ม่ายเคยจาเปนอารายอย่างนี้ อย่างที่มีกาบเทอร์ในจาย อยากพบอยากคุยกับเทอร์เรื่อยปาย อยากใกล้เทอร์ให้นานเท่านานๆๆๆ เสียงเพลงแว่วมาเหมือนในฝันตื่นได้แล้วย่ะกรี๊ด.................เก่าได้ใจมาก ว้าบบอย แร๊พเตอร์หล่อนไปขุดจากไหนมาอิอิ...แกไม่รู้หรือว่าที่นี่เขาฮิตเพลงเก่ากัน ชอบจัง นึกถึงสมัยอยู่ม.ต้นชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมีทั้งอัลบั้มเลยป่ะมีดิไหนๆๆๆมีเพลงไรอีกม่ายเอาน่าเกรงจาย ไม่ดีหรอกเกรงจาย555555555555555555 แกเต้นท่าโหนรถเมล์ได้เหมือนมากนังก้อบ เอาใหม่ดิ เช้าวันนี้ตื่นมาด้วยอารมณ์เบิกบานเต้นเพลงแร็พเตอร์กันแต่เช้า หลังจากเริ่มเพลงแรก การขุดกรุเพลงเก่าจากไอ้ป็อด(I-pod)ก็ร่ายยาวต่อไป ปุ๊ปกี้ Sha la la ยาย สมชาย จรดปลายเท้า บอดี้การ์ด แล้วก็แอบถอนสายบัวเลย ของนุ๊ก สุทธิดาเจาะเธอกี่ครั้งก็ยังปอด ปอด คิดแล้วมันปอด ต้องถอยทุกครั้งเลย.........ปั้ง ปั้งๆ เบาๆหน่อยโว้ยๆๆๆๆๆๆ ชิ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขอโทษคะ แล้วไอ้ป็อดก็เงียบเสียงลงแบบตายสนิท สองสาวได้แต่แอบหัวเราะคิกคักอย่างไร้สำนึก แล้วรีบแต่งตัวหนีออกจากบ้านวันนี้ไปเที่ยวเซ็นทรัล ปาร์คกันเถอะได้ๆ แกขำนะ แกทนอยู่บ้านนี้ได้ไงนี่ เป็นชั้นนะ ไม่อยู่หรอก แมร่งทำไงได้ ค่าเช่ามันถูก ทนๆไป ไว้แกได้งาน เราลองไปหาที่อยู่ใหม่กันแก...คนนั้นน่ะ น่ากินมากเลยไหนๆคนไหน45 องศา เสื้อเขียวอีนี่กินเด็กก้อบ ก้อบ เบาๆเหมือนมีคนแอบมองเราอ่ะ ค่อยๆหันนะ หลังแกอุ๊ย...คนไทยแน่ๆเลยแกนั่นสิ อายจังฉันถึงบอกแกไง อยู่ที่นี่ห้ามนินทาใครโดยไม่มองรอบๆก่อนเพื่อนฉันเคยนินทาเจ้านายกับเพื่อนที่ทำงานร้านเดียวกัน พอลงรถชีก็นั่งอยู่โบกี้เดียวกันนั่นล่ะว้าย...น่าอายจัง คริคริ โผล่จากรถใต้ดินขึ้นมากลางเมืองใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ฉันต้องตลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า ต้นไม้ใหญ่สีเขียวยังกะป่าดิบผุดแทรกขึ้นมาท่ามกลางโอบกอดของกองตึก ทางเส้นเล็กๆนำฉันเหมือนเดินย้อนไปในอดีต ทำไมมันช่างแตกต่างกันได้ถึงเพียงนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมืองได้ชอบจังเลยแก สวยมากฉันชอบที่นี่ที่สุดเลย ชอบการวางผังเมืองของฝรั่งเขานะ แกว่าไหม เมืองใหญ่ขนาดนี้ เขาก็สร้างสวนไว้เป็นปอดของเมืองเห็นตัวอย่างดีแบบนี้แล้วอยากเอาไปใช้ที่ประเทศเราจังแหม....จะลงสมัครสส.หรือจ๊ะก็ดีนะ แต่ฉันต้องมีเงินมากๆก่อนทำไมล่ะเอาไว้ซื้อเสียงไงนั่นว่าล่ะ แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ผู้คนในเซ็นทรัล ปาร์คก็คึกคัก มีทั้งมานั่งอ่านหนังสือ นอนเล่นบนผืนหญ้า พาหมามาวิ่ง ตลอดจนเดินควงกันแบบคู่รัก นักท่องเที่ยวก็เพียบ มุมเล็กๆข้างรูปปั้ม มี 2 ศิลปินหนุ่มพเนจร เล่นกีต้าร์จังหวะแบบละตินแล้วขับกล่อมเพลงอย่างไพเราะ แม้ไม่เข้าใจภาษาสเปน แต่ภาษาดนตรีที่เป็นสากลก็สะกดฉันกับก้อบให้ยืนนิ่งฟังอย่างมีความสุขเอ๊ะ....แกมีคนฝากข้อความเข้า ไหน เปิดให้ฟังดิพี่โทรจากร้านทะเลนะครับ ที่มาสมัครงานไว้ อยากให้เข้ามาเทรนงาน ถ้าว่างแล้วติดต่อกลับพี่ด้วยครับกรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉันกับก้อบโผเข้ากอดกันอย่างกับนางงามตอนได้มงกุฎโห....แกนี่มันแน่นะ ร้านนี้บี๊มาก ร้านใหญ่ แขกเยอะ ได้คืนเป็น 100 เหรียญ ไปเลยแก รีบโทรไปเลยพระเจ้าย่อมเข้าข้างคนสวย เสมอ บ่ายแก่ๆของอีกวัน ฉันแทบจะนั่งไม่ติด รู้สึกตื่นเต้นแบบลนลาน รีบไปถึงร้านก่อนเวลาตามเคย เพื่อนพนักงานหนุ่มหล่อ หน้าตาดีมาก พาฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดฝึกงานของฉันในคืนนี้คือกางเกงสะดอ เสื้อพื้นเมืองและสวมหมวกเหมือนมุสลิม ดูไปดูมาได้บรรยากาศดั่งย้อนไปสู่วัน รับน้องขึ้นดอย ของเหล่าลูกช้างมช.ที่ฉันเคยสัมผัส งานที่ฉันได้รับมอบหมายก็คือการเป็นรันเนอร์ จะด้วยหุ่นอันบึกบึน กล้ามเนื้อเป็นมัดๆกระมังที่ผจก.คงเล็งเห็นว่าฉันทำได้ ฉันเริ่มที่การต้องออกไปจำโต๊ะทั้งหมดของร้าน พยายามจำให้ได้ทั้งหมด แต่ก็ยากจังเลย เพราะร้านใหญ่มาก ไล่ไปตั้งแต่แถวเอถึงแอล แล้วก็ยังมีโต๊ะเล็กโต๊ะน้อยอีก พอเข้ามาในครัวซึ่งมีรันเนอร์ทั้งหมดสี่คน ฉันได้รับมอบหมายให้ไปปั่นแครอท ปั่นไปเรื่อยๆจนได้แครอทเป็นกะละมัง มือเริ่มสั่นด้วยความอ่อนแรง ฉันถูกเรียกไปห่อปอเปี๊ยะต่อ จากนั้นก็ไปฝึกแพ็ค ทูโก พร้อมทั้งต้องจำหน้าอาหารให้มันได้ อาหารบางอย่างฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อนนี่น้อง...มัสมั่นกับพะแนง ทำไมแยกกันไม่ออกว่ะกับข้าวที่เป็นเส้นไม่แถมข้าวนอกนั้นได้ข้าว ตักข้าวให้ครบตามออเดอร์นะจะไหวไหมนี่ มองเหยียดๆน้องจะมายกจานออกแค่ครั้งล่ะ 3 ไม่ได้นะ ที่นี่ร้านบีซี่ต้องออกให้ได้ครั้งล่ะ 4 จานเป็นอย่างน้อย อย่ามาคิดกินแรงคนอื่น (ออก 3 คือ มือซ้ายถือจานอาหาร 2 ใบ มือขวา 1 ใบ ออก 4 คือ คีบมือซ้าย 3 จาน มือขวาได้อีก 1 จาน ไว้ลงอาหาร) ทุกครั้งที่ถูกว่า ฉันได้แต่ ครับ แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แขนเริ่มล้ามากยิ่งขึ้น ดูเหมือนทุกคนไม่สนใจ กลับพยายามฝึกให้ฉันจับคีบผัดไทย 3 จานในมือซ้ายแล้วเอาแกงอีก 1 ถ้วยมือขวา ออกไปพร้อมกัน ฉันพยายามฮึดสู้ จับจานให้มั่น เดินออกไปอย่างไว จะด้วยความเร่งรีบบวกกับความไม่สามารถหรืออย่างไร ฉันไปไม่ถึงจุดหมายอย่างที่คิด ก่อนที่จานใบแรกจะหล่นลงพื้น ฉันตัดสินใจวางทุกจานลงบนโต๊ะอีกตัว ฝรั่งทำหน้างงๆอาหารโต๊ะไหนไม่ใช่โต๊ะนี้ครับ พอดีผมกลัวมันตก เลยวางก่อนมาวางแบบนี้ได้ไง ยกออกไปเลย ฉันรีบจับจานขึ้นมาอีกครั้ง เหลืออีก 1 ใบวางไว้ แม่สาวเสริ์ฟใจยักษ์ยกตามฉันมาแบบหัวเสีย ก่อนวางเสริ์ฟให้ลูกค้า ฉันเดินกลับเข้าครัวหน้าหงอยๆก่อนที่หล่อนจะตามมาอาละวาดในครัว หาว่าฉันไปเสิร์ฟอาหารผิดโต๊ะ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ช่างเป็นคืนที่ทรมานเสียจริง ฉันเริ่มฝึกงานตั้งแต่ 4 โมงเย็น นี่เกือบเที่ยงคืนแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าแขกจะน้อยลง ฉันเดินเข้าเดินออกมาพร้อมจานอาหารนับ 100 เที่ยว ถ้ามีเข็มวัดระยะทางมาติดที่ขา ไม่อยากคำนวณเลยว่าจะได้กี่สิบกิโล จนเกือบตี 2 ร้านจึงปิด ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนออกจากร้าน นั่งรถใต้ดินแบบหมดอาลัยตายอยาก สุดเส้นทาง มารอต่อรถอีกสาย เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ฉันไม่รู้ จิตใจที่เคยเข้มแข็งเริ่มต่อต้าน ความรู้ที่ร่ำเรียนมา ปริญญาที่เคยภาคภูมิใจ ฉันมาทำบ้าอะไรที่นี่แก....ตื่นได้แล้ว ไม่สบายหรือเปล่าอืม....ปวดหัวเป็นไงบ้าง งานหนักหรือใช่ เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยเป็นมิตรด้วยอดทนเอาหน่อยนะแก เดี๋ยวถ้าแกเป็นงาน แกก็สบายทำไมล่ะก้อบ ทำไมเขาไม่คิดว่าฉันเพิ่งมา ฉันจะไปยกได้ไงครั้งล่ะ 4 ใบ 5 ใบ ฉันไม่เก่งเหมือนพวกเขามันก็อย่างนี้ล่ะแก คนมันมักลืมตัว ไม่จำวันแรกที่มากันต่อไปนะ ถ้าฉันได้สอนใครทำงาน ฉันจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด ฉันจะไม่ลืมวันแรกของชีวิตฉันในนิวยอร์ค ฉันบอกก้อบจากใจจริง กว่าจะสมัครงานได้ก็ลำบากแล้ว มาเจอการทำงานที่ยากกว่าที่คิดไว้ แล้วฉันจะรอดไหมนี่ ทางบ้านก็คงรอความหวังจากฉันอยู่ แล้วฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี ฉันแอบถอนหายใจเบาๆก่อนใช้มือป้ายเค้าท์เตอร์เพนนวดเฟ้นที่ขาและฝ่าเท้า เพราะตอนนี้ปวดจนไม่อยากลุกขึ้นเดินไปไหนแล้ว