Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
20 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. แง่ที่เขากล่าวหาพระองค์อย่างผิด ๆ

.




พราหมณ์ !
แง่ (ปริยาย) ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดม มีความไม่มีรสเป็นรูป (คือเป็นที่สังเกต) " นั้น, มีอยู่.

พราหมณ์ !
คือว่า ความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รสโผฏฐัพพะ เหล่าใด .. ความยินดีเหล่านั้นตถาคตละได้ขาดแล้ว ถอนขึ้นกระทั่งราก ทำให้เป็นเหมือนตาลไม่มีวัตถุ (คือหน่อยอดสำหรับงอกอีกต่อไป) ไม่ให้มีไม่ให้เกิดอีกต่อไป.

นี้แลเป็นแง่ที่ผู้ใดเมื่อจะกล่าวหาเราโดยชอบ ว่า พระสมณโคดมมีความไม่มีรสเป็นรูป, .. หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดมเป็นคนไร้โภคะ"นั้น, มีอยู่.

พราหมณ์ !
คือว่า โภคะ กล่าวคือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เหล่าใด โภคะเหล่านั้น ตถาคตละได้ขาดแล้ว ฯลฯ .. ทำไม่ให้มีไม่ให้เกิดอีกต่อไป. นี้แลเป็นแง่ ฯลฯ, หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดม เป็นคนกล่าวแต่การไม่ทำ" นั้น มีอยู่.

พราหมณ์ !
จริงเทียว คือว่าเรากล่าวการไม่ทำกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต, กล่าวการไม่ทำสิ่งที่เป็นบาป เป็นอกุศล มีประการต่าง ๆ ต่างหาก. นี่แลเป็นแง่ ฯลฯ, หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดมเป็นคนกล่าวแต่ความขาดสูญ" นั้น มีอยู่. จริงเทียว

พราหมณ์ !
คือว่าเรากล่าวความขาดสูญแห่งราคะ โทสะ โมหะ, ความขาดสูญแห่งสิ่งเป็น
บาปอกุศล มีประการต่าง ๆ ต่างหาก. นี่แลเป็นแง่ ฯลฯ, .. หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า "พระสมณโคดมเป็นคนมักเกลียด" นั้นมีอยู่.

พราหมณ์ !
จริงเทียว, เรากล่าวความน่าเกลียดด้วย กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต, กล่าวความน่าเกลียดเพราะถึงพร้อมด้วยสิ่งเป็นบาปอกุศลมีประการต่าง ๆ. นี่แลเป็นแง่ ฯลฯ, .. หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดมเป็นคนนำไปทำให้พินาศ" นั้น มีอยู่.

พราหมณ์ !
จริงเทียว, เราแสดงธรรมเพื่อนำไปทำเสียให้พินาศ ซึ่งราคะ โทสะโมหะ, แสดงธรรมเพื่อนำไปทำเสียให้พินาศ ซึ่งสิ่งเป็นบาปอกุศลมีประการต่าง ๆ. นี่แลเป็นแง่ ฯลฯ, .. หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดมเป็นคนเผาผลาญ" นั้น มีอยู่.

พราหมณ์ !
เรากล่าวความควรแก่การเผาผลาญ ในสิ่งอันเป็นบาปอกุศล มีประการต่าง ๆ คือกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต,

พราหมณ์ !
บาปอกุศลที่ควรเผาผลาญเสีย อันผู้ใดเผาผลาญได้แล้ว .. เราเรียกผู้นั้นว่า ผู้เผาผลาญ (ตปัสสี).

พราหมณ์ !
บาปอกุศลที่ควรเผาผลาญนั้น ตถาคตละได้ขาดแล้วถอนขึ้นกระทั่งราก ทำให้เหมือนตาลหน่อเน่า, ไม่ให้มีไม่ให้เกิดได้อีกต่อไป. นี่และเป็นแง่ ฯลฯ, หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่.

พราหมณ์ !
แง่ที่เมื่อผู้ใดจะพึงกล่าวหาเราโดยชอบว่า .. "พระสมณโคดมเป็นคนไม่มีที่ผุดที่เกิด" นั้น มีอยู่.

พราหมณ์ !
คือว่า การต้องนอนในครรภ์ครั้งต่อไป การต้องเกิดอีกในภพใหม่ อันผู้ใดละได้ขาดแล้ว, เราเรียกผู้นั้นว่า คนไม่รู้จักผุดจักเกิด (อปฺปคพฺโภ).

พราหมณ์ !
การต้องนอนในครรภ์ครั้งต่อไป การต้องเกิดอีกในภพใหม่ สำหรับตถาคตนั้น ตถาคตละได้ขาดแล้วถอนขึ้นกระทั่งราก ทำให้เหมือนตาลหน่อเน่าเสียแล้ว ไม่ให้มีไม่ให้เกิดได้อีกต่อไป. นี่แลเป็นแง่ ฯลฯ, หาใช่เป็นดังที่ท่านหมายถึง แล้วกล่าวไม่
.
.
.
บาลี มหาวรรค อฏฐก. อํ. ๒๓/๑๗๕/๑๐๑.
ตรัสแก่เวรัญชพราหมณ์ ที่ใกล้โคนสะเดา ชื่อนเฬรุเมืองเวรัญชา


Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 6:12:44 น. 1 comments
Counter : 1030 Pageviews.

 
สาธุครับ


โดย: สาธุครับ (sporthot ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:15:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.