กรรมเก่า - ยทที่ 1


เสียงกริ่งโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงาน ของท่านประธานกรรมการบริษัท  ทำให้พรพรรณเลขานุการอาวุโสที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้อง หยุดชะงักมือที่กำลังเคาะคีย์คอมพิวเตอร์ สงสัยว่าใครโทร.มา แต่จะเข้าไปรับก็ไม่ได้ เพราะเคยได้รับคำสั่งจากเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนั้นว่าไม่ต้องรับแทนเขาแต่ตอนนี้เจ้าของเครื่องกำลังประชุมอยู่กับฝ่ายบริหาร ซึ่งยืดเยื้อยาวนานมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว

หลังจากที่เสียงโทรศัพท์ดังกล่าวเงียบไปครู่หนึ่ง ด้วยความโล่งใจของพรพรรณโทรศัพท์บนโต๊ะของเธอก็ดังขึ้นแทน

“คุณพรรณ คุณชาญอยู่บริษัทหรือเปล่าคะ”

เสียงหวานๆแต่มีอำนาจที่ผ่านเข้ามาทางสายโทรศัพท์ ทำให้สาวใหญ่เกร็งเนื้อเกร็งตัวขึ้นมาทันที รีบตอบอย่างนอบน้อมว่า “ท่านประธานฯ กำลังประชุมฝ่ายบริหารอยู่ค่ะ คุณจิดาภาจะให้ตามไหมคะ?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ รู้ว่าเขาอยู่บริษัทไม่ได้ออกไปไหนก็ดีแล้ว เมื่อกี้โทร.เข้ามือถือเขาสองสามครั้ง ไม่มีใครรับ ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหน เลยต้องโทร.มาเช็คกับคุุณพรรณ"

“จะให้ดิฉันเรียนคุณชาญยนต์ให้โทร.กลับไหมคะ?”

อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวเขาก็คงโทร.มาเองแหละ ขอบคุณนะคะ”

พรพรรณค่อยๆบรรจงวางหูโทรศัพท์ลงบนแป้นอย่างระมัดระวัง ราวกับจะแสดงความคารวะต่ออีกฝ่าย ซึ่งความจริงวางสายไปก่อนแล้ว เลขาฯใหญ่ผู้นี้เป็นสาวใหญ่วัยเกือบสี่สิบปี ที่ทำงานในตำแหน่งนี้มาหลายปี ตั้งแต่สมัยท่านประธานฯคนเก่า บิดาของประธานฯคนปัจจุบันที่เพิ่งมารับตำแหน่งแทนบิดาเมื่อสามปีที่แล้ว พรพรรณนึกเห็นภาพของหญิงสาวที่ชื่อจิดาภา ภริยาของประธานบริษัทฯคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้หญิงสาววัย สามสิบสองปี ที่มีใบหน้าหวานแอร่มสวยราวกับภาพวาด ทราวดทรงโปร่งบาง ผิวขาวผ่อง วาจานุ่มนวล อย่างชื่นชมในความไม่ถือเนื้อถือตัวของเธอ

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ชายหนุ่มผิวสองสี รูปร่างสูงใหญ่อกผายไหล่ผึ่งในเสื้อเชิร์ตแขนยาวสีขาว พับแขนลวกๆขึ้นไปถึงข้อศอก ผูกไทด์สีดำมีขีดสีเทาเล็กๆประปราย กางเกงขายาวสีดำ ก็ก้าวยาวๆผ่านโต๊ะทำงานของพรพรรณเข้าไปในห้องทำงานของประธานบริษัท สาวใหญ่รีบเดินตามเข้าไปในห้อง ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่จะเพิกเฉยเสียมิได้ ที่จะต้องรายงานเขา

“คุณชาญคะ เมื่อกี้คุณจิดาภาโทร.เข้าเครื่องดิฉัน เธอโทร.เข้ามือถือของคุณหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ ดิฉันถามแล้วนะคะว่าจะให้ตามคุณไหม แต่เธอบอกว่าไม่ต้อง”

ความจริงตอนที่ชาญยนต์เข้ามารับตำแหน่งแทนบิดาใหม่ๆ พรพรรณเรียกเขาว่า ‘ท่านประธานฯ’ เช่นเดียวกับที่เรียกบิดาของเขา แต่ชายหนุ่มซึ่งเป็นคนง่ายๆ ไม่ชอบอะไรที่เอิกเกริกเป็นทางการเกินไป บอกให้เธอเรียกเขาว่า ‘คุณชาญยนต์’ ก็พอแล้ว

“ขอบใจนะ คุณพรรณ”

เขาพูดแค่นั้นแล้วหยิบมือถือที่วางทิ้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาโทร.หาภรรยาทันที พรพรรณกลับออกไปนั่งทำงานต่อ ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ที่ได้ทำหน้าที่เลขาฯที่ดีเรียบร้อยแล้ว

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ชาญยนต์ก็คว้าเสื้อนอกที่วางพาดไว้บนพนักเก้าอี้ ก่อนไปเข้าประชุมฝ่ายบริหาร เมื่อเกือบสองชั่วโมงที่ผ่านมา เดินออกจากห้องมาหยุดที่หน้าโต๊ะของพรพรรณ มีกระเป๋าเอกสารอยู่ในมือ

“ผมจะออกไปข้างนอก คงไม่กลับมาแล้ว พรุ่งนี้อาจจะเข้าสาย”

สั่งเสร็จเขาก็เดินอย่างรีบเร่งออกไป มีเลขาฯสาวใหญ่มองตามหลังไปอย่างชื่นชม ในความเป็นสามีที่ดีของเขา เธอรู้ว่าเขาจะรีบไปไหน ทุกครั้งที่จิดาภาโทร.มา ชายหนุ่มผู้นี้ก็จะรีบออกไปพบเธอ ทันทีที่สามารถปลีกตัวจากงานอันยุ่งเหยิงของเขาได้ เธอรู้ว่าเขารักภรรยาสาวแสนสวยของเขามาก

พรพรรรณเคยทำงานในตำแหน่งเลขาฯของนายสมชัย บิดาของชาญยนต์ ได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากเจ้านายและครอบครัว โดยเฉพาะคุณลัดดา ภรรยาของนายสมชัย ซึ่งเป็นคนทำให้พรพรรณได้งานในบริษัทนี้

นอกจากจะทำหน้าที่เลขาฯอย่างเต็มความสามารถ จนได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายแต่ละคนแล้ว เธอยังมีหน้าที่สำคัญที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษและเป็นการส่วนตัวให้รายงานให้คุณลัดดา หญิงวัยห้าสิบห้าปี ที่มีนัยน์ตาคมกริบคนนั้นได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวต่างๆในบริษัท พรพรรณยังเป็นโสดและไม่มีทีท่าว่าจะสนใจผู้ชายคนใด หรืออาจจะเป็นเพราะไม่มีผู้ชายคนใดมาสนใจเธอเลยก็เป็นได้ ทำให้เธอมีเวลาเหลือเฟือที่จะอุทิศให้กับงานในหน้าที่ ซึ่งรวมถึงการสืบเสาะหาข่าวจากใครต่อใครในบริษัทแห่งนี้ด้วย

พรพรรณชื่นชมชาญยนต์ ในเรื่องความรู้ความสามารถและอัธยาศัยของเขา ชายหนุ่มผู้นั้นจากบ้านไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุสิบสองปี เขาเพิ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อห้าปีที่แล้วเพื่อมารับงานแทนบิดา พร้อมด้วยปริญญาตรีเกียรติยมทางด้านวิศวกรรม ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจและภริยาสาวสวยที่ชื่อจิดาภา ซึ่งพบกันในช่วงที่เธอไปเรียนปริญญโท ที่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับเขา

หนุ่มสาวทั้งสองแต่งงานกันโดยพลการทันทีที่เรียนจบ ก่อนกลับมาเมืองไทยในอีกสองเดือนต่อมา การแต่งงานที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวของชาญยนต์ ซึ่งประกอบด้วยบิดามารดา น้องชายรองจากเขาและน้องสาวสองคน ตกใจไปตามๆกันอย่างไม่คาดฝัน พรพรรณรู้เรื่องเหล่านี้ดีจากคุณลัดดา ซึ่งถือเอาสาวใหญ่ผู้นี้เป็นคนสนิท ที่สามารถบอกเล่าระบายความไม่พอใจต่างๆของเธอได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ เลขาฯ สาวใหญ่ยังรู้ลึกไปถึงความรู้สึกของคุณลัดดา ต่อสะใภ้คนแรกคนนี้ว่า นอกจากไม่พอใจที่บุตรชายของเธอ แต่งงานกับผู้หญิงที่มาจากครอบครัวฐานะปานกลาง โดยไม่ขออนุญาตเธอและสามีก่อนแล้ว เรื่องไม่พอใจ อีกเรื่องที่สำคัญคือ แม้จะแต่งงานกันมาถึงห้าปีแล้ว แต่จิดาภาก็ยังไม่มีทายาทให้เสียที เธอเคยตั้งครรภ์แล้วก็แท้งไปถึงสองครั้ง

คุณลัดดาบ่นเรื่องนี้ให้พรพรรณที่เธอถือว่า เป็นคนสนิทและกึ่งๆคนในครอบครัวฟังอยู่เป็นประจำ ทำให้บางครั้งสาวใหญ่ผู้นี้อดนึกสงสารจิดาภาไม่ได้ ที่ต้องทนรับความกดดันจากแม่สามี ที่อยู่บ้านในบริเวณเดียวกัน และคอยสังเกตสังกาหาเรื่องจับผิดอยู่บ่อยๆ

บ้านของนายสมชัยเป็นตึกหลังใหญ่หรูหรา ปลูกในที่ดินห้าไร่ใกล้ชานเมืองกรุงเทพฯ นอกจากตึกหลังนี้แล้ว ยังมีตึกขนาดกลางอีกสี่หลัง ตั้งอยู่ห่างๆกันในที่ดินผืนนี้ ตึกเหล่านี้เป็นที่อยู่ของบุตรสามคนซึ่งแต่งงานกันไปหมดแล้ว 

แม้ตึกหลังที่สี่ที่สร้างเตรียมเอาไว้สำหรับลูกชายคนโต ในกรณีทีเขาแต่งงานและต้องการจะแยกตัว ออกจากตึกใหญ่เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่เมื่อชาญยนต์ตัดสินใจแต่งงานกับจิดาภาโดยพลการ คุณลัดดาก็เปลี่ยนใจ เธอต้องการให้ชาญยนต์และจิดาภาพักที่ตึกหลังใหญ่ด้วยกัน กับเธอและ โดยอ้างว่าเขาเป็นบุตรชายคนโตที่จะสืบตระกูลต่อไป และตึกหลังนี้ก็จะตกเป็นของเขาในอนาคตด้วย วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเธอคือต้องการเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของสะใภ้คนโต ที่เธอยังกังขาในภูมิหลัง

แต่จิดาภาแอบบอกสามีของเธอไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าเธอไม่ประสงค์จะเข้าไปอยู่รวมกับบิดามารดาของเขา เธอต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งชาญยนต์ก็ทำตามความต้องการของภรรยา ด้วยการพาเธอไปพักอาศัยในตึกหลังที่สี่ ซื่งอยู่ห่างไกลจากตึกหลังใหญ่พอสมควร เรื่องนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คุณลัดดาไม่พอใจ แต่ต้องพยายามเก็บกดอาการเอาไว้ ไม่ให้ลูกชายคนโตสังเกตเห็น

ชาญยนต์ซึ่งวันนี้ขับรถเอง ออกจากบริษัทได้ก็ไปรับภรรยาที่กระทรวงศึกษาธิการ ที่เธอทำงานอยู่ในตำแหน่งนักวิชาการ วันนี้จิดาภาเองก็ไม่ได้ขับรถมาเหมือนทุกวัน เธอกับชาญยนต์มีนัดที่จะไปพบแพทย์คนหนึ่งเพื่อปรึกษาเรื่องการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่หนักอกของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาววัยสามสิบสอง ที่เริ่มรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆจากสีหน้าวาจาและท่าทีของแม่สามี ที่คอยรุกเร้าสอบถามอยู่เป็นประจำ ว่าเมื่อไรเธอจะมีทายาทให้ตระกูลเวธางกูรเสียที

“เรื่องลูกน่ะ ดาอย่าสนใจคำพูดของแม่ผมมากนักเลย ถึงเวลามันก็มาเกิดเองแหละ “ ชาญยนต์เคยปลอบบ่อยๆเมื่อเห็นเธอเครียด

“แล้วคุณล่ะคะ ชาญ คุณเองก็อยากมีไม่ใช่หรือคะ”

ที่จิดาภาพูดเช่นนี้ก็เพราะชาญยนต์เคยบอก ตั้งแต่ตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆแล้วว่าจะไม่มีการคุมกำเนิด เพราะเขารักเด็ก อยากมีลูกสักสองสามคน

ทุกครั้งที่ได้ยินคำถามนี้ชายหนุ่มก็มักจะอึ้งไปอึดใจหนึ่ง แล้วก็จะปลอบใจเธอว่า“อยากมีเหมือนกัน แต่เมื่อยังไม่มีก็ไม่เป็นไร ผมรอได้ ดาอย่าคิดมากเลยนะ”

“แล้วถ้าเกิดรอแล้วก็ไม่มีซักทีล่ะคะ จะทำยังไงกันดี”

คำตอบประจำของเขาก็คือ “ไม่มีก็ไม่มีสิ อยู่กันสองคนก็สะดวกดีเหมือนกัน นึกอยากจะไปไหนไกลๆก้ไปได้ ไม่ต้องห่วงอะไร”

แม้ชาญยนต์จะพูดอย่างนั้น แต่จิดาภาก็รู้ดีว่าเขาพูดเพื่อเอาใจและปลอบใจเธอไม่ให้คิดมากเท่านั้น ลึกๆแล้วเขายังหวังอยู่เสมอว่าจะได้มีลูกตัวน้อยๆสักคน ดังนั้นเมื่อขึ้นปีที่สองของการแต่งงานและเธอเริ่มตั้งครรภ์ ก็กลายเป็นข่าวดีของคนทั้งบ้าน โดยเฉพาะคุณลัดดา ซึ่งตื่นเต้นดีใจจนยอมลดราวาศอกเลิกจับผิดลูกสะใภ้ แต่แล้วเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณสามเดือน จิดาภาก็แท้งบุตรในครรภ์ไปอย่างน่าเสียดาย แม้ชาญยนต์จะผิดหวังและเสียใจมากแต่ก็ปลอบโยนให้กำลังใจภรรยา ว่าโอกาสที่จะตั้งครรภ์ใหม่ยังมีอีกมาก เพราะตอนนั้นเธอเองก็เพิ่งอายุ ยี่สิบเก้าปีเท่านั้น จิดาภาอ่อนกว่าสามีของเธอสามปีเต็ม

ปีต่อมา จิดาภาตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่ง และแม้จะได้รับการประคบประหงมดูแลอย่างดี จากทั้งแพทย์ประจำตัวและสามี พออายุครรภ์ครบสามเดือน เธอก็แท้งบุตรอีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวเครียดหนัก กินไม่ได้นอนไม่หลับจนร่างกายซูบผอม รู้สึกเหมือนตัวเองผิดปกติที่ไร้คุณสมบัติของการเป็นมารดา ที่จะเก็บบุตรเอาไว้ได้จนถึงวันถือกำเนิดเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ แม้แต่น้องๆ ของเขาสามคนซึงแต่งงานทีหลัง ยังมีลูกแล้วคนละคนซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด

หลังจากนั้นเธอก็ยังไม่ตั้งครรภ์อีกเลย จนกระทั่งถึงวันนี้ที่จะพากันไปพบแพทย์ ผู้ชำนาญเรื่องการตั้งครรภ์ที่มีปัญหา ที่เพื่อนคนหนึ่งของจิดาภา ที่เคยมีปัญหาการตั้งครรภ์แบบเดียวกันแนะนำให้ เพื่อนคนนี้สามารถตั้งครรภ์และคลอดบุตรออกมาได้ตามกำหนดเวลาโดยไม่มีปัญหา หลังจากมารับการตรวจรักษาและปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆจากแพทย์ผู้นี้อยู่พักใหญ่



Create Date : 06 กันยายน 2566
Last Update : 6 กันยายน 2566 16:43:19 น.
Counter : 448 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณปัญญา Dh, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณSweet_pills

  
เอ เรื่องนี้จะเป็นยังไงนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:18:25:24 น.
  
แอบเดาเนื้อเรื่องการไม่มีลูก กับ กรรมเก่า แล้วค่ะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:20:24:23 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องดอยสะเก็ด

มาอ่านนวนิยายเรื่องใหม่ "กรรมเก่า" จ้ะ เปิดตัวละคร 4 ตัว พร้อม
เรื่องราวการแท้งลูกถึง 2 ครั้ง เดาเรื่อง ต้องเกี่ยวกับ "กรรมเก่า" แน่เลย
จะรออ่านตอนต่อไป น้ะจ๊ะ

โหวดหมวด งานเขียน ฯ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:21:57:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
กันยายน 2566

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
6 กันยายน 2566
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com