Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
13 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงยืนยันว่าไม่ได้บริสุทธิ์เพราะตบะอื่น นอกจากอริยมรรค

.




ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในที่หลีกเร้น หลังจากการตรัสรู้แล้วใหม่ ๆ ได้เกิดปริวิตกขึ้นมาว่า "เราหลุดมาได้แล้วจากการกระทำทุกรกิริยานั้นหนอ; ดีนัก เราหลุดมาเสียได้แล้ว จากการกระทำทุกรกิริยาอันไม่ประกอบด้วยประโยชน์นั้นหนอ; ดีนัก เราหลุดพ้นแล้ว เป็นผู้ถึงทับซึ่งโพธิญาณหนอ" ดังนี้.

ลำดับนั้น มารผู้มีบาป ทราบความปริวิตกแห่งใจของพระผู้มีพระภาค ด้วยใจแห่งตนแล้วเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้กล่าวคุกคามด้วยคาถาว่า :-

"มาณพที่บำเพ็ญตบะ ย่อมไม่หลีกจากตบะที่ทำเขาให้บริสุทธิ์ ส่วนท่านเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มาสำคัญตนว่าบริสุทธิ์ ทอดทิ้งเสียซึ่งหนทางอันบริสุทธิ์."

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงทราบว่า นี้เป็นมารผู้มีบาป ดังนี้แล้ว ได้กล่าวคุกคามมารผู้มีบาป ด้วยคาถาเหล่านี้ว่า :-

ตบะอย่างอื่นชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ไม่เป็นตบะนำมาซึ่งประโยชน์ เพราะเรา รู้แล้วว่าไม่ประกอบด้วยประโยชน์ เหมือนถ่อ หรือแจวที่จะใช้ถ่อหรือแจวเรือบนบกในป่า. เราเจริญมรรค อันประกอบด้วยศีลสมาธิ และปัญญา เพื่อการตรัสรู้ เราเป็นผู้ถึงแล้ว ซึ่งความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง. มารเอ๋ย! เราต่างหาก เป็นผู้กวาดล้างท่านแล้ว, ดังนี้.

ลำดับนั้น มารผู้มีบาป รู้สึกว่า พระผู้มีพระภาครู้กำพืดเราเสียแล้ว พระสุคตรู้กำพืดเราเสียแล้ว มีทุกข์โทมนัส อันตรธานไปแล้วในที่นั้นนั่นเอง.
.
.
.
บาลี สคา. สํ. ๑๕/๑๕๐/๔๑๘.
ตรัสแก่มาร.




Create Date : 13 กรกฎาคม 2555
Last Update : 13 กรกฎาคม 2555 4:30:45 น. 0 comments
Counter : 1117 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.