นักสืบพราน - เรื่องที่ 7 นมถ้วยสุดท้าย (ตอนที่ 9)
โดย 4411
กัลยา ชาญวิทยา เปิดบังตาเข้ามาในห้อง เมื่อหัวหน้าของเธออยู่ตามลำพัง พราน กำลังจดบันทึกข้อความสนทนาระหว่างเขา กับจำนงค์ อยู่ เขาเงยหน้าขึ้น เมื่อ กัลยา ทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของเขา
มีอะไรหรือ กัลยา
คุณดนัย มาพบหัวหน้าเมื่อตะกี้นี้ กัลยา เอ่ยขึ้น ดิฉันเห็นว่า หัวหน้ากำลังมีแขกสำคัญอยู่ เลยได้สอบถามแกเอง แกบอกว่า แกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากทางสำนักงานของเรา ในเรื่องเลขานุการที่บริษัทของแกหายไป พร้อกับเงินสด สี่หมื่นกว่าบาท
แกควรจะไปพบตำรวจ เรายังไม่ได้รับเป็นนักสืบประจำสำนักงานของแก พราน พูด ทั้ง ๆ ที่กำลังก้มหน้าเขียนหนังสืออยู่
แกบอกว่า สาเหตุมันเกี่ยวเนื่องกับสำนักงานของเรา เพราะว่า มันเกี่ยวกับเมื่อครั้งเกิดเรื่องรถชนกันที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งหัวหน้าได้สั่งให้จ่ายเงินให้กับ นายวิชาญ เป็นค่าเสียหาย ห้าพันบาท
แกยินยอมจ่ายเอง - ผมไม่สั่ง แล้วมันเกี่ยวกันยังไง
คือว่ายังงี้ค่ะ - เมื่อแกตกลงจ่ายเงิน ห้าพันบาท ตามที่หัวหน้าแจ้งไป แกก็ให้เลขาของแกเขียนเช็คจำนวน ห้าพันบาท ให้แกเซ็น ในวันนั้น มีเช็คหลายฉบับที่แกจะต้องเซ็น และมีเช็คจำนวนนั้นรวมมาด้วย แกได้ลงนามไปโดยไม่ได้ตรวจดู เพราะเลขาคนนี้ แกไว้ใจมาก อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เปิดบริษัท
พรานเงยหน้าขึ้น เขามองหน้า กัลยา แต่เราได้รับเงินสดจากบริษัทไทยรวมค้า ไม่ใช่เช็ค ในคราวนั้น ไม่ใช่หรือ กัลยา
ถูกต้องแล้วค่ะ นั่นนะซีคะ ดิฉันจึงได้บอกแกไปว่า เราได้รับเงินสด โดยมีผู้หนึ่งจากบริษัทไทยรวมค้า นำมาให้ ดิฉันได้เซ็นรับไปแล้ว
แล้วยังไง - ถ้าจะสนุกดี ว่าต่อไปถี กัลยา
พอดิฉันบอกแกอย่างนั้น ก็ยิ่งทำให้แกแน่ใจใหญ่ว่า เงินจำนวนที่ขาดหายไปจากบริษัท คงไปกับเลขานุการคนนั้น เพราะหลังจากวันที่แกจ่ายเงินจำนวนนั้นมาให้กับเราแล้ว เลขานุการของแกคนนั้นก็ไม่ได้กลับมาทำงานอีกเลย ทั้งไม่ได้ทิ้งใบลา หรือสั่งเสียกับใครไว้ แกได้ให้เด็กไปตามที่บ้าน ก็ไม่พบตัว และรออยู่ ๒ ๓ วัน ก็ไม่ได้ข่าว แกจึงได้สำรวจจำนวนเงินของบริษัท และติดต่อไปทางแบงค์ จึงได้ทราบว่า เช็คที่แกเซ็นชื่อไปจำนวน ห้าพันบาทนั้น ได้ถูกเขียนเป็นตัวหนังสือ ในปลายขั้วเช็คสั่งจ่ายว่า ห้าหมื่นบาท และที่ช่องตัวเลข มีรอยเติมเลข 0 ต่อท้ายลงไป เช็คจำนวน ห้าพันบาท ไม่มีปรากฏ แกจึงเข้าใจว่า เป็นการกระทำของเลขานุการคนนั้น
ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย
ผู้หญิงค่ะ ชื่อ วิไล
พราน ใช้นิ้วเคาะโต๊ะ เขาบอกที่อยู่ของเลขานุการ ไว้ให้หรือเปล่า
อยู่ตรอกขี้เถ้า บ้านเลขที่ ๔๕
พราน ยักไหล่ เขาพูดว่า เราไม่มีเวลาที่จะทำงานเรื่องอื่น เวลานี้ คุณก็รู้อยู่
เพราะฉะนั้นซีคะ กัลยา พูดยิ้ม ๆ ดิฉันจึงได้บอกแกว่า เวลานี้ หัวหน้ากำลังไม่ว่าง เพราะมีงานเรื่องอื่นที่จะต้องทำ แกถามว่า เรื่องตำรวจยิงตัวตายใช่ไหม ดิฉันบอกว่า ยังไงไม่ทราบ เป็นแต่หัวหน้าสั่งว่า ไม่ให้ติดต่อรับงานจากใครในระหว่างนี้ แกก็รีบลุกขึ้นและลงไปทันที ทิ้งก้นบุหรี่ไว้กองพะเนินในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะของดิฉัน ตลอดเวลา แกสูบบุหรี่มวนต่อมวนไม่หยุดปากเลย
แกเป็นคนสูบบุหรี่จัดอย่างนั้นเอง ผมไม่เคยเห็นปากแกว่างบุหรี่ เวลาที่เคยคุยกัน ทิ้งไว้ก่อนเถอะเรื่องนั้น ดีแล้วที่คุณบอกแกไปอย่างนั้น
ดิฉันได้สั่งให้คุณพิชิต ไปดูบ้านเลขที่ดังกล่าวนี้ด้วยแล้ว เผื่อหัวหน้าอาจจะแบ่งเวลาได้ และอยากจะรู้อะไรบางอย่าง และได้ให้แกเลยไปฟังข่าวเรื่องนี้จากพนักงานในบริษัทไทยรวมค้าด้วย เป็นหนทางประกอบความรู้ ถ้าเผื่อเราจะคิดรับงานนี้ขึ้นมา
พราน เงยหน้าขึ้นมองเลขานุการของเขา แล้วเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ หัวเราะเบา ๆ ไม่ได้พูดว่าอะไร
กัลยา พูดขึ้นอีก เมื่อตะกี้นี้ หัวหน้าพูดถึง ตาทับ คนขี่รถสามล้อ ค้างอยู่ พอดีคุณเกรียงมาขัดจังหวะ ทำให้ชงักไป แล้วก็เลยมีเรื่องอื่น ๆ แทรกเข้ามา หัวหน้าต้องการพูดกับสารวัตร พจน์ เรื่อง ตาทับ ใช่ไหมคะ หรือเราจะให้คนของเราไปติดต่อเอง
พราน ขยับตัวขึ้นมานั่ง จริงซิ กัลยา ผมเกือบลืมไปเสียแล้ว ต่อโทรศัพท์ถึง สารวัตร พจน์ ให้ผมหน่อย ผมจะพูดกับแกเองดีกว่า
กัลยา จัดการต่อโทรศัพท์ และส่งหูโทรศัพท์ให้กับหัวหน้าของหล่อนตามความต้องการ พราน พูดในเครื่องโทรศัพท์ สวัสดีครับ ท่านสารวัตร
สวัสดี พราน เสียงสารวัตร พจน์ ดังมา
ท่านสารวัตรครับ ผมอยากพบกับ นายทับ คนขี่รถสามล้อสักหน่อย จะขัดข้องไหมครับ
พราน - คุณยังไม่รู้อะไรหรอกหรือนี่ - ตาทับ นั้น ตำรวจเขาปล่อยตัวออกไปเมื่อวานนี้เอง แล้วคุณรู้อะไรไหม ตาทับ ถูกฆ่าตายเสียแล้ว เมื่อคืนนี้ โดนยิง ในขณะที่ขับขี่สามล้อเปล่าไปตามถนนพญาไท ตอนประมาณ สี่ทุ่ม
พราน นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขาเม้มริมฝีปากแน่น ผมโง่ไปถนัด ที่ลืมให้ระวังป้องกัน ตาทับ ไว้เสียแต่ทีแรก ผมเพิ่งจะนึกขึ้นได้เมื่อตะกี้เอง แต่ยังช้ากว่าไอ้วายร้ายนั้น ท่านสารวัตรครับ ตาทับ ไม่ได้พูดอะไรก่อนตายเลยหรือครับ
ไม่มีทางพูดอะไรเลย โป้งเดียว พับลงมาจากรถสามล้อ
ไม่มีใครรู้เห็นอะไรเลยหรือครับ
ไม่มีเลย ถนนพญาไท ตอนทุ่งพญาไทเก่า คุณก็รู้ว่า มันเงียบอย่างไร เวลาสี่ทุ่มเศษ ๆ แถว ๆ นั้น
มันทำให้คดีของเรายากขึ้นอีก แต่มันทำให้ผมมั่นใจยิ่งขึ้นว่า การตายของ หมู่อรัญ ไม่ใช่อัตตวินิบาตกรรม แน่ ๆ บ้าน ตาทับ อยู่ที่ไหน ทราบไหมครับ
บ้านของแกอยู่ที่ซอยกิ่งเพชร ทำไมแกถึงได้ดิ่งไปที่ถนนพญาไท โฉบหน้าไปทางอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในเวลาดึกเช่นนั้นก็ไม่รู้ รถเปล่าเสียด้วย อาจเร่หาผู้โดยสาร หรืออะไรอย่างหนึ่งก็ได้ มันก็แปลกอยู่ แต่ว่า เราได้วัตถุพยานเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง
อะไรครับ พราน ถามขึ้นโดยเร็ว
เราได้หัวกระสุนในกระโหลกศีรษะของ ตาทับ เพราะกระสุนฝังใน เป็นการยิงที่แม่นไม่ใช่เล่น ๆ - พราน นัดเดียว ที่หัวสมอง
ดีจริง พราน อุทาน เป็นวัตถุพยานที่จะมีค่ามาก ท่านสารวัตรเก็บไว้เองหรือเปล่าครับ
อยู่ที่กองวิทยาการ เขากำลังพิสูจน์อะไรบางอย่างอยู่
ถ้าอย่างนั้น เรื่องของเราเห็นจะง่ายเข้าอีก
คุณหมายความว่าอย่างไร พราน
พราน ไม่ตอบ เขาหัวเราะเบา ๆ สวัสดีครับ ท่านสารวัตร
เขาวางหูโทรศัพท์ลง โดยไม่ได้รอคำพูดจากอีกฝ่ายหนึ่งเลย
Create Date : 20 ตุลาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2555 21:05:17 น. |
Counter : 787 Pageviews. |
|
|
|