Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. การเกิดขึ้นแห่งตัณหา


ภิกษุ ท.!
การก่อขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า?

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณ ขึ้น,
.. การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยหูด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณ ขึ้น.
.. การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญ ญ าณ ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยจมูกด้วย กลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น,
.. การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยลิ้นด้วย รสด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณ ขึ้น,
.. การประจวบพร้อม (แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมี
ผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยกายด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น,
.. การประจวบพร้อม (แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้ง ๓
อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์

ภิกษุ ท.!
.. เพราะอาศัยใจด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น,
.. การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้ง ๓
อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ,
.. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา,
.. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา;

นี้ คือ การขึ้นแห่งทุกข์.

ภิกษุ ท.!
นี้แล คือ การก่อขึ้นแห่งทุกข์.
.
.
.
สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๖/๑๕๔.


Create Date : 03 มีนาคม 2557
Last Update : 3 มีนาคม 2557 6:21:36 น. 0 comments
Counter : 986 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.