Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 
30 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ไม่ได้ทรงติการบำเพ็ญตบะ ไปเสียตะพึด

.





กัสสปะ !
พวกสมณพราหมณ์ ที่กล่าวหาเรา ว่า ..

"พระสมณโคดม ติเตียนตบะทุกอย่าง, กล่าวเหยียบย่ำด่าทอผู้บำเพ็ญตบะ มีชีวิตอยู่อย่างปอน ทุก ๆ คน โดยส่วนเดียว"

ดังนี้, สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้กล่าวตรงตามที่เรากล่าว เขากล่าวตู่เราด้วยคำเท็จ ไม่มีจริง ไม่เป็นจริง.

กัสสปะ !
ในเรื่องนี้ , เราเห็นผู้บำเพ็ญตบะมีชีวิตอย่างปอน,
- บางคนหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย บังเกิดในอบายทุคติวินิบาตนรก,
- บางคนหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย บังเกิดแล้วในสุคติโลกสวรรค์,

เห็นด้วย.จักขุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจด ล่วงจักขุสามัญมนุษย์

กัสสปะ !
ในเรื่องนี้ เราเห็นผู้บำเพ็ญตบะ มีความยากลำบากแต่เพียงเล็กน้อย,
- บางคน หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย บังเกิดแล้วในอบายทุคติวินิบาตนรก,
- บางคนหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกายบังเกิดแล้วในสุคติ โลกสวรรค์,

เห็นด้วยจักขุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจด ล่วงจักขุสามัญมนุษย์.

กัสสปะ !
เราย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงซึ่ง การมา การไป การจุติ การบังเกิดของผู้บำเพ็ญตบะเหล่านี้ อย่างนี้, อะไรเราจักติเตียนตบะทุกอย่าง เหยียบย่ำด่าทอผู้บำเพ็ญตบะมีชีวิตอย่างปอนทุก ๆ คน โดยท่าเดียว ได้เล่า
.
.
.
บาลี มหาสีหนาทสูตร สี. ที. ๙/๒๐๕/๒๖๐.
ตรัสแก่อเจลกัสสปะ ที่ป่ากัณณกถลเมืองอุชุญญา

การบำเพ็ญตบะ อัตตกิลมถานุโยค เป็นไปได้บ้างเพื่อสวรรค์บางฐานะ, แต่ไม่อาจเป็นไปได้เพื่อนิพพาน. ทรงห้ามขาดสำหรับผู้ปราถนาไปสู่นิพพาน, แต่ก็ไม่ทรงติใครเลย.


(หมายเหตุ .. จขบ
สังเกตุคำว่า "สวรรค์บางฐานะ" ดูให้ดีว่า .. หากการบำเพ็ญตบะ อัตตกิลมถานุโยค - หรือ ทุกรกิริยา แล้วมีผลพลอยได้เป็นการที่จิตได้สัมผัสภาวะสวรรค์บางฐานะ .. แปลว่า .. ภาวะสวรรค์ หรือ นรก เป็นเรื่องนามธรรมที่จิตคนเราเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวันนี่เอง .. หาใช่ความหมายอย่างที่บรรยายไว้ในไตรภูมิพระร่วงไม่ ..)




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2555
0 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2555 4:59:28 น.
Counter : 1084 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.