Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
9 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ความฝันครั้งสำคัญ ก่อนตรัสรู้

.




ภิกษุ ท. !
ความฝันครั้งสำคัญ (มหาสุบิน) ๕ อย่างได้ปรากฏแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งเมื่อก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่. ๕ อย่าง คืออะไรบ้างเล่า? คือ:-

๑. มหาปฐพีนี้เป็นที่นอนอันใหญ่ของตถาคต จอมเขาหิมวันต์เป็นหมอน มือข้างซ้ายพาดลงที่สมุทรด้านตะวันออก มือข้างขวาพาดลงที่สมุทรด้านตะวันตกเท้าทั้งสองหย่อนลงที่สมุทรด้านทักษิณ.

ภิกษุ ท. !
นี้เป็นมหาสุบินข้อที่ ๑ ได้มีแล้วแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งเมื่อก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่.

๒. ข้ออื่นอีก : หญ้าคา* งอกขึ้นจากสะดือ ขึ้นไปสูงจดฟ้า.

ภิกษุ ท. !
นี้เป็นมหาสุบินข้อที่ ๒ ได้มีแล้วแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งเมื่อก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่.

๓. ข้ออื่นอีก : หนอนทั้งหลาย มีสีขาวหัวดำ คลานขึ้นมาตามเท้าจนถึงเข่า.

ภิกษุ ท. !
นี้เป็นมหาสุบินข้อที่ ๓ ได้มีแล้วแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่.

๔. ข้ออื่นอีก : นกทั้งหลาย สี่จำพวก มีสีต่างๆ กัน มาแล้วจากทิศทั้งสี่หมอบลงที่ใกล้เท้าแล้ว กลายเป็นสีขาวหมด.

ภิกษุ ท.!
นี้เป็นมหาสุบินข้อที่ ๔ ได้มีแล้วแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ได้ตรัสรู้ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่.

๕. ข้ออื่นอีก : ตถาคตได้ เดินไปบนอุจจาระกองใหญ่ เหมือนภูเขา อุจจาระมิได้เปื้อนเลย.

ภิกษุ ท. !
นี้เป็นมหาสุบินข้อที่ ๕ ได้มีแล้วแก่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ ยังไม่ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่.

ภิกษุ ท. !
๑. ข้อว่ามหาปฐพีนี้เป็นที่นอนใหญ่ของตถาคต จอมเขาหิมวันต์เป็นหมอน มือข้างซ้ายพาดลงที่สมุทรด้านตะวันออก มือข้างขวาพาดลงที่สมุทรด้านตะวันตก เท้าทั้งสองหย่อนลงในสมุทรด้านทักษิณนั้น เป็น มหาสุบินข้อที่ ๑ เพื่อให้รู้ข้อที่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ.

๒. ข้อว่าหญ้าคางอกจากสะดือ ขึ้นไปสูงจดฟ้า เป็น มหาสุบินข้อที่ ๒ เพื่อให้รู้ข้อที่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะซึ่งอริยอัฏฐังคิกมรรค (มรรคมีองค์แปด) แล้วประกาศเพียงไร แก่มนุษย์และเทวดา (ขึ้นไปถึงพรหม).

๓. ข้อว่าหนอนทั้งหลายมีสีขาวหัวดำคลานขึ้นมาตามเท้าจนถึงเข่านั้น เป็น มหาสุบินข้อที่ ๓ เพื่อให้รู้ข้อที่คฤหัสถ์ผู้นุ่งขาวเป็นอันมาก ถึงตถาคตเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต.

๔. ข้อว่านกสี่จำพวกมีสีต่างๆ กัน มาจากทิศทั้งสี่ หมอบลงที่เท้าแล้วกลายเป็นสีขาวหมดนั้น เป็น มหาสุบินข้อที่ ๔ เพื่อให้รู้ข้อที่ วรรณะสี่จำพวก เหล่านี้คือ กษัตริย์ พราหมณ์ เวสส์ สูทท์ ได้ออกจากเรือนมาบวชในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วอย่างไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน ย่อมทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติอันไม่มีอื่นยิ่งไปกว่า ได้.

๕. ข้อว่าตถาคตเดินไปบนกองอุจจาระใหญ่เหมือนภูเขา อุจจาระไม่เปื้อนเลยนั้น เป็น มหาสุบินข้อที่ ๕ เพื่อให้รู้ข้อที่ตถาคตเป็นผู้มีลาภในบริกขาร คือจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชทั้งหลาย แต่ตถาคตไม่ติดจมไม่หมกใจในลาภนั้น, เมื่อบริโภค ก็บริโภคด้วยความเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องออกไปพ้นจากทุกข์ได้.


(หมายเหตุ จขบ

อ่านความข้อสุดท้ายนี้แล้ว .. ทำให้นึกถึงครั้งพุทธกาล .. ว่า-
แม้ไม่มีรถยนต์ เมอร์ซิเดส ให้นั่ง .. แต่พระพุทธองค์ก็สามารถนั่งเกี้ยวแบกหามได้ หากมิจฉาทิฏฐิของคนแวดล้อมพระองค์อยู่ (โยมหรือพระอุปัถฐาก) คอยจัดการให้ ..

แต่เราก็ไม่เคยอ่านผ่านตาเลยว่า พระพุทธองค์ทรงเสพความสะดวกสบายพวกนั้นแม้แต่ครั้งเดียวในฐานะเจ้าลัทธิใหญ่ แม้จนพระชนมายุ 80 กำลังจะเสด็จปรินิพพาน ยังทรงพระดำเนินด้วยพระบาทไปยังเมืองกุสินารา ด้วยพระองค์เอง ..

ลองเปรียบเทียบกับยุคสมัยปัจจุบัน ที่ระดับ "สมเด็จ" ต้องมีรถเก๋งนั่ง .. เท่านั้นยังไม่พอ ต้องเป็นรถเก๋งแพงๆชั้นดีด้วย ?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจีวรเนื้อดีแบบเจ้าสำนักธรรมกาย .. ว่าจะมีห่มคลุมเรือนร่างของพระพุทธองค์ที่เป็น"เจ้าลัทธิใหญ่" ..

ขณะที่แถวคลองหลวงเป็นเพียง"เจ้าสำนัก"หนึ่งในลัทธินี้เท่านั้น .. ยังอุตสาหะอวดโอ่อ่าบารมีซะปานนั้น !

จึงการมองพระให้ถูกให้ตรง จำต้องมองผ่าน"พฤติกรรม" ไม่ใช่แค่เพียงคำพูด !

แล้วสิ่งใดเล่าจะเอามาเป็น "แม่แบบ" ไว้มองเปรียบเทียบได้ หากไม่ใช่ พุทธจริยาวัตร ...? - จริงไหม )

.
.
.
บาลี ฉัฎฐสูตร พราหมณวรรค ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๖๗/๑๙๖.
-----------------------------------------
* ศัพท์นี้ บาลีเป็น ติริยา นาม ติณชาติ แปลว่าหญ้าแพรกก็เคยแปลกัน.




Create Date : 09 มิถุนายน 2555
Last Update : 9 มิถุนายน 2555 9:00:58 น. 0 comments
Counter : 1456 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.