Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ไวพจน์ของนิพพาน - ๔

ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่งอน าสวะ (สิ่งที่ไม่มีอาสวะ) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อนาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อนาสวะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๑.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง สัจจะ (ของจริง) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สัจจะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สัจจะ
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๒.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง ป าระ (ฝังนอก) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ปาระ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ปาระ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๓.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง นิปุณะ (ของละเอียด) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! นิปุณะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า นิปุณะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๔.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง สุทุททสะ (ของเห็นได้ยากอย่างยิ่ง) แก่พวก
เธอทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สุทุททสะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ. อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สุทุททสะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๕.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อชัชชระ (ของที่ไม่คร่ำ คร่า) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น
ภิกษุ ท.! อชัชชระ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อชัชชระ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๖.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง ธุวะ (ของยั่งยืน) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ธุวะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ธุวะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๗.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง อ ป โล กิน ะ (เป้าที่หมาย) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย. พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อปโลกินะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อปโลกินะ
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๐/๗๒๘.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อนิทัสสนะ (สิ่งที่ไม่แสดงตัว) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อนิทัสสนะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อนิทัสสนะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๒๙.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง นิป ป ปัญ จะ (สิ่งที่ไม่ถ่วงไว้ในโลกนี้) แก่
พวกเธอทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จึงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! นิปปปัญจะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า นิปปปัญจะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๐.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง สันตะ (สิ่งสงบระงับ) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สันตะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สันตะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๑.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อมตะ (สิ่งไม่ตาย) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อมตะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อมตะ
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๒.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง ปณีตะ (สิ่งประณีต) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ปณีตะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ปณีตะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๓.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง สิวะ (สิ่งที่เย็น) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สิวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สิวะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๔.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง เขมะ (ที่เกษม) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! เขมะ เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า เขมะ
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๕.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง ตัณ หักขยะ (ที่สิ้นตัณ หา) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ตัณหักขยะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ตัณหักขยะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๖.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อัจฉริยะ (สิ่งน่าอัศจรรย์) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อัจฉริยะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อัจฉริยะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๗.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อัพ ภุตะ (สิ่งที่ไม่มีไม่เป็น) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อัพภุตะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อัพภุตะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๑/๗๓๘.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อนีติกะ (สิ่งที่ไม่มีเสนียด) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อนีติกะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อนีติกะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๓๙.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อนีติกธัมมะ (ธรรมที่ไม่เสนียด) แก่พวก
เธอทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อนีติกธัมมะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อนีติกธัมมะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๐.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อัพยาปัชฌะ (สิ่งที่ไม่เบียดเบียนสัตว์) แก่
พวกเธอทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อัพยาปัชฌะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ. อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อัพยาปัชฌะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๒.


ภิกษุ ท .! เราจักแสดงซึ่ง วิราค ะ (ที่ค ลาย กำ ห นัด ) แก่พ วกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! วิราคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า วิราคะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๓.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง สุท ธิ (สิ่งบริสุทธิ์) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สุทธิ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สุทธิ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๔.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง มุตติ (ความพ้น) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! มุตติ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า มุตติ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๕.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง อ น าล ยะ (สิ่งที่ไม่มีอาลัย) แก่พวกเธอ
ทั้งหลาย, พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! อนาลยะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า อนาลยะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๖.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง ทีปะ (เกาะที่พ้นน้ำ ) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ทีปะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ทีปะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๕๗.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดง ซึ่ง เล ณ ะ (ที่ซ่อน) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! เลณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า เลณะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๘.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง ตาณ ะ (ที่ป้องกัน) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ตาณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ตาณะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๓/๗๔๙.


ภิกษ ุ ท .! เราจักแสด งซึ่ง ส รณ ะ (ที่พึ่ง) แก่พ วกเธอทั้งหลาย ,
พวกเธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! สรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า สรณะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๓/๗๕๐.


ภิกษุ ท.! เราจักแสดงซึ่ง ปรายนะ (ที่สุดทาง) แก่พวกเธอทั้งหลาย,
พวกเธอทั้งหลาย จงฟังความข้อนั้น.
ภิกษุ ท.! ปรานะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.! ความสิ้นไปแห่งราคะ, ความสิ้นไปแห่งโทสะ, ความ
สิ้นไปแห่งโมหะ, อันใด ;
ภิกษุ ท.! อันนี้แล เราเรียกว่า ปรายนะ.
- สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๓/๗๕๑.





Create Date : 03 เมษายน 2558
Last Update : 3 เมษายน 2558 6:03:01 น. 0 comments
Counter : 1558 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.