Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต

กัสสปะ !
เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้นว่า ..
"ผู้นั้นกระทำ ผู้นั้นเสวย (ผล )" ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า "ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง " ดังนี้ :

นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง ).

กัสสปะ !
เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า
"ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล )" ดังนี้เสีย แล้วเขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่)ว่า "ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้" ดังนี้ :

นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ).

กัสสะปะ !
ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า

- เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย;
- เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ :
....ฯลฯ....ฯลฯ….ฯลฯ....
- เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน :

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.

(ทรงตรัส ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง .. จขบ)

- เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึง
มีความดับแห่งสังขาร;
- เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
.... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....
- เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น :

ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้." ดังนี้.
.
.
.
นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔/๕๐.


Create Date : 01 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2556 5:23:35 น. 4 comments
Counter : 794 Pageviews.

 
ทุกข์ อาจจะเป็น สุขที่เราถูกยึดคืน ก็ได้นะ เพราะก่อนทุกข์ ย่อมมีสุขมาเป็นแบบอย่างแล้วนี่นา แล้วสุขใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส(ปิติสุข) ก็ควรกตัญญูต่อผู้มอบ มิใช่เนรคุณ ยกสะพานออก(ไม่มีพระเจ้า,พอชาชินหนักเข้า วันนี้ ก็"ไม่เอาเจ้า"ได้แล้วนะ) มาติดตามแง่มุมหนึ่งที่ถูกซ่อนเร้นปกปิดเถิด

ทุกข์ คือ สภาวะที่ต้องตรวจสอบ

ทุกข์ สุข ในวันนี้ มีความจริงที่สามารถเชื่อมโยงให้ชัดได้ด้วยสารจากผู้สร้างทั้งสองสิ่งแล้ว จะมาแทนความเข้าใจเดิมๆโบราณๆไปตามวรรณกรรมที่มีมนุษย์ด้วยกันแต่งให้พี่น่องมนุษย์เสพ จนตกผลึกเป็นมายาคติฝังแน่นในสมอง ว่า กรรม หรือ สิ่งที่ต้องดับ

มันเป็นการอุตริอวดอ้างหรือไม่ที่จะไปดับ ในสิ่ง ที่เรามิได้เป็นผู้สร้าง หรือ ออกกฎในเรื่องนั้น มิไตร่ตรองให้เที่ยงตรงหรือ บางสิ่งอวดอ้าง ปต่บางสิ่งไม่อวดอ้าง หลากหลายมาตรฐาน มันจะเที่ยงตรงหรือ

วรรณกรรมว่า ทุกข์ คือ กรรม และ สิ่งที่มิได้มุ่งดับมาก่อน. ขอให้เราสังเกตุเถิดว่า ถ้าเป็นกรรม แล้ว กรรมนั้นยังตกเป็นวลีที่ใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินแสวงหาความพึงใจ ไปจบที่ความร่ำรวยเครื่องมือชิ้นนี้ จะรับผิดชอบในทุกข์ หรือ สุข เราได้จริงๆหรือ ในเมื่อกรรมยังช่วยตัวเองไม่ได้ ยังอยู่ในสภาวะเป็นทาสสิ่งหนึ่ง เป็นนายสิ่งหนึ่ง อยู่เลย

ทุกข์ อาจสังเกตุอย่างมีสติ มีปัญญา มีสมาธิ ได้ว่า คือ สุขที่ ถูกยึดคืน อย่างหนึ่ง(ในกรณีที่เคยสุขเรื่องในบริบทนั้นมาก่อน เช่นเคยรัก แล้วมาชัง เช่นนี้เป็นต้น) หรือ อีกหนึ่ง(ที่เป็นสุขใหม่ที่ไม่เคยสุข หรือ อาจเรียก ปิติสุข ก็ได้) คือ การมอบให้มาใหม่ของผู้ทรงสิทธิ์ที่เรามิได้ไปอวดอ้างเกินเลยการสร้างสุขนั้น

แล้วใครกันล่ะ ที่ให้ ที่ยึดคืน ในสุขที่เราประสพกัน. ก็ผู้เดียวกันกับผู้ให้ชีวิตในมดลูกแม่ เมื่อครั้งเคยเป็นสภาพวิญญาณล่องลอยมาก่อนไงล่ะ. ผู้นั้นเคยให้ตระหนักการกตัญญู ในสัญญากตัญญูมาก่อน มีวรรณกรรมใดใดเข้ามาที่สมองเราว่า ผู้นั้นไม่มีหรอก เป็นเรื่องงมงายไร้สาระ นั่นคือ เราเสพวรรณกรรมที่พาเราก่อ การเนรคุณ ต่อต้นทางที่เราสัญญาไว้ว่า เกิดมาแล้วจะกตัญญู. แต่ด้วยเมตตาปราณีและความสปอร์ท ของผู้นั้น เราทุกคนยังสามารถมีออกซิเจนหายใจ มีแสงอาทิตย์ให้พืชสังเคราะห์อาหาร มีการให้สุขมาก่อน แล้ว ยึดคืนชั่วคราวเพื่อตักเตือนเรา. นั่นคือ เรายังอยู่ในสายสัมพันธ์ของผู้มีพระคุณตั้งแต่แรก ของขันธ์ทั้งหลายทุกคน

จงกตัญญู อย่าเพิ่งรีบ ยกสะพานที่สุจริตนี้ ออกไป บ้านเมืองที่มีพลเมิลือง เนรคุณมากพอควร ย่อมมีการตักเตือนที่ มากพอควรตามมาด้วย ฉะนั้นวันนี้ ทุกข์ของส่วนรวม คือ การยึดคืนสุขที่เคยได้รับมาเท่านั้น จงกตัญญูเพื่อส่งแรงกตัญญูนั้น ไปบริหารสายสัมพันธ์ต่อผู้ทรงสิทธิ์ในทุกข์ และ สุข. อย่าไปโทษพี่กรรม เราสมควรด้วยหละ ที่จะต้องช่วยพี่"กรรม" ออกมาจากปกครองของผู้กักขังหน่วงเหนี่ยว ใช้พี่กรรม ไปทำมาหากิน


โดย: อีกแง่ IP: 124.120.88.164 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา:8:15:06 น.  

 
ผมเข้าใจในมุมมองของ ผู้ศรัทธาใน "พระเจ้า" ที่พยายามทำความเข้าใจคำว่า ทุกข์ของพุทธ .. แต่ที่พูดมายังแสดงถึงความไม่เข้าใจ

เอาง่ายๆ

อนิจจัง - ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง
ทุกขัง - ทุกสิ่งเป็นทุกข์
อนัตตา - ทุกสิ่งไม่มีภาวะถาวรให้ยึดมั่นถือมั่น

กระบวนการเป็นปัจจัยที่มีเหตุไปสู่ผล เป็นวงกลม

แนวคิด พระเจ้า เป็นเส้นตรง คือมีผู้เริ่มสร้าง มีผู้ทำลาย

คำว่า สุข ไม่มีครับ
มีแต่ทุกข์ เพราะสุขก็คือทุกข์ เราไปเรียกภาวะถูกใจว่าสุขกันไปเอง

เพราะมันเปลี่ยนแปลง เพราะมันไหล เพราะมันไม่อาจอยู่นิ่งเฉยๆได้ สรรพสิ่งจึงเป็นทุกข์หากไม่เข้าใจและไปจับยึด




โดย: สดายุ... วันที่: 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:43:48 น.  

 
ลองไปอ่านดูครับ ..

พระเจ้ามีจริงหรือ ?

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=05-03-2012&group=164&gblog=20


โดย: สดายุ... วันที่: 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:45:56 น.  

 
ประเด็นเรื่องวิญญาณล่องลอยก็เข้าใจผิดครับ ..


O วิญญาณ แบบพุทธ เป็นอย่างไร .. ? O

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=04-2013&date=22&group=164&gblog=39


โดย: สดายุ... วันที่: 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:48:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.