แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 

ตอน 6 เจ็บก็ทน ช้ำก็จะทน






ฉันกระพริบตาถี่ๆกรอกลูกตาไปมา เรียกสติให้ฟื้นตื่นอีกครั้ง แต่หัวที่หนักเหมือนถูกธิดาช้างนั่งทับไว้ ทำให้ฉันแทบทรุดลง ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะพยุงตัวให้ลุก ทำให้ฉันล้มตัวลงไปนอนแผ่ ร่างกายที่เคยคิดว่าแข็งแรง เริ่มออกอากาศว่ารับไม่ไหว

แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ากำลังซมเพราะพิษไข้ แต่ฉันก็ยังมุ่งมั่นไปฝึกงานเป็นวันที่สอง เหมือนเช่นเคย ทุกคนพยายามช่วยอย่างเต็มที่ ด้วยสารพัดคำหยาบคายที่สบถออกมา เพื่อให้ฉันยกจาน 4 ใบ ออกไปพร้อมกันให้ได้ ตัวร้อนผ่าว หน้าเริ่มมืด มือที่ไร้แรงเริ่มสั่น

“ไม่ไหวแล้วล่ะแบบนี้”
“ถ้าทำไม่ได้ เขาก็คงไม่รับเข้าทำงานหรอก ไม่มีใครอยากได้คนมากินแรง”
“ไอ้เหี้....กูไม่เคยสอนมึ...ทำแบบนี้นะ”
เหลือสุดความอดทน ฉันได้แต่นึกถึงคำพูดของก้อบ ถ้ามีอะไรที่เราทนไม่ได้ เราก็ต้องอดทนต่อไป ฉันก็ยังก้มหน้าก้มตาทำงาน แม้รอบตัวจะเต็มไปด้วยเสียงค่อนขอด

“ห้ามเอาไปลงผิดโต๊ะเด็ดขาด จำโต๊ะได้ยังนี่”
“ยกไปกลับมาภายใน 20 วิ”
“ว๊าย...ตัวเอง ทำไมแขนอ่อนจัง”
ฉันยกอาหารไปลงโต๊ะแถวเอ กว่าจะเดินไปถึงจานแทบหลุดออกจากมือ โชคดีที่เวทคนหนึ่งเห็นเข้าจึงรีบออกมารับช่วยลงอาหารให้

“เพิ่งมาใหม่หรือครับ”
“ครับ มาฝึกเป็นวันที่สอง”
“ทำไมรีบจับสี่ล่ะครับ มันยาก ตอนแรกๆน่าจะจับแค่สามจานพอแล้ว”
“อ๋อ อยากฝึกครับ”
“พยายามเข้านะครับ ถ้าผ่านช่วงฝึกไปได้ เดี๋ยวก็เก่งเอง”

ฉันขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนเดินเข้ามาในครัว ซึ่งตอนนี้มีจานอาหารรอให้ยกอยู่อีกเป็น 10 ใบ ในใจแช่มชื่นขึ้น แม้เป็นเพียงคำพูดของคนเพิ่งรู้จัก กลับทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้นอย่างมหาศาลที่จะต่อสู้กับกองทัพจานเบื้องหน้า

ฉันตั้งใจทำงานมากยิ่งขึ้น แม้จะยกออกสี่ใบพร้อมกันไม่ได้ แต่ฉันพยายามเดินกลับมาเข้าออกอย่างรวดเร็ว แต่ความไวก็ทำให้ฉันพลาด ฉันกำลังใช้เท้าผลักถีบประตูออกไป เป็นเวลาเดียวกับที่รันเนอร์อีกคนกำลังเตะประตูด้านนอกสวนเข้ามา วินาทีนั้นฉันรู้สึกถึงความเจ็บจึ๊กลงไปที่เล็บเท้า แต่อาหารอยู่ในมือฉันกัดฟันถือออกไป

เกือบตี 3 ฉันกลับมาถึงบ้าน อาบน้ำอย่างเงียบๆแล้วกลับเข้ามาห้อง ก้อบหลับไปแล้ว ฉันมองดูเท้าชัดๆอีกครั้ง นิ้วก้อยกลายเป็นสีดำ เหมือนเลือดไปคั่งอยู่ข้างใน รอบๆเริ่มบวมเป็นสีแดง มีอาการปวดตุ๊บๆ

วันที่สามของการฝึก ฉันต้องเดินแบบกระเพลกๆมีคนเริ่มสังเกตอาการออก ฉันตอบไปตามตรงว่าเจ็บเท้า แต่งานที่ฉันต้องทำก็ยังดำเนินต่อไปไม่มีเปลี่ยน ผู้จัดการร้านเข้ามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง พร้อมกำชับกับเพื่อนรันเนอร์ว่าให้ช่วยเทรนงานให้ดี เพราะคืนนี้เสร็จงานแล้วจะเรียกไปถาม ทุกคนจึงพุ่งเข้ามาไซโคฉันทันที
“โอกาสสุดท้ายแล้วนะ ทำไม่ได้ ปิ๋วนะ”
“พี่จะบอกตามจริงนะ”
“เห้อ”

สารพัดเสียงที่ให้กำลังใจเหลือเกิน ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่า มีอะไรแปลกๆในขณะที่ผู้จัดการบอกว่าขาดคนทำงาน เพราะกำลังมีคนจะกลับเมืองไทย พร้อมรับฉันเข้ามาฝึก แต่ทำไมเพื่อนร่วมงานดูไม่ค่อยพอใจกับฉันนักหนา

“ไม่รู้จะรับคนเพิ่มทำไม คนออกคนเดียวก็ให้พวกเราแชตารางกันเพิ่ม แค่นี้ก็จบ” ฉันได้ยินเสียงบ่นกระทบมาแบบตั้งใจให้ได้ยิน มันเหมือนเป็นคำตอบของทุกอย่างที่ฉันเจอมาตลอดการเทรนงาน
“นั่นดิพี่ สองวันก่อนก็รับคนมาเทรนงาน มาวันเดียวก็หนี” ฉันเริ่มรับรู้ถึงชะตากรรม
ตี 2 กว่าแล้ว ฉันนั่งอยู่ต่อหน้าผู้จัดการ บรรยากาศรอบตัวดูอึมครึม น่าอึดอัด ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย
“นี่เงินค่าเทรนครับ”
“ผมผ่านการเทรนไหมครับ” ฉันแกล้งถาม
“เออ...พี่เขาบอกว่าน้องยังไม่คล่อง ไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้หรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเพิ่งมาจากเมืองไทย ผมทำไม่ได้จริงๆครับ”
“พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น แต่พี่อยากให้น้องพยายาม พรุ่งนี้น้องมาอีกวันได้ไหมครับ พี่จะพูดกับเจ้านายใหญ่ให้”
“พี่ให้โอกาสผมอีกหรือครับ”
“พรุ่งนี้เวลาเดิมมาเทรนงานอีกวันนะ”

เกือบตี 4 ฉันเปิดซองออกมาดู นับเงินด้วยอาการมือสั่น 35 เหรียญ เงินก้อนแรกในชีวิตที่ฉันหาได้ในนิวยอร์ค ฉันบรรจงพับแบ็งค์ 1 เหรียญแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าข้างผ้าซิ่นของแม่ ขอให้ใบนี้เป็นเงินขวัญถุงของฉันนะ จาก 1 จะต้องกลายเป็น 100 เป้าหมายของฉันอยู่ที่ 10,000 เหรียญ เพื่อส่งกลับไปใช้หนี้สินทางบ้านให้หมด

เช้าวันใหม่ ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเสียงก้อบปลุก รู้สึกชาไปทั้งขา พอจะยันลุกก็เจ็บแสบนิ้วเท้า มองดูอีกครั้งฉันแทบช็อก นิ้วก้อยของฉันตอนนี้บวมเป่งออกมาลูกใหญ่พอๆกับนิ้วหัวแม่เท้า รอบๆคล้ำช้ำห้อเป็นจั้มๆ เล็บฉีกหงายออกมาจนเลือดซึม

ฉันค่อยๆใช้กรรไกรตัดเล็บเล็มออกทีละน้อย ก่อนจะตัดสินใจดึงเล็บออกมาทั้งหมด น้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม ใครที่เคยเล็บหลุดคงจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดตอนถอดเล็บออก
“ว๊ายยยยย อีกระเทยซาดิสต์ อี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไม่เจ็บหรือ”
“ดูน้ำตาฉันสิ มันคือคำตอบ”
“อึ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆพอๆๆๆๆๆๆๆๆไปล้างออกไปเลือดสาด โอยยยจะเป็นลม”
“บร้า แสบจะตาย รอก่อน”

“ไปโดนใครกระทืบมาหึ”
“เตะประตูชนกันตอนยกจานออก”
“อูย..สยอง เห้อ...จะไปฝึกไหวไหมนี่”
“ก้อบ ฉันไม่อยากไปแล้วอ่ะ ฉันคงทำไม่ได้”
“อย่าเพิ่งท้อสิ ตอนแรกๆทุกคนก็เป็นอย่างนี้ล่ะ ต่อไปแกก็ทำได้เอง ดูพวกดาราสิ มาที่นี่ก็ทำงานเหมือนพวกเราล่ะ ตูมตามงี้ ไทเทเนียมก็ทำ โดนัทยังมาหางานทำเลย มือบางๆอย่างพวกเขายังยกจานได้ แล้วทำไมมือหนาๆจับจอบจับไถมาก่อนอย่างแกจะทำไม่ได้”

“อูย..ขนาดนั้นเลยหรือ แต่แก...ฉันไม่มีปัญหาเรื่องงานนะ ผจก.เขาก็ให้โอกาส แต่ฉันว่าเพื่อนร่วมงานเขาไม่อยากให้ฉันทำด้วยนะแก”
“อะไร ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ฉันได้ยินเขาพูดกันประมาณว่าอยากแชตารางคนที่จะออกไปมากกว่าที่จะรับคนใหม่เข้ามาทำ”
“มาแบบนี้อีกล่ะ เกลียดพวกนี้มากเลย มันไม่เคยให้โอกาสคน มันอยากแบ่งตารางกันทำงานนะสิ มิน่ามันถึงดูไม่ค่อยพอใจแก มันจะเอาอะไรมากมายกับคนเพิ่งมาแค่ไม่ถึงอาทิตย์”

“แล้วฉันจะทำไงดี เห้อ...ทำไมมันมีอุปสรรคเยอะอย่างนี้นะ ชักท้อแล้วสิ กลับบ้านดีกว่าไหม”
“งั้นไม่ต้องไปร้านนี้แล้วล่ะ ตอนนี้ร้านฉันมีรันเนอร์กำลังจะลาออกไปเรียนที่เมืองอื่น แกไปสมัครไหม แต่ร้านมันอยู่ไกลนะ รายได้ก็ไม่ค่อยดีเหมือนในเมือง ฝึกงาน 7 วัน แกจะไหวไหม”

“เอาแก เอา ฉันคงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ ฉันเพิ่งมา ฉันต้องยอมรับสภาพ”
“แล้วแกจะไปฝึกไหวไหมนี่ 7 วัน ในสภาพขาพิการ โอย...ไม่อยากคิด”
ก้อบพูดอย่างสมเพช ก่อนรื้อกระเป๋าที่เอามาจากเมืองไทย ก่อนหายาทาแผลสดให้ฉัน เจ็บนี้อีกนาน โอย..................





 

Create Date : 22 มีนาคม 2550
5 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2550 11:55:37 น.
Counter : 954 Pageviews.

 

ขอประเดิมเข้ามาทักทายเป็นคนแรกเลยนะคะ

 

โดย: haha hasuki (haha hasuki ) 22 มีนาคม 2550 12:02:36 น.  

 

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ

 

โดย: Noo-Dew (Dewreeya ) 22 มีนาคม 2550 12:39:44 น.  

 

ชอบเพลงนี้เหมือนกันเลยค่ะ ตอนนี้เป็นเพลงประจำตัวเหมือนกันเพราะอยู่ไกลบ้านเหมือนกัน

ติดตามอ่านงานคุณสมิวมาตลอดเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจค่ะ ถ้าได้ออกหนังสือ กลับไปไทยแล้วจะอุดหนุนนะคะ

 

โดย: GMT IP: 82.39.50.109 23 มีนาคม 2550 4:37:44 น.  

 

ทำไมมันแย่หยั่งงี้น่ะ
คนไทยมักเป็นหยั่งงี้คับ

ยิ่งถ้าได้อยู่ด้วยกันสักพัก
เค้าจะเห็นคนอื่นเป็นคนนอกหมด

ต้องพยายามเข้าเป็นพวกเค้าให้ได้
ต้องพยายามคับ

 

โดย: Kurt Narris 28 พฤษภาคม 2550 6:24:37 น.  

 

ก่อนอื่นเลยขอนุยาดเป็นแฟนคลับคุณสมิว ด้วยคนนะคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ


(แต่ปัจจุบัน คุณสมิวออกเป็นหนังสือแล้วช่ายไม๊คะ ยินดีด้วยนะ)

 

โดย: พ่อหนุเป็นคน 101 ฮิๆๆ IP: 203.155.159.7 4 ธันวาคม 2551 15:40:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.