ทริป สะพานมอญ บ้านอีต่อง
2 - 4 กุมภาพันธ์  2567
ไปกับเพจ ไปป่ะ...ตุ๊ดพาเที่ยว



โปรแกรมคร่าว ๆ ค่ะ



05.29 น. เช้ามืดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 แวะร้านอาหาร ขอใช้บริการห้องน้ำ ล้างหน้า ทำธุระส่วนตัว



ร้านให้เช่าชุดเปิดให้บริการแล้ว ส่วนมากชุดคล้าย ๆ แบบนี้แหละค่ะ 



ของใส่บาตรก็พร้อมแล้ว นักท่องเที่ยวจับจองที่ได้เลยค่ะ



เราไม่ได้เช่าชุด และไม่ได้ใส่บาตร แต่คุ้น ๆ ว่าไม่แพง และราคาใกล้เคียงกันหมดค่ะ





05.58 น. เดินมารอตะวันขึ้นตรงสะพานมอญ



ไม่แน่ใจว่าพระจะมากี่โมง เวลาน่าจะใกล้เคียงกัน เลยต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง



สะพานศรีสุวรรณคีรี หรือสะพานแดง



มีใส่บาตรเหมือนกันค่ะ



เด็ก ๆ โพสต์ท่ากันเก่งมาก กดไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ น้องเค้าเปลี่ยนท่ากันเอง



รุ่นเล็ก ก็ไม่น้อยหน้าค่ะ



06.04 น.



ที่พักแบบเรือนแพ...ครั้งสุดท้ายที่เราเคยมาสะพานมอญ ปี 2556 ที่พักไม่เยอะเท่านี้





06.15 น.











06.34 น.









นักท่องเที่ยว จะไปใส่บาตร ฝั่งหมู่บ้านมอญค่ะ





สะพานแดง



ศาลากลางน้ำ









07.09 น.  





วันนี้เล็งยังไงก็ไม่เป็นดวง









07.22 น. แสงจ้าแล้วค่ะ





อีกรูปละกัน



มื้อเช้าร้านนี้ค่ะ



เมนู





มื้อเช้าเรา...ไม่ชอบโจ๊กค่ะ



เดี๋ยวไปนั่งเรือเที่ยวชมวัดใต้น้ำกันค่ะ...เดินผ่านทางเข้าสะพานมอญ



พอสายหน่อย คนเยอะเลยค่ะ ทั้งเด็ก ๆ พรีเซ็นเตอร์สะพานมอญ ทั้งนักท่องเที่ยว



เอ็นดู อินเนอร์มาเต็มค่ะ



เรือที่ใช้บริการวันนี้ คุณเจ้าของร้านชุดให้เช่า ติดต่อให้ค่ะ





มีดอกไม้ไหว้พระให้ด้วย ครบทุกคนค่ะ



08.36 น. บนสะพาน คนบางตาแล้ว





รีสอร์ท ที่พัก เยอะจริง ทั้งในน้ำ ทั้งบนดิน



เราขอนั่งหน้าเลย จะได้ถ่ายรูปสะดวกหน่อย







เจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม



ไม่มีข้อมูลเลยค่ะ เสิร์ชจาก google lens ก็ไม่มี













วัดวังก์วิเวการาม  (เก่า) หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกันกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ และร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2496 ที่ บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ใกล้กับชายแดนไทยพม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีไปราว ๆ 220 กิโลเมตร

ต่อมาได้มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งน้ำในเขื่อนนั้นจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย เลยได้ทำการย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาแทน ส่วนวัดเก่านี้ก็ได้จมอยู่ใต้น้ำมานานราวสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดเท่านั้น











หอระฆังค่ะ





โบสถ์เก่า ถ้ามาช่วงหน้าร้อน น้ำลงจนเห็นซากปรักหักพัง ลงไปเดินได้ค่ะ