แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ตอน 23 เอาใจคนแก่


ตอน 23 เอาใจคนแก่

ถ้าถามว่าในบรรดาลูกค้าวัยไหนที่รับมือยากที่สุดในการทำงานร้านอาหารไทย คำตอบที่ฝังใจของบรรดาสาวเสิร์ฟในเมกาน่าจะเป็นคนแก่ ธรรมชาติของคนวัยนี้ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนๆก็คงคล้ายกัน คือคุณท่านคุณเธอทั้งหลายจะดื้อ เอาแต่ใจ พ่อแง่แม่งอน และชอบเรียกร้องความสนใจเป็นที่สุด
ช่วงบ่ายๆเป็นเวลานัดหมายกันของชมรมผู้สูงอายุแห่งมหานครนิวยอร์ค สถานที่ปฏิบัติการณ์คือร้านช้างน้อย เพิ่งผ่านช่วงเที่ยงชั่วโมงเสริ์ฟด่วนเร็วกว่านรกมาไม่ทันให้พอหยุดหายใจ 5 ดรุณีวัยแรกแย้มฝาโลงก็เขยื้อนร่างกายพร้อมอาวุธประจำตัวคือไม้เท้าเข้ามาในร้าน เวทกับรันเนอร์หน้าซีด แก็งนี่อีกแล้ว
“สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ”
“นั่งไหนดีล่ะเธอ”
“ตามใจเธอสิ”
“เธอเลือกเถอะน่า”
“ไม่เอา วันนี้ฉันจะตามใจเธอ” จ้อกแจ้กจอแจยืนขวางประตูร้าน โต๊ะก็ว่างเพียบ เลือกเอาสักโต๊ะเถอะคุณนาย ฉันนึกในใจ

“เอาโต๊ะ 14 ดีไหมครับ มากัน 5 คน นั่งสบาย สบาย”
“อืม...ไม่เอาดีกว่า วันนี้ฉันอยากนั่งโต๊ะหน้าร้าน”
กรี๊ดดดดด.....ฉันแอบร้องในใจ คุณยายจะไปนั่งโต๊ะ 8 หน้าร้าน โต๊ะนี้ผู้จัดการย้ำนักย้ำหนาว่าสงวนสิทธิ์เฉพาะคนหน้าตาดีมีตังค์ใช้ บุคลิกงามสง่าดึงดูดความสนใจเท่านั้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้าน แต่นี่ถ้าคุณยายไปนั่ง คนเดินผ่านไปมาคงนึกว่าร้านช้างน้อยเป็นร้านพักคนชรา เพราะอายุคุณยายทั้ง 5 รวมกันมากกว่าอายุกำแพงเมืองเชียงใหม่เสียอีก
“เออ....เอาโต๊ะ 14 ดีกว่านะครับผมว่า”
“ไม่...ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะเอาโต๊ะหน้าร้าน”
“เออ...พอดีตรงนั้นมันแคบครับ และมากัน 5 ท่าน มีเก้าอี้แค่ 4 ตัวเอง จะนั่งไม่สบายนะครับ ผมว่า”
“เอาเถอะเธอ...มันก็จริงนะ ฉันอึดอัดถ้าไปนั่งตรงนั้น”
“ใช่ๆๆ”
โล่งอกไปที ทั้ง 5 สาวยอมไปนั่งโต๊ะ 14 แต่โดยดี พอนั่งปุ๊ปเวทอย่างฉันต้องสวมวิญญาณสาวนักขายทันทีด้วยการพยายามเสนอเมนูอาหารแปลกๆใหม่ๆราคาแพงๆให้ลิ้มลอง
“สั่งเหมือนกันหมดเลยดีไหม ง่ายดี เอาผัดไทย” มาอีกแล้วเสียน้ำลายตามเคย
“จดเลยนะ จานที่ 1 ผัดไทยไก่ ไม่ใส่ต้นหอม ไม่ใส่ถั่วงอก จานที่ 2 ผัดไทยไก่เพิ่มถั่วงอกน้ำมันน้อยๆจานที่3 ผัดไทยไก่เพิ่มกุ้งไม่เอาถั่วลิสง จานที่ 4 ผัดไทยกุ้ง ไม่ใส่ถั่ว ไม่ใส่ไข่ ไม่ใส่ผัก จานที่ 5 เอ....เอาไรดี ผัดไทยเนื้อได้ไหม”
“ไม่แนะนำครับ เพราะมันไม่อร่อย กลิ่นมันแรง”
“แต่ฉันอยากกิน เอาผัดไทยเนื้อ ไม่ใส่กระเทียม ไม่เอาแครอท”
“ไม่ทานแอ๊พก่อนหรือครับ” ฉันพยายามขายเพิ่มอย่างน้อยก็ของกินเล่นล่ะ เพื่อร้าน
“เอาสะเต๊ะไก่ล่ะกัน ดีไหมเธอ เธอ”
“ดีๆ”
จากนั้นฉันก็ทวนรายการที่สั่งมาด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น นี่ถ้าฉันคีย์รายการผัดไทย 5 จานนี้เข้าไปในครัว รับรองว่าป้าน้อยคงไมเกรนขึ้นหัวแน่ๆ แต่จะทำไงได้ ตอนไปกดจิ้มๆที่คอมฯฉันเองก็ยังงงๆเลย ตายแล้วอาหารที่ออกมาจะถูกตามที่สั่งไหมนี่
ในระหว่างนั้นก็มีลูกค้า คุณป้ากับคุณลุงสองผัวเมีย เข้ามาในร้าน ในเวลาใกล้เคียงกับคุณยายบินเดี่ยวเดินเข้ามาคนเดียว ฉันพยายามจับแยกเสือเฒ่าให้อยู่กันคนละมุม แม้จะต้องแลกกับการเดินดูแลไปทั่วร้านก็ยอม
“นี่เธอ สามีฉันนะบ้าบอลมากเลย ไม่ยอมไปไหนมาไหน”
“เหรอๆ น่าเห็นใจเธอจังเลย”
“ของฉันน้ำหนักเพิ่ม ทำไงดี”
“เหรอๆน่าสงสารเธอจังเลย”
“หลานฉันจะมาเยี่ยม”
“เหรอๆอิจฉาเธอจังเลย”
“ยายลินลี่ข้างบ้านฉันถูกหมากัด”
“เหรอๆตื่นเต้นจังเลย”
มหกรรมวันนินทาสากลทยอยขุดแทบทุกเรื่องออกมาเป็นระยะๆ ใครว่าคนไทยชอบนินทา ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด นิสัยนี้น่าจะเป็นดีเอ็นเอร่วมของทุกเผ่าพันธุ์ในมวลมนุษยชาติ
“สะเต๊ะไก่ครับ”
“อ้าว...ทำไมมีแค่ 4 ไม้เอง”
“ครับ”
“พวกฉันมากัน 5 คนนะ มีแค่ 4 ไม้แบบนี้อีกคนก็ไม่ได้กินสิ”
“สั่งเพิ่มดีไหมครับ”
“งั้นเอามาอีกหนึ่ง”
ฉันกลับเข้าครัวไปขอสะเต๊ะจานด่วนให้คุณยาย เพราะท่านยืนยันว่าจะรอกินพร้อมกัน เมื่อสะเต๊ะพร้อมทาน ฉันรีบยกเข้าไปเสิร์ฟด้วยตนเอง

“เอ็นจอย”
“ทำไมมีมาตั้ง 4 ไม้ล่ะ”
“อ๋อ 1 ชุด เรามีให้ 4 ไม้ครับ”
“ฉันต้องการอีกแค่ 1 ไม้ เพราะตอนนี้เพื่อนฉันที่ยังไม่ได้คืออีก 1 คน เธอไม่เห็นหรือ”
แป่ว....................ความหมายของคุณยายคือสั่งเพิ่มอีกแค่ 1 ไม้หรือนี่ ตายแล้ว.......ปกติสะเต๊ะเขาทำเป็นชุดๆล่ะ 4 ไม้ ไม่เคยมีการแยกขายออกทีละไม้มาก่อน ฉันจะทำยังไงดี ถ้าต้องเอากลับไปคืนในครัวแล้ววอยออก(วอยคือการยกเลิกคำสั่งอาหาร) แต่หลักฐานที่ปรากฏตรงนี้ คงไม่เป็นผลดีต่อหน้าที่การงานของฉันเป็นแน่แท้

“ต้องขอโทษจริงๆครับ ผมเองเข้าใจผิดไปว่าคุณท่านจะสั่ง 1 ชุด เพราะปกติทางร้านเราจะขายเป็นชุด 4 ไม้ครับ”
“อ้าวแล้วทำไง”
“เอางี้ดีไหมครับ อย่าคืนอาหารเลยนะครับ ผมขอร้อง ผมจะเอาเข้าครัวไปหั่นแบ่งให้เป็นชิ้นๆเท่ากัน เพื่อความยุติธรรม ทีนี้ทุกคนก็จะได้ทานพร้อมกันหมดเลยครับ”
“เออ....ดีๆเข้าท่านะ เธอ เธอ”
ฉันรีบกลับเข้ามาในครัว พร้อมคิดค้นสูตรคณิตศาสตร์จะแบ่งยังไงให้ทุกคนได้กินเท่ากัน สะเต๊ะ 8 ไม้ มากัน 5 คน คิดไปคิดมาแบบไหนๆก็เหลือเศษหมด สุดท้ายด้วยเวลาอันจำกัด ฉันตัดสินใจใช้มีดตัดสะเต๊ะทุกไม้แบ่งครึ่ง ได้ 16 ชิ้น มากัน 5 คน กินไปคนล่ะ 3 เป็น 15 ชิ้น อีก 1 ชิ้นที่เหลือ ฉันซอยเป็นชิ้นเล็กๆขนาดเท่ากันได้อีก 5 คำ เอาไปลงเสริ์ฟให้คุณยายอิ่มกันเปรม
“ขอน้ำเพิ่มหน่อย”
“ครับ” คุณยายบินเดี่ยวเว้าวอน
“วันนี้เธอไม่มาเหลียวแลฉันเลย” มีประชด
“ขอโทษจริงๆครับ”
“วันนี้ดูสดใสนะครับ คุณยายทานข้าวอร่อยไหมครับ”
“อืม ดี” จากนั้นฉันก็พูดคุยกับคุณยายพอช่วยทำให้อารมณ์น้อยใจของคนวัยทองดีขึ้น ชัยยกอาหารไปลงที่โต๊ะ วางอาหารต่อหน้าแล้วไม่มีการขานชื่ออาหารให้ลูกค้าทราบแต่อย่างใดว่ามีผัดไทยอะไรบ้าง
“คุณ คุณ ช่วยมาทางนี้หน่อย ช่วยบอกพวกฉันทีสิว่านี่มันผัดไทยอะไรบ้าง ฉันแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร”
ฉันเดินเข้าไปที่โต๊ะ ก่อนยิ้มเจื่อนๆในใจมีคำตอบให้คุณยายทั้ง 5 ว่า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอเขี่ยๆดูก่อนได้ไหมยายจ๋า”




Create Date : 18 เมษายน 2550
Last Update : 18 เมษายน 2550 23:37:25 น. 2 comments
Counter : 611 Pageviews.

 
ขำๆคับ


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:33:50 น.  

 


อ่านรอบสอง

เจอแบบนี้ตอนเจอคงเครียดแต่ถ้าแก้สถานการณ์ได้ก็ถือว่าได้อารมณ์ขันดีเหมือนกันนะจ้ะหมิว


โดย: onelove01 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:33:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.