แสงแดดยามเช้าส่องลอดม่านหน้าต่างเข้ามาเผาหัว อยากจะผลิกตัวหมุนหนีไปอีกด้านแต่ติดผนัง ครั้นจะขยับตัวหนีลงไปอีกนิดขาก็ดันติดประตู ไม่ไหวแล้ว เป็นไรแก นอนไม่สบายหรือ ก้อบงัวเงียขึ้นมาถามจะให้สบายได้ไงนี่ ดูห้องแกสิ ทำไมมันแคบอย่างนี้เออ...น่า ทนเอาหน่อย เดี๋ยวถ้าแกหางานได้แล้ว ค่อยไปหาห้องใหม่ ตอนนี้เพิ่งมาอย่าเว่อร์ ก้อบปราม ทำให้ฉันเริ่มสำนึก ความสบายที่เคยติดตัวมาจากเมืองไทยแอบมาทำร้ายฉันในต่างแดน ฉันมองไปรอบๆห้อง ไม่สิ แค่ฉันหันซ้ายขวา ความกว้างไม่เกิน 1 เมตร ส่วนความยาวน่าจะ 2 เมตร ก้อบบอกว่า ปกติห้องนี้เขาเอาไว้ใช้เก็บของ แต่มาแบ่งเช่า เพื่อประหยัดค่าห้อง สนนราคา 250 เหรียญ หาที่ไหนไม่ได้แล้วในนิวยอร์คถ้าไม่ใช่นอนตามใต้ซับเวย์ อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆจนฉันทนไม่ไหว เดินไปห้องน้ำ ผ่านห้องนั่งเล่น เจอสายตาดั่งพญาเหยี่ยว ฉันก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา หวัดดีครับเป็นเพื่อนก้อบหรือครับ เพิ่งมาถึงเมื่อคืนอยู่ที่นี่เดินเบาๆอย่าลงส้น อาบน้ำไวอย่านานๆช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยครับ ฉันรับปากแล้วรีบเดินไปห้องน้ำ ในใจเริ่มครุ่นคิด บรรยากาศของบ้านดูแปลกๆกลับมาห้องอีกครั้ง พยายามลากก้อบให้ลุก เพื่อส่งฉันไปสมัครงาน อีนี่ แรงควายจริงๆมาถึงไม่ทันไร ไม่พักก่อนหรือไงไม่ก้อบ ฉันไหว ฉันอยากหางานทำให้ไวที่สุด ทางบ้านฉันร้อนเงินแก..นี่มันกระเทยกตัญญูจริงๆขอบใจเพื่อนสาว 10 โมงเช้าของนิวยอร์ค ที่เมืองไทยคงกำลัง 3 ทุ่ม ฉันพร้อมเต็มที่ในชุดกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อคอกลมสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ก้อบกำชับนักหนาว่าให้หาชุดเหล่านี้มาจากเมืองไทย เพราะยูนิฟอร์มของร้านอาหารไทยแทบทุกร้านในนิวยอร์คคือชุดไปงานศพแดดเริ่มจ้า นิวยอร์คในยามหน้าร้อนแสนอบอ้าวไม่แพ้เมืองไทย ฉันกับก้อบเริ่มออกเดินจากบ้านที่ 74St Broadway เพื่อตรงไปร้านน้ำตาลแถวๆ Elmhurst ก้อบบอกว่าที่นี่เป็นแหล่งหางาน ย่านนี้คนไทยอยู่เยอะมาก พอๆกับโก้(โก้ คือ คำเรียกคนที่มาจากประเทศแถบอเมริกาใต้) เพราะฉะนั้นๆเวลาเดินไปไหนมาไหนแถวนี้ อย่าได้ไว้ใจนินทาใครเสียงดังเด็ดขาด เพราะเคยเจอกับตัวมาแล้ว คนไทยขี้เม้าท์พอๆกับขี้อิจฉาถึงร้านน้ำตาลแล้ว ฉันแอบภูมิใจที่เห็นป้ายร้านมีภาษาไทยด้วย เข้าไปในร้าน มีของไทยๆขายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนม ของกิน ของใช้ ฉันแอบกลืนน้ำลายเอื๊อก เมื่อเห็นขนมครกของโปรด แต่พอมองดูราคาแล้วก็รีบกลืนน้ำลายกินแทน 5 คู่ 2 เหรียญนี่...จดเอาให้หมดเลยนะ ทั้งเบอร์โทร ที่อยู่อูย...แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่ามันอยู่ไหนมั่งหาไม่ยากหรอก เดี๋ยวฉันจะให้โทรศัพท์แกไว้นะ แล้วจะพาฝึกนั่งซับเวย์ เดี๋ยวแกก็ไปถูกเองล่ะง่ายขนาดนั้นเลยหรือเอาน่า ไม่มีไรยากเกินไปหรอก เป็นกระเทยไม่สวยยังเป็นได้ก็ต้องขึ้นรถไฟได้เอ๊ะกรี๊ด....ร้านนี้บี๊มากๆแกไปสมัครเลยนะบิ๊ไรงงบีซี่ คริคริ ไม่รู้ล่ะสิ แบบนี้ล่ะ พวกมาใหม่ 555555เดี๋ยวตบไม่แบมือ ฉันจดมาเกือบสิบร้านด้วยความหวังอันเรืองรอง ฉันต้องรีบสมัครงานให้ได้ ฉันคือความหวังอันอันสดใสดั่งบั้งไฟพญานาคของทางบ้านเดินต่อมาอีกนิดถึงซับเวย์ ก้อบบอกให้ฉันซื้อตั๋วรายเดือน 76 เหรียญ สามารถใช้ได้ไม่จำกัดแถมสามารถเอาไปใช้ต่อรถเมล์ ลิเก ตำรวจสารพัดได้หมด อิอิ พอลงไปนั่งด้านใน สภาพของรถใต้ดินไม่ค่อยโสภานัก สถานี Elmhurst ดูเก่า รถไฟก็ดูโบราณ ไม่สวย ทันสมัยเหมือนของบ้านเราหรอกไม่ต้องไปกัดเขา อีนี่ ที่นี่เขามีใช้มา 100 ปีแล้ว ของเราเพิ่งมี ก้อบเริ่มอธิบายวิธีการใช้รถให้ฉันฟังอย่างผู้เชี่ยวชาญว่า เราอยู่ย่านQueen มันคือ Uptown เวลาจะลงไปสมัครงานตามร้านไทย ซึ่งส่วนใหญ่มันอยู่ในเกาะManhattan หรือย่านBrooklyn ก็ต้องหารถไฟสายที่มันวิ่งไป Downtown ถ้ารู้ชื่อถนนที่ร้านตั้งอยู่ เราก็ดูว่าสายไหนมันผ่านหรือจอดใกล้ที่สุด เวลาลงก็ตามป้ายไป ที่นี่ดีตรงที่ป้ายชัดเจน ดูง่ายแต่ช่วงแรกให้พกแผนที่ซับเวย์ติดตัวไว้ตลอด(ขอได้ที่เจ้าหน้าที่ทุกสถานี) แล้วเราจะไปร้านไหนกันก่อนดีลองไปร้านในเครือเผ็ดก่อนดีม่ะ บี๊มากๆ อย่างต่ำวันล่ะ 100 เหรียญกรี๊ด ไปๆ แต่แกไม่มีประสบการณ์อ่ะ ร้านนี้ใครๆก็อยากเข้า เอางี้ล่ะกัน แกสมัครตำแหน่ง Busboy หรือ Packer ล่ะกันทำไรมั่งอ่ะเออ...ลืมบอกไป ที่นี่นะ Busboy เก็บให้ไวใจต้องกล้า คือลูกค้ากินไรเสร็จเก็บจานออกให้หมด คอยเติมน้ำและไล่ลูกค้า Runner คือยกระห่ำเร็วกว่านรก ยกอาหารทุกชนิดที่ลูกค้าสั่งออกมาเสริ์ฟ Packer คือพวกที่คอยแพ็คอาหารเวลาลูกค้าสั่งทูโก Wait อันนี้ใครๆก็อยากเป็น เดินฉุยฉายถามลูกค้าว่าอยากกินไร พยายามคะยั้นคะยอให้ลูกค้ากินของแพงๆงานง่าย สบาย ใครๆก็อยากเป็น บางร้านมี Host ด้วยนะ แต่ส่วนมากเป็นผู้หญิง แกถึงแม้จิตใจเป็นแต่ร่างกายและหน้าตาไม่ให้ ฉันว่าง่ายสุดเลย Busboy ดีกว่า เอางั้นเลยหรือ แต่ฉันอายจัง ไม่กล้า กลัวนี่...มาถึงนี่แล้วนะ ยังไงก็ต้องสมัครให้ได้ งานที่นี่ต้องเดินเข้าไปหาฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พยายามควบคุมสติไม่ให้แตกกระเจิง เดินเข้าไปในร้านแรก ร้านเผ็ด(ชื่อร้านขออนุญาตเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้พาดพิงถึงใคร อิอิ) ภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้าทำฉันแทบช็อก ฝรั่งเต็มร้านชนิดแออัดยัดเยียด มีพนักงานคอยรับออเดอร์อยู่สองคน อีกคนกำลังเก็บจานประมาณ 10 ใบได้ซ้อนๆกันเดินผ่านไปหน้าตาเฉย สวนมาอีกหนึ่งคนยกอาหารมีจานในมือซ้าย 3 ใบ มือขวามีแกงอีกถ้วยใหญ่ ฉันยืนเก้ๆกังๆจนมีชะนีคิ้วจิกตรงรี่เข้ามามาสมัครงานนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ ฉันรอและหวังว่าจะได้รอยยิ้มนี่ใบสมัคร กรอกเลยคะ เดี๋ยวผู้จัดการจะมาสัมภาษณ์ อุ๊ย...ง่ายจัง แป๊ปเดียวกรอกเสร็จ ชายฝรั่งเดินเข้ามานั่งข้างๆเพ่งมองพินิจพิจารณาฉันยังกะดูสาวในตู้กระจกเคยทำงานที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า (ขอแปลเป็นไทยเลยนะ)ไม่เคย เพิ่งมาจากเมืองไทย นิ่งไปนิด แล้วทำงานได้วันไหนทุกวันโอเค แล้วจะติดต่อไป จบการสัมภาษณ์ในเวลาไม่ถึง 1 นาที ฉันรับรู้ได้ชัดเจนว่าหมดสิทธิ์ รีบเดินออกมาจากร้าน เป็นไงบ้างแกเขาไม่ค่อยถามไรเลย มีแต่มองฉันเหมือนตัวประหลาดไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าไม่ได้ร้านนี้ เขาคัดคนที่หน้าตา ร้านในเครือนี้ใครๆก็อยากเข้าทำไมแกไม่บอกฉันก่อนล่ะ ฉันจะได้ไม่มาสมัครถ้าฉันบอกแกก่อน แกก็ไม่ได้ประสบการณ์ดิ อย่ามัวเศร้าได้ๆ ฉันมีเวลาไม่มากกับความผิดหวัง ไปกันเถอะ"