ปัตตานี เบตง นราธิวาส : เดินทางไปนราธิวาส, พักที่ใจดีจริงจริง&คาเฟ่ ใจใส
ลงจากฆูนุงซีลีปัต ประมาณ 9 โมงเช้า วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2564 บังยีแวะส่งสมาชิกร่วมกรุ๊ป ที่ร้านข้าวมันไก่ (ไม่ควรพลาด) ร้านเจริญข้าวมันไก่เบตง
แต่เรากับพี่สาวจะเดินทางต่อเลยอด....บังยีพาเข้าไปเอากระเป๋าเดินทางที่โรงแรม แล้วมาส่งคิวรถ ข้างตู้ไปรษณีย์
เรานั่งแท็กซี่ คนละ 200 บาท มาลงขนส่งยะลา
แท็กซี่ นั่งหน้าคู่คนขับ 1 คน นั่งหลัง 3 คน ผู้โดยสารตัวไม่ใหญ่มากก็พอนั่งได้ค่ะ
จากขนส่งยะลา เรานั่งรถตู้จากยะลา (คนละ 120 บาท) มาลงนราธิวาส
จากขนส่งนราธิวาสเดินมา รร. ที่พัก หารถรับจ้างไม่มี มีแต่มอเตอร์ไซต์ก็ติดกระเป๋าเดินทางกันอีก...
ดูจาก google map เหมือนไม่ไกล เดินลากกระเป๋ามาเลยละกัน (พอได้หอบอยู่ล่ะ)
ที่พักคืนนี้ ชื่อ ใจดีจริงจริง & cafe ใจใส เห็นจากรีวิว น่ารักดี เพิ่งโทร.มาจองคืนก่อนวันเดินทาง คืนละ 700 บาท เราจอง 2 คืน
บริเวณคาเฟ่ อยู่ด้านหน้าค่ะ เช็คอินที่นี่ด้วยเลย
ภายในห้องก็ตกแต่งดี เสียตรงปลั๊กน้อยไปหน่อยมีแค่ตรงหัวเตียง ไม้แขวนเสื้อมีแค่ 2 อันแขวนเสื้อคลุมไว้อีก
มีประตูเปิดออกระเบียงเล็ก ๆ ด้วยค่ะ
ทางเดินหน้าห้องพัก มีกาแฟ น้ำเย็นบริการ ส่วนกลาง ตรงทางขึ้นลงบันได
มุมเก๋ ๆ ระหว่างทางเดิน
ตรงนี้บริเวณชั้น 1 (เราพักชั้น 2)
ประมาณ 4 โมงเย็น ได้เวลาเดินเล่น ชมเมืองค่ะ
ตลาดเย็น
ไข่มดแดงก็มี
ขนมจูโจ ขนมจูจุ้น หรือขนมฝักบัวบ้านเรา, ขนมซาลาเปาทอด หรือขนมงาทอด ไข่หงส์ (ไส้หวาน)
เดินเล่นไปด้วยกันค่ะ
ถ้าเป็นช่วงปกติ ไม่มีโรคระบาด แถวนี้ขายของเยอะเลยค่ะ
มัสยิดกลางเมืองนราธิวาส เดี๋ยวข้ามฝั่งไปค่ะ
คุณลุง (น่าจะเป็นกรรมการดูแลที่นี่) เห็นเราถ่ายรูป เลยเอื้อเฟื้อพาเข้าไปดูกูโบร์ พระยาภูผาภักดี
- พระยาภูผาภักดี เจ้าเมืองนราธิวาสคนแรก
....พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประเทศวิเศษวังษา (ตะวันเหงาะ) ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าเมืองระแงะคนต่อมา ได้สมรสกับเจ๊ะแมะโวะ มีบุตร ๑ คน ชื่อว่า’’ตนกูกือแม’’ ต่อมาเจ๊ะแมะโวะถึงแก่กรรม พระยาระแงะ (ตะวันเหงาะ) ได้สมรสใหม่กับคุณนายภูผาภักดี ซึ่งมีเชื้อสายจีน แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ส่วนตนกูกือแม บุตรชายพระยาระแงะ (ตะวันเหงาะ) ได้สมรสกับพระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประเทศวิเศษวังษา (รายามุกกา,รายาลือแฆะ,ตนกูสัมซูเด็น) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองระแงะคนสุดท้าย เป็นบุตรชายของน้องสาวพระยาระแงะ (ตะวันเหงาะ) มีบุตรชายด้วยกัน ๑ คน ชื่อ’’กูมะ’’ ต่อมาได้สมรสกับเจ๊ะซาฟีเย๊าะ มีบุตรสาว ๑ คน ชื่อ’’ตนกูไซนับ’’ กูจิ,ตวนยาลินี’’ ส่วนกูมะได้สมรสกับเจ๊ะสง มีบุตร ๒ คน ชื่อ’’ตนกูนะ’’ และ’’ตนกูเย๊าะ’’ พระยาระแงะ (รายามุกดา,รายารือแฆะ,ตนกูสัมซูเด็น ) ย้ายเมืองระแงะมาสร้างเป็นเมืองใหม่ที่บางนรา (จังหวัดนราธิวาสในปัจจุบัน) ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น ที่มาข้อมูล ป้ายด้านหน้ากูโบร์ crop มาให้อ่านชัด ๆ ค่ะ มัสยิดกลางเก่านี้ มีชื่อว่า มัสยิดยุมอียะห์ หรือมัสยิดรายอ ตั้งอยู่ทางเหนือของตัวเมืองห่างจากศาลากลางจังหวัดขึ้นไปตามถนนพิชิตบำรุงก่อนถึงหอนาฬิกาเล็กน้อย เป็นมัสยิดไม้แบบสุมาตราสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 เป็นมัสยิดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองนราธิวาส และเป็นที่ตั้งของสุสานเจ้าเมืองเก่า คือ พระยาภูผาภักดี ตามปกติมัสยิดกลางประจำจังหวัดจะมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่เนื่องจากมัสยิดแห่งนี้ค่อนข้างคับแคบ จึงได้มีการสร้างมัสยิดหลังใหม่ขึ้นบริเวณปากแม่น้ำบางนรา อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่ยังคงเลื่อมใสศรัทธาในมัสยิดหลังเก่าอยู่ มัสยิดแห่งนี้จึงดำรงฐานะเป็นมัสยิดกลางสืบต่อไป และทำให้นราธิวาสมีมัสยิดกลางประจำจังหวัดด้วยกันถึง 2 แห่ง พื้นที่ค่อนข้างจำกัด ...กำลังสร้างอาคารใหม่ค่ะ ตอนเข้าไปมัสยิดกลาง เจ้าหน้าที่ประจำจุดวัดอุณหภูมิ ลงชื่อเช็คอิน ถามว่าเรามาจากไหน.. มาจากกรุงเทพฯ ค่ะ / กลัวมั้ย น่ากลัวหรือเปล่า / ไม่ค่ะ (ยิ้ม) ป้ายด้านหน้า...ตอนหาข้อมูล เลยเพิ่งรู้ว่าที่นราธิวาส มีมัสยิดกลางประจำจังหวัด 2 แห่ง - หอนาฬิกา นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนราธิวาส ซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับมัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส ( ยุมอียะห์ ๒๔๘๔ ) ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส หอนาฬิกาแห่งนี้ได้มีการต่อเติมปรับปรุงใหม่แล้ว ๓ ครั้ง โดยได้มีการได้ปรับปรุงหอนาฬิกาครั้งล่าสุด เมือปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ด้วยงบประมาณ ๑,๔๖๓,๐๐๐ บาท ขนาดกว้าง ๒ เมตร ยาว ๒ เมตร สูง ๑๓ เมตร ลักษณะของรูปทรงหอนาฬิกาสร้างจากโครงสร้างเดิม โดยมีปรับปรุงตกแต่งผนังใหม่ทั้งหมด และเพิ่มความสูง ของหอนาฬิกา ส่วนยอดของหลังคาเป็นรูปทรงปั้นหยา ซึ่งเป็นแบบหลังคาของสถาปัตยกรรม ในท้องถิ่นภาคใต้ มีการประดับส่องแสง ด้วยลวดลายของอัลลอยด์ โดยใช้ลวดลายแห่งศิลปะอาหรับ ตัวหอนาฬิกาโดยรอบจะบุผนังด้วยหินเทียม เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ขรึม หนักแน่น มั่นคง และเย็น ในช่วงเวลากลางคืนจะสวยงามด้วยแสงสว่างจากไฟที่ประดับระยิบระยับ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ หอนาฬิกาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ใช้ประดับตกแต่งเมืองให้งดงามยิ่งขึ้น
อาคารเก่า ชิโนโปรตุกีส
ร้านอาหาร มังกรทอง มองไว้ก่อนค่ะ อาจจะต้องมาฝากท้องที่นี่ เย็นนี้
เขื่อนท่าพระยาสาย
ท่าพระยาสาย คือ บริเวณแนวป่าชายเลนริมฝั่งแม่น้ำบางนราจนกระทั่งถึงปากน้ำบางนรา โดยได้มีการขุดดินขึ้นมาถมป่าชายเลนไปจนถึงบาเละฮีเล ฝั่งตรงกันข้ามจะเห็นเขาตันหยงเด่นสง่ารับกับท้องน้ำ แม่น้ำบางนรา เนื่องจากว่าในอดีตท่าเทียบเรือพระยาสาย เคยเป็นที่รับเสด็จ ส่งเสด็จของพระยาสายบุรี ชาวบางนราจะเรียกท่าเรือนี้ว่า กาแลรายอสาย (ท่าพระยาสาย)
ภายหลังบริเวณท่าพระยาสายถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเสียหาย นายผัน จันทรปาน ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในขณะนั้น ได้ขอสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างเขื่อนกั้นดินพังจากกรมโยธาธิการในวงเงิน ๒๔ ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ เขื่อนท่าพระยาสายก็ได้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวนราธิวาส และยังเป็นจุดชมการแข่งขันเรือกอและและเรือยาวประจำปี ฝั่งตรงข้ามมองเห็นเขาตันหยง
ลานนกเงือก ประติมากรรมนกเงือกที่มาใช้เป็นเอกลักษณ์ และแลนด์มาร์คของที่นี่ เป็นนกที่อยู่ในผืนป่าฮาลาบาลาเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา อำเภอแว้ง ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของนกเงือกมากถึง 9 ชนิด จากทั้งหมด 13 ชนิดที่มีในเมืองไทย จึงเป็นดัชนีบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับนกเงือกเพื่อสร้างความรู้ให้แก่ประชาชนได้เรียนรู้อีกด้วย
วัดบางนรา
วัดบางนรา เดิมเป็นอารามราษฎร์เมื่อทางราชการยกฐานะหมู่บ้านบางนรารวมเข้าเมืองระแงะและตำบลเจ๊ะเห ตำบลไพรวัน ขึ้นเป็นจังหวัดนราธิวาส บรรดาพระพุทธศาสนิกชนจะบำเพ็ญบุญกุศลแต่ไม่มีวัด ต่อมามีข้าราชการและราษฏร คือ พระศรีปัญญาขุนอนุสาร นายแดง ไกรสุวรรณ นายอิ้น ศรีเพรช นายดี บุญช่วยและทอง ศรีอุบล นำความคิดเสนอ คุณพระยาสุรพล ท่านเห็นชอบและซื้อที่ดินโดยก่อสร้างกุฏิหนึ่งอยู่บริเวณเขาพิพิธ เมื่อท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดม วัดราชาธิวาส กทม. มาตรวจเยี่ยม ได้อุปการะวัด
โบสถ์
จากวัดบางนรา เดินไปพระพิฆเณศ ไม่ไกลค่ะ แต่เรากลัวค่ำมาก เลยเดินกลับ
มื้อเย็นที่ร้านมังกรทอง
ร้านริมน้ำติดแม่น้ำบางนรา ที่นั่งเรือนแพ
มองไปที่ลานนกเงือก เย็น ๆ อากาศดีค่ะ
ไก่สับเบตง ยำผักกูด กระเพาะปลาผัดแห้ง
(มื้อแรกของวันนี้ เดินทางซะค่อนวัน) อาหารอร่อยมากค่ะ หิวด้วยแหละ จานไม่ใหญ่มาก บรรยากาศดีค่ะ
สั่งข้าวไปด้วย แต่เค้าลืมเอามาให้ค่ะ
18.36 น.
ผ่านหอนาฬิกาในเวลาโพล้เพล้
แวะกินน้ำเต้าหู้ รวมมิตร ก่อนกลับ
ผ่านอนุสาวรีย์นกกระดาษสันติภาพ มีไฟเปลี่ยนสี เลยทำเป็นภาพ gif ค่ะ
ภาพ gif ดูเอง เวียนหัวเอง 555
ความเดิม ปัตตานี : วัดช้างให้ วังยะหริ่งปัตตานี : หาดตะโละสะมิแล ชุมชมตลาดจีน ย่านเมืองเก่าปัตตานีปัตตานี : ริมน้ำปัตตานี สกายวอล์คปัตตานีปัตตานี : สะพานไม้บานา การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน จ.ปัตตานีปัตตานี : สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มัสยิดกรือเซะ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี เบตง : มัสยิดกลางปัตตานี, เดินทางไปเบตงปัตตานี เบตง : เดินเล่น ชมเมืองเบตงปัตตานี เบตง : สกายวอล์ค อัยเยอร์เวงปัตตานี เบตง : น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.๙, เฉาก๊วย เบตงปัตตานี เบตง : อุโมงค์ปิยะมิตร, บ่อน้ำร้อนเบตง, ป้ายใต้สุดสยามปัตตานี เบตง : วัดพุทธาธิวาส, หอนาฬิกาเบตงปัตตานี เบตง : ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต
Create Date : 19 มิถุนายน 2564 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2564 17:56:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1737 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณกะว่าก๋า, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณเริงฤดีนะ, คุณทนายอ้วน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณTui Laksi, คุณkae+aoe, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปรศุราม, คุณเนินน้ำ, คุณPooh Station TH, คุณโอพีย์, คุณInsignia_Museum, คุณmariabamboo, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณkatoy, คุณnewyorknurse |
|
|