อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ทุกข์ชนิดปลายแถว
(ทรงแสดงโดยภาษาคน)
ภิกษุ ท.! ความยากจน เป็นทุกข์ของคนผู้บริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ย่อมกู้หนี้, การกู้หนี้ นั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ กู้หนี้แล้ว ต้องใช้ดอกเบี้ย, การต้องใช้ดอกเบี้ย นั้น เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ กู้หนี้แล้วต้องใช้ดอกเบี้ยไม่อาจใช้ดอกเบี้ยตามเวลา เจ้าหนี้ก็ทวง, การถูกทวงหนี้ นั้น เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ถูกทวงหนี้อยู่ไม่อาจจะใช้ให้ เจ้าหนี้ย่อมติดตาม, การถูกติดตาม นั้น เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ถูกติดตามอยู่ไม่อาจจะใช้ให้ เจ้าหนี้ย่อมจับกุม, การถูกจับกุม นั้น เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"
ภิกษุ ท.! ความยากจน ก็ดี การกู้หนี้ก็ดี การต้องใช้ดอกเบี้ย ก็ดีการถูกทวงหนี้ ก็ดี การถูกติดตาม ก็ดี การถูกจับกุม ก็ดี, ทั้งหมดนี้ เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก.
(ทรงแสดงโดยภาษาธรรม)
ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น : ความไม่มีศรัทธา - หิริ - โอตตัปปะ - วิริยะ - ปัญญา,ในกุศลธรรม มีอยู่แก่ผู้ใด; เรากล่าวบุคคลผู้นั้นว่า เป็นคนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ในอริยวินัย.
ภิกษุ ท.! คนจนชนิดนั้นเมื่อไม่ศรัทธา - หิริ- โอตตัปปะ - วิริยะ - ปัญญา, ในกุศลธรรม เขาย่อมประพฤติกายทุกจริต วจีทุจริต มโนทุจริต, เรากล่าว การประพฤติทุจริต ของเขานี้ ว่าเป็น การกู้หนี้เพื่อจะปกปิดกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตของเขา เขาตั้งความปรารถนาลามก ปรารถนาไม่ให้ใครรู้จักเขา ดำ ริไม่ให้ใครรู้จักเขา พูดจาเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา ขวนขวายทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา, เรากล่าว การปกปิดความทุจริตอย่างนี้ของเขานี้ ว่าเป็น ดอกเบี้ยที่เขาต้องใช้.
เพื่อนพรหมจารีผู้มีศีลเป็นที่รัก พากันกล่าวปรารภ เขาอย่างนี้ว่า
"ท่านผู้มีอายุนี้ทำอะไร ๆ (น่าเกลียดน่าชัง) อย่างนี้ มีปรกติประพฤติกระทำ อะไร ๆ (น่าเกลียดน่าชัง) อย่างนี้",
เรากล่าว การถูกกล่าวอย่างนี้ นี้ ว่าเป็นการถูกทวงหนี้. เขาจะไปอยู่ป่าก็ตาม อยู่โคนไม้ก็ตาม อยู่เรือนว่าก็ตาม อกุศลวิตกอันลามกประกอบอยู่ด้วยความร้อนใจ ย่อม เกิดขึ้นกลุ้มรุมจิตใจเขา, เรากล่าวอาการอย่างนี้ นี้ ว่าเป็น การถูกติดตามเพื่อทวงหนี้.
ภิกษุ ท.! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติกาย - วจี - มโนทุจริตแล้วภายหลังแต่การตายเพราะการแตกทำลายแห่งกาย ย่อม ถูกจองจำอยู่ในนรก บ้างในกำเนิดเดรัจฉาน บ้าง.
ภิกษุ ท.! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียว ที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็นอันตรายอย่างนี้ ต่อการบรรลุโยคักเขมธรรมอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เหมือนการถูกจองจำในนรก หรือในกำเนิดเดรัจฉาน อย่างนี้.
(คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
ความยากจน และการกู้หนี้ ท่านกล่าวว่าเป็นความทุกข์ในโลก. คนจนกู้หนี้มาเลี้ยงชีวิต ย่อมเดือดร้อน เพราะเจ้าหนี้ติดตามบ้าง เพราะถูกจับกุมบ้าง. การถูกจับกุมนั้น เป็นความทุกข์ของคนบูชาการได้กาม.
ถึงแม้ในอริยวินัยนี้ก็เหมือนกัน : ผู้ใด ไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ สั่งสมแต่บาปกรรม กระทำกายทุจริต - วจีทุจริต - มโนทุจริต ปกปิดอยู่ด้วยการกระทำทางกาย ทางวาจา ทางจิต เพื่อไม่ให้ผู้ใดรู้จักเขา, ผู้นั้น พอกพูนบาปกรรมอยู่เนืองนิตย์ ในที่นั้น ๆ.
คนชั่วทำบาปกรรม รู้สึกแต่กรรมชั่วของตน เสมือนคนยากจนกู้หนี้มาบริโภคอยู่ ย่อมเดือดร้อน.ความตริตรึกที่เกิดจากวิปฏิสาร อันเป็นเครื่องทรมานใจ ย่อมติดตามเขา ทั้งในบ้านและในป่า.
คนชั่วทำ บาปกรรม รู้สึกแต่กรรมชั่วของตน ไปสู่กำเนิดเดรัจฉานบางอย่าง หรือว่าถูกจองจำ อยู่ในนรก. การถูกจองจำนั้นเป็นทุกข์ ชนิดที่ธีรชนไม่เคยประสบเลย . . . ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๒/๓๑๖.
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2556 5:37:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 853 Pageviews. |
|
|
|
|
|