เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 รอบเจดีย์ มีรูปปั้นช้างปูนปั้น เพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อมนั่นเองพระธาตุเจดีย์ สร้างด้วยอิฐถือปูน มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลื่ยมจัตุรัส ซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสอง มีรูปช้างค้ำอยู่ในลักษณะ เหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ช้างแต่ละตัว โผล่ส่วนหัว ลอยออกมาครึ่งตัว ขาหน้าทั้งคู่ ยื่นพ้นออกมาจากเหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว) ซ้อนกัน 3 ชัน และเป็นองค์ระฆังแบบลังกา ต่อจากองค์ระฆัง ทำเป็นฐานเขียง รองรับมาลัยลูกแก้ว ลดหลั่นกันไป เป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำ ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ มีความสวยงามมากเดินกลับไปจุดรอรถรางออก - ขายข้าวหลามเยอะมาก จนแล้วจนรอดยังไม่ได้ชิมเลยค่ะสาวงามกางจ้องนั่งรถรางผ่าน พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำนั่งรถราง ผ่านสวนสาธารณะ09.43 น. ถึงจุดหมายแรก โฮงเจ้าฟองคำมีค่าบำรุงสถานที่คนละ 20 บาทค่ะ
โฮงเจ้าฟองคำ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2468 และยังคงรูปแบบดั้งเดิมเหมือนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ชาวเมืองน่านเรียกบ้านหลังใหญ่ว่า "โฮง" ลักษณะเป็นเรือนไม้ 3 หลังติดต่อกัน มีระเบียงหรือลาน เพื่อให้สามารถเดินหากันได้อย่างสะดวก
โฮงหลังนี้เป็นบ้านพักของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน เจ้าศรีตุมมาเป็นหลานของเจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 11 ส่วนเจ้ามะโนเป็นน้องของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ต่อมาเมื่อต้องยกที่ดินให้กับทางการไทยเพื่อสร้างค่ายทหาร เจ้าบุญยืน ซึ่งเป็นธิดาของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน จึงได้รื้อตัวโฮงมาสร้างใหม่ในที่ปัจจุบัน กระทั่งตกทอดมาถึงเจ้าฟองคำ ธิดาของเจ้าบุญยืนกับเจ้าอินต๊ะ
เจ้าฟองคำเกิดและใช้ชีวิตบั้นปลาย ณ เรือนไม้หลังนี้ เจ้าฟองคำในวัยสาวถูกส่งไปอยู่ที่คุ้มราชบุตร ในรัชสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เพื่อเป็นช่างทอ ด้วยพรสวรรค์และความเก่งกาจ เจ้าฟองคำจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าช่างทอ ดูแลงานปัก งานถัก และงานทอทุกชนิดในราชสำนัก เจ้าฟองคำเป็นหญิงสาวที่ไม่เหมือนหญิงคนใดในเมืองน่าน กล่าวคือ ท่านแต่งงานกับข้าราชการครูเมื่ออายุล่วงเลยไปถึง 29 ปี ขณะที่ในสมัยนั้น หญิงสาวจะแต่งงานตั้งแต่อายุ 14 ปี
เมื่อออกเรือนแล้ว เจ้าฟองคำต้องออกจากราชสำนัก และกลับมาอยู่ ณ โฮงเจ้าฟองคำ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและเป็นสุขกับครอบครัว เจ้าฟองคำย้ำนักกับลูกหลานว่า ไม่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบโฮงไปเป็นอย่างอื่น
โฮงเจ้าฟองคำได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทบ้านพักอาศัย (คุ้มเจ้า) ประจำปี 2555 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (ปี 2555-2557)สาแหรกตระกูลของเจ้าฟองคำเดี๋ยวลงเรือนแล้วค่ะด้านหน้าทางเข้า มีขายของที่ระลึก ของฝากด้วยค่ะอาคารเรียนลินกัล์นอะคาเดมี่ โรงเรียนชายล้วนแห่งแรก ตึกรังษีเกษมเป็นโรงเรียนหญิงล้วน สร้างอยู่ติดกันทั้งสองอาคารนี้ถือเป็นต้นแบบอาคารสไตล์ตะวันตกยุคแรกของเมืองน่านที่มีอายุกว่าร้อยปี (ไกด์บรรยาย เลยรีบยิงภาพระยะไกล) ความเดิม ณ น่าน ~~~~ วัดภูมินทร์