ตอนที่ 8 ของทริปค่ะ ย้ายกรุ๊ปบล็อกมาภาคกลาง เพราะเราแวะมานอนค้างที่อยุธยา ก่อนจะกลับเข้ากรุงเทพฯ
ไม่ได้แพลนล่วงหน้าหรอกค่ะ เพิ่งมาตัดสินใจกันตอนอยู่สุโขทัย ที่พักก็เพิ่งจองด้วยความที่มาวันธรรมดาค่ะ เลยไม่รีบร้อนอะไร

ความเดิม  
ตอนที่ 1 น้ำตกคลองลาน กำแพงเพชร
ตอนที่ 2 อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร - วัดอาวาสใหญ่, วัดช้างรอบ, วัดสิงห์
ตอนที่ 3  อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร - วัดพระสี่อิริยาบถ, วัดพระนอน, วัดพระธาตุ, วัดพระแก้ว
ตอนที่ 4 โบสถ์ศิลาแลง, วัดพระบรมธาตุ กำแพงเพชร
ตอนที่ 5 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย - วัดศรีชุม, วัดพระพายหลวง, วัดช้างล้อม
ตอนที่ 6 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย - วัดมหาธาตุ, วัดตระพังเงิน, วัดศรีสวาย, วัดตระพังทอง
ตอนที่ 7 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร, วัดจุฬามณี พิษณุโลก

---

17.16 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ก่อนถึงที่พัก มีป้ายบอกทางไปวัดพระงาม ไม่ได้ไกลอะไรจากที่พักมาก...ไปกันค่ะ



 วัดพระงาม คลองสระบัว ตั้งอยู่ใน ตำบลคลองสระบัว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดร้างที่สวยงดงามเพราะมีซุ้มประตูโบราณที่ถูกล้อมด้วยต้นโพธิ์นานกว่า 100 ปี จนที่นี่ถูกขนานนานว่า ประตูแห่งกาลเวลา  แต่ความสวยของซุ้มประตูนี้ จะอยู่ในเวลาตอนเย็นค่ะ เพราะจะมีแสงสว่างของพระอาทิตย์ส่องลงมาที่ซุ้มประตู... 



แต่เราไม่เห็นแสงสวย ๆ ที่ว่าค่ะ จังหวะเวลาไม่ได้ เสียดายเหมือนกัน 



 ภายใน วัดพระงาม มีเจดีย์แปดเหลี่ยมเป็นประธาน มีกำแพงแก้วและคูน้ำล้อมรอบวัด สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัดก็จะมีร่องรอยของการบูรณะปฏิสังขรณ์มากกว่าหลายครั้งด้วยกัน วัดพระงาม แห่งนี้จะไม่มีหลักฐานความเป็นมาในเอกสารทางประวัติศาสตร์ค่ะ แต่จากการศึกษาทางโบราณคดี วัดนี้น่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และถูกทิ้งร้างไปเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 
https://travel.trueid.net/detail/mnJbg84ArxZn




 

ไฮไลท์ ซุ้มประตู วัดพระงาม

     แนะนำว่าถ้าอยากได้ภาพที่สวยของแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านช่องประตู จะต้องมาในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เพราะดวงอาทิตย์จะตกและสาดแสงสีส้มทองผ่านซุ้มประตูพอดีเลยค่ะ หรือในตอนเช้าประมาณ 06.00 น. ก็จะมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านซุ้มประตูเข้ามาภายในพระอุโบสถถึงเจดีย์แปดเหลี่ยมเลยค่ะ แต่ถ้าไปในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็อาจจะมีลุ้นได้ภาพที่มีหมอกคลุมไปทั่วบริเวณอีกด้วยนะคะ ...

จังหวะเวลาไม่ได้ เป็นเช่นนี้เองค่ะ เราไม่ได้ไฮไลท์ใด ๆ ทั้งเช้า และเย็น 555



17.24 น. 



17.47 น. ที่พักคืนนี้ค่ะ จิดาภา รีสอร์ท พี่สาวจองผ่านอโกด้า 2 ห้อง 1 คืน รวมอาหารเช้า 1,190 บาท





บริเวณรับประทานอาหาร บรรยากาศดี ติดริมน้ำ





ฝั่งตรงข้ามที่พัก



มองเห็นวัดไชยวัฒนารามด้วยค่ะ



เลยชวนกันออกไปดูวัดไชยวัฒนาราม ประดับไฟ...ถ่ายมาแย่มาก 555



18.51 น. เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอีกรอบค่ะ 



เช้านี้ เรามาวัดพระงามอีกรอบ 06.28 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566





สระบัวใกล้ ๆ 



เป็ดเทศและลูก ๆ 



น่ารักดี



กลับมาที่พัก.. อาหารเช้า เป็นข้าวต้มเครื่อง ขนมปัง กาแฟ 3-1 ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ





บ้านพักแต่ละหลัง จะเป็นชื่อดอกไม้



เช็คเอาท์ค่ะ



รถสามล้อหน้ากบ



08.06 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 วัดไชยวัฒนาราม







































เศียรพระบูรณะใหม่





พระตำหนักสิริยาลัย พระตำหนักริมน้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามวัดไชยวัฒนารามค่ะ







ตั้งใจมาเช้า เผื่อคนไม่เยอะ เจอกลุ่มพนักงานบริษัท จัดกิจกรรมพอดี





เค้าก็คงคิดเหมือนเราแหละ น่าจะตื่นเช้ากว่าเราอีก แต่งชุดไทยกันด้วย











ถ่ายรวมกันแบบนี้ สวยเนาะ





มาทุกรอบ ถ่ายทุกรอบ





ทยอยบูรณะไป









ร้านให้เช่าชุดไทยเยอะมาก 



เจ้าของร้านน่ารัก ชูสองนิ้วให้ด้วยค่ะ



ทั้งแถบเลยค่ะ 



08.55 น. ไปแล้วค่ะ



09.09 น. วัดนักบุญยอแซฟ


 

วัดนักบุญยอแซฟ ตั้งที่ทางตอนใต้นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2209 ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมากรุงศรีอยุธยา คือ บาทหลวงลังแบร์ต เดอ ลามอต กับนักบวชอีก 2 ท่าน ต่อมาคณะบาทหลวงได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพื่อทูลขอที่สร้างโบสถ์และโรงเรียน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและให้การศึกษาแก่เด็ก เมื่อได้รับพระราชทานที่ดินแล้ว ได้สร้างโบสถ์และโรงเรียนขึ้นเป็นอาคารไม้ เรียกว่า “ค่ายนักบุญยอแซฟ”

ที่ดินของวัดนี้ได้รับพระราชทานจากพระนารายณ์ ตลอดทั้งยังทรงให้จัดหาวัสดุในการก่อสร้างทั้งไม้และอิฐอีกด้วยเพื่อจะได้สร้างโบสถ์ขนาดใหญ่มีความยาว 120 ฟุต (ราว 36.5 เมตร) และมีหอคอยด้านหน้า 2 หลัง







อยู่ใกล้วัดพุทไธศวรรย์ เดี๋ยวไปค่ะ