Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ปรินิพพานเฉพาะตนผลแห่งการถอนความมั่นหมายในธรรมทั้งปวง

โดยความหมายสี่สถาน

ภิกษุ ท.!
เราจักแสดง "ปฏิปทาอันสมควรแก่การเพิกถอนความมั่นหมายทั้งปวง" แก่พวกเธอ. พวกเธอจงฟัง จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว.

ปฏิปทาอันสมควรแก่การเพิกถอนความมั่นหมายทั้งปวง เป็นอย่างไรเล่า?

ภิกษุท.!
ภิกษุในกรณีนี้ :-
..ไม่มั่นหมายซึ่งจักษุ ไม่มั่นหมายในจักษุ ไม่มั่นหมายโดยความเป็นจักษุ ไม่มั่นหมายจักษุว่าของเรา;

..ไม่มั่นหมายซึ่งรูป ท. ไม่มั่นหมายในรูป ท.! ไม่มั่นหมายโดยความเป็นรูป ท. ไม่มั่นมายรูป ท.ว่าของเรา;

..ไม่มั่นหมายซึ่งจักขุวิญญาณ ไม่มั่นหมายในจักขุวิญญาณ ไม่มั่นหมายโดยความเป็นจักขุวิญญาณไม่มั่นหมายจักขุวิญญาณ ว่าของเรา;

..ไม่มั่นหมายซึ่งจักขุสัมผัส ไม่มั่นหมายในจักขุสัมผัส ไม่มั่นหมายโดยความเป็นจักขุสัมผัสไม่มั่นหมายจักขุสัมผัส ว่าของเรา;

..ไม่มั่นหมายซึ่งเวทนา ไม่มั่นหมายในเวทนา ไม่มั่นหมายโดยความเป็นเวทนาไม่มั่นหมายเวทนาว่าของเรา ซึ่งเป็นเวทนาอันเกิดจากจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม อันเป็นอทุกขมสุขก็ตาม.

(ในกรณีแห่งหมวด โสตะ มานะ ชิวหา กายะ และ มนะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำ นองเดียวกันกับข้อความในกรณีแห่งหมวดจักษุข้างบนนี้ ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น).

..ไม่มั่นหมายซึ่งสิ่งทั้งปวง ไม่มั่นหมายในสิ่งทั้งปวง ไม่มั่นหมายโดยความเป็นสิ่งทั้งปวงไม่มั่นหมายสิ่งทั้งปวง ว่าของเรา.

ภิกษุ นั้น ..
..เมื่อไม่มั่นหมายอยู่อย่างนี้ ก็ไม่ถือสิ่งใด ๆ ในโลก,
..เมื่อไม่ถือมั่นก็ไม่สะดุ้ง, เมื่อไม่สะดุ้งก็ปรินิพานเฉพาะตน (ปจฺจตฺตํ ปรินิพฺพายติ) นั่นเทียว. ..เธอนั้น ย่อมรู้ชัดว่า "ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก" ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
นี้แล คือ "ปฏิปทาอันสมควรแก่การเพิกถอนความมั่นหมายทั้งปวงนั้น".
.
.
.
สฬา. สํ. ๑๘/๒๖/๓๓.


Create Date : 20 มิถุนายน 2558
Last Update : 20 มิถุนายน 2558 8:37:53 น. 0 comments
Counter : 875 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.