Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 
20 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงนับว่าพระองค์เป็หนึ่งในบรรดาผู้นอนเป็นสุข

.




กุมาร !
เราเป็นผู้นอนเป็นสุข บรรดาคนเหล่าใดที่นอนเป้นสุขในโลกนี้ เราเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น.

"พระองค์ผู้เจริญ !
ราตรีแห่งเหมันตฤดู เป็นราตรีอันหนาว เป็นที่ตกแห่งหิมะมีในระหว่างแปดวัน ๒ พื้นแผ่นดินคมขรุขระเพราะรอยโคเหยียบ (ในฤดูฝน แล้วแห้งในฤดูนี้).


(ระหว่างเดือนมาฆะมาส และผัคคุณมาส ๘ วันเชื่อมกัน, (คือปลายเดือนสาม ๔ วัน ต้นเดือนสี่ ๔ วัน)


เครื่องลาดที่ทำด้วยใบไม้ก็บาง ๆ ใบไม้ก็โกร๋น ผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด ก็เป็นของเย็น มิหนำลมเวรัมพา ก็พัดความหนาวมาด้วยดังนี้." อาฬวกะทูลถามในทีว่า เมื่ออากาศกำลังร้ายกาจเช่นนี้ พระองค์จะทรงนอนเป็นสุขได้อย่างไร.


(ลมที่หวนพัดมาทั้งสี่ทิศ.)


กุมาร !
เราเป็นผู้นอนแล้วเป็นสุข บรรดาคนเหล่าใด ที่นอนแล้วเป็นสุขในโลกนี้ เราเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น.

กุมาร !
เราจักย้อนถามท่านในเรื่องนี้ ท่านจงตอบโดยประการที่ควร.

กุมาร !
ท่านจักเข้าใจว่าอย่างไร ?
เรือนมียอด ของคหบดี หรือของบุตรคหบดี ที่ฉาบทาแล้วทั้งขึ้นและลง ไม่มีลมมีลิ่มสลักอันขัดแล้ว มีหน้าต่างอันปิดสนิทแล้ว ในเรือนนั้น มีเตียงบัลลังก์ลาดด้วยผ้าขนสัตว์สีดำชนิดมีขนยาวสี่องคุลี ลาดด้วยเครื่องลาดขาว ทำด้วยขนสัตว์ ด้วยเครื่องลาดขนสัตว์ มีดอกเป็นกลุ่มก้อน มีฟูกอันสูงค่า ทำด้วยหนังชะมดมีเพดานวิจิตรยิ่ง มีหมอนแดงทั้งสองข้าง, ในที่นั้น เขาจุดประทีปน้ำมันไว้มีปชาบดีสี่คนคอยบำเรอน่าอิ่มเอิบใจ.

ท่านจะเข้าใจว่าอย่างไร คือ เขาผู้นอนแล้วในที่นั้น จะนอนเป็นสุข หรือหาไม่ ?

"พระองค์ผู้เจริญ !
เขาเป็นผู้นอนแล้วเป็นสุข เป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้นอนแล้วเป็นสุขในโลกนี้"

กุมาร !
ความร้อนรึงอันเกิดจากราคะ ที่เป็นไปทางกายหรือทางจิตก็ตาม ชนิดที่เมื่อเขาถูกมันเผาแล้ว ย่อมนอนเป็นทุกข์นั้น จะพึงบังเกิดขึ้นแก่คหบดี หรือบุตรคหบดีคนนั้นบ้าง มิใช่หรือ ?

"อย่างนั้น, พระองค์"

กุมาร !
ก็เมื่อคหบดี หรือบุตรคหบดี ต้องเร่าร้อนนอนทุกข์เพราะความร้อนรึงอันเกิดจากราคะใด ๆ, ราคะนั้น เราตถาคตละมันได้ขาด ถอดขึ้นได้กระทั่งรากเง่าทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วนไม่ให้มี ไม่ให้เกิดอีกต่อไป เพราะฉะนั้นเราจึงนอนแล้วเป็นสุข


(ต่อแต่นี้ มีการกล่าวถึงความร้อนรึงอันเกิดจากโทสะ โมหะ โดยทำนองเดียวกัน. )
.
.
.
บาลี ติก. อํ. ๒๐/๑๗๔/๔๗๔.
ตรัสแก่หัตถถะ อาฬวกะที่ป่าประดู่ลาย, ในที่นี้ตรัสอาลปนะว่ากุมาร.




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2555
0 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2555 5:23:12 น.
Counter : 980 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.