Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 
4 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. กว่ามนุษย์จะหลุดจากบ่วง (คือรู้อริยสัจ) - 1

.




(พระบาลีนี้ แสดงให้เห็นถึงการที่สามัญสัตว์ติดอยู่ในบ่วงของโลกอย่างไรในขั้นต้นแล้วจะค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นมาตามลำดับอบย่างไร ดังต่อไปนี้ :-)


๑. เมื่อจมกามตามปกติ.


ภิกษุ ท. !
ชาวสวนผักมิได้ปลูกผักด้วยคิดว่า ..
"เนื้อในป่าทั้งหลายจะได้กินผักที่เราปลูกนี้แล้ว จะได้มีอายุยืน รูปร่างสวยงาม มีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน" ดังนี้;

แต่ได้คิดดังนี้ว่า ..
"เนื้อในป่าทั้งหลายจะเข้ามาสู่สวนผักอันเราปลูกแล้วกินอยู่อย่างลืมตัว ครั้นเข้ามากินอยู่อย่างลืมตัว จักถึงซึ่งความเลินเล่อ ครั้นเลินเล่ออยู่จักถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทแล้วจักเป็นสัตว์ที่เราพึงกระทำได้ตามความพอใจในสวนผักนั้น" ดังนี้.

ภิกษุ ท. !
บรรดาเนื้อทั้งหลาย ฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งได้เข้าไปสู่สวนผักที่ชาวสวนผักปลูกไว้ กินอยู่อย่างลืมตัว เมื่อเข้าไปกินอยู่อย่างลืมตัวก็ถึงซึ่งความเลินเล่อ ครั้นเลินเล่อแล้วก็ถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทแล้วก็เป็นสัตว์ที่เจ้าของสวนผักพึงกระทำได้ตามความพอใจในสวนผักนั้น.

ภิกษุ ท. !
ด้วยอาการอย่างนี้แล ฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งเหล่านั้นก็ไม่พ้นไปจากกำมือแห่งเจ้าของสวนผัก.

(พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงยกเอาสมณพราหมณ์จำพวกที่หนึ่งมาเปรียบกันกับฝูงเนื้อจำพวกที่หนึ่ง ดังต่อไปนี้ : -

ภิกษุ ท. !
บรรดาสมณพราหมณ์ทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งได้ เข้าไปสู่โลกามิส เหล่าโน้น ซึ่งเป็นเหมือนกับสวนผักอันมาปลูกไว้ บริโภคอยู่อย่างลืมตัว

ครั้นเข้าไปบริโภคอยู่อย่างลืมตัวก็ถึงซึ่งความมัวเมาครั้นมัวเมาอยู่ก็ถึงซึ่งความประมาท ครั้นประมาทอยู่ก็เป็นผู้ที่มารพึงกระทำได้ตามความพอใจ ในโลกามิสซึ่งเป็นเหมือนกับสวนผักแห่งมารนั้น.

ภิกษุ ท. !
ด้วยอาการอย่างนี้แล สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งนี้ จึงไม่พ้นไปจากอิทธานุภาพแห่งมาร.

ภิกษุ ท. !
เรากล่าวสมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนฝูงเนื้อพวกที่หนึ่งนั้น,
ฉันใดก็ฉันนั้น.

ภิกษุ ท. !
อุปมานี้มีเพื่อให้รู้เนื้อความนั้น :
- คำว่า "สวนผัก" นั้นเป็นชื่อแห่งกามคุณทั้งห้า.
- คำว่า "เจ้าของสวนผัก" นั้น เป็นชื่อของมารผู้มีบาป.
- คำว่า "พวกพ้องของเจ้าของสวนผัก" นั้น เป็นชื่อของบริษัทแห่งมาร.
- คำว่า "ฝูงเนื้อ" นั้น เป็นชื่อของสมณพราหมณ์ทั้งหลาย.

(คำไขอุปมานี้ ตรัสไว้ตอนกลางของพระสูตรที่ตรัสเรื่องเนื้อพวกที่สี่จบลง ในที่นี้ได้ยกมาไว้ตอนต้นเช่นนี้ เพื่อสะดวกแก่การศึกษายิ่งขึ้น).
.
.
.
มู. ม. ๑๒/๒๙๘-๓๑๑/๓๐๑-๓๑๑.


Create Date : 04 มกราคม 2556
Last Update : 4 มกราคม 2556 6:30:34 น. 1 comments
Counter : 856 Pageviews.

 
สาธุ ขออนุโมทนา


โดย: ป่ามืด วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:23:05:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.