Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 
14 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. เพราะไม่รู้อริยสัจ จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ

.





ภิกษุท. !
เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่งอริยสัจสี่อย่าง, เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้.

ภิกษุ ท. !
อริยสัจสี่อย่าง เหล่าไหนเล่า ?

ภิกษุ ท. !
เพราะไม่รู้ถึงไม่แทงตลอดซึ่ง ..
- อริยสัจคือทุกข์,
- อริยสัจคือเหตุให้เกิดทุกข์,
- อริยสัจคือความดับไม่เหลือของทุกข์,
- และอริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์;

เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้

ภิกษุ ท. !
เมื่ออริยสัจ คือ ..
- ทุกข์,
- เหตุให้เกิดทุกข์.
- ความดับไม่เหลือของทุกข์,
- และทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์,.
เป็นความจริงที่เราและพวกเธอทั้งหลาย รู้ถึง และแทงตลอดแล้ว;
- ตัณหาในภพก็ถูกถอนขึ้นขาด;
- ตัณหาที่จะนำไปสู่ภพ ก็สิ้นไปหมด
บัดนี้ความต้องเกิดขึ้นอีก มิได้มี; ดังนี้.
.
.
.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๑/๑๖๙๘.

(สูตรอื่นได้ตรัสเหตุที่ทำให้ ต้องท่องเที่ยวไปสังสารวัฏ เพราะไม่รู้อริยธรรมสี่ดังต่อไปนี้ :-)

ภิกษุ ท. !
เพราะไม่รู้ตามลำดับ เพราะไม่แทงตลอด ซึ่งธรรม ๔ ประการ เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพีงนี้.

ธรรม ๔ ประการอย่างไหนเล่า ?

ภิกษุ ท. !
เพราะไม่รู้ตามลำดับ เพราะไม่แทงตลอด ..
- ซึ่ง อริยศีล….
- ซึ่งอริยสมาธิ….
- ซึ่ง อริยปัญญา….
- ซึ่ง อริยวิมุตติ….
เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้.

ภิกษุ ท. !
เมื่ออริยศีล, อริยสมาธิ, อริยปัญญา, และอริยวิมุตติ .. เป็นธรรมที่เราและเธอรู้แล้วตามลำดับ แทงตลอดแล้ว ;
- ตัณหาในภพก็ถูกถอนขึ้นขาด
- ตัณหาที่จะนำไปสู่ภพก็สิ้นไปหมด
- บัดนี้ความต้องเกิดขึ้นอีกมิได้มี, ดังนี้.
.
.
.
จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑/๑.


Create Date : 14 ธันวาคม 2555
Last Update : 14 ธันวาคม 2555 5:41:59 น. 0 comments
Counter : 1196 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.