ตนละฟวกฟ้า - บทที่ 63
 

หลังจากคืนนั้นเขตต์ก็ไม่ได้แวะไปหาพราวพรายที่บ้านพักของเธออีกเลย ถ้ามีธุระหรือต้องมาติดต่อราชการที่ศาลากลางจังหวัด เขาก็จะรีบมารีบกลับ รวมทั้งพยายามหลีกเลี่ยงการไปร่วมสังสรรค์กับกลุ่มของอรรณพด้วย ทั้งนี้เพราะเขตต์ไม่คิดว่าจะทนมองหน้าสวยใสแสนบริสุทธ์นั้นได้สนิทใจ โดยไม่คิดถึงพฤติกรรมลี้ลับน่าอายของเธอ

แต่แม้จะตัดใจเรื่องพราวพรายไปแล้ว ชายหนุ่มก็ยังคลางแคลงสงสัยไม่แน่ใจอยู่ดี ว่าเธอทำเรื่องน่าอายอย่างนั้นได้อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่เธอถูกเจ้าอเมริกันคนนั้นใช้เล่ห์เพทุบาย เธออาจจะเพลี่ยงพล้ำเสียทีมันเพราะความอ่อนต่อโลกก็ได้ เลยต้องเลยตามเลย ใครจะไปรู้ว่าเจ้าหนุ่มท่าทางดีคนนั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร มันอาจจะเป็นเสือผู้หญิงก็ได้ไมใช่หรือ มันบังคับขืนใจเธอหรือเปล่า?

ชายหนุ่มคิดวนเวียนกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ แต่เมื่อถามตัวเองว่าจะอยากรู้ไปทำไม พราวพรายจะไปมีอะไรกับใครที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของเขาไม่ใช่หรือ เธอไม่เคยตกปากรับคำจะเป็นแฟนเขา เธอก็เคยบอกเขาชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ได้รักเขา เขาจะเอาสิทธิอะไรไปสอดสู้สอดเห็นกับเรื่องส่วนตัวหรือกิจกรรมลี้ลับของเธอ

แต่เขตต์ก็หาเหตุผลให้กับตัวเองจนได้ว่า เพราะพราวพรายเป็นลูกของเพื่อนสนิทของบิดา เมื่อเห็นเธอกำลังเดินลงเหวเขาก็ควรจะช่วยดึงรั้งเธอเอาไว้ไม่ใช่หรือ อีกอย่างเธอก็เป็นผู้หญิงไทยคนหนึ่งทำไมเขาจึงควรจะทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ผู้ชายต่างชาติมาปู้ยี่ปู้ยำเธอเล่า

เขตต์คิดหาทางที่จะรู้ความจริงถึงความสัมพันธ์ของพราวพรายกับนิคให้ได้ เพียงแต่ตอนนี้ยังคิดวิธีอื่นไม่ออก นอกจากคอยสะกดรอยตามคนทั้งคู่ไปเรื่อยๆ แต่เขาก็ทำงานอยู่ไกลเกินกว่าจะทำอย่างนั้นได้ ก็คงได้แต่มองหาช่องทางไปก่อน

แล้วในที่สุดโอกาสที่จะค้นหาความจริงของเขตต์ก็มาถึง วันหนึ่งชายหนุ่มเข้ามาประชุมที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในศาลากลางจังหวัดและได้พบอรรณพโดยบังเอิญ

“อ้าว เขตต์ มาทำอะไรที่นี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นึกว่าย้ายไปไหนแล้วเสียอีก” อรรณพเอะอะทักทายตามนิสัยพูดจาโผงผางของเขา

“สวัสดีครับ พี่ณพ ผมมาประชุมน่ะ พี่ณพสบายดีหรือครับ?”

“สบายดี ว่าแต่ทำไมหายหน้าไปล่ะ?” แล้วเขาก็พูดต่อโดยไม่รอคำตอบ “เจอกันก็ดีแล้ว เย็นนี้ไปกินเหล้ากันหน่อยสิ คงยังไม่รีบกลับไปโน่นหรอกนะ”

เขตต์อีกอัก ขยับจะปฏิเสธ เพราะกลัวว่าอาจจะต้องเผชิญหน้ากับพราวพราย ซึ่งเขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด แต่ขณะที่กำลังหาเหตุผลมาอ้างที่จะไม่ต้องไปร่วมวงด้วย อรรณพก็พูดต่อว่า

“ไม่มีใครหรอก มีแต่ผม คุณแล้วก็นิคอีกคนเท่านั้น นัดเขาไว้แล้วว่าจะไปกินเหล้ากันเฉพาะพวกผู้ชาย ผู้หญิงไม่เกี่ยว พวกผู้หญิงเอาไว้โอกาสหน้า ตกลงนะ”

เขตต์อึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อหนุ่มต่างชาติคนนั้น แต่แล้วก็รู้สึกดีใจ โอกาสที่จะค้นหาความจริงมาถึงแล้วอย่างไม่คาดฝัน เมื่อไม่สามารถเปิดปากถามเรื่องนั้นกับพราวพรายได้ ก็คงมีแต่คู่กรณีของเธอเท่านั้นที่เขาจะสามารถสืบหาความจริงได้ ดีเหมือนกัน เขาอยากจะคุยกับมันอย่างผู้ชายต่อผู้ชาย ให้รู้เรื่องไปเลยว่ามันคิดอย่างไรกับพราวพราย

แล้วเย็นนั้นเขตต์กับนิคก็ได้เผชิญหน้ากัน ชายหนุ่มผู้นั้นทักทายเขาอย่างสุภาพตามปกติ แต่เขานั่นสิที่รู้สึกกระอักกระอ่วนไม่อยากมองหน้ามันเลย แต่ด้วยมารยาทสังคมเขตต์ก็ไม่มีทางเลือก ต้องฝืนใจพูดคุยด้วยเหมือนไม่ได้รู้สึกบาดหมางแค้นเคืองกับพฤติกรรมเลวๆของมัน เขาดื่มเหล้าหลายแก้วติดๆกันจนอรรณพต้องทักขึ้นมาอย่างแปลกใจ เพราะตามปกติเขตต์จะดื่มเหล้าแต่พอประมาณเท่านั้น

“ทำไมวันนี้กินเหล้าดุจัง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน”

อรรณพสัพยอกต่อว่า “หรือทะเลาะกับคุณพราว สงสัยจะเรื่องนี้ล่ะสิถึงได้หายหน้าหายตาไปเลย แฟนผมเขายังถามถึงคุณเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ปกติเคยไปหาคุณพราวที่บ้านทุกอาทิตย์ อยู่ๆก็หายไป”

แล้วเขาก็ต่ออีกหน่อยว่า “คุณดูโทรมๆชอบกลนะ สงสัยจะเป็นเรื่องใหญ่”

เขตต์เสียวปลาบในหัวใจกับคำถามจี้ใจดำของอรรณพ ไม่รู้ว่าเจ้าฝรั่งที่นั่งทำท่าทองไม่รู้ร้อนอยู่ตรงหน้าเขานี่จะรู้สึกอย่างไร มันคงกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่ในใจก็ได้ เพราะทุกคนในแวดวงของอรรณพรวมทั้งเจ้านิค ต่างก็รู้ว่าเขากำลังพยายามสานสัมพันธ์กับหญิงสาวคนนั้นอยู่ ถึงขนาดจะมอบของขวัญวันเกิดราคาแพงให้เธอ มันคงนึกสมเพชเขาเต็มประดา ที่ไม่รู้ว่ามะม่วงงาม อยู่สูงลิบบนยอดไม้ที่เขากำลังพยายามสอยลงมา เป็นมะม่วงที่ถูกกระรอกอย่างมันเจาะไปเสียนานแล้ว

ชายหนุ่มฝืนยิ้มเมื่อพยายามแก้ตัวว่า “ผมมีเรื่องยุ่งๆเกี่ยวกับงานทางโน้น ยังแก้ไม่ได้ก็เลยเครียดๆ อย่าสนใจกับเรื่องของผมเลยครับพี่ณพ กินเหล้ากันให้เมาไปเลยดีกว่า”

ชายหนุ่มทั้งสามนั่งดื่มนั่งคุยกันเรื่องงานบ้าง เรื่องทั่วๆไปบ้าง

อีกสองชั่วโมงต่อมาอรรณพก็บอกว่า “เดี๋ยวผมคงต้องกลับก่อนแล้วละ สี่ทุ่มแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ยังเตรียมเอกสารไม่เสร็จเลย”

พอพูดจบอรรณพก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เขตต์มองหน้านิคแล้วตัดสินใจทันที

“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหน่อย คุณมีธุระที่ไหนหรือเปล่า?”

อีกฝ่ายทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติเขากับเขตต์ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนัก

“ผมไม่มีธุระที่ไหน คุณจะคุยที่นี่หรือ?”
“ที่นี่แหละ งั้นเดี๋ยวพี่ณพกลับมาผมจะบอกเขาเอง”

อีกห้านาทีต่อมาอรรณพก็เดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะ คว้าซองบุหรี่และไลท์เตอร์ ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะใส่กระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วมองหาบริกรเพื่อเรียกมาเช็คบิล

แต่เขตต์รีบบอกเขาว่า “ไม่ต้องหรอกครับพี่ณพ เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมกับคุณนิคจะดื่มกันต่ออีกสักครู่ เราไม่ได้รีบกลับบ้าน”

“เอางั้นหรือ?” อรรณพลุกขึ้นยืนแล้วบอกเขตต์ว่า “อย่าดื่มมากนักล่ะ คืนนี้คุณดื่มมากแล้ว เดี๋ยวจะต้องขับรถอีก นิค ยังไงฝากดูแลคุณปลัดด้วยนะ ผมไปก่อนละแล้วค่อยนัดกันใหม่”

ทันทีที่อรรณพเดินหายไป เขตต์ก็เรียกบริกรมาสั่งเหล้าเพิ่ม แล้วกุลีกุจอเติมเหล้าในแก้วของนิค ความจริงนิคไม่อยากจะดื่มอีกแล้ว เขาอยากจะกลับบ้านไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาก็มีประชุมเหมือนกัน แต่เมื่อชายหนุ่มที่คงจะอายุอ่อนกว่าเขาไม่กี่ปี บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ตามมารยาทเขาก็ต้องรอฟัง แต่เมื่อเห็นเขตต์ยังตั้งหน้าตั้งตากรอกเหล้าเข้าปากไม่พูดไม่จา เขาก็เลยต้องเป็นฝ่ายทวงถาม

“คุณมีเรื่องอะไรจะพูดกับผมไม่ใช่หรือ? ถ้ามีก็เชิญพูดได้เลย ผมรอฟังอยู่”

เขตต์เหลือบตาแดงก่ำที่มีแววดุขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย ทั้งๆที่ไม่อยากเห็นให้เจ็บแปลบในหัวใจเลย ชายหนุ่มกรอกเหล้าเข้าปากก่อนจะเริ่มต้น

“คุณนิค ผมต้องขอบอกก่อน ว่าเรื่องที่ผมจะพูดกับคุณเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้ายังไงผมก็ขอโทษคุณไว้ล่วงหน้าก็แล้วกัน”

นิคสะดุ้งอยู่ในใจ คิดว่าเดาไม่ผิดว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องของพราวพราย ก็เขารู้อยู่เต็มอกไม่ใช่หรือว่าเขตต์รักเธอ เขายังไม่ทันคิดไปไกล ว่าเขตต์จะรู้เรื่องระหว่างเขากับพราวพรายอย่างค่อนข้างละเอียด คิดแต่เพียงว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาอาจจะแค่ระแคะระคาย ว่าเขาก็ชอบเธอเหมือนกันเท่านั้น และอาจจะมาขอให้เขาหลีกทางให้ แต่ไม่ว่าเรื่องที่จะพูดนั้นจะเป็นไปในทำนองใด นิคก็ไม่ค่อยจะพอใจนักเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขากับพราวพราย ไม่เกี่ยวกับคนอื่น

“ถ้าคุณมีอะไรก็พูดออกมาได้เลย” นิคบอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เขตต์ทำท่าเหมือนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคาดคั้นว่า “คุณสัญญาได้ไหมว่าคุณจะตอบคำถามผมแบบตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม”’

คิ้วของนิคเริ่มขมวดเข้าหากัน “มันขึ้นอยู่กับคำถามของคุณ ถ้าผมตอบได้และไม่เป็นเรื่องส่วนตัวจนเกินไป ผมก็คงตอบ และขอบอกคุณด้วยว่าผมไม่ถนัดในการใช้เล่ห์เหลี่ยมกับใคร”

ปลัดอำเภอหนุ่มแค่นหัวเราะ “ก็ดี งั้นผมขอถามคุณตรงๆว่าคุณคิดยังไงกับคุณพราว?”

นิคอึ้งไปอึดใจหนึ่ง ความจริงไม่นึกอยากตอบเพราะเห็นว่าไม่จำเป็น ที่จะต้องโพนทนาความรู้สึกส่วนตัวของเขาให้ใครฟัง แต่เมื่อมองในแง่ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ชายหนุ่มก็คิดว่าเขาควรจะให้ความป็นธรรม ช่วยตอบให้อีกฝ่ายหายแคลงใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบัง

“ถ้าคุณถามผมตรงๆ ผมก็จะตอบตรงๆว่าผมชอบเธอ ผมตอบคุณแล้วๆก็คงต้องถามคุณบ้าง ว่าคุณก็ชอบเธอเหมือนกันใช่ไหม?”

เขตต์ทำตาขวางมองอีกฝ่าย ก่อนจะรุกต่อไปด้วยเสียงเยาะๆโดยไม่ยอมตอบคำถามของนิค

“ที่คุณบอกว่าชอบเธอน่ะ ชอบแบบไหน ชอบพอที่จะยกย่องให้เกียรติด้วยการแต่งงานกับเธอ หรือแค่ชอบแบบดอกไม้ริมทาง”

“คุณหมายความวาอย่างไร?” นิคเริ่มไม่พอใจ แม้จะพยายามไม่ถือสา เพราะคิดว่าเขตต์พูดเช่นนั้นเพราะเริ่มเมาแล้ว

อีกฝ่ายยักไหล่ “ผมคิดว่าคุณเข้าใจความหมายของผม แต่เอาเถอะ ถ้าคุณตอบไม่ได้หรือไม่กล้าตอบก็ข้ามไปก่อนก็ได้ ให้ผมถามคุณดีกว่าว่าคุณเข้าใจเรื่องประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยมากน้อยแค่ไหน คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณพราวเป็นใครมาจากไหน เธอไม่ใช่ผู้หญิงบาร์ เธอมีพ่อมีแม่ที่มีเกียรติยศชื่อเสียงพอสมควร เธอ..”

"คุณเขตต์ อย่าพูดถึงพราวพรายแบบนั้น กรุณาอย่าเอาเธอไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงพวกนั้น" นิคพูดขัดขึ้นมาก่อนที่เขตต์จะพูดจบ ด้วยสีหน้าที่เริ่มเครียด “ผมเข้าใจว่าคุณคงเมาแล้ว เราไม่ควรจะเอาผู้หญิงมาพูดเล่นสนุกปากเพราะความเมา”

เขตต์โบกมือไปมา “ผมไม่ได้เมา ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ผมไม่ได้พูดถึงคุณพราวเพราะความเมา หรือเพราะความคะนอง ผมพูดเพราะเป็นห่วงเธอ ไม่อยากเห็นเธอเดินตกเหวลึกลงไปเรื่อยๆ”

“คุณหมายความว่ายังไง” ตอนนี้ตาของนิคเริ่มกร้าวพอๆกับเขตต์แล้ว “ผมเข้าใจว่าคุณชอบพราวพราย แต่การที่คุณชอบเธอไม่ได้หมายความว่า คุณจะพูดถึงเธอยังไงก็ได้ เพราะมันจะทำให้เธอเสียหาย”

“ผมพูดอะไรที่ทำให้คุณเข้าใจว่าจะทำให้คุณพราวเสียหาย” ตาของชายหนุ่มแวววับเมื่อกล่าวต่อด้วยเสียงที่แข็งกร้าวว่า “ผมว่าคนที่ทำให้เธอเสียหายน่ะคือคุณ ไม่ใช่ผม”

“ความจริงผมไม่อยากพูดกับคุณอีกแล้ว ผมเข้าใจว่าคุณคงพูดโดยไม่คิดเพราะความเมา เมื่อกี้คุณพูดเรื่องดอกไม้ริมทางซึ่งผมเข้าใจดีว่าคุณหมายถึงอะไร ต่อมาก็พูดเปรียบเทียบเธอกับผู้หญิงบาร์ ถามจริงๆเถอะ ถ้าคุณรักเธอจริงคุณควรจะพูดแบบนั้นหรือ?”

“คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ว่าคุณพราว แล้วผมก็ไม่ได้เมาด้วย ผมบอกคุณแล้วว่าผมเป็นห่วงเธอมาก ถึงเธอจะไม่รักผมแต่ผมก็ยังหวังดีต่อเธอเสมอ ผมทนเห็นคุณทรีตเธอแบบนี้ไม่ได้ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

“คุณหมายความว่าอย่างไร ผมทำอะไรที่ทำให้คุณกล่าวหาผมอย่างนั้น” เสียงของนิคแข็งขึ้นกว่าเก่า

เขตต์คว้าเหล้ามาดื่มก่อนจะตอบด้วยเสียงแข็งๆพอๆกัน

“ผมไม่แน่ใจว่าคุณตีค่าเธอสูงต่ำแค่ไหน คุณเป็นอเมริกัน อาจจะทำอะไรตามใจชอบโดยไม่แคร์อะไร ผมเคยไปเรียนหนังสือที่ประเทศคุณเกือบสองปี รู้ว่าสังคมของคุณเปิดกว้างในเรื่องเพศ ผู้ชายผู้หญิงเสมอภาคกัน นึกจะมีอะไรกับใครเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีใครถือสา แต่ที่นี่เมืองไทย คุณจะเอาวัฒนธรรมแบบนั้นของคุณมาใช้ไม่ได้ ผมไม่อยากเห็นคุณพราวต้องเสียชื่อเพราะการกระทำของคุณ ถ้าคุณรักเธอจริงคุณต้องให้เกียรติเธอบ้าง อย่าทำเหมือนดูถูกเธออย่างทุกวันนี้ ผมทนไม่ได้”

นิคจ้องหน้าปลัดอำเภอหนุ่มเขม็ง ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายคงรู้อะไรเกี่ยวกับเขาและพราวพราย แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่ารู้มากน้อยแค่ไหน

“เอายังงี้ดีกว่า คุณเขตต์ ถ้าคุณมีอะไรที่อยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็พูดออกมาเลย ความจริงมันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับพราวพราย ไม่เกี่ยวกับคนอื่น แต่เมื่อคุณกล้าพูดถึงขนาดนี้คุณก็ควรพูดต่อให้จบ เราจะได้ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีก”

“โอเค ถ้าคุณกล้าท้าผมๆก็คงต้องพูด ผมรู้ว่าคุณพาเธอไปที่อพาร์ตเมนท์ของคุณบ่อยๆ จริงไหม?” ตาของเขตต์แข็งกร้าว

“คุณรู้ได้อย่างไร หรือแค่เดาเอาเอง”
“ผมเห็นด้วยตาของผมเอง หรือคุณจะปฏิเสธ?”
“หมายความว่าคุณแอบสะกดรอยตามดูผมหรือไง”

“ใช่ เพราะผมสงสัย คุณจะมาห้ามความสงสัยของคนอื่นไม่ได้หรอก" เขตต์โต้อย่างดุเดือด

"คุณเองก็รู้ว่าผมชอบคุณพราว เธอเป็นผู้หญิงที่ผมยกย่องให้เกียรติและตั้งใจจะแต่งงานด้วย ผู้ใหญ่ของผมกับของเธอก็เห็นชอบด้วย แต่หลังๆนี่เธอเปลี่ยนไปมาก เป็นคุณๆจะไม่สงสัยบ้างเลยหรือว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรอย่างที่คุณว่าหรอก แต่คืนหนึ่งผมไปกินเหล้ากับเพื่อนที่คลับพาราไดส์แล้วบังเอิญพบคุณพราวกับคุณ ท่าทางของคุณสองคนไม่เหมือนคนรู้จักกันธรรมดา แล้วตอนนั้นก็ค่อนข้างดึก ผมเป็นห่วงเธอ ไม่รู้ว่าคุณมีเจตนาร้ายอะไรกับเธอหรือเปล่า ผมก็เลยขับรถตามไปจนถึงอพาร์ตเมนท์ของคุณ”

เขตต์อึ้งไปอึดใจหนึ่งก่อนจะเค้นคำพูดออกมาได้ว่า “ผมแน่ใจว่าคืนนั้นคุณพราวไม่ได้กลับบ้าน แล้วผมก็มารู้ทีหลังว่า นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณพาเธอไปที่อพาร์ตเมนท์ของคุณ จริงไหม?”

“คุณเขตต์ ความจริงคุณไม่มีสิทธิมายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของผมกับพราวพราย คุณไม่ได้เป็นอะไรกับเธอแม้แต่ญาติหรือคู่รัก คุณเป็นคนนอก ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรคุณทั้งนั้น”

“ถึงคุณจะด่าว่าผมไม่มีมารยาท สอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น แต่ในฐานะผู้ชายด้วยกันและรักผู้หญิงคนเดียวกัน ผมก็จำเป็นต้องถามคุณว่าคุณคิดจะจริงจังกับคุณพราวถึงขั้นแต่งงานหรือเปล่า หรือคิดแค่เล่นๆเป็นทางผ่าน”

นิคอึ้งไปนาน เขาเริ่มอึดอัดกับคำถามแบบจู่โจมของเขตต์ เขาอยากจะบอกความจริงเรื่องการจดทะเบียนสมรส เพื่อปกป้องพราวพรายไม่ให้เสียหายในสายตาของคนอื่นที่ไม่รู้ความจริง แต่ก็ติดอยู่ที่เงื่อนไขของเธอเท่านั้น ใครจะรู้ว่าเมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว ชายหนุ่มผู้นี้จะไม่นำไปเปิดเผยให้บิดามารดาของเธอรู้ ซึ่งจะทำให้พราวพรายต้องเดือดร้อนและกลัดกลุ้มใจมากขึ้นไปอีก

เห็นท่าทางนิ่งอั้นของนิค เขตต์ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าหนุ่มต่างชาติคนนี้ ไม่เคยคิดจะจริงจังกับพราวพราย ก็รู้สึกเดือดพล่านมากกว่าเก่าขึ้นมาทันที

“ที่คุณไม่ตอบก็คงเพราะคุณเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น คุณไม่ได้ทำตามค่านิยมของพวกคุณด้วยการทดลองอยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ ผมรู้ว่าแม้แต่การทดลองอยู่หรืออยู่ก่อนแต่งแบบในประเทศคุณ ก็เป็นการอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย สังคมรับรู้ แม้จะไม่ใช่ในฐานะคู่สมรส แต่ก็ในฐานะกำลังเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่นี่ไม่ใช่ คุณปฎิบัติต่อคุณพราวเหมือนอาหารว่างชั่วมื้อชั่วคราวเท่านั้น

ถ้ายังงั้นผมก็อยากจะขอร้องให้คุณปล่อยเธอไปเสีย อย่าทำให้เธอต้องเสื่อมเสียมากไปกว่านี้เลย และก็อย่าเข้าใจผิดว่าผมพูดเพื่อตัวผมเอง ไม่ใช่หรอก คุณพราวไม่ได้รักผม ไม่ได้ต้องการผม ผมเพียงอยากปกป้องชื่อเสียงของเธอเท่านั้น ผมคิดว่าตอนนี้คงยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่เพื่อนสองคนของเธอก็คงไม่รู้ แต่ต่อไปไม่แน่ เรื่องแบบนี้ปิดไม่ได้นานหรอก”

“ผมยังทำอย่างที่คุณว่าไม่ได้หรอก เอาละ ผมว่าเราจบเรื่องนี้กันดีกว่า”

นิคตัดบท ไม่ต้องการจะพูดเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป เพราะมันเหมือนน้ำท่วมปาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

“ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่ คุณนิค” เขตต์ถามอย่างเดือดดาล คิดว่าพอถูกจี้ใจดำเข้าเจ้าหนุ่มคนนี้ก็พยายามจะเอาตัวรอด ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้น

นิคลุกขึ้นยืน พร้อมที่จะกลับ  “ผมคงไม่ตอบคำถามนี้ ผมขอย้ำอีกทีว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับพราวพราย ผมไม่เคยมีเจตนาร้ายกับเธอ ผมคงพูดได้เพียงเท่านี้ วันหนึ่งข้างหน้าคุณคงจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อเข้าใจแล้วคุณอาจจะต้องขอโทษผม ผมขอตัวก่อน”

พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน ก้มศรีษะให้เขตต์นิดหนึ่งก่อนจะเดินตัวตรงออกไปจากสวนอาหารแห่งนั้น ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเครียด นิคไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ให้พราวพรายฟัง เพราะรู้ว่านอกจากจะทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้เธอต้องเครียดและวิตกจริตมากขึ้นไปอีก



























 




Create Date : 13 เมษายน 2566
Last Update : 13 เมษายน 2566 13:03:57 น.
Counter : 618 Pageviews.

9 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณSweet_pills, คุณปัญญา Dh, คุณnewyorknurse, คุณอุ้มสี, คุณ**mp5**

  
สุขสันต์ สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับ พี่ตุ้ย
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 13 เมษายน 2566 เวลา:22:32:09 น.
  
พระเอกของเรานี่เท่ห์จริงๆ ค่ะคุณตุ้ย
สุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยคนค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 14 เมษายน 2566 เวลา:7:50:30 น.
  
จำได้ค่ะ นึกถึงอยู่ว่าหายไปไหน
โดย: sawkitty วันที่: 14 เมษายน 2566 เวลา:17:13:30 น.
  
ขอบคุณพี่ตุ้ยสำหรับกำลังใจนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:0:50:20 น.
  
15 เมษายน พญาวันเป็นวันดี ที่ยิ่งใหญ่วันปีใหม่ เถลิงศก แห่งราศี
ขอให้สุข สมใจหวัง ดังฤดี โชคลาภมี เงินไหลกอง ทองไหลมา
โดย: **mp5** วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:16:14:39 น.
  
เริ่ดมากค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 18 เมษายน 2566 เวลา:5:13:26 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 18 เมษายน 2566 เวลา:14:37:40 น.
  
สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันสงกรายนต์นะคะ

มาอ่านต่อแล้วค่ะ ลุ้นคต่อไปว่าเมื่อไหร่จะลงเอยเสียที



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 เมษายน 2566 เวลา:0:00:31 น.
  
ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกน้ำมะยงชิดนะคะ วันนี้โหวตหมแล้วไว้มาใหม่นะคะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 เมษายน 2566 เวลา:0:01:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
เมษายน 2566

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
14
15
16
17
18
20
21
22
23
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com