แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ตอน 21 บ้านหลังใหม่ใกล้ชิดพม่า


ตอน 21 บ้านหลังใหม่ใกล้ชิดพม่า

ชัยเริ่มฝึกงานที่ร้านช้างน้อยได้ 2 วันก่อนต้องย้ายไปฝึกที่ร้านช้างน้อยอีกสาขา พัฒนาการด้านการจับจานก็ยังไม่คืบหน้ามากนัก บ่อยครั้งที่ฉันจะเรียกชัยมาเทรนการจับจานต่อหลังจากเลิกงานไปแล้ว
“แกต้องใจเย็นๆนะ”
“อืม”
“ไม่มีใครคลอดออกมาจากท้องแม่แล้วยกจานได้เลยหรอก”
“เอ๊ะ...ไม่ขนาดนั้นนะ ฉันแค่เป็นห่วงชัยกลัวถูกคนอื่นว่าเอา”
“ใจเย็นค่อยๆทำไป คนบางคนนับ 1 ถึง 10 ได้เลย แต่บางคนต้องค่อยๆนับ”
ก้อบพูดให้แง่คิดในวันที่ฉันมาปรับทุกข์เรื่องพัฒนาการด้านการยกจานของชัย เพราะฉันเองก็ค่อนข้างเครียดด้วยเหมือนกัน เป็นเพื่อนกัน สอนงานกัน ถ้าฉันสอนไม่ดีหรือชัยทำไม่ได้ พลอยจะทำให้คนอื่นๆในร้านพาลมาโทษฉันไปด้วย
“แล้วห้องเป็นไงมั่ง อยู่กัน 2 คนได้หรือ”
“ก็เขี่ยๆกันเข้าออก”
“ไปหาห้องใหม่อยู่กันไหม”
“ทำไมล่ะ ไหนว่าจะอยู่รอจนถึงหน้าหนาวให้เบดบั๊คตายหมดไม่ใช่หรือ”
“ฉันกลัวมันดูดเลือดฉันหมดตัวก่อนนะสิ”
“อืม...คิดอยู่เหมือนกัน ไปหาที่ไหนดีแก”
“ไปร้านน้ำตาลไหม”
“ไม่เอาแล้ว ฉันไปหามามีแต่ไรก็ไม่รู้ พอดีฉันเจอบ้านที่ 61 St เขาประกาศลงเวป เราลองไปดูไหม”
“เอาสิ”
ฉันกับก้อบพุ่งตรงไปยังบ้านที่ประกาศให้เช่าทันที ตอนเช้าอากาศแสนหนาวเหน็บ เดินหาตามที่อยู่ที่ให้มา เข้าไปในซอยไม่ลึกมากเท่าใดนัก
“บ้านหลังนี้”
“แน่ใจนะ”
ฉันกับก้อบเดินเข้าไปในบ้าน ชั้นแรกล็อคได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ชั้นบน จึงถือวิสาสะเดินขึ้นไป เจ้าของบ้านเป็นหญิงมองมาทางฉันกับก้อบด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนเชื้อเชิญให้เข้ามาดูห้อง
“พอดีมีคนมาดูก่อนแล้ว กำลังคุยกับสามีพี่อยู่ทำไงดี” เธอเริ่มให้ข้อมูล
“พี่คนที่ไหนคะ”
“คนพม่าจ้า”
“กรี๊ด........คนพม่า พวกฉันโยเดีย”(คนพม่าเรียกคนไทยว่า โยเดีย)
“เราเพื่อนบ้านกัน”
“ใช่ๆ”
“แล้วคนที่มาคุยอยู่อีกห้องมาจากไหน”
“คนอินโดฯ”
“ไกลกว่าพวกฉันนะ”
“สามีฉันท่าทางชอบกลุ่มนั้น แต่ฉันไม่ค่อยกินเส้น”
ฉันกับก้อบมองหน้ากันแบบมีนัยยะ ฉันรู้ว่าก้อบชอบบ้านหลังนี้มาก 2 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องน้ำ แถมมีห้องครัว ราคา 1,000 เหรียญ แต่จะทำอย่างไรดีให้เขาสนใจที่จะเลือกพวกฉันเข้ามาอยู่ แล้วปฎิบัติการณ์ของนางมารร้ายจึงเริ่มขึ้น ฉันกับก้อบเดินไปดูอีกห้อง มีชาวอินโดฯนั่งอยู่บนเตียง 3 คน
“มินกาลาบา คำยา”
“มินกาลาบา” ทำหน้างงระคนแปลกใจ
“เตยยาดา วอนตาบาแด”
ฉันกล่าวคำทักทายเป็นภาษาพม่า ตามที่เคยได้เรียนมาสมัยอยู่มช. อยากจะพูดไรต่อ แต่จำไม่ได้แล้ว แต่แค่นี้ก็ทำให้ชายเจ้าของบ้านเปลี่ยนความสนใจมาที่ฉันทันที
“ฉันอยากได้ห้องนี้นะ พวกฉันมาก่อน”
“ใช่ๆทุกคนมาเห็นก็ต้องชอบแน่ๆแต่คุณมาก่อน ฉันเข้าใจนะ” ก้อบเริ่มแสดงบทนางเอกแสนอาภัพกับชาวอินโดฯ ส่วนฉันปลีกตัวออกมาพร้อมกับเมียเจ้าของบ้าน
“ฉันชอบที่นี่จังเลย ฉันรู้สึกถูกชะตากับคุณทั้งสองมาก”
“ฉันก็ชอบพวกเธอ รู้ไหมฟลอเมทคนก่อนที่เพิ่งย้ายออกไปก็คนไทย”
“อ้าวหรือ...แบบนี้เราก็อยู่ด้วยกันได้สินะ ทำไงดี พี่ช่วยหน่อยสิ นะนะ แฟนพี่ต้องเชื่อพี่แน่ๆ” ฉันเข้าทางเมีย เพราะรู้ว่าผู้ชายไม่ว่าชาติไหนๆย่อมเกลียมัวเป็นแน่แท้
“ลำบากใจจัง เธอน่าจะมาเร็วกว่านี้นะ”
“ถ้าเธอตัดสินใจเลือกพวกฉันตอนนี้ เอาไปเลยมัดจำล่วงหน้า 2 เดือน” ฉันเลียนเสียงซาร่าทีวีไดเร็กส์ พี่สาวชาวม่านตากลมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉันกับก้อบเดินออกมาจากบ้านนั้นด้วยความเสียดาย ห้องกว้าง มีทุกอย่างให้ ไม่น่ามาช้าเกินไปเลย
“เสียดายนะแก ทำไงดี อยากได้”
“แกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเขาก็ต้องโทรมาหาเรา”
“ทำไมแกมั่นใจอย่างนั้นล่ะ”
“ไม่รู้สิ” แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนฉันกับก้อบกำลังจะลงรถไฟฟ้าสาย 7
“แก...เบอร์บ้านนั้น”
อีก 3 วันต่อมา ฉันก้อบชัยก็พร้อมใจกันย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยหัวใจเบิกบาน เจ้าของบ้าน(แลนด์ลอร์ด) มีข้อตกลงให้จ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน ส่วนค่าน้ำค่าไฟรวมอยู่ใน 1,000 เหรียญแล้ว ถ้าจะย้ายออกก็ต้องบอกล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนหาบ้านให้ดูสัญญาปลีกย่อยให้ดี กันไว้ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง

“เสียดายที่ไม่มีคอมฯนะ อุตส่ามีเนทฟรี”
“ไปใช้ที่บ้านโจกันไหม ไปอัพเดทข่าวเมืองไทยกัน”
บ้านโจ เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอยู่ไม่ไกลนัก โจหน้าตาหล่อ นิสัยดี มีเวลาให้ แต่ไม่มีแฟน ทำให้เป็นที่หมายปองของสาวแท้แกมสาวเทียม โจอยู่กับเพื่อนอีกหลายคนเป็นแก๊งหนุ่มโสดแห่งนิวยอร์ค
“เป็นไงบ้างย่ะ วีคนี้ทำเงินไปเท่าไหร่”
“ไม่เท่าไหร่หรอกก้อบ มาก็ดีแล้ว เหยียบหลังให้หน่อย”
“อีกแล้ว ตกลงร้านแกนี่มันใช้งานเยี่ยงทาสเลยหรือนี่ ร่างกายพวกแกถึงมีสภาพอย่างนี้”
“อืมๆหมิวล่ะ เป็นไงบ้าง”
“ฉันสบายดี หาญกับอิงล่ะ”
“หาญไปทำงาน ส่วนอิงนอนตายอยู่ในห้อง ออกไปใช้คอมฯมันได้นะ”
“ขอบใจมาก” ฉันปล่อยให้ก้อบขึ้นกระหน่ำเหยียบหลังโจในห้อง แล้วปลีกตัวออกมาใช้เนทจากคอมฯของหาญ
“ไรนี่ เอารองเท้าตบกันที่ลินคอน” ฉันอุทานออกมาเมื่อดูข่าวใหญ่จากเมืองไทย นักร้องหนุ่มปากห้อยเมาเหล้าออกอาการติ๊ดแดกนอกบท แล้วเกิดเหตุบานปลายถึงขั้นเอารองเท้าตบกันบนเวที อูยยยย....ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ฉันโหลดคลิปมาดูอย่างอนาถใจ ทำไปได้นะคนไทย รามเกียรติ์ตอนนางลอย นี่คงหมายถึงเกิบลอย
หลังจากชัยฝึกงานได้ครบ พร้อมกับมีข่าวดีว่าชัยได้ตารางงานทั้ง 2 ร้านแล้ว ฉันจึงเข้าไปพูดกับเจ้าของร้าน เพื่อขอลดวันทำงานลงสัก 2 วัน เพราะเริ่มรู้สึกเหนื่อยจนอยากพักบ้างและอยากให้ชัยได้ตารางงานเพิ่มด้วย
“อืม....ดรอป 1 วันได้ไหมคะ ตอนนี้ร้านขาดคน เอางี้ไหม น้องหมิวออกมาเป็นเวทบนฟลอ แล้วให้ชัยเป็นรันเนอร์แทน”
“เป็นเวทเลยหรือครับ”
“ใช่แล้ว ลองดูไหม”
“ครับ” ฉันรีบรักปากด้วยความดีใจที่เจ้าของร้านให้โอกาส ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่คิดว่าฉันจะเป็นเวทได้ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องภาษาอังกฤษอันไม่ค่อยแข็งแรงของฉันเอง
“ฉันต้องทำให้ได้ ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้” ฉันพูดให้กำลังใจตัวเอง




Create Date : 18 เมษายน 2550
Last Update : 18 เมษายน 2550 23:32:04 น. 1 comments
Counter : 633 Pageviews.

 
ดีใจด้วยคับ


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:26:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.