พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. เสด็จสำนักอุทกดาบส
.
ราชกุมาร ! เรานั้นแสวงหาอยู่ว่าอะไรเป็นกุศล ค้นหาแต่สิ่งที่ประเสริฐฝ่ายสันติชนิดที่ไม่มีอะไรยิ่งกว่า; ได้เข้าไปหาอุทกดาบสผู้รามบุตร ถึงที่สำนักแล้วกล่าวว่า "ท่านรามะ ! เราอยากประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้ด้วย."
ราชกุมาร ! ครั้นเรากล่าวดังนี้ ท่านอุทกผู้รามบุตรได้กล่าวตอบว่า "อยู่เถิดท่านผู้มีอายุ ! ธรรมนี้เป็นเช่นนี้ๆ; ถ้าบุรุษเข้าใจความแล้ว ไม่นานเลย คงทำให้แจ้ง บรรลุได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ทั่วถึงลัทธิของอาจารย์ตน".
ราชกุมาร ! เราเล่าเรียนธรรมนั้นได้ฉับไวไม่นานเลย.
ราชกุมาร ! เรากล่าวได้ทั้ง ญาณวาท และ เถรวาท ด้วยอาการมาตรว่าท่องด้วยปาก ด้วยเวลาชั่วที่เจรจาตอบตลอดกาลเท่านั้น. อนึ่ง เราและศิษย์อื่นปฏิญญาได้ว่าเรารู้เราเห็นดังนี้.
ราชกุมาร ! ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "อุทกผู้รามบุตรได้ประกาศว่าเราทำให้แจ้งธรรมนี้ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วแลอยู่" ด้วยคุณสักว่าศรัทธาอย่างเดียวก็หามิได้, ที่แท้อุทกผู้รามบุตรคงรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่งธรรมนี้เป็นแน่".
ราชกุมาร ! ครั้งนั้นเราเข้าไปหาอุทกผู้รามบุตรถึงที่อยู่แล้วกล่าวว่า "ท่านรามะ ! ท่านทำธรรมนี้ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วและประกาศได้เพียงเท่าไรหนอ?" ครั้นเรากล่าวอย่างนี้ อุทกรามบุตรได้ประกาศให้รู้ถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ แล้ว.
ราชกุมาร ! ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "ศรัทธา, วิริยะ, สติ,สมาธิ, ปัญญา จักมีแต่ของอุทกรามบุตรผู้เดียวก็หาไม่. ศรัทธา, วิริยะ, สติ,สมาธิ, ปัญญา ของเราก็มีอยู่; อย่างไรก็ตาม เราจักตั้งความเพียรทำให้แจ้งธรรมที่ท่านรามะประกาศแล้ว่า 'เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วแลอยู่' ดังนี้ ให้จงได้".
ราชกุมาร ! เราได้บรรลุทำให้แจ้งซึ่งธรรมนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองฉับไวไม่นานเลย.
ราชกุมาร ! ครั้งนั้น เราเข้าไปหาอุทกผู้รามบุตรถึงที่อยู่แล้วกล่าวว่า" มีเท่านี้หรือ ที่ท่านบรรลุถึง ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งแล้วประกาศแก่ผู้อื่นอยู่?" "เท่านี้เองผู้มีอายุ ! ที่เราบรรลุถึงทำให้แจ้งแล้วประกาศแก่ผู้อื่น". "ท่านรามะ! ถึงเราก็ได้บรรลุทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองเท่านั้นเหมือนกัน".
ราชกุมาร ! อุทกผู้รามบุตรได้กล่าวกะเราว่า "ลาภของเราแล้ว ท่านผู้มีอายุ ! เราได้ดีแล้ว, ท่านผู้มีอายุ ! มิเสียแรงที่ได้พบเพื่อนร่วมพรหมจรรย์เช่นกับท่านผู้ทำให้แจ้งธรรมที่รามะรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง, แม้รามะก็ทำให้แจ้งธรรมที่ท่านทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองนั้น อย่างเดียวกัน. รามะรู้ทั่วถึงธรรมใด ท่านรู้ธรรมนั้น, ท่านรู้ธรรมใด รามะรู้ทั่วถึงธรรมนั้น, รามะเป็นเช่นใด ท่านเป็นเช่นนั้น, ท่านเป็นเช่นใด รามะเป็นเช่นนั้น ; มาเถิดท่านผู้มีอายุ ! ท่านจงปกครองคณะนี้ต่อไป" .
ราชกุมาร ! อุทกรามบุตรเมื่อเป็นสพรหมจารีต่อเรา ก็ได้ตั้งเราไว้ในฐานะแห่งอาจารย์นั่นเทียว ; ได้บูชาเราด้วยการบูชาอันยิ่ง,
ราชกุมาร ! (เมื่อเราได้เสมอด้วยอาจารย์ ได้การบูชาที่ยิ่งดังนั้น) ได้เกิดความรู้สึกนี้ว่า "ธรรมนี้จะได้เป็นไปพร้อมเพื่อเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อรำงับ เพื่อสงบ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อรู้พร้อม เพื่อนิพพาน ก็หาไม่, แต่เป็นไปพร้อม เพียงเพื่อการบังเกิดในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ* เท่านั้นเอง".
ราชกุมาร ! ตถาคต (เมื่อเห็นโทษในสมาบัติทั้งแปด) จึงไม่พอใจในธรรมนั้น เบื่อหน่ายจากธรรมนั้น หลีกไปเสีย. . . . ที่มาเหมือนกันกับอาฬารดาบส. บาลี โพธิราชกุมารสูตร ม.ม. ๑๓/๔๔๖/๔๙๐. -------------------------------------------------------- * อรูปพรหมชั้นที่ ๔; สมาบัติแปด คือ รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔.
Create Date : 15 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 15 พฤษภาคม 2555 8:57:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1288 Pageviews. |
|
|
|
|
|