คนละฟากฟ้า - บทที่ 49



เย็นวันหนึ่งเมื่อเข้ามาที่อุบลฯตามกำหนดการปกติ นิคก็พบว่าอพาร์ตเมนท์ของเขามีของแปลกปลอมอยู่บนเตียงนอน มันคือหมอนข้างใบหนึ่งซึ่งถูกวางอยู่กลางเตียงราวกับเป็นเส้นกั้นเขตแดน ชายหนุ่มเข้าไปยืนท้าวสะเอวมองแล้วก็ส่ายหน้าอย่างปลงๆกับตัวเอง ก็คงเป็นฝีมือของแม่สาวน้อยวัยยังไม่เต็มยี่สิบสองของเขานั่นแหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องกายแต่งกายเสร็จ พร้อมที่จะออกไปรับพราวพรายไปกินอาหารเย็น นิคก็เดินเข้าไปในห้องแพนทรี เพราะเกิดสงสัยขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนว่านอกจากหมอนใบนั้นแล้ว เธอเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรในนั้นอีกหรือเปล่า พอเปิดตู้เย็นใบใหญ่ตรงมุมห้องชายหนุ่มก็เห็นของสดของแห้งและผลไม้อัดกันแน่นอยู่ในช่องเฉพาะของมัน พราวพรายคงซื้อเข้ามาเก็บไว้เพื่อทำอาหารบางมื้อให้เขากิน

ระยะหลังๆนี้เธอไม่ค่อยยอมออกไปกินข้าวข้างนอกกับเขา โดยอ้างว่าขี้เกียจบ้างไม่อร่อยบ้าง แต่นิคก็รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของเธอคือกลัวว่าจะเจอคนรู้จักเข้าโดยบังเอิญ แต่ถึงจะรู้เหตุผลลับๆของเธอเขาก็ไม่คิดจะพูดอะไร เพราะขี้เกียจทะเลาะด้วย และยังรู้อีกด้วยว่าคงไม่มีทางเอาชนะพราวพรายได้ง่ายๆ กับจุดยืนที่มั่นคงและไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของเธอ ที่พยายามจะปิดบังเรื่องการแต่งงานของเขากับเธอไว้จากคนรู้จักทุกคน

คิดไปคิดมาแล้วนิคก็โทรศัพท์ไปหาพราวพราย ที่บ้านเช่าของเธอซึ่งตอนนี้ติดตั้งโทรศัพท์แล้ว เมื่อไม่มีใครตอบรับซึ่งแสดงว่าทั้งพราวพรายและสุนิสายังกลับไม่ถึงบ้าน ชายหนุ่มก็มองนาฬิกาที่ข้อมือ ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายห้าโมงครึ่ง แม้จะไม่แน่ใจว่าพราวพรายออกจากออฟฟิศไปหรือยัง แต่นิคก็ลองกดโทรศัพท์เข้าไปที่โต๊ะทำงานของเธอ แต่โชคดีปรากฏว่าเธอยังอยู่ในที่ทำงาน

"นิคเหรอ มาถึงแล้วเหรอ? ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ" เสียงพรายพราวตอบกลับมา
"ทำไมยังไม่กลับบ้าน?"
"มีงานด่วนน่ะสิ"
"ใกล้จะเสร็จหรือยัง แล้วนี่คุณอยู่คนเดียวหรือเปล่า?"
"คงอีกสักพักน่ะ ไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก จอห์นก็อยู่ด้วย เขาต้องรอเอกสารจากฉัน"
"ถ้างั้นรออยู่ที่ออฟฟิศนะ ผมจะไปรับ"

พอพูดขาดคำชายหนุ่มก็กดปุ่มตัดสัญญาณทันที เพราะรู้ว่าพราวพรายจะต้องโวยวายอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อไม่ให้เขาไปรับ กลัวว่าจอห์นจะรู้เรื่องระหว่างเธอกับเขา แต่เขาไม่สนใจหรอกว่าชายวัยกลางคนผู้นั้นจะรู้หรือจะสงสัยหรือไม่ ก็เขากับเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยทำไมจะต้องกลัวว่าใครจะรู้ความจริง นิคอยากจะถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย กับความกลัวที่ไม่เข้าท่าของพราวพราย

นิคจอดรถเลยอาคารที่ทำงานของพราวพรายไปเล็กน้อย แม้จะเห็นว่ารถของจอห์นยังจอดอยู่ซึ่งแสดงว่าเจ้าของรถยังอยู่ในออฟฟิศ ชายหนุ่มก็ยังเดินขึ้นไปบนอาคาร เปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศเล็กๆแห่งนั้น พราวพรายซึ่งกำลังจัดเรียงเอกสารปึกใหญ่อยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอ ทำหน้าเหมือนตกตะลึงเมื่อเห็นเขา ละล่ำละลักถามว่า

"นิค! ทำไมไม่รออยู่ข้างนอก เข้ามาในนี้ทำไม จอห์นยังอยู่ในห้องทำงานนะ"

ชายหนุ่มทำหน้ายิ้มๆ เมื่อตอบว่า "ทำไมจะเข้ามาไม่ได้ ผมมีธุระนิดหน่อยกับจอห์น"

พูดจบเขาก็เดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอเข้าไปหาจอห์นในห้อง ทิ้งให้พราวพรายที่ยังถือเอกสารค้างอยู่ในมือ มองตามหลังเขาไปอย่างตกใจจนหน้าเผือดสี พอรู้สึกตัวหญิงสาวก็รีบจัดเอกสารต่ออย่างรวดเร็วจนมือไม้สั่น คิดว่าจะรีบทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อเอาเข้าไปให้เจ้านายให้หมดภาระไป เธอจะถือโอกาสที่นิคกับจอห์นกำลังพูดคุยกันอยู่ รีบออกไปขึ้นรถเมล์เล็กที่วิ่งรับส่งคนทำงานในฐานทัพออกไปหน้าค่าย ต่อสามล้อกลับไปบ้านเช่า จะไม่ยอมกลับไปกับนิคต่อหน้าต่อตาเจ้านายของเธอเป็นอันขาด


แต่แล้วในขณะที่เธอรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่จอห์นต้องการ จัดเข้าแฟ้มจนเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะนำเข้าไปให้เขา เจ้านายของเธอก็เดินออกมาพร้อมกับนิค แล้วหยุดที่โต๊ะเธอ

"เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?" เขายื่นมือมารับเอกสารก่อนจะพูดต่อว่า "ขอบใจมากนะพราว กลับได้แล้วละ นิคบอกฉันว่าคืนนี้เขามีนัดกับเธอ ไปล้างหน้าล้างตาเสริมสวยเสียหน่อยสิ ทำงานมาทั้งวันแป้งลบไปหมดแล้ว"

คำพูดในทำนองเย้าหยอกของจอห์นทำให้พราวพรายตกใจมากขึ้น หญิงสาวรีบล้อคลิ้นชักโต๊ะทำงาน อ้อมแอ้มบอกลาเจ้านายแล้วคว้ากระเป๋าสะพายมาคล้องไหล่ ก่อนจะเดินอย่างรีบร้อนออกจากออฟฟิศโดยมีนิคเดินตามหลังมา

พอขึ้นรถได้พราวพรายก็ถามว่า "ทำไมต้องไปบอกจอห์นด้วยว่ามีนัดกับฉัน"

อีกฝ่ายทำหน้ายิ้มๆไม่ตอบว่าอะไร สต้าร์ทเครื่องพารถเคลื่อนที่ออกไปจากค่ายแห่งนั้น

"อยากไปกินข้าวที่ไหน?" นิคถามเมื่อรถออกจากฐานทัพแห่งนั้นมาได้สักพัก
"ไม่ไปกินที่ไหนทั้งนั้นแหละ ฉันจะกลับบ้าน" เสียงของเธอขุ่น
ชายหนุ่มมองหน้างอหงิกของคนนั่งข้างๆ "บ้านไหน?"
คำถามที่เหมือนยั่วของเขาทำให้พราวพรายโมโหเพิ่มขึ้น "บ้านฉันน่ะสิ ถามได้"
"ที่บ้านมีกับข้าวหรือ? ถ้ามีผมขอกินด้วยคนแล้วกัน"
พราวพรายทำตาคว่ำ "คุณก็ไปหากินเอาเองสิ ไปนั่งกินที่ร้านอาหารที่ไหนสักแห่งก็ได้"
"เรื่องอะไรล่ะ ผมมีเมียแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมผมจะกินข้าวกับเมียไม่ได้ ไม่รู้ละ ถ้าไม่ยอมให้ผมกินที่บ้านคุณ คุณก็ต้องไปอพาร์ตเมนท์กับผมไปทำอาหารให้ผมกิน"

"บ้าสิ เย็นป่านนี้แล้วไม่ทำหรอก ฉันนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานมาทั้งวันแล้วนะ เหนื่อยจะแย่"
"โอเค งั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง คุณนั่งรออยู่ในรถนี่แหละ"
"นั่นคุณจะไปไหน?" หญิงสาวถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นนิคจอดรถที่ริมถนนสายหนึ่งแล้วทำท่าเหมือนจะลงจากรถ
"ไปซื้ออาหารเอาไปกินด้วยกันที่อพาร์ตเมนท์" เขาตอบเรียบๆ
"งั้นไม่ต้องหรอก ไปอพาร์ตเมนท์เลยแล้วกัน ฉันจะทำให้คุณกินเอง"

เธอบอกอย่างเสียไม่ได้เพราะเกิดนึกอายขึ้นมา ที่ไม่ค่อยจะได้ดูแลเรื่องอาหารการกินให้เขาเท่าที่ควร ตามหน้าที่ของภรรยาอย่างที่เคยสัญญากับเขาไว้

นิคชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวลงจากรถ "ก็ไหนคุณว่าเหนื่อย?"
"ไม่ต้องถามมากนักหรอก ไปเถอะ ไปอพาร์ตเมนท์ ฉันซื้อของสดไว้เต็มตู้เย็น ทำอาหารง่ายๆแค่ข้าวผัดกับแกงจืดคงไม่เหนื่อยนักหรอก"

ชายหนุ่มทำหน้าดีใจ เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่จะมีโอกาสได้กินอาหารฝีมือเธอ

เมื่อถึงอพาร์ตเม้นท์พราวพรายก็ตรงเข้าไปในห้องแพนทรี คว้าผ้ากันเปื้อนมาสวมทับเครื่องแต่งกาย ลงมือหุงข้าวและต้มน้ำซุปสำหรับทำแกงจืด ระหว่างรอเธอก็เตรียมเครื่องประกอบอาหาร นิคเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ

"มีอะไรให้ผมช่วยบ้างล่ะ"

หญิงสาวเหลือบค้อน "พูดยังกับว่าจะช่วยได้งั้นแหละ ช่วยให้ยุ่งน่ะสิ แทนที่จะเร็วกลับจะช้าไปอีก คุณออกไปดูทีวีหรือทำอะไรข้างนอกโน่นดีกว่า อยู่ในนี้เกะกะ ฉันทำอะไรไม่ถนัด"

นิคชิดเท้ายกมือขึ้นแตะหน้าผากในท่าวันทยาหัตถ์ " พลทหารนิครับคำสั่งไปปฎิบัติ ครับผม!"
"บ้า!" หญิงสาวร้องตามหลังเขาไป

แม้จะเป็นอาหารแบบง่ายๆซึ่งมีเพียงข้าวผัดแฮมกับแกงจืดวุ้นเส้น นิคก็รับประทานอย่างเอร็ดอร่อย ชมเปาะไม่ขาดปาก สีหน้าสีตาเต็มไปด้วยความสุข เห็นท่าทางของเขาแล้วพราวพรายก็นึกสงสาร ความจริงเขาเป็นคนกินง่าย ทำอะไรให้กินเขาก็กิน ไม่ทำให้กินเขาก็ไปหากินเอาเอง ไม่เคยบ่นไม่เคยเรียกร้องให้เธอต้องฝืนใจทำอะไรต่ออะไรให้เขา

หลังอาหารเย็นพราวพรายปอกผลไม้และชงกาแฟมาวางให้ตรงหน้านิค แล้วลงนั่งดูข่าวจากบีบีซีด้วยกัน นั่งดูกันอยู่เงียบๆครู่เดียวนิคก็ถามว่า "คืนนี้ค้างที่นี่ได้ไหม?"

"อะไรนะ?" พราวพรายหันขวับมามองเขา ตอบเสียงแข็งว่า "คุณนี่เป็นยังไงนะ ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ค้างไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน"

"พรุ่งนี้ผมเองก็ต้องไปประชุมที่ฐานทัพ ผมจะแวะไปส่งคุณก่อน ยังไงก็ต้องผ่านออฟฟิศคุณอยู่แล้ว เสื้อผ้าคุณก็มีอยู่ที่นี่ตั้งหลายชุดไม่ใช่หรือ"

พราวพรายนิ่งคิดหาทางปฏิเสธ พอคิดออกก็บอกเขาว่า "ไม่ได้หรอก เดี๋ยวแอ๋วสงสัย วันนี้เพิ่งวันพุธเองนะ ไม่ใช่วันศุกร์ แอ๋วเขาต้องนอนที่บ้านอยู่แล้ว อยู่ๆฉันจะหายไปเฉยๆไม่กลับไปนอนบ้านได้ยังไง"


แต่เมื่อเห็นแววตาตัดพ้อของเขาหลังจากเธอปฏิเสธ หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ นึกถึงสิ่งต่างๆที่นิคทำให้เธอ ยอมให้เธอบงการเขาเกือบทุกอย่าง ไม่เคยเรียกร้องหรือถือสากับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของเธอ นอกจากนี้ก็ยังนึกสงสารที่ทอดทิ้งเขาอยู่บ่อยๆ เวลาที่นิคมาทำงานที่อุบลฯเธอจะยอมมาอยู่กับเขาแค่วันสองวันเท่านั้น ทั้งๆที่เขาจะต้องทำงานอยู่ที่นี่ประมาณสามถึงห้าวัน บางครั้งที่งอนหรือโกรธเขามากๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไร้สาระ พราวพรายก็ไม่ยอมมาอยู่กับเขาแม้แต่วันเดียวด้วยซ้ำ


ก็เพราะความสงสารและสำนึกในหน้าที่ของภรรยา ทำให้พราวพรายต้องโทรศัพท์กลับไปที่บ้าน ตั้งใจจะบอกสุนิสาว่ามีเพื่อนมาจากกรุงเทพฯ เธอจะไปค้างด้วยเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ ตามประสาเพื่อนสนิทที่นานๆจะได้พบกันสักครั้ง ความจริงเธอไม่อยากแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกสุนิสาเลย เพราะไม่ใช่วิสัยของคนแบบเธอ แต่ก็จำใจต้องทำเพื่อผู้ชายคนที่เป็นสามีโดยถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัย ผู้ชายคนที่บางครั้งเธอก็หลงลืมไปว่าเขาเป็นสามีของเธอ


แต่โชคดีที่ไม่ต้องโกหกเพื่อน เพราะทันทีที่รับโทรศัพท์แล้วรู้ว่าเป็นเธอสุนิสาก็ละล่ำละลักบอกพราวพรายว่า "โอย ดีใจจังที่พราวโทรมา เรากำลังจะเขียนโน๊ตบอกพราวว่าคืนนี้เราจะไปค้างกับพี่ณพ เขาไม่ค่อยสบาย อยากให้เราไปดูแล พราวคงอยู่คนเดียวได้นะ"

หญิงสาวรู้สึกโล่งใจ แต่ก็อดถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ว่า "อ้าว พี่ณพไม่สบาย แล้วแอ๋วจะเข้าไปที่ค่ายได้ยังไง รถก็ไม่มี"

"อ๋อ พี่ณพให้ลูกน้องขับรถมารับ นี่เขาก็มาแล้ว รออยู่ที่รถ เราขึ้นรถแล้วละ แต่นึกถึงพราวขึ้นมาได้เลยเข้ามาจะเขียนบอกพราวว่าเราจะไม่อยู่ กลัวจะเป็นห่วงถ้าไม่เห็นเราที่บ้าน"

ความรีบร้อนกลัวว่าพลทหารวิชัยที่เธอรู้จักดีจะคอยนานเกินไป ทำให้สุนิสาลืมถามว่าตั้งสองสามทุ่มแล้วพราวพรายมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ถึงยังไม่กลับบ้าน

พราวพรายซึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งแปรงผมหยิกยาวของเธออยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งเมื่อนิคเดินเข้ามาในห้องนอน ชายหนุ่มมองเสื้อนอนกางเกงนอนยาวรุ่มร่ามของเธออย่างไม่สบอารมณ์ ความจริงเขาซื้อชุดนอนสวยๆราคาแพงมาให้เธอหลายตัวแล้ว แต่เธอก็ไม่สนใจจะใส่ อ้างว่าโป๊ไปบ้าง สีไม่ถูกใจบ้าง ไม่ชอบเนื้อผ้าหรือแบบบ้าง แล้วก็กลับไปใช้ชุดเหมือนนักเรียนประจำอีก รู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่สนใจจะทำตามหรอก เขาก็เลยเลิกพูด เธออยากจะเชยก็แล้วแต่เธอ นิครู้ว่าพราวพรายมีชุดนอนแบบเชยๆนี้หลายชุดที่เธอขยันหาซื้อมาเก็บสำรองไว้

"เอาหมอนข้างนั่นมาทำไม?" นิคถามอย่างสงสัยหลังจากอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ

"ถามได้ ก็เอามากอดน่ะสิ ฉันติดหมอนข้างมาตั้งแต่เด้กๆแล้ว คืนไหนไม่ได้กอดหมอนข้างมักจะนอนไม่ค่อยหลับ คุณไม่เคยนอนกอดหมอนข้างบ้างหรือไงตอนเป็นเด็กน่ะ หรือที่อเมริกาเขาไม่ทำหมอนข้างขาย"

"ติดหมอนเป็นเด็กๆไปได้ โตป่านนี้แล้ว"

พราวพรายชำเลืองค้อนเมื่อเห็นนิคขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วคว้าหมอนข้างใบสวยของเธอไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง เหมือนจงใจจะแกล้งให้มันขาดกระจุยจนนุ่นทะลักออกมา

"มายุ่งอะไรกับหมอนข้างฉันล่ะ?"

หญิงสาวเดินไปนั่งริมเตียงด้านที่เป็นที่นอนของเธอ เอื้อมมือไปปิดไฟโคมหัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน

"เอาหมอนข้างฉันคืนมา ฉันจะนอนแล้ว"
"อยากได้ก็เข้ามาเอาเองสิ ไม่ส่งไปให้หรอก"

เมื่อเห็นนิคยังกอดหมอนของเธอเฉยอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะส่งคืน พราวพรายก็กระเถิบเข้าไปถึงตัวเขาแล้วพยายามยื้อยุดดึงหมอน จะให้หลุดออกจากแขนขาของเขาที่กอดก่ายมันอยู่ ผลก็คือนิคโยนหมอนข้างใบนั้นทิ้งไปข้างเตียงแล้วหันมาคว้าตัวเธอไปกอดแทน 

"มีคนนอนรอจะให้กอดทั้งคนไม่ชอบ เกิดจะอยากกอดหมอนข้าง ถ้าผมยอมผมก็บ้าเต็มทีล่ะสิ"
"บ้า เอาหมอนฉันมานะ เรื่องอะไรเอาไปโยนทิ้งข้างเตียง"
"ข้างเตียงน่ะยังน้อยไป" เขาพึมพำอยู่ข้างหูเธอ "พรุ่งนี้จะเอาไปทิ้งถังขยะข้างล่างเลย"
"จะบ้าเหรอ ฉันซื้อมาแพงๆ เรื่องอะไรจะเอาของเขาไปทิ้ง หยิบขึ้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ"
"เรื่องอะไรจะหยิบให้โง่"
"ไม่หยิบเหรอ นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!!"
"ทุบเหรอ ทุบได้ทุบไป จูบซะเลย นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!! นี่แน่ะ!!!"

เสียงตุ้บตั้บที่เกิดจากสงครามชิงหมอนข้างดังขึ้นในความมืดอยู่ชั่วครู่ แล้วก็ค่อยๆเงียบหายไป สันติภาพจากความสมัครสมานสามัคคี ที่นานๆจะเกิดขึ้นได้สักครั้งคืบคลานเข้ามาแทน


 



Create Date : 25 สิงหาคม 2565
Last Update : 25 สิงหาคม 2565 15:55:03 น.
Counter : 669 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณหอมกร

  
สงครามชิงหมอนสนุกดีครับ 555



สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังด้วยครับ พี่ตุ้ย
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 25 สิงหาคม 2565 เวลา:23:37:32 น.
  
กุ๊กกิ๊กน่ารักดีค่ะคุณตุ้ย
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังด้วยคนนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:7:51:15 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
สิงหาคม 2565

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com