ทริปลาว 13 - 19 กรกฎาคม 2565 จากสถานการณ์โควิด-19 บ้านเรามีมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น เรื่องการเดินทางเข้าออกประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เราเพิ่งทำพาสปอร์ตแบบ 10 ปีมา ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอเปิดหน้าพาสปอร์ตเล่มใหม่ด้วย ลาว ดีกว่า ไปคนเดียวได้ ใกล้บ้านเรา ไม่น่ายาก...จากนั้นก็เริ่มทำการบ้านเลยค่ะ ไปแบบไหนดี ไปเที่ยวไหนดี และด้วยความที่อยากไปนั่งรถไฟลาว-จีน ด้วย มีข้อจำกัดเรื่องการจองตั๋วรถไฟลาว-จีน ไม่ให้จองล่วงหน้า เกิน 2 วัน (ช่วงที่เราไป) บางเรื่องเลยต้องไปตัดสินใจเอาข้างหน้า อันดับแรกเลย จองตั๋วรถทัวร์ กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ ก่อนค่ะ จองออนไลน์ ค่าตั๋ว 900 บาท มีค่าดำเนินการ 20 บาท รถออก 20.00 น. มีรอบเดียวเราเลือกขึ้นที่หมอชิต 2 มาถึงขึ้นตั๋วก่อนทำไม ไม่นั่งเครื่อง...อยากลองนั่งรถทัวร์ กรุงเทพฯ - เวียงจันทน์ค่ะมีทั้งรถจากลาว และรถบ้านเรา เค้าว่าวิ่งสลับกัน ไม่รู้สลับกันยังไงเหมือนกันค่ะ แต่คันนี้ที่เรานั่ง ของไทย แถวที่นั่งซ้ายเป็นเบาะเดี่ยว แถวขวาเป็นเบาะคู่ เราจองมาเป็นเบาะเดี่ยวพนักงานเดินแจก น้ำ ขนม และผ้าห่ม ถึงด่านหนองคาย ประมาณ 06.30 น.นั่งรถทัวร์ต่อมาที่ด่านลาว ผ่านด่านใช้เอกสารการฉีดวัคซีน (ปริ้นท์มาแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูเลยค่ะ สะดวกสุด) พาสปอร์ต กรอกใบผ่านเข้าเมือง เก็บส่วนที่เหลือใบขาออกไว้ด้วยนะคะ อย่าทำหาย07.08 น. แม่น้ำโขง (น้ำของ) วันที่ 14 กรกฎาคม 2565ป้าย WELCOME TO LAOSด่านลาวแลกเงินที่ด่านลาว ได้ราคาดีกว่าฝั่งไทย อัตราแลกเปลี่ยนวันที่เราไป (14 กรกฎาคม 2565) 1 บาท ได้ 460 กีบ เราแลก 8,000 บาท ได้มา 3 ล้านกว่ากีบ ซื้อซิม+เติมเงิน 120 บาท ได้ 15 GB ใช้ได้ 7 วันรถทัวร์มาจอดสุดสายปลายทางที่ ตลาดเช้า สถานีขนส่งก็ตรงนี้ล่ะค่ะ เราถามคิวรถบัส (รถเมล์) ที่จะวิ่งไปสถานีรถไฟเวียงจันทน์ จะไปจองตั๋วไปหลวงพระบาง น้องคนขายตั๋วแนะนำว่า ให้ไปจองที่เวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ ดีกว่า ค่าธรรมเนียมที่บวกเพิ่ม พอ ๆ กับค่าตั๋วรถเมล์ ที่เราต้องนั่งไป (หาข้อมูลตอนหลัง ค่ารถเมล์ 15.000 กีบ, ค่าธรรมเนียมที่เวียงจันทน์ เซ็นเตอร์บวกจากค่าตั๋วรถไฟ 40.000 กีบ) แล้วการจองตั๋ว ซื้อตั๋วรถไฟ เปิดเป็นรอบด้วยค่ะ 06.45-10.00 / 14.30-16.30 / 20.00-22.00ดูนาฬิกา เกือบ 9 โมงละ เลยตัดสินใจลากกระเป๋าเดินไปเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ละกันมาถึง อ้าว ห้างเปิด 10 โมง ไม่ไปไหนแล้วค่ะ ปักหลักรอห้างเปิดเลยละกัน นั่งกินกาแฟในอเมซอนหน้าห้างนี่ล่ะค่ะแบล็คคอฟฟี่ น้ำผึ้ง มะนาว 24.000 กีบ (ประมาณ 52-53 บาท)เราเผื่อไว้ว่า ถ้าไม่ได้ที่หลวงพระบาง ไปวังเวียงก่อนก็ได้ โชคดีได้ค่ะ ได้รอบ 09.20 C92 เวลากำลังดีเลยไม่รีบเกินไป ราคาหน้าตั๋ว 242.000 มีค่าธรรมเนียม 40.000 รวมเป็น 262.000 กีบ ซื้อตั๋วที่เวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ ไม่รับเงินสดนะคะ ต้องโอนจ่ายผ่านแอป one pay ของคนลาว เราขอให้คนลาวในแถวช่วยโอนให้แล้วจ่ายเงินสดคืนเค้าเดี๋ยวนั้นเลยค่ะคนต่อคิวซื้อตั๋วรถไฟ...ห้างฯ เปิดปุ๊บ เรามาเข้าคิวคนที่ 4 ยังไงก็ต้องได้ตั๋วแน่นาฬิกาภายในห้างฯ 10.14 น. ไม่ได้เดินสำรวจอะไรเลยค่ะได้ตั๋วแล้ว เดินหาที่พักค่ะ เราจองประตูชัย เพลซ ผ่านแอปอโกด้า (ทริปนี้จองที่พักล่วงหน้าที่นี่ที่เดียว ที่เหลือ walk in ค่ะ)จากเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ เดินย้อนกลับมา ผ่านสถานีขนส่ง ที่เมื่อเช้าเรามาลงรถทัวร์ที่นี่เปิด google map เดินไปเรื่อย ๆ ผ่านประตูชัย10.43 น. ถึงแล้วค่ะ ประตูชัย เพลซ ยังเช็คอินไม่ได้ต้องรอบ่ายสอง เลยฝากกระเป๋าไว้ จะได้เดินง่ายหน่อยระหว่างรุงรังจัดการ เช็คอินที่พัก ฝากกระเป๋า เป้ใส่กล้องตก วางไว้บนโต๊ะ เราวางไม่ดี ทีแรกคิดว่าไม่เป็นไร ตอนแวะกินเฝอ (ฝนตก หาที่หลบฝน) ลองเอากล้องออกมาดู ถ่ายเบลอไปหมด ลองเปิดปิด ลองถอดเลนส์ใส่ใหม่ก็ยังเบลอ ๆ ลองหมุนโฟกัสมือเอง พอไหว แต่กว่าจะได้แต่ละรูป ช้ามาก น้องที่ร้านเฝอพยายามหาร้านซ่อมกล้องให้ แต่ละร้านไกล ๆ ทั้งนั้น ทำใจ...นั่งกินเฝอแบบไม่อร่อย รอฝนหยุดแล้วจะเดินต่อ นั่งกินไป ลองกดภาพไปเรื่อย ออโต้โฟกัสไม่ทำงาน อยากรู้ราคาเป็นเงินบาทเท่าไหร่ เอา 460 หาร เป็นค่าเงินบาท ณ วันที่เราไปค่ะไม่ได้คิดว่าต้องได้กี่ที่ ไม่ขึ้นรถ เดินไปถามไปเปิด google map ด้วย ถึงประตูชัย ลองเปิดกล้องใหญ่ถ่ายได้แล้ววุ้ย แต่เวลาดึงซูมเข้าออกโฟกัสหลุดเรื่อย (ไม่ออโต้โฟกัส ต้องหมุนเอง) ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ถ่าย
แต่เดิมที่นี่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "อานุสาวะลี" (ອານຸສາວະລີ) ซึ่งหมายถึง "ความทรงจำ" สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2500 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2511 เพื่อระลึกถึงประชาชน และทหารชาวลาวที่เสียสละชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามการกอบกู้เอกราชจากฝรั่งเศส ก่อนที่ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ขบวนการปฏิวัติฝ่ายคอมมิวนิสต์ "ปะเทดลาว" ยึดอำนาจรัฐบาลได้เด็ดขาด และพระมหากษัตริย์ทรงสละราชสมบัติ เกิดการเปลี่ยนการปกครองเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่อจากอานุสาวะลีเป็น "ปะตูไซ" (ປະຕູໄຊ) เพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะของคณะปฏิวัติ และเรียกใช้เรียกกันถึงปัจจุบัน
ปะตูไซ เป็นคำประสมมาจากคำว่า "ปะตู" หมายถึง "ประตู" และ "ไซ" มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า "ชยะ" หมายถึง "ชนะ" นอกจากนี้ปะตูไซยังถูกเรียกว่าเป็น "อาร์กเดอทรียงฟ์" แห่งเวียงจันทน์ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล ในปารีส ประเทศฝรั่งเศสที่มา : https://travel.trueid.net/detail/LX1OM1Q4M3aj
ไม่ได้ขึ้นไปด้านบนค่ะเดินต่อค่ะ จะไปพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ที่ลาว ที่เราเห็นส่วนใหญ่ เค้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยกันแล้วค่ะ แต่เราก็ยังใส่แหละเดินดูบ้านเมืองเค้าไปด้วย ชอบแบบนี้ล่ะค่ะ ไม่ได้รีบร้อนอะไร มาคนเดียวก็ง่ายหน่อย อยากหยุดแวะถ่ายรูปตรงไหนก็ได้โจมา เบเกอรี่ คาเฟ่ ไว้ขาออกมาค่อยมาแวะค่ะผ่านวัด...ไม่ได้แวะค่ะร้านกาแฟแบรนด์นี้มีเยอะแยะค่ะ คนติดกาแฟ ไม่ต้องกลัวหากาแฟกินไม่ได้เน้อสวนสาธารณะ12.44 น. ถึงแล้วค่ะ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีค่าผ่านประตู 30.000 กีบ เหมือนกันนะคะ นักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเที่ยวบ้านเราก็จะมีค่าเข้าชม คนละราคากับเราเหมือนกัน
พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ (Pha That Luang) หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในลาว เป็นปูชนียสถานที่สำคัญมากในเวียงจันทน์ เรียกได้ว่าใครมาเวียงจันทน์แล้ว ไม่ได้มาไหว้พระธาตุหลวง เรียกได้ว่า มาไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว เพราะตามประวัติศาสตร์ของลาวนั้น พระธาตุหลวงถูกสร้างขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดย พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อีกทั้งตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร รูปลักษณะคล้ายดอกบัวตูม อันหมายถึงสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า รูปชั้นล่างสุดเป็นฐานพระธาตุ 4 เหลี่ยม ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกยาวด้านละ 69 เมตร ด้านล่างมีใบเสมารอบ 4 ด้าน มีทั้งหมด 323 ใบ มีหอไหว้ทั้ง 4 ด้าน มีบันไดขึ้นหอไหว้ทุกหอ นอกบริเวณทางทิศเหนือ และทางทิศใต้ มีวัดสำหรับพระภิกษุสามเณรอ เรียกว่า วัดธาตุหลวงเหนือ และวัดธาตุหลวงใต้ ค่ะ
โบราณวัตถุวางเรียงราย ตามระเบียงคดถ่ายมาครบทั้ง 4 มุมเลยค่ะ13.00 น.ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระธาตุหลวง ผ่านภาพ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7หอไหว้ มี 4 ด้านชักตาลาย หมุนหาโฟกัสไม่ได้รถทัวร์ รถบัส จอดบริเวณนี้ ให้นักท่องเที่ยวเข้าประตูนี้ร้านค้าขายของที่ระลึกลาพระธาตุหลวง ด้วยภาพนี้ค่ะ