วัดสมเด็จ (เก่า), เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี
สามสบ คือ จุดที่แม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบีคี่ แม่น้ำซองกาเลีย และ แม่น้ำรันตี สามสายนี้จะรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย ลงไปรวมกับแม่น้ำแควใหญ่ที่ปากแพรก ตัวเมืองกาญจน์ กลายเป็นแม่น้ำแม่กลอง
สามสบนี้มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์การสงครามระหว่างสยาม-พม่า เพราะเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางเดินทัพด่านพระเจดีย์สามองค์ เมื่อพม่าจะยกมาตีกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี หรือกรุงเทพ หรือฝ่ายสยามจะยกไปตีเมืองมอญเมืองพม่า ก็ต้องผ่านเส้นทางนี้ หากไม่ไปทางอื่นอย่างแม่ละเมา เมื่อพม่ายกทัพผ่านทางด่านพระเจดีย์สามองค์ สถานที่รวมพลของพม่าจุดแรกเมื่อผ่านช่องพระเจดีย์มาแล้วคือ "สามสบ" เพื่อเอาบรรดาอาวุธยุทธภัณฑ์หนัก ๆ ล่องแพลงมาตามแม่น้ำแควน้อย แล้วเอาขึ้นบกที่ช่องสะเดา ลงน้ำอีกทีที่แม่น้ำแควใหญ่ ก่อนจะลงมาเจอกับเมืองกาญจนบุรี (เก่า) ที่ตีนเขาชนไก่ หากตีกาญจนบุรีแตกได้ ก็จะล่องลงมาอีก ตัดขึ้นแม่น้ำทวน ออกแม่น้ำสุพรรณบุรี มุ่งหน้าสู่กรุงศรีอยุธยาต่อไป จะเห็นได้ว่า แนวป้องกันเพียงหนึ่งเดียวของกรุงศรีอยุธยา คือกาญจนบุรี หากตีแตกได้ ก็เหมือนเขื่อนแตก ไพร่พลก็จะทะลักล้นสู่กรุงศรีอยุธยาในเวลาอันสั้น (เวลานั้นกรุงศรีอยุธยาก็จะกวาดต้อนพลเมืองจากหัวเมืองรอบ ๆ เข้ากรุงหมด ทางเหนือก็กวาดตั้งแต่นครสวรรค์ลงมาเลย)
ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีฝ่ายสยามยกมาดักพม่าถึงสามสบมาก่อน จนกระทั่งถึงคราวศึกท่าดินแดง ที่ฝ่ายสยามปรับกลยุทธ์รับศึกถึงสามสบ และท่าดินแดง เพื่อไม่ให้พม่าเดินทัพออกมาถึงที่ราบได้ ปัจจุบัน สามสบจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ์แล้ว แต่ถ้าน้ำลด ก็จะเห็นร่องรอยของสามสบ อย่างเช่นพระอุโบสถเก่าแก่  ฝั่งสังขละบุรี


เจดีย์พุทธคยา ออกจากสะพานมอญแล้ว เดี๋ยวไปแวะกันค่ะ


ป้ายชื่อ วัดบ้านเก่า แต่ไม่ได้แวะวัดนี้ค่ะ



วัดวังก์วิเวการามเก่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496 โดยหลวงพ่ออุตตมะ และชาวมอญ ชาวบ้านมักเรียกกันว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" โดยสร้างอยู่บนเนินสูงริมแม่น้ำสามประสบ ก่อนย้ายไปอยู่บนเนินเขาสถานที่ปัจจุบันที่ตั้งวัดวังก์วิเวการามครับ ส่วนชื่อ "วัดวังก์วิเวการาม" มาจากชื่อของอำเภอเก่า คือ อำเภอวังกะ  09.03 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567

ขึ้นจากเรือ แสงลงพอดี

วัดสมเด็จ (เก่า) เราเพิ่งเคยมาครั้งแรก

ขึ้นบันไดไปนิดหน่อยค่ะ

วัดสมเด็จ (เก่า) ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ตรงข้ามเมืองบาดาล สร้างโดยพระครูวิมลกาญจนคุณเจ้าคณะตำบลหนองลู เป็นวัดที่ไม่ได้จมน้ำ แต่ถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งย้ายอำเภอสังขละบุรี ตอนสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) อุโบสถของวัดสมเด็จมีพระประธานสภาพค่อนข้างสมบูรณ์รอบตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคลุมดูมีมนต์ขลัง ด้านหน้าทางเข้า ถอดรองเท้าด้วยนะคะ


พระพุทธชินราชจำลอง



ลายปูนปั้นเหนือกรอบหน้าต่าง



ด้านหลังพระประธาน...เดินวนรอบแล้วค่ะ


เดินลงค่ะ

มีร้านค้าอยู่ 2-3 ร้าน

ระยะไกล





น้องเป็นพี่น้องกันค่ะ




เรือออกแล้ว





สะพานมอญ






09.48 น. เรือเข้าจอดเทียบท่า มีหนุ่มน้อยมารับด้วยค่ะ

ได้คนละ 20-30 ยิ้มแฉ่งกันเลย


10.29 น.





เจดีย์พุทธคยา ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจดีย์จำลอง ที่มีขนาดเล็กกว่าเจดีย์พุทธคยาองค์จริงที่อินเดีย ลักษณะจะเป็นฐานทรงเหลี่ยมจัตุรัส ด้านหน้าเจดีย์จะมีรูปปั้นสิงห์ที่เป็นศิลปะแบบมอญ 2 ตัว ยืนเฝ้าบันไดทางขึ้นเข้าสู่ตัวเจดีย์ มีความเชื่อว่าสิงห์นั้นจะคอยปกป้องเจดีย์อยู่สองข้างบันไดทางเข้า
Create Date : 10 มิถุนายน 2567 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2567 19:58:19 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1030 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnamfaseefoon, คุณทนายอ้วน, คุณmultiple, คุณปัญญา Dh, คุณtoor36, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณฟ้าใสทะเลคราม, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณtanjira, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534, คุณจันทราน็อคเทิร์น |
|
|