Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ความสิ้นตัณหา คือ นิพพาน

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
ที่เรียกว่า 'สัตว์ สัตว์' ดังนี้,
อันว่าสัตว์มีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า ?
พระเจ้าข้า !"

ราธะ !
ความพอใจอันใด ราคะอันใด นันทิอันใด ตัณหาอันใด .. มีอยู่ ..
.. ในรูป
.. ในเวทนา
.. ในสัญญา
.. ในสังขารทั้งหลาย
.. และในวิญญาณ,
เพราะการติดแล้ว ข้องแล้ว ในสิ่งนั้น ๆ, เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่า 'สัตว์' ดังนี้.

ราธะ !
เปรียบเหมือนพวกกุมารน้อย ๆ หรือกุมารีน้อย ๆ เล่นเรือนน้อย ๆ ที่ทำ ด้วยดินอยู่,
ตราบใดเขายัง ..
.. มีราคะ
.. มีฉันทะ
.. มีความรัก
.. มีความกระหาย
.. มีความเร่าร้อน
.. และมีตัณหา
ในเรือนน้อยที่ทำ ด้วยดินเหล่านั้น ;

ตราบนั้นพวกเด็กน้อยนั้น ๆ ..
.. ย่อมอาลัยเรือนน้อยทีทำ ด้วยดินเหล่านั้น
.. ย่อมอยากเล่น
.. ย่อมอยากมีเรือนน้อยที่ทำด้วยดินเหล่านั้น.
.. ย่อมยึดถือเรือนน้อยที่ทำด้วยดินเหล่านั้นว่าเป็นของเรา
ดังนี้.

ราธะ !
แต่เมื่อใดแล พวกกุมารน้อย ๆ หรือกุมารีน้อย ๆ เหล่านั้น ..
.. มีราคะไปปราศแล้ว
.. มีฉันทะไปปราศแล้ว
.. มีความรักไปปราศแล้ว
.. มีความกระหายไปปราศแล้ว
.. มีความเร่าร้อนไปปราศแล้ว
.. มีตัณหาไปปราศแล้ว
ในเรือนน้อยที่ทำ ด้วยดินเหล่านั้น,

ในกาลนั้นแหละพวกเขาย่อมทำ เรือนน้อย ๆ ที่ทำด้วยดินเหล่านั้น ให้กระจัดกระจายเรี่ยรายเกลื่อนกล่นไป กระทำให้จบการเล่นเสียด้วยมือและเท้าทั้งหลาย, อุปมานี้ฉันใด ;

ราธะ !
อุปไมยก็ฉันนั้น คือ ..
แม้พวกเธอทั้งหลายจงเรี่ยรายกระจายออก ซึ่ง ..
.. รูป
.. เวทนา
.. สัญญา
.. สังขาร
.. และวิญญาณ.

จง ..
.. ขจัดเสียให้ถูกวิธี,
.. ทำให้แหลกลาญโดยถูกวิธี,
.. ทำให้จบการเล่นให้ถูกวิธี,
.. ปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหาเถิด.

ราธะ!
เพราะว่า ความสิ้นไปแห่งตัณหานั้น คือนิพพาน ดังนี้แล.
.
.
.
ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๒/๓๖๗.


Create Date : 01 มกราคม 2558
Last Update : 1 มกราคม 2558 9:34:11 น. 0 comments
Counter : 1115 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.