แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
โชคเริ่มเข้าข้างคนสวย






เที่ยงวันแล้ว เมื่อคืนนอนหลับเต็มที่ แม้จะได้ยินเสียงไซเรนดังสนั่นหวั่นไหวทั้งคืน ไม่รู้ว่ามีไฟไหม้ คนตาย หรือแมวตกท่อกันแน่ เปิดได้ตลอด เหมือนเป็นสัญญาณประจำของเมืองนิวยอร์คไปแล้ว

ก้อบออกไปเรียนแต่เช้า เรียนเสร็จบ่ายก็ไปทำงานต่อเลย กว่าจะกลับมาอีกทีก็ตี 1 เดี๋ยวออกไปหางานอีกทีดีกว่า แม้จะตกปากรับคำว่าจะไปฝึกงานที่ร้านไทยเล็กๆแถวถนนคลินตันแล้ว แต่ฉันก็ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหางานต่อไป เพราะถ้าฝึกแล้วเขาไม่รับก็ต้องตกงานต่อไป

วันนี้เดินไปร้านน้ำตาลอีกครั้ง เผื่อมีงานใหม่ๆอัพเดทเข้ามา อุ๊ย....มีงานด้านแฟชั่นด้วย น่าสนใจดีแท้ๆ โทรไปสมัครดีกว่า

“สวัสดีครับ เห็นติดประกาศรับสมัครงานที่ร้านน้ำตาลครับ”
“คะ”
“ไม่มีทราบว่าคนเต็มหรือยังครับ อยากสมัครงาน ผมทำได้ทุกอย่างเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น….”
“ไม่รับผู้ชายคะ”
“อ้าว....หรือครับ”
“แค่นี้นะคะ” ตุ๊ดๆๆๆๆๆ แป่ว แม้แต่ร้านซักรีดก็ยังเรื่องมาก ไม่รับผู้ชาย อะไรกันนี่ ฉันก็ซักผ้าได้ พับผ้านี่เรียบเป็นกลีบกุหลาบ ทำไมไม่รับ ชิ เพิ่งมาจากกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นซะด้วย หึ

ไม่ท้อ ไม่ถอย ใจกล้า หน้าด้าน ลุยต่อไปอีกร้านชื่อโบราณมากๆ แถว Woodside ย่านนี้อยู่ในควีนส์ใกล้บ้าน ร้านอาหารไทยเยอะเหมือนกัน โผล่หน้าเข้าไป ลูกค้าเยอะมาก ขายของสารพัดอย่างแบบไทยแท้ และพนักงานทุกคนดูวุ่นวาย ฉันพยายามเรียกร้องความสนใจหลายวิธีแต่ก็เหมือนไร้ค่า ดูๆแล่วที่นี่คงไม่เหมาะกับฉันตามเคย เพราะไม่เห็นมีพนักงานผู้ชายสักคน มีแต่ทอมเต็มร้าน ขอบอกว่ามีตั้งแต่ทอมรุ่นบุกเบิกจนกระทั่งถึงทอมรุ่นฝึกหัด ไม่ไหวล่ะ จักรราศีของฉันหมุนโคจรแบบไม่ค่อยกินเส้นกับทอมมาแต่ไหนแต่ไรเผ่นดีกว่า

นกอีกตามเคย งานบินหนีไปจากชีวิตแล้วหลายร้าน ฉันหาข้อมูลก่อนมาว่ามีร้านไทยทั่วนิวยอร์คประมาณ 80 ร้าน นี่ฉันไล่สมัครไปเกือบ 30 แล้ว ถ้าไม่ได้งาน ฉันไม่ต้องย้ายหนีไปเมืองอื่นหรือนี่ เส้นสายก็ไม่มี สังคมไทยก็ยังเป็นระบบอุปถัมภ์เหมือนเดิม ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่อีกซีกโลกก็ตามที
บ่ายแล้ว ฉันนั่งอยู่บนรถใต้ดินมุ่งลงสู่แมนฮัตตัน แทบทุกครั้งที่ใช้บริการ ฉันจะเจอคนขายลูกอม ขนม ขอทานพิการ นักดนตรี หรือแม้แต่นักเต้นแร๊พโย่ว ขึ้นมาแสดงสดให้ดูในโบกี้เพลินดีเหมือนกัน อยากให้เงินบ้าง ได้แต่คิดในใจ เพราะฉันก็ตกงานอยู่ มีเงินติดตัวมาจากเมืองไทยก็แค่ 400 เหรียญ ตอนนี้เหลืออยู่ 300 เอง รอให้ฉันได้งานก่อนนะเพื่อนๆนักแสดงทั้งหลาย
ฉันมาถึงร้านก่อนเวลาเปิดเกือบครึ่งชั่วโมง ยืนรออยู่หน้าร้าน จนผู้จัดการมาถึง พี่แกดูท่าทางห้าวๆฉันไม่แน่ใจอีกแล้ว แกสอนฉันตั้งแต่การเปิดร้าน ยกโต๊ะ เก้าอี้ลง ปัด กวาด เช็ด ถูร้าน จนกระทั่งเข้าครัว หน้าที่หลักที่ฉันจะฝึกในวันนี้คือการเป็นรันเนอร์

ร้านนี้เป็นร้านเล็ก มีโต๊ะประมาณ 12 ตัว มีพนักงานเสริ์ฟ 1 คน มีฉันยกอาหารแล้วก็มีผู้จัดการ หน้าที่แรกที่ฉันต้องทำคือการหุงข้าว อันนี้ไม่ยาก จากฉันก็จัดเรียงข้าวของต่างๆที่ขาดให้เต็ม เดินขึ้นเดินลงห้องใต้ดินกว่า 10 รอบ แล้วเวลาทำงานก็มาถึง เมื่อลูกค้าเริ่มเข้าร้าน
เสียงอี๊ดๆๆๆๆของเครื่องพริ้นส่งออเดอร์ อาหารเข้ามา ฉันแยกออกเป็น 2 ส่วน อันหนึ่งให้แม่ครัว ส่วนฉันเอามาเช็คดูว่ามีอะไรบ้าง วัฒนธรรมฝรั่งจะกินเป็นระบบ 3 คือเริ่มที่แอ๊บ ต่อด้วยเมนแล้วปิดท้ายด้วยของหวาน โต๊ะนี้สั่ง ขนมจีบ หยิบที่ทำสำเร็จไว้แล้วออกมาเวป 2 นาที จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ยกออกไปเสิร์ฟ กะเวลาแขกกินหมด รีบออกไปเก็บจานแล้วกลับมายกผัดไทยออกไปเสิร์ฟต่อ กินหมดไปเก็บจาน แล้วยกของหวานออกไปต่อ วนเวียนเป็นกงกรรมกงเกวียนอย่างนี้ เดินเข้าเดินออกไม่หยุด

กว่าจะปิดร้านก็ 5 ทุ่ม นั่งกินข้าวกันแล้วแยกย้ายกันกลับ หลังเที่ยงคืนไปนานๆทีกว่ารถจะวิ่งสักขบวน ฉันรอด้วยใจจดจ่อ มองไปรอบๆตัว เจอแต่เพื่อนร่วมอาชีพ ส่วนมากเป็นพวกโก้ คงเพิ่งเลิกจากาการทำงานในครัวเหมือนกัน รถมาแล้ว ฉันเลือกนั่งโบกี้ที่มีคนอยู่เยอะสุด ถ้าจะให้ดีก็หาโบกี้ที่มีคนเอเชียด้วยกันดูอุ่นใจ

ตี 1 ฉันมาถึงสถานี Roosevelt พอขึ้นจากสถานีใต้ดินมา ฉันรีบสาวก้าวไวๆดึกๆอย่างนี้ไม่ค่อยมีรถ ฉันจึงลงมาเดินเกือบตรงกลางถนนตามที่ก้อบบอก สวยซ่อนในอย่างฉันก็ต้องระวังภัยเหมือนกัน

“Hi How are you” ฉันหันไปตามเสียงทัก ในมุมแสงสลัวๆใต้เสาไฟ ฉันเจอสิ่งมีชีวิตที่สูงพอๆกับต้นตาล ร่างกำยำ ดำทมึน ในชุดกระโปรงสั้น เธอแสยะยิ้มนิดๆอย่างคิดว่าสวยให้ฉัน ก่อนตรงเข้ามาหา

“ไปไหนจ๊ะรูปหล่อ”
“มาคนเดียวหรือ”
“สนใจไหม”
“20”

หล่อนเริ่มเปิดการขาย ฉันได้แต่อึ้ง นึกไม่ถึงว่าเมกาก็จะมีผีขนุนของจริงด้วย
“ไม่ ไม่ ไม่” ฉันตอบแล้วรีบวิ่งหนี ได้ยินเสียงลอยๆตามมาว่าฟักทองไรงี้ล่ะ
“นี่...เป็นอะไร ทำหน้าตื่นมาเชียว”
“แก...ฉันเจอกระเทยเสาธงจิก”
“กรี๊ด..............................ผีเห็นผี55555555555555555”
“นี่...เพื่อนกำลังเสียขวัญ ยังมีน่ามาหัวเราะ”
“เจอที่ไหน”
“หัวมุมถนน”
“อ๋อ อีข้าวนอกนาล่ะสิ มันยืนอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่ฉันมาแล้ว ตอนแรกๆฉันก็กลัว แต่เดี๋ยวนี้ชิน”
“ช่ายๆ อูยยยยย น่ากลัวมาก หน้าตาแบบนี้ ยังกล้ามาขายตัว เสียสถาบันกระเทยหมด”
“ไปว่าเค้า เมืองใหญ่แบบนี้ทุกคนก็ต้องเอาตัวรอดหมดล่ะ แกก็เหมือนกัน ฝึกงานเป็นไงมั่ง”
“ก็ดีอ่ะ แต่ฉันว่าร้านมันไม่บี๊เลย”
“ฉันก็สืบมาเหมือนกัน วันหนึ่งไม่เกิน 50 บาท แถมมีเรื่องไม่ค่อยดี”(คนไทยเรียกเงินเหรียญว่าบาท)

“ยังไง”
“เขาว่าชอบรับเด็กฝึกงานแล้วก็ไม่ให้งาน เหมือนหลอกใช้ เพื่อนกระซิบมา”
“เอ๊ะ...น่าเกลียด งั้นฉันไม่ไปฝึกล่ะแบบนี้”
“อืม..ก็ดีเหมือนกัน ลองๆค่อยหาไปดีไหม ยังไงแกก็ทำงานได้เต็มวัน ไม่ต้องเรียน ฉันอยากให้แกได้งานร้านดีๆแกจะได้เก็บเงินส่งไปให้ที่บ้านได้เยอะๆ ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันไปก่อน อย่างน้อยก็ประหยัดค่าที่พัก”
“ก็ดีเหมือนกัน เห้อ...ทำไมมันหางานยากอย่างนี้นะ ฉันนึกว่าจะมีงานเต็มไปหมด”
“คนอยู่เมืองไทยก็คิดกันแบบนี้ล่ะ นึกว่าหางานง่าย งานสบาย รายได้ดี”
“โชคดีนะที่ฉันมีแก ถ้าฉันมาแบบไม่มีใคร ฉันคงแย่แน่ๆ”
“จ้า เพื่อนสาว”
คืนที่สามของฉันในเมืองนิวยอร์คกับเงินที่เริ่มร่อยหรอลงทุกวัน ฉันจะทำยังไงดี นอนไม่หลับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็ก รถตำรวจเปิดหวอดังสนั่นวิ่งผ่านไป คิดถึงบ้านอีกแล้ว คิดถึงเชียงใหม่ด้วย ดึกๆแบบนี้อยากขี่รถเครื่องออกไปหาไรกิน ข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม ไก่โลกแตกกำแพงดิน โอย....ไม่อยากคิด ยังไงฉันต้องเข้มแข็งไว้ พรุ่งนี้ขอให้เป็นวันของฉันบ้างเถอะนะ






Create Date : 20 มีนาคม 2550
Last Update : 22 มีนาคม 2550 11:58:41 น. 5 comments
Counter : 794 Pageviews.

 
อิอิ


โดย: เสมิง (Be a good guy ) วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:19:41:23 น.  

 
อย่าลืม โบ้ก อี้ด หลังโรงฆ่าสัตว์ เปิดถึงเจ้า


โดย: สะล้อ IP: 72.196.242.187 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:2:41:36 น.  

 
จิงสิคับ
โลกแห่งความเป็นจริง
มันไม่สวยงามเหมือนที่คิดหรอก
ขออย่างเดียว

อย่าท้อ...


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:11:59 น.  

 
หลายๆ คนนะชอบว่าพวกเราทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง แต่ผมไม่สนหรอก ผมทำงานใช้แรงแลกเงิน ไม่ได้ไปโกงกินใคร จะผิดก็แค่ไม่มีวีซ่าเอง พอดีที่บ้านไม่ได้มีมรดก พ่อแค่ก็ครูบ้านนอก แม่ก็แค่แม่ค้าขายเสี้อผ้าตลาดเช้า เค้าส่งเราจบป ตรี ได้ก็บุญหัวแล้วนี่เค้ายังส่งให้มาเรียนนอกอีก แต่มันดันไม่จบนี่หว่า ก็ต้องหนีวีซ่าดิ ถึงเวลาทำงานทดแทนคุณแล้ว


โดย: Woody IP: 203.122.112.22 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:4:03:17 น.  

 
อ่านแล้วขำดีค่ะ...เขียนเก่งจัง


โดย: ซ่อนทรายแก้ว IP: 58.9.196.141 วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:20:58:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.