง เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาจแบ่งตามปริมาณไขมันเป็นนมผงธรรมดา (มีไขมันไม่น้อยกว่า 26%) นมผงพร่องมันเนย (มีไขมันประมาณ 1.5-26%) และนมผงขาดมันเนย (มีไขมันน้อยกว่า 1.5%) หรืออาจแบ่งตามการใช้เลี้ยงทารก


11. นมผงดัดแปลง (Humanized Milk หรือ Modified Milk)

เป็นนมผงสำหรับใช้เลี้ยงทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน เนื่องจากปริมาณโปรตีนและเกลือแร่ในนมโคผงสูงเกินไปสำหรับทารกจึงต้องมีการดัดแปลงให้มีสารอาหารต่างๆ ใกล้เคียงนมมารดามากที่สุด หรืออาจมีการเสริมสารอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อทารกให้มากกว่าที่มีปกติ ในนมมารดา ผู้บริโภคจึงควรขอความรู้จากกุมารแพทย์เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ถูกต้อง


12. นมผงครบส่วน (Whole Milk)

เป็นนมโคที่มีการระเหยน้ำออก โดยไม่ต้องปรับปริมาณโปรตีนและเกลือแร่ให้ลดลง เพราะใช้สำหรับทารกอายุเกิน 6 เดือน และในเด็กโต เมื่อละลายน้ำตามสัดส่วนที่ถูกต้องจะได้คุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงน้ำนมวัว


13. เนยแข็ง (cheese)

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม ครีม บัตเตอร์มิลค์ (Butter Milk) หรือเวย์ (Whey) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างมาผสมกับเอ็นไซม์หรือกรด หรือจุลินทรีย์จนเกิดการรวมตัวเป็นก้อน แล้วแยกส่วนที่เป็นน้ำออก นำมาใช้ในลักษณะสดหรือนำไปบ่มให้ได้ที่ก่อนใช้ เนยแข็งเหล่านี้เป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนและแคลเซียม


14. ครีม (cream)

คือไขมันที่ได้จากการปั่นแยกจากน้ำนม และมีไขมันนมเป็นส่วนประกอบสำคัญ มี 3 ประเภทคือ ครีมแท้ ครีมผสม และครีมเทียม นิยมใช้ในเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ขนมอบ เป็นต้น


15. เนย (Butter)

คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากครีมซึ่งผ่านกรรมวิธีการผลิตและอาจเติมวิตามิน หรือสารที่จำเป็นต่อกรรมวิธีการผลิต เช่น เกลือ วิตามินดี และเบต้าแคโรตีน เพื่อปรุงแต่งรสชาติและสี

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการปั่นแยกไขมันนมให้มีน้ำอยู่ในปริมาณต่ำ คือไม่เกิน 16% และมีไขมันไม่น้อยกว่า 80% หากมีการลดความชื้นจนต่ำกว่า 1% จะได้น้ำมันเนย (Butter Oil) ซึ่งนิยมใช้เป็นวัตถุดิบผสมกับนมพร่องไขมันในการทำผลิตภัณฑ์นมคืนรูป เนื่องจากไขมันในนมมีกรดไขมันสายสั้นปริมาณมากทำให้เนยมีจุดหลอมเหลวต่ำกว่า และหืนได้ง่าย จึงควรเก็บในตู้เย็นถ้าต้องการให้เป็นก้อนและไม่ให้หืนเร็ว


16. ไอศกรีม (Ice Cream)

เป็น ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำ อากาศ โปรตีน น้ำตาล และไขมัน ได้จากการปั่นส่วนประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันที่อุณหภูมิต่ำจนน้ำในส่วนประกอบเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ไขมันที่ใช้ทำอาจเป็นไขมันอื่นๆ แทนน้ำมันเนยได้ มีการเติมสารปรุงแต่ง สี กลิ่นรส และสารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ช่วยรักษาความคงตัวของอิมัลชั่นและฟองอากาศในไอศกรีม


เป็นยังไงบ้างคะสำหรับเกร็ดความรู้เรื่องนมที่นำมาฝากกัน นมนั้นมันมีประโยชน์ถ้าเลือกรับประทานให้ถูกค่ะ

จากคุณ : ploykarat - [ 3 ธ.ค. 51 21:46:48 ]





ทำอย่างไร ถึงจะตัวสูง ???สูง ไม่สูง เกิดจากอะไร ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=56

ทำอย่างไร ถึงจะตัวสูง อาหารเสริมความสูง ? เวบดร่าม่าแอดดิก https://drama-addict.com/?p=9106

นมเพิ่มความสูง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโคลอสตรุ้ม(Colostrum)เพิ่มความสูงได้ ไม่จริง! อย่าหลงเชื่อ! https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-08-2017&group=4&gblog=131

ผ่าตัดเพิ่มความสูงทางลัดสู่ความสำเร็จหรือเจ็บปวด https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=58

ผ่าตัดยืดกระดูก ให้สูงขึ้น ดีจริงหรือ ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-08-2008&group=4&gblog=57

สารพัด " นม " ที่ควรรู้ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-12-2008&group=4&gblog=65




Create Date : 04 ธันวาคม 2551
Last Update : 1 มิถุนายน 2561 20:53:34 น. 1 comments
Counter : 6550 Pageviews.  

 
ยืนยันตามนี้ ครับ " เพจหมอทุกเพจ ยกเว้นหมอคนนั้น ให้ข้อมูลตรงกันหมด .... มีอยู่คนเดียว บอกว่าแดกนมแล้วเป็นสารพัดโรคยันมะเร็ง ก่อนจะเชื่ออะไร ตรองกันให้ดีๆ "

https://pantip.com/topic/37752467

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10156630993583291&id=141108613290

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10156148124863291&id=141108613290




โดย: หมอหมู วันที่: 10 มิถุนายน 2561 เวลา:13:02:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]