Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
9 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงสมาคมได้อย่างสนิทสนม ทุกบริษัท

.





อานนท์ !
บริษัทสมาคมแปดชนิดคือ ..
- ขัตติยบริษัท
- พราหมณบริษัท
- คหบดีบริษัท
- สมณบริษัท
- จาตุมมหาราชิกบริษัท
- ดาวดึงสบริษัท
- มารบริษัท
- และพรหมบริษัท.


(หมายเหตุ .. จขบ
พิจารณาบริษัททั้งแปดให้ดี .. จะเห็นว่า ..
ขัตติยะ .. คือนักรบ นักปกครอง
พราหมณ์ .. คือพวกนับถือพรหม
คหบดี .. คือพวกค้าขาย พ่อค้า
สมณะ .. คือพวกนักบวช พวกละเรือน ออกบำเพ็ญฝึกฝนทางจิต
คือ กลุ่มของคนทั่วไปบนโลกนี้ ที่แบ่งตามหน้าที่การงาน

ส่วน ..
จาตุมหาราชิก ..
ดาวดึงส์ ..
มาร ..
พรหม ..
เหล่านี้ "น่าจะ" เป็นอีกกลุ่มที่แบ่งตามระดับคุณธรรมในจิต .. มากกว่าที่จะเป็น "เทวดา" หรือ "อสุรกาย"แบบที่บรรยายในไตรภูมิพระร่วงจริงๆ ..
)



อานนท์ !
ตถาคตยังจำได้ว่าเคยได้สู่ ..
- ขัตติยบริษัท
- พราหมณบริษัท
- คหบดีบริษัท
- สมณบริษัท
- จาตุมมหาราชิกบริษัท
- ดาวดึงสบริษัท
- มารบริษัท
- และพรหมบริษัท
นับด้วยร้อย ๆ ครั้ง, ทั้งเคยนั่งร่วม เคยเจรจาร่วม เคยสนทนาและสมาคม ร่วมกับบริษัทนั้น ๆ. เราย่อมจำเรื่องนั้นๆ ได้ดีว่า (คราวนั้น ๆ) ..

- ผิวกายของพวกนั้นเป็นเช่นใด ผิวกายของเราก็เป็นเช่นนั้น,
- เสียงของพวกนั้นเป็นเช่นใด เสียงของเราก็เป็นเช่นนั้น.


(ตรงนี้ค่อนข้างชัด .. ผิวกาย เสียง ของพระองค์เป็นเช่นไร ผิวกายและเสียงของพวกนั้นก็เป็นเช่นนั้น .. ในเมื่อพระพุทธองค์เป็นมนุษย์ ย่อมต้องมีผิวกาย รูปพรรณ และเสียง เป็นอย่างมนุษย์ผู้หนึ่ง .. ดังนั้น จาตุมมหาราชิก .. ดาวดึงส์ .. มาร .. และพรหม .. ย่อมเป็นมนุษย์ในระดับจิตต่างๆกัน เช่นเดียวกับพระองค์ .. ไม่ใช่ เทวดา อสุรกายในนรก อะไรทำนองนั้น ..

การอ่าน ตีความ พระพุทธวจนะ อย่างใคร่ครวญ จักเป็นแนวทางที่ควรถือเอา มากกว่าความเชื่อปรัมปราแบบ สวรรค์ นรก ที่บรรยายอยู่ในไตรภูมิพระร่วงที่เป็นเรื่องมิจฉาทิฏฐิล้วนๆ ..

สภาวะจิตที่สามารถเลือก รับเอาเรื่องที่ถูกต้องไว้ .. ย่อมไม่เสียเวลาเปล่า ..
)



อนึ่ง เรายังเคยได้ชี้แจงพวกเขาเหล่านั้น ให้เห็นจริงในธรรม ให้รับเอาไปปฏิบัติ ให้เกิดความกล้าที่จะทำตาม ให้พอใจในผลแห่งการปฏิบัติที่ได้รับแล้ว ด้วยธรรมมีกถา.

บริษัทเหล่านั้น ไม่รู้จักเรา ผู้กำลังพูดให้เขาฟังอยู่ว่าเราเป็นใคร คือ เป็นเทวดาหรือเป็นมนุษย์ ? ครั้นเรากล่าวธรรมมีกถาจบแล้ว ก็จากไปทั้งที่ชนทั้งหลายเหล่านั้น ก็ยังไม่รู้จักเรา.

เขาได้แต่เกิดความฉงนใจว่า ผู้ที่จากไปแล้วนั้นเป็นใคร: เป็นเทวดา หรือมนุษย์แน่,
.
.
.
บาลี มหาปรินิพพานสูตร มหา. ที. ๑๐/๑๒๗/๙๙.
ตรัสแก่พระอานนท์


Create Date : 09 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2555 5:02:33 น. 0 comments
Counter : 1069 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.