อีกครั้งกับ ลำปาง เมืองรถม้า ทริปนี้ 30 กรกฎาคม 2558 - 2 สิงหาคม 2558
แม่กลางหลวงตอนที่ 1
แม่กลางหลวง ตอนที่ 2 -- น้ำตกผาดอกเสี้ยว
แม่กลางหลวง ตอนที่ 3 -- นาข้าวขั้นบันได
แม่กลางหลวง ตอนที่ 4 -- กาแฟบ้านคุณสมศักดิ์
แม่กลางหลวง ตอนที่ 5 -- บ้านแม่กลางหลวงวิว
ผาช่อ...ประติมากรรมธรรมชาติ แห่งอุทยานแห่งชาติแม่วาง
จริงๆ ก่อนมาคุยกันไว้ว่า อยากพาเมฆไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิด - พระธาตุดอยสุเทพ พอออกจากแม่กลางหลวง ปะป๊าถามว่า จะแวะเข้าเมืองมั้ย
ถ้าแวะ ... ใช้เวลาอีกครึ่งวัน เราไม่อยากไปถึงลำปางเย็นมาก ยังไม่ได้จองที่พักด้วย เลยตัดสินใจไม่แวะดีกว่า
แต่ระหว่างทางจะไปลำปาง ก็แวะผาช่ออีก เมฆเคยมาไหว้พระธาตุ แต่ก็นานมาแล้ว...ไว้มีโอกาสแม่พามาใหม่นะ
12.42 น. (เวลาจากภาพในกล้องเรา) วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ถึงหอนาฬิกาเมืองลำปาง
ตอนนั่งรถมา ก็พยายามโทร. หาที่พัก เมฆบอกว่า ไม่อยากพักที่เดิม (โรงแรมพิณ)
ไหนๆ วันนี้ ก็เป็นวันเสาร์ เลยอยากได้ที่พักแถวๆ ถนนคนเดิน
เลยวนหาแถวกาดกองต้า โรงแรมพิณก็อยู่ใกล้นะคะ ห้องพักว่างด้วย แต่ไม่พัก
แล้วก็วนมาตรงนี้อีกรอบ
13.23 น. หิวข้าวมาก ตกลงพักที่นี่ (ใกล้กาดกองต้า) โรงแรม เขลางค์นคร
ห้องน้ำกว้างมาก มีสายชำระด้วย
บ้านเราสามารถเช่นเคย เมฆนอนกับปะป๊า หมอกนอนกับแม่ แค่คืนเดียว
ที่จอดรถสะดวกสบาย
เก็บของแล้ว รีบออกมาหาข้าวกินกันค่ะ
มาแบบหิวโซเหมือนคราวที่แล้ว ร้านเดิมเหมือนคราวที่แล้ว
จานแรก ยำมะม่วง ลองสั่งมากิน... ไม่ค่อยถูกปากค่ะ
น้ำพริก.... (จำไม่ได้)
ทั้งข้าวสวย ข้าวเหนียว เป็นข้าวกล้องค่ะ
ลาบหมู
ปลาช่อนแดดเดียวทอด ก้างเยอะมาก
ไส้อั่ว อร่อยค่ะ
แกงโฮะ
มัสมั่นไก่ ลูกบอกอร่อย
ข้าวสวย ข้าวเหนียว น้ำเปล่า น้ำแข็ง รวมแล้ว ประมาณ 700 กว่าบาทค่ะ
กินเสร็จแล้ว เดินกลับมาที่โรงแรม ขับรถไปเที่ยวต่อ (ท้องอิ่มแล้วนี่) 14.18 น.
ปะป๊าถาม จะแวะถ่ายรูปมั้ย
ไม่ได้ขึ้นไปบ้านเรือนไทยค่ะ
เค้าติดป้ายต้อนรับ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และคณะ มาเยี่ยมชม
ต้นสารภี อายุร้อยกว่าปี
รถม้าจอดรอ นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายภาพค่ะ
มารอบนี้ไม่ได้นั่งรถม้าลำปาง
คราวที่แล้ว ไม่ได้มาวัดนี้ รอบนี้เลยตั้งใจมา...
เดินไม่ทั่วหรอกค่ะ
บันไดทางขึ้นซุ้มประตูโขง
วัดปงสนุก ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ. 1223
ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่ได้รับรางวัล Award of Merit ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO
วัดปงสนุกมีชื่อเรียกถึง 4 ชื่อ ได้แก่ วัดศรีจอมไคล วัดเชียงภูมิ วัดดอนแก้ว วัดพะยาว
จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ. 2346
ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง
รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง ชาวปงสนุกเชียงแสน และชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน
ราว พ.ศ. 2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ ครูบาอินทจักรพระอุปัชฌาย์ของครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี
ได้นำชาวพะยาว (พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ และได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก
ตั้งแต่นั้นมาชื่อวัดและหมู่บ้านจึงเหลือเพียง ปงสนุก เพียงชื่อเดียว
ปัจจุบัน วัดปงสนุก แยกเป็น 2 วัด ทั้งที่อาณาเขตก็ไม่กว้างขวางเท่าใด คือ วัดปงสนุกเหนือ และวัดปงสนุกใต้ สาเหตุที่แยกเนื่องมาจาก
พระสงฆ์ สามเณร ในอดีต มีจำนวนมาก จึงแบ่งกันช่วยดูแลรักษาวัด แต่ถึงอย่างไร ทั้งสองวัดก็นับถือกันว่าเป็นวัดพี่วัดน้องอาศัยช่วยเหลือกันมาโดยตลอด
ในอดีตถือว่าเป็นวัดที่มีสำคัญและมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับเมืองลำปาง อาทิ เป็นสถานที่ดำน้ำชิงเมืองบริเวณหน้าวัดระหว่างเจ้าฟ้าชายแก้วและเจ้าลิ้น ก่าน ราวปี พ.ศ. 2302
และยังเป็นสถานที่ฝังเสาอินทขิลหรือเสาหลักเมือง หลักแรก เมื่อ พ.ศ. 2400 สมัยเจ้าหลวงเจ้าวรญาณรังษีราชธรรม
เสาหลักเมืองดังกล่าว ถูกย้ายไปฝังไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในปัจจุบัน
ปัจจุบัน วัดปงสนุก ได้กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มากมาย
อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวสสันดรบนผ้าและกระดาษสา
หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ยังมีเจดีย์วิหารพระนอน วิหารพระเจ้าพันองค์ วิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปแบบงดงาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมระหว่าง พื้นเมืองล้านนา พม่า และจีน
ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของไทย ที่อาคารหลายแห่งในประเทศ เช่น หอคำไร่แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้นำไปเป็นแม่แบบในการก่อสร้างในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก : //www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000136421
//www.sac.or.th/databases/museumdatabase/review_inside_ByMember_Detail.php?id=777&CID=18468
ด้านในของซุ้มประตู
พระธาตุศรีจอมไคล
สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากวัดทั่วๆ ไป ของวัดปงสนุก คือ ม่อนดอย เนินเขาพระสุเมรุจำลอง อันเป็นที่ตั้งของวิหารพระเจ้าพันองค์
สร้างด้วยไม้ในลักษณะมณฑปหลังคาซ้อนสามชั้น บนสันหลังคาเหนือมุขทั้งสี่สร้างปราสาทไม้จำลองขนาดเล็กหุ้มด้วยสังกะสีฉลุลาย
สื่อความหมายถึงทวีปทั้งสี่รอบเขาพระสุเมรุ ลักษณะตัวอาคารผสมผสานระหว่างศิลปกรรมล้านนา พม่าและจีน หลงเหลือเพียงอยู่แห่งเดียวในประเทศไทย
พระพุทธรูป 4 องค์ หันพระพักตร์ออกสี่ทิศ ประทับใต้โพธิพฤกษ์ ทำด้วยตะกั่ว ด้านล่างของฐานชุกชีประดับลวดลายรูปช้าง นาค สิงห์ นกอินทรี
มีความเชื่อสืบกันมาว่า วิหารหลังนี้สร้างโดยช่างเชียงแสน เลียนแบบหอคำเมืองเชียงเกี๋ยง (เชียงเจิ๋ง) ในสิบสองปันนา ประเทศจีน ซึ่งไม่หลงเหลืออยู่แล้วในปัจจุบัน
ด้วยความงดงามของวิหารแห่งนี้ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลในการสร้างสถาปัตยกรรมในสมัยหลัง
อาทิ หอคำ ไร่แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และวิหารสี่ครูบา วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่
เสาหงส์
ซุ้มประตูโขง
น่าจะเพิ่งบูรณะไม่นาน...
ต่อตอนหน้าค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งเที่ยว เลย
ได้ ทานอาหาร ร้านดั้งเดิม ของเค้า
แถม แต่ละจาน น่าลองทั้งนั้นนะคะ
แกงโฮ๊ะ น่าลอง ค่ะ อร่อยมั้ยค้ะ พี่หนู
ขวัญ ว่า จะ ลอง ทำให้ พี่เค้า ทาน อยู่ ค่ะ